Brown
Eyes Baby
(
kris x do )
อู๋อี้ฟานหรือที่ใครๆต่างก็เรียกเขาว่าคริสกำลังเสียบหูฟังดูหนังผ่านแล๊ปท๊อปเครื่องหรูบนที่นอนนุ่มในห้องพักของตน
แต่ในบางช่วงเวลาเขาก็ไม่ค่อยได้สนใจมันสักเท่าไหร่หรอก
ที่ทำอยู่ตอนนี้ก็เพียงแค่อยากหาอะไรทำคั่นเวลาไปเรื่อยๆเท่านั้นเอง นัยน์ตาคมเข้มเหลือบมองแผ่นหลังเล็กของ
‘ผู้อาศัย’ ที่กำลังขะมักเขม้นอยู่กับการอ่านหนังสือเตรียมสอบแล้วอดยิ้มน้อยๆออกมาไม่ได้
ผู้อาศัยที่ในคราแรกเขาโคตรจะไม่เต็มใจต้อนรับ
แต่จำต้องยอมรับเพราะเป็นคำขอร้องจากเพื่อนสนิทอย่าง ‘ไอ้ลู่’
เขาจำวันนั้นได้ดี วันที่มันถ่อมาถึงห้องเขาเพื่อขอร้องแกมบังคับเขาในคราเดียวกัน
‘คริส มึงช่วยกูด้วย’
‘เชี่ยอะไรของมึง’
‘คืองี้นะ...’ มันอึกอักอยู่ครู่หนึ่งจนเขาต้องจ้องมันอย่างคาดคั้น
‘ก็พูดมาดิวะ’
‘มึงก็รู้ใช่มะว่ากูเป็นเด็กต่างจังหวัด...’
‘อย่าลีลา’
‘มึงใจเย็นดิ ฟังกูก่อน’
‘….’
‘คือป๊ากูเขาจะย้ายไปประจำที่สาขาที่ปักกิ่ง มึงรู้ใช่มั้ยว่ากูมีน้อง
น้องคนละแม่อ่ะ’
‘เออ’
‘เขาจะไปด้วยกัน แต่ประเด็นคือน้องกูไม่อยากไป’
‘แล้วไง...’
‘ละทีนี้มึงก็รู้ว่ากูเพิ่งประกาศหาคนแชร์ห้องไปเมื่ออาทิตย์ก่อน
คืองี้...มีคนแชร์ห้องกับกูแล้วเมื่อวานเป็นรุ่นน้องที่คณะพอดี
ละทำสัญญากันเรียบร้อย
แต่วันนี้กูเพิ่งรู้ว่าป๊าจะย้ายละให้น้องมาเรียนม.ปลายที่โซล
และให้ย้ายมาอยู่กับกู’
‘แล้ว...’
‘กูไม่รู้จะทำยังไงดีอ่ะเชี่ย
ห้องกูก็ไม่ได้ใหญ่มากขนาดอยู่กันสามคนได้นะเว้ย
ละแบบจะให้กูขอให้เด็กนั่นออกไปอยู่ที่อื่นก็กูเกรงใจน้องมันอ่ะ
มันเป็นหลานรหัสไอ้อี้ด้วย ละที่นี้กูก็เลยคิดถึงมึง’
‘คิดถึงกูทำขวดไร’
‘ก็ห้องมึงยังว่าง...’
‘ไม่ต้องเลย กูชอบอยู่คนเดียว’
‘ไอ้เชี่ยคริสมึงอย่าเพิ่งรีบปฏิเสธดิวะ ช่วยกูหน่อย...’
‘ไม่...’
‘คริส...กูเป็นเพื่อนมึงนะ กูขอให้มึงช่วยนิดหน่อยแค่นี้ทำไม่ได้หรอวะ’
คุยไปคุยมาไอ้ลู่มันก็ดึงเอาบทดราม่าขึ้นมาพ่นใส่เขาเสียอย่างนั้น
เขาก็ได้แต่ถอนหายใจ ยิ่งเห็นหน้าตาแบบคนคิดไม่ตกของมันแล้วก็เริ่มรู้สึกใจอ่อนขึ้นมานิดนึง
‘ละกูจะช่วยอะไรมึงได้’
‘ก็แค่ขอฝากน้องกูให้อยู่กับมึงสักพัก’
‘….’
‘นะ...ช่วยกูหน่อย มึงคิดดูนะ น้องกูเพิ่งสิบหก
กูไม่อยากให้น้องอยู่คนเดียว ยิ่งต่างถิ่นด้วย
ไว้เดี๋ยวกูลองคุยกับเซฮุนได้แล้วค่อยให้น้องไปอยู่กับกู’ อู๋อี้ฟานได้แต่ถอนหายใจเพราะไม่รู้จะพูดอะไรดี
ยิ่งพอได้จ้องมองดวงตากลมโตของไอ้เพื่อนสนิทที่กำลังวอนขอเขาแล้วด้วย....
‘...ก็ได้’
เพียงแค่คำตอบรับสองคำของเขาก็เรียกรอยยิ้มกว้างจนตาหยีเห็นตีนกาขึ้นของไอ้เพื่อนตัวดีได้ทันที
ก่อนมันจะเอ่ยประโยคเรียบๆกับเขาอีกหน่อยแล้วขอตัวกลับ ‘น้องกูเป็นเด็กดี
ไม่ทำอะไรให้มึงวุ่นวายหรอก’
แต่ตอนนั้นเขาไม่รู้เลยว่าคำตอบรับเพียงสองคำนั้นจะทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้...
ในวันแรกที่ลู่หานพาน้องชายของมันพร้อมกระเป๋าใบโตมาส่งที่ห้องเขา
อู๋อี้ฟานก็เข้าใจทันทีว่าทำไมมันถึงดูเป็นห่วงน้องมันนักหนา
ก็เพราะไอ้หน้าใสๆกับดวงตากลมโตและท่าทางซื่อๆที่เจ้าตัวจัดเต็มไว้ในคนๆเดียวนั่นแหละ
แล้วยิ่งสมัยนี้ต่อให้เป็นเด็กผู้ชายก็โดนหลอกได้เหมือนกัน
เด็กผู้ชายตัวเล็กๆ
ตาโตๆ ซึ่งดูเหมือนว่าจะโตกว่าของพี่ชายเสียอีก
เจ้าตัวโค้งให้เจ้าของห้องด้วยท่าทางมีมารยาท
ก่อนจะมองมาที่คนอายุมากกว่าด้วยแววตาใสแจ๋วพร้อมแนะนำตัวด้วยเสียงแหบเล็กเหมือนกำลังแตกหนุ่ม
‘โดคยองซูครับ’
ช่วงแรกๆดูเหมือนว่าจะเกรงใจเขาอยู่มากโขเลยไม่ค่อยกล้าทำอะไร
จนเขาต้องบอกให้ทำตัวสบายๆ จะใช้ครัวก็ได้ไม่ต้องเกรงใจ
เพราะเห็นไอ้ลู่บอกว่าน้องมันพอทำอาหารง่ายๆเป็น
มันแวะมารับน้องเพื่อพาไปสำรวจเส้นทางไปโรงเรียนและสถานที่สำคัญอยู่หลายวัน บางวันมันไม่ว่าก็โทรมาบอกให้เขาช่วยพาไปแทนบ้างก็มี
ในตอนแรกคยองซูบอกเขาว่าไม่เป็นไร แต่สุดท้ายเขาก็บังคับพาไปจนได้ตลอด
คยองซูเป็น
‘เด็กดี’ อย่างที่ไอ้ลู่บอกไว้จริงๆนั่นแหละ
ขยันไปเรียน กลับมาก็ทำการบ้าน นอนแต่หัวค่ำ
บางวันนอนหลับก่อนเขากลับมาถึงห้องด้วยซ้ำ และช่วงวันหยุดถ้าเขาอยู่ห้องก็จะได้ทานอาหารง่ายๆฝีมือคนตัวเล็กที่ตั้งใจทำให้เป็นสิ่งตอบแทนเล็กๆน้อยๆที่เจ้าตัวทำให้ได้
เพราะเขาไม่ได้เรียกร้องค่าใช้จ่ายอะไรจากเพื่อนตัวดี
ขอแค่น้องมันช่วยดูแลเรื่องความสะอาดเล็กๆน้อยในห้องบ้างก็เท่านั้น
ซึ่งคยองซูเองก็เต็มใจ
‘แค่ทำความสะอาดเอง ผมทำได้อยู่แล้ว’
ในบางวันหากเขามีเรียนเช้าเขาก็ใจดีให้คนตัวเล็กติดรถไปด้วยเกือบทุกครั้ง
เพราะไหนๆก็ทางเดียวกันอยู่แล้ว
โรงเรียนของคยองซูอยู่เลยมหาวิทยาลัยของเขาไปประมาณสามป้ายรถเมล์
เขาก็แค่ขับเลยนิดหน่อยเพื่อไปส่งเจ้าตัวเล็กแค่นั้นเอง
‘พี่คริสครับวันนี้ผมขอกลับดึกหน่อยนะครับ’
วันไหนมีกิจกรรมหรือต้องไปทำรายงานจนกลับดึกเจ้าตัวก็มักจะเอ่ยปากบอกเขาไว้ตลอด
แต่บางครั้งที่มันดึกมากจนเกินไปเขาก็อดไม่ได้ที่จะโทรไปตาม
และสุดท้ายก็จบด้วยการที่เขาบอกว่า
‘เสร็จแล้วรออยู่นั่นแหละ เดี๋ยวไปรับ’
จากหนึ่งเดือนเป็นสองเดือน
ล่วงเลยมาเป็นครึ่งปี
ก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขาเริ่มมองเห็นความน่ารักของคยองซูในแบบที่ไม่เหมือนคนอื่นมอง
ก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงเป็นห่วงเจ้าตัวเล็กมากมายเหลือเกินเวลาที่ได้ยินเสียงสูดน้ำมูกฟืดฟาด
ยิ่งพอสัมผัสได้ถึงไอร้อนบนหน้าผากกลมๆเขายิ่งโคตรเป็นห่วง ก็ไม่รู้ว่าทำไมบางครั้งถึงต้องคอยตามไปรับไปส่งเวลาเจ้าตัวบอกว่าจะกลับดึก
จนวันนั้น...วันที่เขากลับห้องมาแล้วพบกับคยองซูที่กำลังนั่งเช็ดน้ำตาปอยๆ
‘เป็นอะไร’ ขายาวๆของเขามีประโยชน์ก็วันนี้
เขาเข้าไปถึงเจ้าตัวเล็กที่นั่งอยู่บนโซฟานุ่มหน้าทีวีอย่างรวดเร็ว ก่อนจะนั่งลงข้างๆ
ดึงมือที่ปาดน้ำตาจนตาเริ่มแดงออก
‘เปล่าครับ’ เสียงสูดน้ำมูกดังขึ้นมาให้ได้ยินหลังจากเจ้าตัวส่ายหัวไปมา
‘เปล่าแล้วร้องไห้ทำไม’ มือใหญ่ประคองแก้มนิ่มของคนตัวเล็กขึ้นมาสบตา
เรียวนิ้วใหญ่ปราบคราบน้ำใสข้างแก้มอย่างเบามือ ‘ดูซิตาแดงหมดแล้ว’
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เพียงแค่เห็นว่าคยองซูกำลังร้องไห้
เขาก็รู้สึกไม่ดีเลย ไม่อยากเห็นน้ำตาบนดวงหน้าน่ารักนี่จริงๆ
‘อืออออ’ เสียงงอแงของคนน่ารักดังขึ้นให้ได้ยิน
เมื่อเจ้าตัวพยายามหลบเลี่ยงคนอายุมากกว่า
‘บอกพี่ก่อนว่าเราเป็นอะไร’
‘ผมไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ’
‘แล้วร้องไห้ทำไม’ ถามถึงจุดนี้เจ้าตัวเล็กก็เม้มปากเสียแน่นก่อนจะเริ่มมองมาที่คนอายุมากกว่าอย่างไม่แน่ใจ
‘ก็...’
‘ก็อะไรครับ...’
มาถึงตรงนี้คยองซูเม้มริมฝีปากอีกครั้งก่อนที่จะยกมือชี้ไปยังทีวีด้านข้าง
อู๋อี้ฟานทำหน้างงเล็กน้อยก่อนจะมองตาม
และแล้วก็เข้าใจแจ่มแจ้งว่าไอ้สาเหตุที่ทำให้เจ้าตัวเล็กร้องไห้คืออะไร
‘ร้องไห้เพราะหนังเนี่ยนะ โอ้ย’ ไม่พูดเปล่า
อู๋อี้ฟานรั้งร่างเล็กของน้องชายเพื่อนสนิทเข้ามากอดเสียแน่นจนเจ้าตัวเล็กร้องโวยวาย
‘อื้อพี่คริส ผมหายใจไม่ออก’
‘รู้มั้ยว่าพี่ตกใจแค่ไหนตอนเห็นเราร้องไห้น่ะ’ คนอายุมากกว่าคลายอ้อมแขนออกนิดหน่อย
‘ไม่รู้ครับ’ อุ่อี้ฟานหัวเราะออกมาเล็กน้อยกับคำตอบพาซื่อของคนในอ้อมแขน
‘พี่ตกใจมาก ที่สำคัญ...เหมือนหัวใจถูกบีบจนเจ็บปวดไปหมด’
‘…พี่คริส..’
คนตัวโตกว่าผละจากร่างเล็กในอ้อมแขน
ก่อนจะสบเข้ากับดวงตากลมโตที่กำลังมองมาที่เขาอย่างงงงวย
ก่อนที่แก้มขาวๆของคนตัวเล็กจะเริ่มขึ้นสีจัดอย่างชัดเจน
‘เข้าใจในสิ่งที่พี่พูดใช่ไหม’
‘....’
ริมฝีปากหยักยิ้มขึ้นเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กตรงหน้าหลบสายตาเขาก่อนจะพยักหน้าหงึกหงัก
‘พี่ชอบเรานะ...คยองซู’
‘....’
ในเวลานี้คนน่ารักเอาแต่ก้มหน้าหงุดเม้มริมฝีปากแน่น
แก้มใสร้อนผ่าวเสียจนคิดว่าอาจจะมีควันผุดออกมา
‘คยองซู....’ มือใหญ่ประคองแก้มนิ้มให้ขึ้นมาสบตาตนอีกครั้ง
‘ให้พี่ได้ดูแลเราได้มั้ยครับ’
ดวงตากลมโตจ้องมองนัยน์ตาคมเข้มอยู่ครู่ใหญ่ในขณะที่เม้มริมฝีปากไว้เสียแน่น
ก่อนที่มือใหญ่จะรับรู้ได้ถึงการขยับขึ้นลงน้อยๆของใบหน้าน่ารักนั่น
หลังจากได้ยินคนน่ารักตอบตกลง
ร่างเล็กๆก็ได้รางวัลเป็นอ้อมกอดอุ่นที่แน่นเสียจนต้องโวยวายออกมาอีกหน
ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปแปลงจากช่วงก่อนที่พวกเขาจะคบกันมากนัก
โดคยองซูยังคงเป็นเด็กดีเหมือนเดิม
ในขณะที่อู๋อี้ฟานก็ยังมอบความห่วงใยให้ไม่เคยเปลี่ยน จะมีเปลี่ยนไปหน่อยก็ตรงที่ร่างสูงมีคนน่ารักให้นอนกอด
และมีจูบหวานๆในยามเช้า เลยเถิดไปจนถึงเรื่องนั้น....
คนอายุมากกว่ายังจำได้ดีว่าในคราแรกที่เขาบอกเรื่องนี้กับไอ้ลู่
มันบ่นใส่เขายาวเป็นหางว่าว แต่สุดท้ายก็ยอมรับอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
และปิดท้ายด้วยคำพูดที่อู๋อี้ฟานต้องพยักหน้ารับหงึกหงัก
‘ถ้าทำให้น้องกูเจ็บ มึงตาย!!’
จนถึงเวลานี้ก็ผ่านไปร่วมสามเดือนแล้วที่เขาได้เป็นแฟนกับเจ้าตัวเล็กที่กำลังบิดขี้เกียจอยู่บนเก้าอี้
ริมฝีปากหยักหยัดยิ้มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเจ้าตัวเล็กอ่านหนังสือมาหลายชั่วโมงแล้ว
เขาถอดหูฟังสีเข้มออก จัดการปิดแล็ปท๊อปและย้ายมันไปไว้ที่โต๊ะข้างเตียง
ก่อนจะย้ายกายไปหาคนตัวเล็กที่ยังคงทำท่าว่าจะอ่านหนังสือต่ออีก
“ได้เวลานอนแล้วนะ” เสียงนุ่มเอ่ยบอกพร้อมวางมือลงบนหัวกลมๆของเจ้าตัวเล็ก
“อื้อ ขออีกหน่อยนะครับ” ดวงหน้าน่ารักหันมาบอกพร้อมรอยยิ้มอ่อน
ซึ่งชายหนุ่มคิดว่ามันดูเหนื่อยล้าเหลือเกิน กว่าจะถึงวันสอบก็อีกตั้งหลายวัน
ไม่รู้ว่าเด็กนี่จะขยันไปถึงไหน แล้วดูสิ คิ้วจะพันกันอยู่แล้ว
“พี่ว่าวันนี้พอก่อนดีกว่าไหมหืม? เราดูเหนื่อยแล้วนะ
ระวังจะปวดหัว”
“งั้นขออีกเรื่องนึงนะครับ แค่ไม่กี่หน้าเอง” คนอายุน้อยกว่าต่อรอง
แล้วคิดว่าคนอย่างอู๋อี้ฟานจะยอมไหมล่ะ
“ก็ได้ๆ ตามใจเราเลย”
“ขอบคุณครับ” ว่าแล้วก็ยกยิ้มกว้างจนตาหยีเรียกให้คนอายุมากกว่าอดยิ้มตามไม่ได้
ก่อนที่รอยยิ้มแกมเอ็นดูจะแปรเปลี่ยนไป “เอ๊ะ...”
ร่างเล็กๆรอยหวือขึ้นอย่างง่ายดาย
เมื่อคนอายุมากกว่าจัดการเปลี่ยนตัวเองเป็นเก้าอี้นุ่มๆให้คนน่ารักแทน
คยองซูเหลียวมองคนตัวโตที่วางคางเกยบนไหล่ตนอย่างงงวย
แถมพอจะลุกออกวงแขนแกร่งก็โอบรัดไว้ไม่ยอมให้ลุกอีก
“อ่านหนังสือต่อไปสิ อีกนิดเดียวเองไม่ใช่หรอ”
“แล้วพี่คริสมากวนทำไมล่ะครับ”
“พี่ไม่ได้กวน แค่อยากให้ตัวเล็กนั่งสบายๆ” คนน่ารักยู่หน้าให้กับคำตอบของอายุมากกว่า
“อ่านไปสิครับ พี่ไม่กวนหรอก”
อู๋อี้ฟานไม่ได้กวนน้องอย่างปากว่าจริงๆนั่นแหละ
เขาทำเพียงนั่งอยู่เฉยๆเป็นเก้าอี้นุ่มๆให้คนน่ารักเท่านั้น และแม้จะอ่านหนังสือไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่แต่โดคยองซูก็อดยิ้มให้กับเก้าอี้ตัวโตไม่ได้
ผ่านไปราวๆสิบนาทีเจ้าตัวเล็กก็อ่านหนังสือจบตามที่ตั้งใจ
มือเล็กปิดหนังสือดังปุบให้ได้ยิน
แต่ไม่ทันที่เจ้าต้องเล็กจะได้ทำอะไรต่อก็รู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆบริเวณท้ายทอย
ก่อนจะได้ยินเสียงจุ๊บเรียกขนลุกเกรียวได้ทันที
Hidden
Content
“อื้อ...พี่คริส” มือเล็กพยายามจับข้อมือใหญ่ที่โอบรอบเอวตนไว้ให้คลายออก
แต่ดูเหมือนเจ้าของมือใหญ่นั่นจะไม่ให้ความร่วมมือเท่าไหร่
แถมยังพยายามสอดมือเข้าไปใต้เสื้อยืดสีอ่อนอีกต่างหาก
“มาคลายเครียดกันดีกว่านะครับ”
“ไม่เอา...อื๋อ..” คนน่ารักหลับตาปี๋เมื่อชายหนุ่มกดจูบแผ่วเบาที่ต้นคอสวย
มือที่พยายามกักกั้นมือใหญ่หยุดชะงักเป็นผลให้คนอายุมากกว่ารุกรานแผ่นอกเล็กได้อย่างง่ายดาย
“ทำไมล่ะหืม เครียดมาทั้งเย็นแล้วนะ”
“งะ..ง่วงแล้ว” คยองซูกำลังพยาพยามอย่างยิ่งยวดเพื่อให้มือใหญ่อีกข้างรุกรานผ่านขอบกางเกงผ้าของตนเข้าไปด้านใน
แต่มันก็ยากเสียเหลือเกินเมื่อริมฝีปากอุ่นหยอกเย้าอยู่กับต้นคอสวยกับฝ่ามืออุ่นที่ลูบไล้อยู่บนแผ่นอกเล็กเอาแต่สร้างความร้อนผ่าวไปทั่วเรือนร่างจนมือไม้อ่อนแรงไปเสียดื้อๆ
“เดี๋ยวก็ได้นอนนะครับคนดี”
“อื้อ...พี่คริส...ใจร้าย” อู๋อี้ฟานหัวเราะในลำคอเล็กน้อยกับคำต่อว่าของคนบนตัก
แน่นอนว่าในตอนนี้เขากำลังสัมผัสส่วนน่ารักของคนตัวเล็กอยู่
แม้มือน้อยจะพยายามห้ามเขาแต่ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยเป็นผลนักจนกลับกลายเป็นว่าคยองซูวางมือไว้บนมือใหญ่ที่กำลังปลุกปั่นส่วนน่ารักจนเริ่มแข็งขึง
ยิ่งเมื่อมือใหญ่ร่นกางเกงนอนของคนบนตักลงเล็กน้อยเผยให้เห็นส่วนน่าอาย
แก้มใสๆของคนตัวเล็กก็ยิ่งรู้สึกร้อนผ่าว
“ไม่ได้ทำนานๆมันไม่ดีนะครับ ดูสิเป็นถึงขนาดนี้แล้ว” เรียวนิ้วใหญ่หยอกเย้าที่ปลายส่วนอ่อนไหวของคนน่ารักที่เริ่มมีของเหลวไหลเยิ้มออกมา
โดคยองซูเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อคนอายุมากกว่าขยับฝ่ามืออุ่นปลุกเร้าส่วนนั้นของตนอย่างใจเย็น
แผ่นหลังเล็กเอนเข้าสู่อกแกร่งเพื่อพักพิงปล่อยให้คนตัวสูงเป็นฝ่ายชักนำอารมณ์ให้
อู๋อี้ฟานยกยิ้มกริ่มในทันที เพราะเขารับรู้ว่าคนน่ารักยอมโอนอ่อนให้เขาแล้ว
“อึก...” กายเล็กที่เกร็งขึงขึ้นเรียกให้มือใหญ่เติมเต็มอารมณ์จนใกล้ถึงขีดสุด
ไหนจะรู้สึกถึงส่วนแข็งขึงของคนใต้ร่างที่ดุนดันแก้มก้นของตนอยู่ตลอดเวลาอีก
“ปล่อยออกมาสิครับคนดี”
“อื้อ...”
เสียงหอบหายใจระรัวดังขึ้นเมื่อน้ำสีขุ่นมากมายถูกปลดปล่อยออกมา
อู๋อี้ฟานยกยิ้มพอใจก่อนจะกดปลายจมูกลงบนพวงแก้มนุ่มเสียเต็มรัก
“ไปที่เตียงนะ” กระซิบเสียงนุ่มข้างใบหูเล็กที่ขึ้นสีระเรื่อ
ก่อนจะกดจูบเบาๆอย่างรักใคร่อีกหน อู๋อี้ฟานเช็ดคราบน้ำเหนียวกับกางเกงผ้าของคนตัวเล็กที่เขาจัดการถอดมันทิ้งเสีย
ก่อนที่ร่างเล็กๆจะเดินก้มหน้างุดไปที่เตียงพร้อมกัน
นัยน์ตาคมเข้มสบเข้ากับดวงตากลมโตอีกครั้งเมื่อแผ่นหลังเล็กสัมผัสลงบนที่นอนนุ่ม
อู๋อี้ฟานจัดการปลดอาภรณ์เบื้องล่างของตน
ก่อนที่ชายหนุ่มจะตามไปป้อนจูบแสนหวานให้คนน่ารักเสียนานสองนาน
วงแขนเล็กโอบรอบลำคอแกร่งไว้หลวมๆเมื่อเรือนกายใหญ่ขยับเข้ามาแทรกตรงกลางหว่างขาตน
ในขณะที่ริมฝีปากอุ่นร้อนกำลังดูดดุนผิวเนื้อเนียนอย่างหลงใหล
เรียวนิ้วใหญ่ปาดน้ำเหนียวที่ฉ่ำเยิ้มจากปลายส่วนแข็งขึงของตนจนชุ่ม
ก่อนจะใช้มันเบิกช่องทางอ่อนนุ่มของคนใต้ร่างอย่างใจเย็น
กายเล็กเกร็งขึงมากขึ้นไปอีกเมื่อช่องทางอ่อนนุ่มถูกรุกรานด้วยส่วนแข็งขึงของคนอายุมากกว่าหลังจากถอนเรียวนิ้วออกำไปเพียงไม่กี่วินาที
รสจูบแสนหวานเป็นสิ่งที่ทำให้เรือนกายเล็กผ่อนคลายลงในเวลาต่อมา
สัมผัสเนิบนาบใจเย็นในคราแรกแปรเปลี่ยนไปเมื่อกามอารมณ์ของคนทั้งคู่จมดิ่ง
ปลายจมูกที่ไล้ไปทั่วต้นคอขาว เรียวนิ้วสอดประสานกันแนบแน่น
เรือนกายที่เคลื่อนไหวราวกับไม่มีทีท่าว่าจะหมดแรง จวบจนถึงจุดสูงสุดของความสุข
“พี่คริสรักคยองซูนะครับ”
“ฮื่อ คยองซูก็รักพี่คริสมากๆเลย”
FIN
Casino Site 2021 – A Look at the Best Sites to Play for Real Money!
ReplyDeleteA luckyclub.live no deposit bonus is the best kind of casino bonus you can claim and you get paid back to your casino credit. It is not a free money casino bonus.