Thursday, September 18, 2014

Queen Of Uke 1

ฮยอก ไปกินข้าวเถอะ ซองมินเรียกเพื่อนที่นั่งเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง ใบหน้าหวานหันไปมองเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นยืนตามแรงดึงจากมือของซองมิน
ฮยอก นายจะกินอะไรเดี๋ยวเราไปซื้อให้ ซองมินพูดขึ้นเมื่อพาฮยอกแจมานั่งที่โรงอาหารแล้ว ตาสวยมองไปรอบๆอย่างไร้ความรู้สึกซองมินได้แต่มองภาพนั้นด้วยความเจ็บปวด ยิ้มซักทีสิฮยอก ยิ้มเพื่อคนที่อยู่ตรงนี้บ้าง
อะไรก็ได้ ฮยอกแจตอบกลับมาอย่างเย็นชา ซองมินพยักหน้ารับเล็กน้อยแล้ววิ่งหายไป  นักศึกษาหลายคนต่างมองมาที่โต๊ะที่ร่างบางนั่งอยู่ทุกสายตาล้วนแล้วแต่มีความหมายที่แตกต่างกัน แต่สิ่งเดียวที่ทุกคนคิดเหมือนกันก็คือ รอยยิ้มของควีนไม่ได้เห็นมานานเท่าไหร่แล้วนะ
ฮยอกกี้ ซองมินไปไหนล่ะ อีทึกรุ่นพี่ที่สนิทกับฮยอกแจเดินเข้ามาถามพร้อมกับๆลากฮีชอลที่เป็นเพื่อนรักเข้ามาด้วย ใบหน้าหวานหันไปมองผู้มาเยืนอก่อนจะก้มหัวเล็กน้อยเป็นการทักทาย
ซื้อข้าวฮะ ฮยอกแจตอบออกมาแค่นั้นก่อนจะหันกลับไปทางเดิม ฮีชอลมองดวงหน้าสวยนิ่งค้าง ถ้านายยิ้ม นายจะสวยขนาดไหนนะ
อ้าวพี่ทึก พี่ซินหวัดดีฮะ ซองมินที่วิ่งเข้ามาพร้อมข้าวสองจานเอ่ยทักผู้เป็นพี่อย่างน่ารัก
หวัดดีจ้ะ บ่ายนี้มีเรียนไหม อีทึกตอบก่อนจะยิ้มหวานมาให้
ไม่มีฮะ กระต่ายน้อยตอบออกไปก่อนจะหันไปหั่นไก่ทอดให้ฮยอกแจ ฮีชอลอมยิ้มกับภาพน่ารักนั้น
ไปดูพวกพี่ซ้อมดนตรีไหม
ไปสิฮะ ฮยอกไปนะๆๆๆ ซองมินหันไปอ้อนเพื่อน ฮยอกแจมองเพื่อนอมยิ้มน้อยๆก่อนจะพยักหน้ารับ แต่ก็ทำให้ซองมินน้ำตาคลอ แค่นี้ก็พอแล้ว สำหรับลีซองมิน

ซองมิน ทางนี้ๆ อีทึกตะโกนโหวกเหวกเรียกรุ่นน้องทั้งสองคนเข้ามา ซองมินจับมือนิ่มของฮยอกแจเข้าไปด้านใน คนในชมรมมิวสิคต่างมองมาเป็นตาเดียว ควีนสวยสมคำร่ำลือจริงๆ
ฮยอกๆ นั่งสิ ซองมินฉุดมือเพื่อนให้นั่งลงข้างๆเพื่อดูวงต่อไปเทสเสียงก่อนซ้อม พอฮยอกแจลงนั่งเสียงเครื่องดนตรีที่กำลังเชคอยู่กลับเงียบลงพร้อมๆกับคนในวงที่มองมาที่ร่างบางเป็นตาเดียว
ดงเฮ ถือกีตาร์ค้างในขณะที่ยังไม่ได้เสียบสายต่อเข้ากับลำโพง
ซีวอน ทำไม้กลองหล่นลงพื้น
เรียวอุค วางมือค้างบนอิเล็คโทน
ฮันกยอง จับเบสนิ่งมองคนตัวเล็กไม่วางตา
คยูฮยอน ถือไมค์ค้างอยู่ที่ปาก
ควีน ตัวจริงเหรอเนี่ย….
พวกแก ตะลึงอะไรกัน ฮีชอลแผดเสียงดังลั่น ก่อนที่ทุกคนจะสะดุ้งโหยง ซองมินขำน้อยๆกับท่าทางลุกลี้ลุกลนของแต่ละคนผิดกับคนที่นั่งข้างๆที่มองเลยไปอีกทางอย่างไม่ใส่ใจ
ขอโทษคร้าบ คยูฮยอนลากเสียงยาวกวนประสาทตาคมจ้องมองร่างบางไม่วางตา ซีวอนเริ่มทำหน้าที่ให้จังหวะก่อนเพลงจะขึ้น เพลง just you ดังขึ้นเรียกให้ใบหน้าหวานหันมาสนใจการแสดงบนเวทีอีกครั้งพร้อมๆกับน้ำตาที่เริ่มไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ซองมินได้แต่อ้าปากค้างเพราะไม่คิดว่าจะเล่นเพลงนี้ เพลงที่คนรักของฮยอกแจ ชอบร้องให้ฟัง

ฉันไม่อยากตื่นขึ้นจากฝันที่แสนสุขนี้เลย
ฉันได้แต่ทอดถอนใจในตอนที่ฉันจำต้องฝืนยิ้ม
ฉันรู้....ฉันรู้ว่าฉันไม่ใช่คนที่ดีที่สุด
แต่ว่า....ฉันไม่รู้เลย.....ไม่รู้เลยว่าควรจะทำยังไง
ขอแค่ครั้งเดียว รักฉันหน่อยนะ
มันไม่ได้เสียหายอะไรใช่ไหม

ฮยอกแจยกมือเล็กขึ้นมาปิดหน้าพร้อมกับสะอื้นฮัก ซองมินได้แต่ดึงร่างของเพื่อนมากอดปลอบ เสียงดนตรีเริ่มหยุดลง ก่อนที่ทุกคนจะกรูกันลงมาดูคนตัวเล็กที่นั่งร้องไห้อยู่ ด้วยความตกใจ
เอ่อ เราทำอะไรผิดรึป่าว เรียวอุคถามขึ้นมองฮยอกแจด้วยความเป็นห่วง ฮยอกแจดันตัวออกจากอกของซองมินแล้วลุกขึ้นยืนเตรียมเดินออกไป
เดี๋ยวสิ จะไปไหนน่ะ ฮีชอลเข้ามาขวางไว้
อย่ามายุ่งกับฉัน ฮยอกแจพูดเสียงเรียบน้ำตายังคงไหลอาบแก้มสวย ก่อนที่มือเล็กจะผลักอกของอีกคนออกไปให้พ้นทาง ขาเรียวพาเจ้าของวิ่งออกไป
ฮยอก…  ฮยอก…” ซองมินกับอีทึกได้แต่ตะโกนตามหลังไปก่อนจะหันไปมองหน้ากันเองด้วยความเจ็บปวด ปวดตรงหัวใจของตัวเอง นายมองให้ดีสิฮยอก ฉันยังรักนาย อยู่ข้างนายตรงนี้
ควีนเป็นอะไรน่ะ ซีวอนถามขึ้นด้วยความสงสัย มองตามหลังบางไปด้วยความเป็นห่วง
ฉันเล่าเอง มินไปตามฮยอกเถอะอีทึกเสนอขึ้นมาก่อนที่ซองมินจะวิ่งตามออกไป ทุกคนได้แต่มองตามไป ฉันจะทำให้ได้ยิ้มให้ได้เลย ฮยอกแจ

ยูโน ฉันคิดถึงนาย คิดถึงนายที่สุด ฮือๆๆๆ ฮยอกแจนั่งลงใต้ต้นไม้ใหญ่แขนเล็กกอดเข่าตัวเองแน่น ซบใบหน้าหวานร้องไห้
ฉันผิดสัญญาอีกแล้ว ฉันร้องไห้อีกแล้ว ฮึก คิดถึงนายจัง เสียงหวานพูดต่อไปเรื่อยๆ ใบหน้าหวานแหงนมองฟ้าหวังว่าคนรักที่ตายจากไปจะรับรู้บ้าง มือเล็กยกกุมอกซ้ายที่กำลังบีบรัดเอาไว้แน่น คิบอมกับเยซองที่กำลังเดินไปที่รถคันหรูของตัวเองชะงักขาอยู่กับที่มองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกหดหู่ตามไปด้วย
พี่ฮยอกแจเหรอ เยซองพูดออกมาก่อนจะจ้องนิ่งไปที่คนตัวเล็กที่เอาแต่ร้องไห้
น่าจะใช่ คิบอมตอบกลับ ไม่มีใครไม่รู้จัก ควีนของมหาวิทยาลัย และไม่มีใครได้เห็นรอยยิ้มของควีน ยกเว้นคนที่ได้จากไปแล้ว
คนสวยๆ ถ้ายิ้มโลกคงสดใสนะ เยซองพูดออกมา ในขณะที่ขายาวๆของคิบอมก้าวไปข้างหน้า ก่อนที่มือแกร่งจะหยิบผ้าเช็ดหน้าสีเข้มส่งไปให้ คิมคิบอมที่ไม่เคยสนใจใคร เยซองที่ไม่เคยใส่ใจจะมองใครกลับเป็นห่วงคนตรงหน้าอย่างหาเหตุผลไม่ได้
เช็ดหน้าเถอะ เยซองพูดออกมา ฮยอกแจมองหน้าผู้มาเยือนก่อนจะลุกขึ้นยืนเบือนหน้าไปอีกทาง
ฉันไม่ต้องการ ตอบเรียบๆอย่างเย็นชาแล้วเดินหายไป ปล่อยให้อีกสองคนจมกับความคิดของตัวเอง ไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองกับการกระทำของคนที่เดินไปแม้แต่น้อย คังอินที่วิ่งตามมาทีหลังกระโดดเข้ากอดคอรุ่นน้องทั้งสองคนก่อนจะมองคนที่ยืนนิ่งด้วยความไม่เข้าใจ
เห้ย พวกแกเป็นอะไรกันวะ หมียักษ์ถามขึ้น
พี่คัง พี่ฮยอกแจเคยยิ้มบ้างไหม เยซองถามออกไปตามที่คิด
ควีนน่ะเหรอ ครั้งสุดท้ายก็น่าจะสองปีที่แล้วก่อนเข้ามหาลัย คังอินตอบออกไปตามที่รู้ เพราะมาจากโรงเรียนเดียวกับฮยอกแจ คิดแล้วก็น่าสงสาร
ผมอยากเห็นรอยยิ้มนั้นจัง คิบอมพูดออกมาบ้าง ถ้าพี่ยิ้ม คงไม่มีใครสามารถละสายตาไปได้เลยใช่ไหมฮะ
เอ วันนี้เป็นอะไรกันวะ ไปชมรมมิวสิคมาก็มีแต่คนอยากเห็นรอยยิ้มของฮยอก คังอินบ่นออกมา ใช่ว่าเจ้าตัวจะไม่อยากเห็นแต่พยายามทุกวิถีทางแล้วต่างหากแต่มันไม่ได้ผล
ไอ้เย ไปหาไอ้พวกนั้นที่ชมรมกันเหอะ คิบอมหันมาชวนก่อนจะเปลี่ยนทิศทางกลับไปทางชมรมมิวสิคทันที ซึ่งเยซองก็เต็มใจวิ่งกลับไปทางเดิมเหมือนกัน
เห้ย ไปไหนวะไม่กลับบ้านเหรอไง คังอินตะโกนถาม
ไปหารอยยิ้มที่สดใสในโลกก่อนครับ พี่กลับไปเลย เยซองตะโกนตอบ คังอินได้แต่อมยิ้มน้อยๆ ขอให้รอยยิ้มของนายกลับมาเร็วๆนะฮยอก ไอ้ยุนคงกำลังเป็นกำลังใจให้อยู่บนนั้น
ฮยอก เมื่อวานไปไหนมา รู้ไหมว่าเราเป็นห่วงซองมินวิ่งเข้ามาหาทันทีที่เห็นร่างบางของฮยอกแจก้าวเข้ามาในห้องเรียน
ฉันไม่ได้ขอให้นายเป็นห่วง ฮยอกแจตอบอย่างเย็นชาแล้วเดินเลยไปนั่งที่ประจำ แต่คำตอบนั้นทำให้ซองมินยืนอึ้งอยู่กับที่น้ำตาคลอ แค่เป็นห่วงฉันยังไม่มีสิทธิ์เลยเหรอ
คุณลีซองมิน นั่งที่ได้แล้ว อาจารย์ประจำวิชาเดินเข้ามาบอกก่อนที่ซองมินจะพาตัวเองเดินกลับมานั่งข้างๆฮยอกแจ แล้วก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะปล่อยให้น้ำตาไหลรินอย่างไม่อาจห้ามได้ ฮยอกแจหันมามองด้วยหางตาก่อนจะกระแทกตัวเดินออกจากห้องไป ซองมินเงยหน้าขึ้นมามองตามแผ่นหลังบางไป กลับมาเป็นคนเดิมซักทีเถอะ ฮยอก ฉันรักนายนะ

เฮ้อ ซองมินนายอย่ามาร้องไห้เพื่อฉันเลย เสียงใสพึมพำเบาๆกับตัวเองราวกับคำขอโทษที่ส่งไปไม่ถึงคนฟัง แล้วก็ต้องชะงักกึกเมื่อเห็นใครบางคนมาขวางหน้าไว้
พี่ฮยอกแจไม่มีเรียนเหรอฮะ เสียงทุ้มเอ่ยถามยิ้มให้อย่างน่ารัก แต่คนมองก็ยังนิ่งเฉย
นาย เรารู้จักกันด้วยเหรอ ประโยคคำถามเบสิคถูกส่งออกไป แม้จะจำได้ว่าคนที่มาขวางไว้เป็นนักร้องนำวงเมื่อวานแต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
ผมรู้จักพี่ครับ ผมคยูฮยอนพี่รู้จักผมแล้วใช่ไหม ตอบพร้อมรอยยิ้มกว้าง
ประสาท คนสวยคนพูดแค่นั้นแล้วเดินหลีกออกมา แต่คยูฮยอนก็ไม่หมดความพยายามเดินตามไปติดๆ
พี่จะไปไหนฮะ ไม่มีเรียนเหรอ
อย่ามายุ่ง ฮยอกแจหันไปตวาดแต่คยูฮยอนก็ไม่ได้สลดลงไปซักนิด จนร่างบางขี้เกียจจะใส่ใจ พอเดินไปเรื่อยๆก็เจออีทึกกับฮีชอลที่เพิ่งมาถึงคณะ
อ้าว ฮยอกเมื่อวานหายไปไหนพี่ตามหาแทบแย่ อีทึกเดินเข้ามายิ้มให้อย่างใจดี
นั่นมันก็เรื่องของผมร่างบางตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจจนอีทึกหน้าชาไปเหมือนกัน
ฮยอกแจพูดกับอีทึกดีๆสิ คนเค้าเป็นห่วงน่ะ รวมทั้งฉันด้วย ฮีชอลพูดขึ้น
ผมขอร้องให้ออกตามหาเหรอไง ฮยอกแจนิ่วหน้าอย่างไม่พอใจ จนซีวอนกับฮันกยองเดินเข้ามาสมทบ ใบหน้าหวานมองคนมาใหม่นิ่งสนิท
ไปนะฮะ เสียงหวานพูดขึ้นก่อนจะรีบปลีกตัวออกมาแต่ก็โดนฮันกยองมาขวางหน้าเอาไว้
จะไปไหนล่ะ คุยกันก่อนสิ หนุ่มจีนพูดขึ้นมา
ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับนาย ฮยอกแจตอบกลับเดินเลี่ยงไปอีกทางก็ถูกซีวอนมาขวางไว้ คนสวยนิ่วหน้าเพราะไม่เข้าใจว่าทุกคนต้องการอะไรกันแน่
แต่ฉันมี ซีวอนว่าก่อนจะจับแขนเล็กไว้แน่น
ปล่อยนะ เสียงใสตวาดลั่น ก่อนที่ดงเฮจะวิ่งเข้ามาแกะมือเพื่อนออกจากแขนบอบบางอย่างตกใจ
เกิดอะไรขึ้นน่ะ ดงเฮถามขึ้นมองไปรอบๆที่ทุกคนมีสีหน้าเครียดไม่แพ้กัน ไม่มีใครพูดอะไรแต่ดงเฮก็พอจะเดาออกจากเรื่องที่คุยกันเมื่อวาน
ฮยอกแจ พวกเราเป็นห่วงนายนะ ฮันกยองพูดขึ้นจากความรู้สึกไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ห่วงคนที่เพิ่งรู้จักได้ขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะแววตาที่เศร้าสร้อยตลอดเวลานั้น หรือเพราะอยากจะเห็นรอยยิ้มที่หายไปอีกครั้งก็ไม่รู้ แต่ก็แค่อยากทำให้คนๆนี้มีความสุขก็แค่นั้นเอง
เลิกใช้คำว่าเป็นห่วงกับฉันซักที!” ฮยอกแจตวาดลั่น น้ำตาหยดใสเริ่มเอ่อคลอดวงตาสวย เพราะเสียงที่คุ้นเคยของคนที่จากไปได้ดังซ้อนขึ้นมาในโสตประสาท อย่าทำแบบนี้สิ พี่เป็นห่วงนะรู้ไหม
ฮยอก อีทึกครางเรียกคนที่เริ่มร้องไห้  เยซอง คิบอม เรียวอุคที่เพิ่งเลิกเรียนวิ่งมาหาพวกของตัวเองด้วยความเร็วไม่รู้ว่าเพราะเห็นคนตัวเล็กอยู่ตรงกลางวงรึเปล่า ในตอนนั้นไม่มีใครทำอะไรถูกเลยจะเอ่ยปลอบก็ทำไม่ได้ จะปลอบโยนก็ไม่เคยทำ ก็แต่ละคนเคยสนใจคนอื่นที่ไหนล่ะ
พี่ร้องไห้ทำไมฮะ เรียวอุคถามด้วยความรวดเร็ว ยิ่งเห็นคนตัวเล็กร้องไห้ยิ่งทำอะไรไม่ถูกเหมือนคนอื่นๆ
พี่อย่าร้องไห้สิ คิบอมพูดเสียงนุ่ม ฮยอกแจได้ยินทุกคำพูดอยากก้าวขาออกไปจากตรงนั้น แต่ก็ไม่มีเรี่ยวแรง ความเจ็บปวดจากแรงบีบที่หัวใจทำให้ร่างกายส่วนอื่นๆไม่สามารถทำงานได้ตามที่สมองสั่ง ยูโน ฮยอกเจ็บ ฮยอกเจ็บทุกครั้งที่คิดถึงยูโน ฮยอกจะทำยังไงดี
หมับ
เยซองทนเห็นคนตรงหน้าร้องไห้ไปมากกว่านี้ไม่ได้เลยดึงร่างบางเข้ามากอดไว้แน่น มือแกร่งลูบผมนิ่มของคนที่สะอื้นฮักๆในอ้อมกอดไปด้วย ฮยอกแจยืนนิ่งปล่อยน้ำตาให้ไหลรินจนชุ่มเสื้อนักศึกษาของเยซอง
ฮึกๆ มีแต่เสียงสะอื้น รวมไปถึงสายตาแห่งความห่วงใยที่ถูกส่งมาจากทุกคนจนปิดไม่มิด
เกิดอะไรขึ้นน่ะ ซองมินรีบวิ่งมาทันทีที่เห็นฮยอกแจยืนร้องไห้
เรา เราทำพลาดอีกแล้ว ฮีชอลเป็นคนตอบอย่างสำนึกผิด ก็แค่อยากจะทำให้ฮยอกแจรู้ว่ามีคนอื่นที่ยืนอยู่ตรงนี้ แค่อยากทำให้ยิ้ม
ฮยอก ซองมินเรียกร่างบางที่เอาแต่ร้องไห้เสียงเบาด้วยความสงสาร
ทำไมนายถึงเอาแต่จมอยู่กับอดีต ดงเฮตะโกนขึ้นมา อย่างเหลืออด หัดมองคนรอบข้างบ้างสิ ฮยอกแจ
ด๊อง ไม่เอาน่า อีทึกห้ามขึ้นเมื่อเห็นว่ามือเล็กยกขึ้นมาปิดหูเอาไว้ ก่อนจะส่ายหัวไปมาอย่างไม่ยอมรับฟัง
ผมเห็นด้วยกับพี่ด๊องฮะ เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้วทำไมพี่ยังไม่ลืมมันอีก คยูฮยอนพูดขึ้นบ้าง
ฉันจะไม่ลืม ไม่ลืมมันเด็ดขาด เสียงใสพูดออกมาพร้อมกับสะอื้นฮัก จนเยซองต้องกอดเอาไว้แน่นพร้อมกับมองคนอื่นด้วยสายตาตำหนิ ไหนบอกว่าจะทำให้ยิ้มไง
พี่เลิกทำแบบนี้ซักที ยิ้มให้คนที่เค้าห่วงพี่บ้าง พี่จะทำให้คนอื่นหดหู่ไปถึงไหน คิบอมพูดขึ้นเรียบๆ ภาพของยูโนวิ่งวนอย่างรวดเร็วมาในสมองเล็กๆของฮยอกแจไม่หยุด ทั้งรอยยิ้ม คราบน้ำตา สัมผัสที่อบอุ่น ความรักที่มีให้ ยิ่งทำให้ฮยอกแจร้องไห้ไม่หยุด
ม่าย…” ฮยอกแจตะโกนออกมาเป็นคำสุดท้ายก่อนจะสลบไป โดยที่เยซองรับไว้ทันก่อนจะอุ้มขึ้นแนบอก
ฮยอกแจ เหล่าเมะได้แต่ตกใจกับสิ่งที่ตัวเองทำก่อนจะรีบพาร่างบางไปโรงพยาบาลทันที

ฮยอก มินขอโทษ ซองมินกุมมือเล็กของคนที่นอนหลับสนิทบนเตียงขาวสะอาดในห้องพักวีไอพี เหล่าเมะคนอื่นๆได้แต่ยืนบ้าง นั่งบ้างอยู่รอบห้องแต่ทุกสายตากลับมองมาที่ร่างบอบบางที่นอนอยู่บนเตียงด้วยความเป็นห่วง
ผมว่าเราเปลี่ยนวิธีกันเถอะ ซีวอนพูดขึ้นอย่างใช้ความคิด
นั่นสิ เราใช้วิธีคาดคั้นแบบนี้จะทำให้ยิ่งแย่ ฮีชอลตอบรับ
ผมจะยิ้มแทนเขา จนกว่าเขาจะยิ้ม ฮันกยองพูดอย่างมั่นใจ
เรามาพยายามกันอีกซักรอบเถอะ อีทึกสรุปออกมาก่อนจะก้มลงไปจุบหน้าผากมนอย่างเผ่วเบา ดงเฮ คยูฮยอน คิบอมเอาแต่ยืนนิ่งสำนึกผิดกับการกระทำของตัวเองอยู่เงียบๆ ผมจะไม่ทำให้พี่ร้องไห้อีก ผมสัญญา
ฮยอก จะไปประชุมเองจริงๆน่ะเหรอ ซองมินถามขึ้นมาทันทีที่เห็นฮยอกแจรับอาสาจะเป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยไปประชุมกับมหาวิทยาลัย JYP
อืม จะไปเอง ร่างบางตอบกลับสีหน้าเรียบเฉยไม่ได้รับรู้ถึงอาการร้อนใจของซองมินเลยซักนิด ซองมินนั่งกระวนกระวายเพราะใครๆก็รู้ว่าที่มหาลัย JYP มีแต่เมะทั้งนั้นแล้วถ้าฮยอกแจไปจะต้องไม่ปลอดภัยแน่ๆ
ฉันจะไปด้วย ซองมินพูดขึ้นมาอย่างตั้งใจจนฮยอกแจหันมามองเสี้ยวหน้าของเพื่อนนิดหน่อย
ก็ตามใจสิเสียงหวานพูดออกมา แม้จะสั้นๆเรียบๆแต่ซองมินก็ดีใจ แค่นายไม่ห้ามก็พอแล้ว
ฮยอกอยู่นี่นะ เดี๋ยวฉันมา พูดจบซองมินก็วิ่งออกไปทันที ฮยอกแจเลยนั่งเงียบๆปล่อยให้ความคิดล่องลอยไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย
มาแล้วๆ ไปกันเถอะ เสียงของซองมินดึงความสนใจจากตาคู่สวยอีกครั้ง พอฮยอกแจมองไปก้แอบตกใจเล้กน้อยที่ข้างหลังซองมินมีพวกที่รุมล้อมตัวเองวันนั้นยืนอยู่ด้วยกันครบหมดทุกคน
ไปกันหมดนี่เลยเหรอ ร่างบางถามเสียงเรียบตากลมมองผ่านไปจนครบทุกคน เริ่มจำได้แล้วว่าใครชื่ออะไรบ้าง
หมดนี่เลยฮะ ไปกันเถอะ คยูฮยอนตอบยิ้มแย้มก่อนจะจับมือนิ่มของฮยอกแจออกเดินไป ร่างบางเดินตามแรงดึงมือไปอย่างว่าง่ายขี้เกียจจะดึงมือออก ถึงดึงออกมายังไงซะคยูฮยอนก็จะตามมาจับมือเล็กกลับไปไว้ในอุ้งมืออบอุ่นเช่นเดิม
ไปยังไงดี อีทึกพูดขึ้น จะให้แยกกันไปแล้วฮยอกแจจะไปกับใครเดี๋ยวก็ได้มีปัญหาอีกจนได้
ก็รถใครรถมัน ฮีชอลพูดขึ้น
ทำไมเราไม่รวมๆกันไปฮะ ประหยัดดีออก เสียงหวานพูดขึ้นเรียบๆ แต่ใครหลายคนยิ้มกันแก้มแทบปริ อย่างน้อยนายก็ยอมพูดกับพวกเราบ้างแล้ว
ไปรวมกันสิ รถใครมั่ง เยซองรีบสรุปทันทีก่อนจะหันไปคุยกันเอง เพราะแต่ละคนขับรถสปอรืตกันทั้งนั้นรวมยังไงก็ได้ไม่เกินคันละสองคน
ฮยอกไปกับมินนะ ซองมินเอ่ยถามขึ้นมา
เราก็เอารถมา ฮยอกแจบอกเรียบๆ จนซองมินที่ยิ้มหน้าบานเมื่อครู่หุบยิ้มฉับ
แต่เราไปกับมินก็ได้ เสียงหวานพูดต่อเรียกรอยยิ้มจากซองมินให้กลับมาอย่างง่ายดาย ซองมินเฝ้าถามตัวเองบ่อยครั้งว่าทำไมคนคนเดียวถึงได้มีอิทธิพลกับเขานักแต่คำตอบที่ได้ก็มีเพียงแค่อย่างเดียว เพราะรักไงล่ะ
ไปเถอะ ฮันกยองเดินเข้ามาเรียกก่อนจะขึ้นรถไปพร้อมกับเยซอง คนอื่นๆพากันทยอยขึ้นรถไป ซองมินรีบวิ่งไปเอารถของตัวเองเพื่อขับมาจอดเทียบรับฮยอกแจ รถสปอร์ตคันหรูหกคันทะยานออกไปอย่างเร็ว  ดูเหมือนว่ารถทั้งหกคันจะขับแข่งกันแต่จริงๆแล้วทุกคันพยายามขับเพื่อป้องกัยรถของซองมิน คอยดักหน้าดักหลังรถที่จะแซงเอาไว้อย่างเป็นห่วง ซึ่งฮยอกแจสังเกตเห็นได้จากกระจกมองข้าง ร่างบางอมยิ้มน้อยๆที่เห็นความใส่ใจนั้นแต่ก็ยังเป็นเพียงอมยิ้มเท่านั้น ซองมินหันมามองใบหน้าหวานอย่างดีใจ นายใกล้จะกลับมาแล้วใช่ไหมฮยอก

พวกเราเป็นตัวแทนจากเอสเอมฮะ ฮยอกแจพูดเสียงเรียบเมื่อก้าวขึ้นไปถึงห้องประชุมใหญ่ ทุกสายตาจับจ้องมาที่ร่างบางของคนมาใหม่นิ่งค้างกับใบหน้าสวยหวานนั้น
น่ารักที่สุด คนแรกพูดขึ้นเพ้อแต่ก็ต้องชะงักไปเมื่อเจอสายตาของดงเฮ
สวยยังกับผู้หญิง อีกคนพูดต่อ แต่ก็ถูกสั่งให้หุบปากจากสายตาของคิบอม
น่าจับกด แค่คำนี้พูดออกมาฮันกยองก็แทบจะเตะคนพูดให้เลือดกลบปาก
อ่ะๆ ควีนเชิญนั่ง อาจารย์สูงอายุพูดขึ้นแล้วผายมือเชิญไปยังที่นั่งที่จัดเตรียมไว้ เหล่าเมะที่เป็นตัวแทนของมหาลัยอื่นๆมองตามไปตาค้าง
ผม คิมจองฮุน คิงจาก JYP ยินดีที่ได้รู้จัก ผู้ชายคนหนึ่งที่มีหน้าตาดีและตำแหน่งที่สูงเสมอกันเดินเข้ามายื่นมือทักทาย ฮยอกแจลุกขึ้นยืนก่อนจะส่งมือกลับไป
คุณน่าจะทักทายคนอื่นด้วยรอยยิ้มนะ จองฮุนพูดขึ้นแล้วยิ้มให้อีกคนมากขึ้นแต่คำพูดนั้นทำให้ฮยอกแจสะบัดมือออกทันที จองฮุนชักสีหน้าน้อยๆก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่ภายนอกดูเหมือนจะไม่ใส่ใจอะไร แต่ภายในกลับร้อนระอุไปหมด ใครก็ตามที่กล้าหักหน้า คิมจองฮุนจะไม่ได้อย฿อย่างสงบแน่
ผมว่าเราน่าจะจัดไปค่ายเชื่อมสัมพันธไมตรีนะครับ จองฮุนพูดเรียบๆก่อนจะมองคนที่มีตำแหน่งควีนฝั่งตรงข้ามนิ่ง ตัวแทนจากหลายๆมหาลัยเริ่มเห็นด้วยก่อนที่มติจะเป็นเอกฉันท์เมื่อได้รับการยินยอมจากควีน
ควีนจะว่ายังไง อาจารย์หันมาถามอย่างขอความเห็นไม่มีใครไม่เกรงใจควีนแม้แต่คนเดียว เนื่องจากตำแหน่งและฐานะทางบ้านของฮยอกแจทำให้รอดปลอดภัยมาได้เช่นทุกวันนี้
จัดก็ได้ครับ หลังจากครุ่นคิดเล้กน้อยเสียงหวานก็เอ่ยออกไปก่อนจะปิดประชุม
อ๊ะ ฮยอกแจร้องขึ้นเมื่อแขนเล็กถูกบีบอย่างแรง เสียงร้องของฮยอกแจทำให้พวกอีทึกหันไปมองแทบจะทันทีก่อนจะสาวเท้ากลับมาหาร่างบาง ซีวอนแกะมือของจองฮุนออกไปก่อนจะดันร่างบางให้เข้าไปยืนอยู่กลางวงล้อม จ้องมองหน้าคนหาเรื่องอย่างไม่เกรงกลัวในตำแหน่ง
อย่าบังอาจมาแตะต้องตัวฮยอกแจ ฮีชอลพูดเสียงกร้าวจ้องตาอีกคนอย่างท้าทาย
พวกนายก็แค่นักศึกษาธรรมาดา อย่าริอาจมายุ่งกับฉันเลย จองฮุนพูดอย่างถือดี ผลักฮีชอลออกให้พ้นทาง ลูกน้องมากมายของ JYP ทำให้ผู้มาเยือนเริ่มรู้สึกเสียเปรียบ แต่ละคนกำหมัดแน่นอย่างแค้นใจถ้าโทรให้คนของที่บ้านมาตอนนี้ก็จะไม่ทันการแน่นอน พวกลูกน้องมากมายของจองฮุนย่างสามขุมเข้ามาหา ทุกคนกันฮยอกแจเอาไว้ตรงกลาง ร่างบางมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความตกใจ
หยุดนะจองฮุน เสียงหวานตะโกนขึ้นมาเมื่อเห็นอาวุธของอีกฝ่าย
อยากให้หยุด ควีนก็ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยนหน่อยนะ จองฮุนพูดกลับ
นายต้องการอะไร ฮยอกแจถามกลับทันทีก่อนจะก้าวออกมายืนเผชิญหน้า ด้วยตำแหน่งที่เสมอกันทำให้จองฮุนไม่กล้าทำอะไรคนตรงหน้ามากมายเกินไปนักเพราะผลที่ตามมาอาจจะหนักเกินกว่าที่เขาจะรับได้เช่นกัน
ต้องการตัวนายไงล่ะ ร่างสูงตอบเสียงเรียบ ใบหน้าหวานบึ้งตึงทันทีที่ได้ยิน ริมฝีปากแดงอิ่มเม้มเข้าหากันอย่างพยายามระงับอารมณ์โกรธ มือเล็กกำเข้าหากันแน่น ในสถานการณ์ที่บีบบังคับเช่นนี้กลับทำให้ฮยอกแจคิดถึงคนที่จากไปขึ้นมาอีกครั้ง ฮยอกต้องใจเย็นนะๆ เวลาจะทำอะไรอย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อนรู้ไหม เสียงทุ้มก้องกังวานในโสตประสาทตาเล็กฉายแววเย็นชาชัดเจน
ฉันคงจะทำให้ไม่ได้ เสียงหวานเอ่ยบอกเรียบก่อนจะโค้งตัวลงพอเป็นมารยาท พอหันหลังกลับก็ถูกกระชากเข้าไปในอ้อมแขนแกร่งของจองฮุนทันที
ปล่อยพี่ฮยอกแจนะ เรียวอุตคะโกนลั่นพยายามจะวิ่งเข้ามาช่วยแต่กลับถูกลูกน้องของจองฮุนดักไว้และถีบเข้าเต็มแรงที่ท้องจนจุกลงไปกองกับพื้น
เรียวอุค อีทึกรีบวิ่งเข้าไปประคองน้องขึ้นมาทันที ฮยอกแจจ้องมาที่เรียวอุคด้วยแววตาสำนึกผิด
ปล่อยฉันนะ จองฮุน ฮยอกแจร้องบอกแต่กลับถูกรัดแน่นขึ้น
คงจะยากล่ะนะ นี่ก็ถิ่นของฉันซะด้วยสิอีกคนตอบกลับยิ้มกริ่ม คยูฮยอนกดโทรศัพท์โทรออกทันที ปล่อยให้คนปลายสายฟังเสียงที่เกิดขึ้นและภาวนาว่าพ่อของตัวเองจะจับใจความได้ว่ากำลังเกิดเรื่อง แม้จะไม่รู้สถานที่แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าสามารถทำให้ตรวจจับที่อยุ่ของเจ้าของมือถือจากดาวเทียมได้
ปล่อยนะจองฮุน นายไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้ ฮยอกแจตวาดลั่นพยายามจะหลุดออกจากการเกาะกุมให้ได้
หึหึไม่มีสิทธิ์เหรอ จองฮุนหัวเราะในลำคอโน้มใบหน้าหล่อลงมาจนใกล้ก่อนที่ริมฝีปากจะได้ประทับลงมา ฝ่าเท้าของคิบอมก็กระแทกเข้าเต็มๆตัวของจองฮุนอย่างเหลืออด พวกลูกน้องของจองฮุนต่างพากันกรูเข้ามาเพื่อกันคิบอมแต่คิบอมก็กระชากฮยอกแจจนหลุดออกมาได้ พลางผลักให้ดงเฮ ดงเฮโอบเอวบางเข้าหาแน่น ฮยอกแจตกใจกลัวจนน้ำตาหยดใสเริ่มไหลริน
ด๊อง พาฮยอกออกไป ฮันกยองตะโกนสั่งก่อนที่ทุกคนจะช่วยกันป้องกันดงเฮ ดงเฮรีบวิ่งพาร่างบางออกไปทันที ภาพที่ฮยอกแจเห้นคือภาพของพวกอีทึกที่กำลังถูกรุม
ดงเฮ ไปช่วยพวกเค้าเถอะ ฮึก ร่างบางกอดเอวดงเฮแน่นร้องไห้ออกมา ดงเฮก็อยากกลับไปช่วยเพื่อนแต่ถ้าฮยอกแจเป็นอะไรขึ้นมาเขาจะทำยังไงและพวกนั้นคงจะไม่ต้องการด้วย
ฮยอกแจ อย่าร้องไห้เราต้องออกไปให้ได้ก่อน ดงเฮว่าก่อนจะดึงให้ฮยอกแจขึ้นรถของตัวเองแล้วขับออกไปอย่างเร็ว พออกไปจนปลอดภัยดงเฮก้หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรออกหาคนของตัวเองเพื่อให้กลับไปช่วยทันที ฮยอกแจก็เอาแต่ร้องไห้จนดงเฮต้องดึงเข้ามากอดปลอบไว้ลูบผมนิ่มอย่างเบามือ
ขอโทษ ฮยอกขอโทษ ฮึก ฮยอกทำให้ทุกคนเดือดร้อนอีกแล้ว ฮึก ร่างบางปล่อยน้ำตาไหลรินจนเสื้อของดงเฮเปียกชุ่มก่อนจะหลับไป ดงเฮได้แต่มองอย่างสงสาร ภายใต้ความเย็นชานั้น นายกำลังซ่อนอะไรไว้กันแน่ฮยอกแจ
ฮยอก นายเป็นอะไรไหม ซองมินรีบวิ่งเข้ามาถามเพื่อนทันที่เห็น แม้ตัวเองจะสภาพสะบักสะบอมมาจากเหตุการณ์เมื่อวานแต่ก็ยังคงห่วงตัวเองน้อยกว่าคนตรงหน้า แค่มองเห็นตาบวมเป่งก็บ่งบอกได้ดีว่าฮยอกแจร้องไห้หนักขนาดไหน
ฉันไม่เป็นอะไร แต่นาย เสียงหวานตอบกลับก่อนที่มือเล็กจะเอื้อมไปลูบตามรอยฟกช้ำบนใบหน้าของเพื่อนอย่างออ่อนโยน การกระทำที่แฝงความอบอุ่นที่ได้หายไปนานกำลังกลับมาอีกครั้ง
ฉันไม่เจ็บหรอก โอ๊ย ซองมินพูดจบปุ๊บ นิ้วเล็กก็จงใจกดลงไปบนแผลนั้นจนต้องร้องออกมา
ไหนบอกว่าไม่เจ็บไง พออีกคนร้อง ฮยอกแจก็สะดุ้งเล็กน้อยก่อนที่ใบหน้าหวานจะโน้มลงมากดจูบแผ่วเบาที่รอยช้ำนั้น ซองมินได้แต่ตาค้างตกใจกับสิ่งที่ได้รับ นายคนเดิมกำลังจะกลับมาแล้วใช่ไหม ฮยอกแจ
คนอื่น เป็นไงบ้าง ร่างบางถามออกไป
เดี๋ยวก็มา กระต่ายน้อยตอบกลับ ในใจคิดว่าพวกนั้นจะจัดการกับพวกจองฮุนยังไง พูดยังไม่ทันขาดคำพวกฮีชอลก็เดินเรียงหน้ากระดานเข้ามาซะก่อน แต่ละคนมีแผลฟกช้ำจากเมื่อวานปรากฎให้เห็นบนใบหน้าหล่อ แต่ก็ไม่มีใครปริปากบ่นซักคน
เป็นไงบ้างพี่ ซองมินรีบถามทันที
หึหึ รู้จักพวกเราน้อยไปซะแล้ว อีทึกตอบออกมาก่อนจะยิ้มเหี้ยม
ตายไหม พอได้รับคำตอบแบบนั้นซองมินเลยเปลี่ยนคำถาม
เกือบน่ะ ดงเฮเป็นคนตอบ ฮยอกแจมองแต่ละคนนิ่ง ความรู้สึกผิดกำลังถาโถมเข้ามาอีกครั้ง ก่อนที่นิ้วเรียวสวยจะกดโทรศัพท์ออกไปหาใครบางคน
ครับ คุณหนู
บอกคุณพ่อทีว่าฉันถูกซ้อมที่ JYP” เสียงหวานตอบกลับเรียบๆแต่แฝงไปด้วยความน่าเกรงขาม
คุณหนูจะให้เราทำยังไงครับ คุณท่านได้ข่าวว่าพวกลูกชายสหพันธมิตรของเพื่อนท่านไปจัดการแล้วนี่ครับ
แต่มันยังไม่ตาย ฆ่ามันซะ!” ฮยอกแจพูดจบก็กดสายทิ้งทันที คนอื่นๆได้แต่ยืนอึ้งกับความเย็นชานั้น มีเพียงซองมินเท่านั้นที่ยิ้มออกมา นายกำลังจะกลับมาแล้วจริงๆสินะ
ยิ้มอะไรน่ะมิน ฮยอกแจเอ่ยถาม ชื่อที่เคยเรียกเพื่อนอย่างสนิทสนมหลุดออกมาจากริมฝีปากอิ่ม โดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ตัว
ฮยอกแจ เราไปกินไอติมกันไหม ซองมินเลือกที่จะไม่พูดถึงเรื่องนั้นแต่ถามออกไปแทน
เราจะไป แต่ฉันจะทำแผลให้พวกนายก่อน ร่างบางตอบกลับตากลมโตดูอ่อนโยนขึ้นจนใครหลายๆคนเริ่มยิ้มบางเมื่อเห็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป
รออยู่นี่นะ พูดจบก็เดินหายไป ไม่นานก็กลับมาพร้อมกับกล่องยาสามัญ ร่างบางเดินไปหาอีทึกเป็นคนแรก ก่อนจะดันไหล่กว้างของอีทึกให้นั่งลงแล้วเจ้าตัวก็ยืนทำแผลให้อย่างเบามือ พอทายากเสร็จเรียบร้อยก็ก้มลงไปจูบผ้าปิดแผลนั้น อีทึกได้แต่ตาค้างกับสิ่งที่ได้รับแล้วยิ้มบางๆออกมา นี่คือนิสัยที่นายเก็บเอาไว้สินะ ฮยอกแจ
คยูฮยอนมานี่สิ แล้วก็หันไปเรียกคยูฮยอนมาทำแผลเป็นถัดไป ทุกๆคนล้วนแต่มองภาพตรงหน้าอย่างเป็นสุข มีดงเฮเท่านั้นที่เริ่มจะออกอาการไม่พอใจเพราะเจ้าตัวไม่ได้รับบาดแผลใดๆเลยไม่ได้รับการปลอบขวัญแบบคนอื่นๆ
เรียบร้อย เสียงหวานพูดขึ้นหลังจากที่ทำแผลให้เรียวอุคเสร็จเป็นคนสุดท้าย ก่อนที่จะเดินเอากล่องยาไปเก็บไว้ที่เดิม
ไปสิ พอกลับมาก็เรียกซองมินให้ลุกขึ้นก่อนจะจับวือซองมินเอาไว้แน่น แม้ใบหน้ายังคงเรียบเฉยแต่ความอบอุ่นที่แผ่ไปให้ ซองมินกลับรับรู้ได้ด้วยใจ
ไม่ไปด้วยกันเหรอฮะ พอเดินออกไปได้สองก้าวแล้วเห็นเหล่าเมะยังคงนั่งกันอยู่ที่เดิม ร่างบางก็หันไปถามก่อนจะเอียงคอมองอย่างสงสัย
ไปสิ ทุกคนตอบออกมาพร้อมกันแทบจะกระโจนใส่คนตัวเล็กเลยทีเดียว ทุกคนได้แต่มองมือของซองมินที่จับอยู่กับฮยอกแจอย่างอิจฉาจนออกนอกหน้า
หมับ
มือเล็กจับมือของฮันกยองที่เดินอยู่ข้างๆ ทำให้ฮันกยองหันไปมองด้วยความตกใจ
พี่อยากจับมือผมไม่ใช่เหรอ ร่างบางเอ่ยถาม
ก็ใช่ แต่ ทำไมนายถึงไม่ปฏิเสธล่ะ แล้วหนุ่มจีนก็เลือกที่จะเก็บอีกประโยคไว้ในใจพร้อมกับกระชับมือนิ่มให้แน่นเข้าไปอีก คิบอมกับเยซองที่เดินตามหลังได้แต่อิจฉาไปตามๆกัน
ฮยอก กินอะไรดี ฮีชอลเอ่ยถามเมื่อมาถึงร้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พี่สั่งเถอะฮะ ผมกินได้หมด สรรพนามที่เรียกให้ความสนิทสนมมากขึ้นจนฮีชอลยิ้มกว้าง อีกไม่นาน ฉันจะทำให้นายยิ้มให้ได้
แกก็สั่งเร็วๆสิ อีทึกหันไปว่าเพื่อนที่เอาแต่ยิ้มค้าง
เออๆ ฮีชอลตอบรับก่อนจะหันไปบอกกับพนักงาน
พี่ฮยอกแจ ไม่มีเรียนเหรอครับ เยซองเอ่ยถามออกไปเพราะคนอื่นเอาแต่นั่งมองหน้าสวยๆแล้วก็ยิ้มราวกับคนบ้า ฮยอกแจหันไปหาต้นเสียงก่อนจะมองตาแป๋ว
มี แต่โดดน่ะ คนสวยตอบกลับ แล้วก้มลงสนใจนิตยสารในมือต่อ
แล้วพวกนายไม่มีเรียนเหรอไง เหมือนจะนึกขึ้นได้ ฮยอกแจเลยเอ่ยถามออกไปบ้าง
ไม่มี ซีวอนรีบตอบเป็นคนแรก ฮยอกแจพยักหน้ารับรู้ก่อนจะหันไปสนใจไอศกรีมถ้วยโตที่พนักงานกำลังยกเสิร์ฟ ตาสวยไหวระริกเหมือนได้ของเล่นถูกใจจนคนมองพากันอมยิ้มขำกับท่าทางเด็กๆนั้น
พี่ฮยอกแจ กินสิฮะ คยูฮยอนพูดขึ้นเมื่อเห็นฮยอกแจเอาแต่มองถ้วยไอติมนิ่งในขณะที่มือเล็กที่ช้อนเตรียมพร้อมไว้แล้ว
ฉันไม่รู้ว่าจะกินรสไหนก่อนดี คนสวยตอบออกไปตามที่คิด เรียกรอยยิ้มจากคนในโต๊ะได้อีกครั้ง นายทำให้คนอื่นยิ้มได้ นายก็น่าจะหัดยิ้มบ้างนะ
งั้นผมป้อนแล้วกันพี่จะได้ไม่ต้องลำบากใจ คิบอมพูดขึ้นก่อนจะเอื้อมมือมาตักไอติมรสสตอร์เบอร์รี่ไปจ่อรอที่ริมฝีปากสวย ฮยอกแจงงเล็กน้อยแต่ก็ยอมอ้าปากรับ
ฉันก็จะช่วยเลือก ดงเฮพูดขึ้นก่อนจะตักอีกรสไปให้ เมะต่างได้ใจพากันป้อนยกใหญ่จนตอนนี้แก้มใสกลมเพราะมีไอติมหลากรสอยู่เต็มปาก ซองมินหันไปหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดรอบปากให้ก่อนจะหัวเราะออกมาน้อยๆ ฮยอกแจชะงักไปเล็กน้อยเพราะที่ซองมินกำลังทำเหมือนกับที่คนรักเก่าเคยทำให้ แต่ก็ไม่เบี่ยงหน้าหนีกลับนั่งนิ่งๆจนซองมินละมือออกไป
ทำไม…” เสียงหวานพูดขึ้นก่อนจะเว้นช่วง
อะไรเหรอฮยอก ฮันกยองเอ่ยถามแล้วจ้องคนตัวเล็กนิ่ง
ทำไมฉันถึงไม่เจ็บ เสียงหวานเอ่ยต่อ ทำไมฉันถึงไม่เจ็บเหมือนครั้งก่อนๆที่คิดถึงนายล่ะ ยูโน
หืม ฮีชอลส่งเสียงในลำคอเป็นเชิงสงสัย
ทำไมฉันถึงอยากยิ้มอีกครั้งล่ะ ฮยอกแจก้มหน้าพูดในสิ่งที่ตรงกับหัวใจ ไม่มีนายแล้วทำไมฉันถึงยังอยากยิ้มอีกล่ะ ยูโน
ฮยอกแจ ดงเฮเรียกคนตรงหน้าเสียงเบา อยากให้ฮยอกแจหลุดออกจากความคิดที่สับสนนั้น
ขอตัวก่อนนะ พูดจบร่างบางก็ลุกขึ้นเดินออกไป
ไม่ต้องตามหรอก อีทึกเป็นคนห้ามน้องๆเอาไว้
ทำไมน่ะพี่ คิบอมถามกลับตามองตามแผ่นหลังบางไป
ให้ฮยอก ได้คิดอะไรบ้างพี่คิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างกำลังจะดีขึ้นอีทึกตอบน้อง
ใช่ผมเห็นด้วย ซองมินพยักหน้าสนับสนุน ใครหลายๆคนต่างภาวนา ขอให้ฉันได้เห็นรอยยิ้มที่มาจากหัวใจนายซักครั้งนะ ฮยอกแจ
ซองมิน เห็นฮยอกแจไหม ดงเฮวิ่งเข้ามาถามซองมินหน้าตาดูร้อนรน ข้างหลังมีคิบอม เยซองและคยูฮยอนวิ่งตามมาด้วย
ยังไม่มาเรียนเลยนี่ฮะ ซองมินตอบงงๆ
เฮ้ย แล้วหายไปไหนล่ะ เยซองหันไปมองหน้ากับคิบอมอย่างสงสัย ซองมินรีบวิ่งออกมาหาพวกที่ยืนอยู่นอกห้องเรียนทันที
ทำไม อยู่ดีๆถึงมาตามหาฮยอกล่ะฮะ
ก็เห็นรถของฮยอก จอดอยู่ประตูฝั่งคนขับเปิดค้างไว้น่ะสิ นึกว่าเจ้าตัวรีบมาเรียนจนลืมปิด แต่ตอนนี้คงไม่ใช่ ดงเฮตอบรัวเร็ว สีหน้ามีริ้วรอยแห่งความกังวลปรากฏชัด
อะไรนะ!”
ไปกันเถอะ ฉันสังหรณ์ใจไม่ดีเลยอ่ะ คิบอมพูดขึ้นมาแล้วพากันออกจากตรงนั้นเพื่อไปดูที่รถของฮยอกแจทันที เมื่อไปถึงสิ่งที่เห็นก็ทำให้ทุกคนใจเสียเพราะตรงประตูรถมีรอยกระสุนปืนปรากฏอยู่ถึงสามรอย แล้วรอยหยดเลือดที่พื้นอีก
บ้าชิบ!” คยูฮยอนสบถออกมา นิ้วเรียวกดโทรหาพี่ชายคนอื่นๆ
หรือว่าพวกไอ้จองฮุน ซองมินตะโกนขึ้นมา
ไม่แน่ ดงเฮตอบรับพลางคิดไปด้วย ไม่นานนักพวกฮีชอลก็มาถึงแต่ละคนแสดงออกมาร้อนใจแค่ไหน
ให้ลูกน้องเราแยกย้ายกันตามเถอะ ในฐานะพี่ใหญ่อีทึกกับฮีชอลได้สรุปออกมาแบบนั้นทุกคนจึงแยกย้ายกันออกไป
เราจะบุก JYP กันเดี๋ยวนี้แหละ ฮันกยองพูดออกมา ทุกคนพยักหน้ารับต่างคนต่างขึ้นรถของตัวเองขับทะยานออกไปอย่างเร็ว

ยังไม่ตายอีกเหรอไง เสียงหวานถามขึ้นเรียบๆ ทั้งๆที่เลือดที่มุมปากยังคงไหลออกมาไม่หยุด ลำตัวบอบบางถูกมัดติดเสาไว้กลางลานสนามบาส ในโรงยิมของมหาลัย JYP
ฉันไม่ตายง่ายๆหรอกน่า ต้องได้กดแกก่อนเท่านั้น คิมจองฮุนแสยะยิ้มเหี้ยมมองเรือนร่างนั้นด้วยความพึงใจ
หน้าอย่างแก แค่เลียเท้าฉันเหมือนหมาก็พอมั้ง ฮยอกแจตอบกลับ ดวงตาเรียบเฉยไม่ได้แสดงอาการหวาดกลัวออกมาแต่อย่างใด
ยูโน ฮยอกควรจะชินได้แล้วสินะ ตายไปได้ก็ดีจะได้ไปอยู่กับยูโน ใช่ไหม
ปากดีนักนะ จองฮุนก้าวพรวดเดียวมาถึงตัว มือแกร่งบีบคางมนแน่นอย่างโกรธแค้น หวังว่าจะเห็นรอยวูบไหวในตาสวยคู่นั้นบ้างแต่ก็ไม่เลย มองเห็นเบือดที่มุมปากเล็กทำให้ความรู้สึกผิดเริ่มถาโถมเข้ามาใส่
ขอโทษนะ ฮยอกแจ ฉันไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้
มองฉัน มองคิมจองฮุนคนที่เป็นเพื่อนกับยูโนคนนี้บ้าง
จะฆ่า ก็รีบๆฆ่าเถอะฉันไม่รับรองความปลอดภัยของแก ฮยอกแจพูดออกมา ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวเพราะเจ็บจากแรงบีบ จองฮุนคลายมือออกเล็กน้อยแต่ก็ยังคงจับเอาไว้
ฆ่านาย ง่ายไปมั้ง จองฮุนพูดออกมา มองตากลมโตนั้นนิ่ง ฮยอกแจมองหน้าจองฮุนด้วยความไม่เข้าใจ สายตาอ่อนโยนแบบนั้นกับการกระทำที่ต่างกัน นายกำลังทำอะไรกันแน่จองฮุน
ให้ฉันอยู่ก็เหมือนตาย ไม่มียูโนแล้วฉันก็ตายทั้งเป็น เสียงใสตอบกลับเรียบๆ น้ำตาหยดใสเอ่อคลอดวงตาสวย จองฮุนปล่อยมือออกจากคางมน จ้องอีกคนนิ่ง ลืมมันไปซักที ลืมไอ้ยูโนไปซักที
ฮยอก นายลืมยูโนซักที เสียงทุ้มพูดอย่างอ่อนโยน
จองฮุน นายก็รู้ว่าฉันรักเค้าแค่ไหน ฮยอกแจตอบกลับสรรพนามที่เปลี่ยนไปของคนสองคนตรงหน้าทำให้ลูกน้องนับร้อยหันไปมองหน้ากันเลิ่กลั่ก
ฉันรู้ว่านายรักเค้า ให้ฉันได้แทนเขาก็ได้
ฮึก จองฮุนฉันขอโทษ ฉันรู้ว่านายรักฉันตั้งแต่ฉันคบกับยูโน แต่นายกับเขาเป็นเพื่อนรักกัน นายจะให้ฉันทำยังไง ฉันรักเขาได้แค่คนเดียว เสียงหวานเอ่ยยาว ร้องไห้หนักขึ้นไปอีก จองฮุนเดินอ้อมไปด้านหลังพร้อมกับแก้มัดเชือกของออกจากข้อมือบาง ดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดไว้แน่น
แต่ยูโนตายไปแล้วนะฮยอก
เค้ายังอยู่ ยังอยู่ในใจของฉัน อยู่ในดวงตาของฉัน ฮึก ฮยอกแจยกมือเล็กขึ้นมาขยุ้มเสื้อนักศึกษาของจองฮุนจนยับไปหมด
ฮยอกแจ มองฉัน นายเห็นบ้างไหมว่าฉันรักนายขนาดไหน จองฮุนตวาดลั่นก่อนจะกระชากตัวบางออกมาจ้องตาเอาไว้ ฮยอกแจได้แต่ส่ายหน้าด้วยความเจ็บปวด
จองฮุน ปล่อยฉัน
ไม่ ทำไมนายถึงได้รักมันขนาดนั้น
แล้วทำไมนายถึงได้รักฉันขนาดนี้ล่ะ ร่างบางเถียงกลับทรุดลงนั่งกับพื้นอย่างอ่อนแรงแผลที่ได้รับตั้งแต่ก่อนมาทำให้เลือดไหลออกมาไม่หยุด เรี่ยวแรงที่มีก็พาลจะหมดลงไปเรื่อยๆ
ฉัน…” จองฮุนหาคำพูดมาตอบให้ไม่ได้
ผลัวะ
เสียงประตูโรงยิมถูกเปิดออกมาอย่างแรงด้วยการถีบของซีวอน หนุ่มเมะทั้งสิบคนก้าวเข้ามาภายในพร้อมกับลูกน้องมากมาย จองฮุนหันไปมองด้านหลังยกยิ้มน้อยๆ
มากันจนได้สินะ
ให้มาฆ่าแก มาเมื่อไหร่ย่อมได้ คิบอมพูดออกมาเสียงเย็น ตาคมมองร่างบางที่ทรุดลงกับพื้นด้วยความเป็นห่วง สภาพภายนอกบอบช้ำอย่างเห็นได้ชัด แต่สภาพจิตใจบอบช้ำยิ่งกว่าทุกคนรู้ดี
แกทำอะไร ฮยอก ดงเฮชี้หน้าถามเสียงดังลั่น
ฉันจำเป็นต้องตอบแกเหรอไง จองฮุนตอบกลับ ก่อนจะดึงฮยอกแจให้ลุกขึ้น โดยที่คนมองมองเป็นการกระชากขึ้นมามากกว่าทั้งๆที่จองฮุนประคองขึ้นมาอย่างอ่อนโยน
พวกนาย โดดเรียนมาเหรอ ฮยอกแจพยายามถามออกไปทั้งๆที่อ่อนแรงเต็มที่
ฮยอก ไม่ต้องพูด ซองมินรีบห้ามเมื่อเห็นท่าทีอ่อนแรงของอีกคน
แก ทำไมแกใจร้ายแบบนี้เรียวอุคเท้าเอวหาเรื่องเต็มที่
ฉันก็แค่ทำตามใจตัวเองเท่านั้น จองฮุนยักไหล่ตอบไม่ใส่ใจ
ไอ้เลว ซีวอนด่าออกไป
พอแล้ว ฉันกลับได้แล้วใช่ไหมจองฮุน ฮยอกแจขัดขึ้นมา อีกฝั่งคือลูกน้องเก่าของคนรักที่จากไป อีกฝั่งคือเพื่อนใหม่ที่กำลังแทรกซึมเข้ามาในหัวใจดวงน้อยๆ
อืม ขอโทษนะ จองฮุนพูดเสียงเบา กดจูบลงบนกลีบปากอิ่มด้วยความรัก ฮยอกแจยืนนิ่งปล่อยให้อีกคนถ่ายทอดความรักที่มีออกมา น้ำตาหยดใสไหลอาบแก้มเนียน พวกนักศึกษาจากเอสเอ็ม ได้แต่ยืนมองนิ่งไม่เข้าใจเหตุการณ์ตรงหน้าเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าไม่ร้ายแรงอย่างที่คิด
ดูแล คนพวกนี้ให้ดีนะฮยอก พวกนั้นท่าทางรักนายมาก จองฮุนพูดออกมาเป้นประโยคสุดท้ายก่อนจะผลักฮยอกแจออกไปตรงหน้าด้วยความเจ็บปวด คยูฮยอนถลาเข้ามารับร่างบางเอาไว้ได้ทัน
แก ทำไมต้องรุนแรงด้วยวะ อีทึกตะโกนถามอย่างไม่พอใจ
กลับไปเถอะ จองฮุนพูดออกมาแล้วเดินหายเข้าไปในกลุ่มลูกน้องมากมาย
ฆ่า มันซะเลยดีไหม ฮันกยองเค่นเขี้ยวถามออกมา
กลับเถอะ กลับนะฮะ ฮยอกแจอ้อนวอน คยูฮยอนช้อนร่างของคนที่ยืนแทบไม่ไหวเอาไว้แนบอก
ฮยอกแจ ก่อนที่ทุกคนจะก้าวออกไป จองฮุนก็เรียกไว้ซะก่อน
“…”
ฉันคิดว่าไอ้ยูโน คงอยากเห็นรอยยิ้มของนาย ดังนั้นยิ้มซะ ร่างสูงพูดออกมาแค่นั้น ก่อนจะยืนหลับตานิ่งเพื่อกั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมาให้คนอื่นได้รับรู้
จองฮุน ซักวันฉันจะยิ้มให้นายอีกครั้ง เสียงหวานตอบกลับก่อนจะซบหน้าลงกับอกของคยูฮยอนอย่างอ่อนล้า
พาพี่ฮยอกแจไปหาหมอก่อนเถอะเยซองพูดขึ้นเมื่อเห็นฮยอกจสลบไปแล้ว ทุกคนรีบวิ่งออกไปทันที
ฮยอกแจกับจองฮุนรู้จักกันเหรอ ฮีชอลถามขึ้นเมื่อทุกคนนั่งอยู่ในห้องพักพิเศษอีกครั้ง
ถ้าจำไม่ผิด ผมคิดว่าจองฮุนน่าจะเป็นคนเดียวกับเพื่อนสนิทของยูโนแฟนฮยอก ซองมินพูดขึ้นจากการสันนิษฐานและเรื่องบางเรื่องที่ได้รับการปะติดปะต่อแล้ว
อืม หมอนั่นก็คงจะรักฮยอกมาก ฮันกยองบอกออกมาตามความรู้สึก
คงจะเจ็บปวดมากที่เห็นฮยอกแจกับยูโนคบกันสินะ ถึงได้แค้นขนาดนี้ ดงเฮเสนอความเห็นบ้าง ทุกคนได้แต่นั่งเงียบ
แต่ฉันอิจฉาจองฮุน คิบอมพูดออกมา ทำให้ใครหลายๆคนหันไปมองหน้าคม
ทำไม อีทึกเอ่ยถาม
ผมคิดว่าจองฮุน คงจะเคยได้รับรอยยิ้มจากพี่ฮยอกแจ พอจบประโยคทุกคนต่างจมดิ่งสุ่ห้วงความคิดของตัวเอง จนห้องทั้งห้องเงียบกริบมีเพียงแต่เสียงหายใจและเสียงจากเครื่องปรับอากาศเท่านั้น
ฮยอกแจลืมตาตื่นขึ้นมากลางดึก ตาสวยกระพริบถี่เพื่อปรับภาพตรงหน้าให้ชัดเจนมากขึ้น ความเจ็บปวดที่ร่างกายทำให้ไม่สามารถขยับไปไหนได้มากนัก ตาสวยมองไปรอบๆห้อง เนื่องจากไฟสีส้มที่เปิดไว้ตามเสาในห้องทำให้มองเห็นบุคคลอื่นที่อยู่ในห้องได้ไม่ยากนัก ความรู้สึกอบอุ่นจากมือทั้งซ้ายและขวาทำให้ใบหน้าหวานต้องเอียงมอง ฝั่งซ้ายคือซองมินที่จับเอาไว้แน่น ฝั่งขวาคือซีวอน ร่างบางขยับตัวเล็กน้อย
โอ๊ย!” เสียงใสร้องออกมาหลังจากเจ็บแผลบริเวณหน้าท้องที่ถูกอัดมา ทำให้คนทั้งห้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง
ฮยอกแจ ซองมินร้องเรียกแล้วลุกขึ้นมาดูอย่างรวดเร็ว จับมือเล็กทั้งสองข้างขึ้นมายกดูไปมา จนฮยอกแจหัวเราะออกมาน้อยๆกับกระต่ายตื่นตูมนั้น เสียงหัวเราะสดใสนั้นทำให้คนเฝ้าไข้ภายในห้องนิ่งเงียบ ไม่มีใครเอ่ยค้านอะไรออกมา ทุกคนต่างยิ้มกว้างออกมาที่ได้ยินเสียงหัวเราะนั้น
อ่าว เงียบทำไมล่ะมิน ฮยอกแจเอ่ยถามเสียงใส ดวงหน้าใสยิ้มน้อยๆ จนซองมินหัวใจกระตุกวูบกับรอยยิ้มนั้น คนอื่นก็ยิ้มบางๆด้วยความดีใจ ฮยอกแจคนเดิมกำลังจะกลับมาแล้วใช่ไหม
ฮยอก นายยิ้ม ซองมินใช้นิ้วมือลูบไปบนเรียวปากอิ่มที่กำลังแย้มยิ้มอยู่ นายยิ้มแล้วโลกสดใสมากเลยรู้ไหม
อื้อ ไม่ดีเหรอ ถามพลางเอียงคอมองอย่างน่ารัก รอยยิ้มยังคงระบายน้อยๆบนใบหน้า
ดีที่สุดเลย ฮีชอลตอบออกมา ก่อนจะเดินมายืนอยู่ข้างเตียงเป็นคนแรก คนอื่นๆที่ตื่นขึ้นมาเต็มตาเพราะได้ยินเสียงหัวเราะนั้น
แล้ว ทุกคนไม่กลับบ้านเหรอฮะ เสียงใสถามต่อพร้อมกับมองไล่สายตาไปทีละคน

ก็เฝ้าเรานั่นแหละ อีทึกตอบก่อนจะยีผมนุ่มอย่างเบามือ

No comments:

Post a Comment