Tuesday, September 16, 2014

Fan Fic BLEACH - เร็นจิ x เบียคุยะ - มีเพียงจันทราดวงเดียวในใจ By Juntiva





เดิมที....ข้าเกลียดคนผู้นั้นเหลือเกิน...อยากที่จะชนะคนผู้นั้น...

อยากที่จะเห็นคนผู้นั้นล้มลงพ่ายแพ้แก่ข้า.....

แต่แล้ว...ยิ่งเข้าใกล้มากขึ้น...จุดมุ่งหมายของข้ากลับเปลี่ยนแปลงไป.....

แต่เดิมที...ข้าก็ไขว่คว้าดวงดาวอยู่แล้ว...นั้นก็สูงเกินไปแล้ว.....

แต่ครั้งนี้...สัตว์ต่ำต้อยเช่นข้ากลับหวังจันทราที่สูงกว่าดวงดาราเสียอีก.....

คนผู้นั้น.....คือ จันทรา....จันทราดวงเดียวในหัวใจของข้า.....


     +ห้องทำงานหัวหน่วยยมทูตหน่วยที่ 6+

     ร่างบอบบางในชุดตัวใหญ่กำลังขัมกเขม้นอยู่กับงานตรงหน้า ดวงตาสีราตรีสวยงามเรียบเฉยตามนิสัย มือเรียวจับพู่กันอย่างมั่นคงก่อนจะขีดเขียนตัวอักขระลงบนกระดาษอย่างรวดเร็วและชำนาญ ตัวหนังสือสีดำสวยงามตวัดไปตามบนกระดาษพร้อมปลายพู่กัน

     ครืด.....

     ร่างบางหยุดเขียนกระทันหันก่อนจะเงยหน้าขึ้นจากงานเพื่อมองผู้มาเยือน ใบหน้างามล้อมกรอบด้วยเกศาสีราตรีเรียบเฉย สายตาจับจ้องผู้มาใหม่

     "สายนะ"ร่างบางเอ่ยเรียบๆ ก่อนจะก้มลงไปทำงานต่อ

     ชายหนุ่มร่างสูงผมแดงในชุดยมทูตสีดำยิ้มกริ่ม ก่อนจะเอ่ย

     "ก็หัวหน้าเล่นตื่นมาก่อนไม่ยอมปลุกนิครับ"ว่าจบพลังกดดันวิญญาณก็เริ่มแผ่ไปทั่วห้อง ร่างบางจับจ้องที่ร่างสูงผมแดงที่ส่งยิ้มยียวนมาให้อย่างไม่พอใจ

     "อย่าพูดเรื่องนั้นในที่แบบนี้"

     "แหมๆ เครียดไปได้นะครับ...เบียคุยะ"อาบาราอิ เร็นจิเดินมาหยุดอยู่เบื้องหลังร่างบางที่นั่งหลังตรงทำงานอย่างพยายามไม่สนใจร่างสูง

     "อย่าเรียกชื่อห้วนๆแบบนั้น!"

     "ทำไมละ?"เร็นจิยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะก้มลงกระซิบเสียงทุ้มข้างหูร่างบางว่า "ทีเมื่อคืนยังร้องเรียกชื่อข้าไม่ขาดปากเลยนิเบียคุยะ"

     "หยุดนะ!"มือเรียวกระแทกโต๊ะเสียงดังก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับร่างสูงอย่างไม่พอใจ แต่แล้วก็ต้องเบิกตาอย่างตกใจเมื่อร่างสูงยันกายคร่อมร่างบางกับโต๊ะ

     "เช้ามากดุซะแล้ว เป็นอะไรไปละ? วันนี้มีเรื่องน่าปวดหัวแต่เช้าเรอะ?"

     ร่างบางส่งสายตาไม่พอใจก่อนจะพยายามดันร่างสูงออกห่าง "ออกไป...เดี๋ยวคนมาเห็น"

     "ก็ช่างเขาสิ....ข้าไม่พอใจนะที่เจ้าอยู่ๆก็มาอารมณ์เสียใส่ข้าซะงั้น"

     ร่างบางถอนหายใจหนักก่อนจะเอ่ย "งั้นก็ต้องขอโทษด้วย....แต่เช้านี้มีเรื่องวุ่นวาย ข้าอารมณ์เสียไปหน่อย"

     "เรื่องอะไร?"

     "งิน...หน่วยของงินกับหน่วยของเรามีเรื่องกัน และหน่วยเราก็ผิด นั่นมันทำให้ข้าไม่พอใจ"

     "ผู้ถึงเจ้านั่นแล้วน่าโมโหชะมัด"เร็นจิเอ่ยอย่างไม่ค่อยพอใจนัก

     "จะยังไงก็ช่าง แต่ออกไปห่างๆจากข้าๆได้แล้ว"

     เร็นจิมองร่างบางก่อนจะยิ้มกริ่ม "คงจะไม่ได้.....ข้าต้องทำโทษที่เมื่อเช้าเจ้าไม่ยอมปลุกข้าจนข้าตื่นสาย"

     "ปลุกแล้วไม่ตื่นเองต่างหาก!"เบียคุยะแย้ง

     "นั่นแหละ เหมือนๆกันละน่า....มาให้ทำโทษซะดีๆ"ร่างสูงดึงร่างบางให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะจับกดลงบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว เบียคุยะที่ตั้งตัวไม่ทันเบิกตาโตอย่างตกใจ ก่อนจะเริ่มปล่อยพลังกดดันวิญญาณอย่างไม่พอใจ พลางดิ้นรนขัดขืน

     "ไม่ได้นะ! นะ นี่มันตอนเช้านะเร็นจิ!"

     "หึหึหึ ข้าชอบตอนเจ้าเรียกชื่อข้าชะมัด....ฟังแล้วมีอารมณ์ดี"

     ร่างบางได้ฟังเช่นนั้นก็หน้าแดงเรื่ออย่างเขินอาย ร่างสูงเห็นก็ยิ้มกริ่มดึงร่างบางมากอดอย่างชอบใจ "เจ้านี่ทำตัวน่ารักอีกแล้ว!"

     "ยะ อย่าน่า"เบียคะยะเอ่ยอย่างเก้าเขิน ใบหน้าหวานแดงระเรื่อ พยายามดันตัวเองออกห่างจากร่างสูงอย่างเขินอาย จิดใตเต้นระรัวอย่างห้ามไม่อยู่

     "ข้าทนไม่ไหวแล้ว!"เร็นจิเชยคางมนสบตากับตนก่อนจะก้มลงประทับรอยจุมพิตเร่าร้อนให้อย่างรวดเร็ว

     "อือ!...อืม...อา...เร็นจิ....อืม...เดี๋ยวสิ....อืม....."

     ลิ้นร้อนส่งเข้าไปในโพรงปากนุ่ม ควานหาความหวานสุดลึกล้ำ เรียวลิ้นยาวของทั้งคู่ตวัดพันเกี่ยวกันอย่างมั่วซั่ว ยามแรกร่างบางก็ขัดขืนแต่เนื่องจากรสจูบสุดรัญจวน ทำเอาร่างบางอ่อนละโหยโรยแรง ยอมจำนนตอบสนองความต้องการอย่างว่าง่าย แขนเรียวโอบกอดรอบคอร่างสูงอย่างเต็มใจ หลับตาพริ้มลิ้มรับรสจุมพิต ร่างสูง เมื่อเห็นร่างบางเริ่มยินยอมก็ถอนจูบช้าๆก่อนจะเลื่อนลงมาโลมเลียที่ลำคอระหง ขบเม้มสร้างรอบรักแสดงความเป็นเจ้าของซ้ำจุดเดิมเหมือนยามค่ำคืนที่เพิ่งผ่านมา ร่างบางครางเบาๆอย่างพอใจ

     "อา.....เร็นจิ...."

     ลิ้นร้อนเลียที่ต้นคออย่างหยอกล้อ

     "อืม...เร็นจิ...อา...ต้องทำงานนะ...."

     "ช่างมันเถอะน่า"

     ร่างสูงกดร่างบางลงบนโต๊ะทำงาตัวใหญ่ก่อนจะใช้ผ้าพันคอของเบียคุยะมัดข้อมือเล็กทั้งสองข้างเอาไว้เพื่อไม่ให้ร่างบางขัดขืนได้ เร็นจิก้มลงขบเม้มต้นคอขาวผ่องอีกครั้ง และครั้งนี้มือใหญ่ทำหน้าที่ย่างรวดเร็ว โดยการถอดผ้าคาดเอวออก ก่อนจะแหวกเสื้อผ้าหนาๆตัวใหญ่ของร่างบางออกจนเผยให้เห็นเรือนร่างบอบบางขาวนวลดุจแสงจันทร์ ร่างสูงยิ้มอย่างพอใจ แต่ร่างบางหน้าแดงอย่างเขินอาย พยายามบ่ายหน้าหนีหลบสายตาเร่าร้อนของร่างสูง

     "อย่ามองนะ"

     "คงยาก....."รร่างสูงเลื่อนใบหน้าลงมาที่หน้าอกบอบบาง มือใหญ่ลูบไล้ต้นขาสร้างความเสียวซ่านให้ร่างบางอย่างมาก ลิ้นร้อนโลมเลียยอดกุหลาบ มืออีกข้างเคล้นคลึงยอดอกและกดยอดกุหลาบเป็นการหยอกล้อ ร่างบางครางเสียงหลงแอ่นกายรับสัมผัส

     "อ๊า....เร็นจิ...อืม...หยุดเถอะ....."

     แต่ร่างสูงไม่สนใจ มือใหญ่เปลี่ยนมาเคล้นคลึงสะโพกมนแทน เตรียมถอดผ้าชิ้นน้อยออก ร่างบางรู้ดีว่าขัดขืนไปก็เท่านั้น จะใช้พลังกดวิญญาณก็ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นหลายคนคงแห่มาดูกันเป็นแน่ จึงจำต้องปลอยเลยตามเลย เบียคุยะครางพลางหลับตาพริ้มรอรับสัมผัสจากร่างสูง เร็นจิยิ้มกริ่มอย่างพอใจเตรียมถอดอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายของร่างบางออก แต่แล้ว.....

     ครืด....

     "โอ๊ะ!"

     "เฮ้ย!!"

     คู่รักที่กำลังบรรเลงเพลงรักสะดุ้งตกใจรีบแยกตัวกันทันที เบีคุยะทำอะไรไม่ได้นอกจากรีบใช้เสื้อผ้าตัวใหญ่ของตนที่ยังไม่ได้ถอดออกไปคลุมกายอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมองไปทางประตู  เร็นจิมองผู้มาไม่ถูกเวลา (ตัวเองนั่นแหละทำอะไรไม่ถูกเวลา) อย่างไม่พอใจ

     "โอ้...ขัดจังหวะหรือนี่"

     "งิน..."เบียคุยะเบิกตาโตอย่างตกใจ

     "หึหึหึ สารรูปแบบนั้นตั้งใจจะยั่วข้าอีกคนเรอะเบียคุยะ"ชายหนุ่มผมเงินมาใหญ่เอ่ยยิ้มเจ้าเล่ห์ มองร่างบางด้วยสายตาโลมเลียไม่ปิดบัง เร็นจิหันไปมองร่างบางก็พบวาร่างบางอยู่ในท่าทางที่ยั่วยวนอย่างที่งินพูดจริงๆ.....เสื้อตัวใหญ่ที่เผยให้เห็นไหล่มนและหน้าอกบอบบางจนเกือบจะแหวกไปถึงไหนต่อไหน ดูเหมือนร่างบางก็เพิ่งจะรู้ตัวรีบกระชับเสื้อตัวใหญ่คลุมกายจนมิดทันที เร็นจิรีบเข้าไปยืนบังร่างบางอย่างรวดเร็วก่อนจะมองผู้มาเยือนอย่างไม่เป็นมิตร

     "มีอะไรหรือครับหัวหน้าอิชิมารุ"

     "ก็กะจะมาขอโทษแทนลูกน้องของหน่วยข้าเองที่ทำให้เบียคุยะต้องวุ่นวายน่ะ"

     "เหรอครับ"เร็นจิรับคำเรียบๆ แต่แน่ใจว่างินคงไม่ได้มาเพราะเรื่องแค่นี้แน่

     "แล้วก็....."เร็นจิหรี่ตา...ว่าแล้วไง..... "กะจะมาเอาคำขอโทษด้วย ทำผิดก็น่าจะขอโทษ.....ด้วยร่างกายก็ดีนะเบียคุยะ หึหึหึ"

     ร่างบางกำมือแน่น เร็นจิจับดับเตรียมชักออกมาอย่างเดือดดาล แต่ร่างบางเบื้องหลังดึงแขนห้ามเอาไว้ ก่อนจะส่ายหน้าเตือน ดวงตาสีดำของเบียคุยะจับจ้องที่ร่างสูงผมสีเงินอย่างเรียบเฉย ก่อนจะเอ่ย "ข้าต้องขออภัยแทนคนของหน่วยข้าด้วยที่ไปสร้างความวุ่นวายให้เจ้าอิชิมารุ"

     "แหม...นึกว่าจะชดใช้ให้ด้วยร่างกายสักคืน"

     "งิน!!"เร็นจิเอ่ยอย่างเดือดดาล

     "มารยาทอาบาราอิ.....มารยาท หึหึหึ"งินยิ้มอย่างมุ่งร้าย

     "หนอย!"

     "ใจเย็นไว้"เบียคุยะเอ่ยปรามก่อนจะหันไปหางินต่ออีกครั้ง "หากหมดธุระแล้ว ก็เชิญเจ้าไปเสียเถอะอิชิมารุ"

     "ก็ได้"ร่างสูงยักไหล่ก่อนจะหันหลังเตรียมจะเดินออกไป แต่ไม่วายทิ้งท้ายโยนระเบิกลูกใหญ่ให้ "ฉันจะไม่บอกใครเรื่องนี้ แต่อย่าเผลอแล้วกันละเบียคุยะ...ฉันชักจะถูกใจนายซะแล้วสิ"

     บานประตูเลื่อนปิดลง เร็นจิกำหมัดแน่นก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างโกรธเคือง

     "หนอย! ไอ้เจ้านั่น กล้าดียังไงฟ่ะ!!"

     เบียคุยะไม่สนใจรีบแต่งตัวให้เป็นเหมือนเดิมทันที หวั่นก็แต่ว่างินจะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใครจริงๆ

     "เจ้าเองนั่นแหละที่ผิด"เบียคุยะหันมาต่อว่าร่างสูง

     "หา?? ข้าไม่ผิดซักหน่อย!"

     "เจ้านั่นแหละผิด ถ้าเจ้าไม่ทำเรื่องแบบนั้นละก็ข้าก็ไม่ต้องมาเป็นตัวตลกให้อิชิมารุ!"ร่างบางเอ่ยอย่างไม่พอใจ ก่อนจะกลับไปนั่งที่และทำงานต่อเงียบๆ เร็นจิมองร่างบางที่เข้าโหมด 'งอน' เสียแล้ว ร่างสูงอดยิ้ไม่ได้ เพราะไม่นึกว่าร่างบางตรงหน้าจะทำตัวน่ารักแบบนี้ก็เป็น

     "โกรธข้าเหรอ?"ร่างสูงสวมกอดร่างบางจากด้านหลัง

     "เปล่านิ"ร่างบางเอ่ยตอบเรียบๆ

     "แน่ใจนะ"

     ว่าจบก็ช้อนตัวร่างบางขึ้น เบีคุยะร้องอย่างตกใจก่อนจะถูกจับให้นั่งบนตักร่างสูง มือใหญ่โอบเอวร่างบางเอาไว้อย่างหวงแหน ก่อนจะยิ้มกริ่มเอ่ยอีกรอบ "หายโกรธรึยัง?"

     "ข้าไม่ได้โกรธ"ร่างบางสะบัดหน้าหนี

     "ก็เห็นกันอยู่นิ.....อย่าโกรธข้าเลยนะ เบียคุยะ"ว่าแล้วก็ซุกไซร้ที่หลังหู ขบเม้มเบาๆ

     "อ๊ะ!...อย่านะ....."

     "หายโกรธหรือยังละ?"

     ร่างสูงเปลี่ยนซุกไซร้ที่ซอกคอแทน ขบเม้มเบาๆอย่างหยอกล้อ

     "อา..เร็นจิ...อย่า..."

     "หายโกรธหรือยัง?"

     "อืม...ไม่โกรธแล้ว"ร่างบางเอ่ยตอบเสียงสั่น ร่างสูงยอมละจากซอกคอแต่โดยดี ก่อนจะเปลี่ยนเป็นจุมพิตริมฝีปากบางนุ่มนั่นแทน

     "ไม่ได้นะ..."เบียคุยะเอ่ยห้ามเสียงเบา

     "แค่จูบเอง"เร็นจิเอ่ยยิ้มๆ ก่อนจะมอบจุมพิตเร่าร้อนให้อีกครั้ง

หลายวันต่อมา เร็นจิต้องตามติดเบียคุยะบ่อยครั้งขึ้น ไอ้การที่จะอยู่ใกล้คนรักตลอดเวลาก็ดีอยู่หรอกนะ แต่ไอ้ที่ต้องมาคอยกันตัวก่อกวนนี่สิน่ารำคาญชะมัด!!

     เร็นจิเหลือบตามองเบียคุยะที่กำลังพูดคุยกับหัวหน้าหน่วยอื่นๆอยู่ ข้างเบียคุยะ คือ งิน ที่เร็นจิเริ่มสังเกตได้ว่าร่างสูงผมเงินชักจะเข้าใจเบียคุยะมากขึ้ยเรื่อยๆ แต่ร่างบางกำลังวุ่นกับการคุยที่เคร่งเครียดจึงไม่สังเกต

     "เฮ้ยๆจะมากไปแล้วมั้ง"เร็นจิกัดฟันกรอด มือกำแน่น ดวงตาลุกเป็นไฟด้วยเพลิงแหต่งความหึงหวงและไม่พอใจ

     "โอ๊ะ! ได้เวลาทานข้าวกลางวันแล้วนะค่ะ!"ช่างเป็นโชคดีเหลือเกินที่หัวหน้าหน่วย4 นาม อุโนฮานะ เร็ตซึ เอ่ยขัดจังหวะการสนทนาขึ้นมาเสียก่อนที่เร็นจิจะตรงเข้าไปกระชากงินให้ออกห่างจากเบียคุยะ

     "นั่นสินะครับ"ไอเช็นเอ่ยสมทบ

     "ว่าแล้วก็ไปนั่งจิบเหล้ากันดีกว่านะ ฉันเพิ่งได้เหล้ารสดีมา ใครจะไปบ้าง"ชุนซุย หัวหน้าหน่วย 8 เอ่ยร่าเริง

     เร็นจิเห็นว่าทุกคนเลิกคุยเรื่องสำคัญแล้วจึงรีบเดินเข้าทันทีก่อนจะเอ่ยเสียงดัง "ผมขอตัวหัวหน้าคุจิกินะครับ มีธุระด่วน!"

     ทุกคนมองเร็นจิอย่างงงงวยเมื่อร่างสูงกึ่งลากกึ่งกระชากให้หัวหน้าหน่วยของตัวเองตามไปอย่างรวดเร็ว และเป็นครั้งแรกที่ทุกคนเห็นเบียคุยะยอมให้คนอื่นเดิจนจูงมือแบบนั้น

     "มีอะไรแน่ๆเลย"ชุนซุยเอ่ยเสียงขรึม

     "อย่าแม้แต่จะคิด ข้าสยองชะมัด!"ซาราคิเอ่ยขัดทันทีรู้สึกขยะแขยง

     "แหมๆ เรื่องของความรักใครก็ห้ามไม่ได้นะค่ะ"เร็ตซึเอ่ยยิ้มน้อยๆ

     คนอื่นๆมองเร็ตซึอย่างแปลกใจปนหวาดๆ เพราะคุณเธอช่างน่าลึกลับและน่าสงสัยมากๆจนน่าระแวง ยิ่งรอยยิ้มมีนัยแบบนี้ยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่!

     ขณะเดียวกัน ร่างสูงผมแดงก็ยังไม่ยอมปล่อยมือจากข้อขมือร่างบางแต่อย่างใด แต่ยังคงกลับบีบน่นเช่นเดิม เบียคุยะมองร่างสูงเบื้องหน้าอย่างไม่เข้าใจ และเริ่มรู้สึกเจ็บข้อมือมากขึ้นเรื่อยๆ

     "เร็นจิ...."

     ร่างสูงหยุดเดินทันที ส่งผลให้ร่างบางไม่ทันคาดคิดชนเข้ากับแผ่นหลังแกร่งของร่างสูง เร็นจิรีบหันมามองก่อนจะเอ่ย

    "โทษที...ข้าขอโทษ"

    "ข้อมือข้า..."เบียคุยะเอ่ยเรียบๆ พยายามไม่แสดงออกว่าเจ็บปวดแค่ไหนจากแรงของร่างสูง

     "อ๊ะ!"เร็นจิเอ่ยอย่างตกใจก่อนจะรีบปล่อยทันที เบียคุยะนวดข้อมืออย่างเจ็บปวด เร็นจิรู้สึกผิดที่รอบข้อมือของร่างบางเป็นรอยมือสีแดงเป็นจ้ำใหญ่ "ข้าขอโทษ...ถ้าเจ็บก็บอกข้าสิ" ร่างสูงเอ่ยเสียงอ่อนโยน ยกข้อมือร่างบางขึ้นมาจุมพิตเบาๆ

     "ไม่เจ็บสักหน่อย"ร่างบางแย้ง

     ร่างสูงยิ้มขันก่อนจะเอ่ย "ถ้าเจ็บก็บอกว่าเจ็บ....ไม่ต้องบอกคนอื่นก็ได้ แต่บอกข้านะ หากเจ้าเจ็บข้าก็จะบรรเทาให้เอง"

     ร่างบางหน้าแดงกับคำหวานที่ทำให้หัวใจเต้นระรัวอย่างมาก รีบดึงข้อมืออกจากการเกาะกุมของร่างสูงก่อนจะรีบเดินนำหน้าไปเพื่อไม่ให้ร่างสูงเห็นใบหน้าแดงอย่างเขินอายของตน เร็นจิเห็นแบบนั้นก็อมยิ้มรีบเดินไปอยู่ข้างๆร่างบาง ยิ้มล้อเลียน

     "หน้าแดงเลย!"

     "เปล่าซะหน่อย!"ร่างบางรีบหัวหน้าหนี

     "หึหึหึ ตอนเจ้าหน้าแดงนี่ หน้ารักชะมัด"ว่าแล้วก็สวดกอดร่างบางอย่างรักใคร่

     "อย่า! เดี๋ยวคนเห็น ปล่อยข้าสิ!"

     "เห็นก็เห็นสิ จะได้รู้กันไปเลยว่าข้าน่ะรักเจ้าขนาดไหน"เร็นจิเอ่ยกระซิบข้างหูร่างบางก่อนจะขบเบาๆอย่างหยอกล้อ

     "อ๊ะ!"เบียคุยะหน้าแดงเรื่อ ก่อนจะพยายามดันตัวออกห่างอย่างเขินอาย "ปล่อยข้านะ!"

     "ม่ายป่อย ถ้าคิดจะปล่อยพลังกดวิญญาณละก็ ลองดูสิ คนจะได้แห่กันมาดูไงละ"

     "เจ้า!"เบียคุยะเอ่ยอย่างไม่พอใจนัก แต่เมื่อร่างสูงจับร่างบางดันติดกับกำแพงแขนทั้งสองข้างยันคร่อมเอาไว้ ร่างสูงแกร่งบดเบียดร่างกายบอบบาง ร่างบางหน้าแดงก่ำ ใจเต้นระส่ำ หันหน้าหนีหลบตาร่างสูง มือเรียวพยายามยันกายร่างสูงเอาไว้ไม่ให้ใกล้กันมากกว่านี้

     "อย่าทำแบบนี้..."ร่างเบาเอ่ยเสียงเบา

     "ไม่มีใครหรอกน่า"เร็นจิเอ่ย ยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะจับดวงหน้าติดหวานให้หันมาสบตาตนก่อนจะค่อยๆยื่นหน้าเข้าใกล้

     "อย่า..."ร่างบางเอ่ยเสียงแผ่ว แต่ก็ต้องเงียบหายเมื่อริมฝีปากของร่างสูงประกบมอบจุมพิตร้อนเร่าให้ มือใหญ่ตรึงแขนเรียวให้ยึดติดกับกำแพง ก่อนจะบดเบียดร่างกายให้แนบชิดกันมากกว่าเดิม  ร่างบางหลับตาพริ้มยอมรักสมัผัสอย่างไม่หลีกเลี่ยง ลิ้นร้อนของทั้งคู่ตวัดเกี่ยวพันตอบรับกันและกันอย่างโหยหาด้วยรสพิศวาสแห่งรักร้อนเร่า

     "อืม...อา...อื้ม..."ร่างบางครางในลำคออย่างพอใจ ร่างสูงคลายมือใหญ่ออกจากข้อมือทั้งสองข้างก่อนจะเลื่อนลงสู่เอวบางของร่างบาง ส่วนวงแขนเรียวของร่างบางก็โอบกอดคอเร็นจิเอาไว้ มือใหญ่เคล้นคลึงที่สะโพกมนเบาๆ ร่างบางแอ่นรับสัมผัสอย่างพอใจ และมือใหญ่ก็ไม่รอช้า เริ่มปลดสายผ้าคาดเอวของร่างบางอย่างรวดเร็วก่อนจะส่งมือใหญ่เข้าไปลูบไล้เนื้อเนียนสวยอย่างพอใจ ริมฝีปากถอนจากริมฝีปากอิ่มก่อนจะเลื่อนลงซุกไซร้ซอกคอแทน เบียคุยะร้องครางเมื่อร่างสูงขบเม้มซอกคอสร้างลอยรักเอาไว้แสดงความเป็นเจ้าของ และมือใหญ่ก็ลูบไล้ยอกกุหลาบอย่างหยอกล้อ พลางบีบปุ่มกุหลาบนั้นอย่างพอใจ ร่างบางครางเสียงหลง

     "อ๊า...เร็นจิ...อืม....หยุดก่อน...."ร่างบางเอ่ย ดันร่างสูงออก เร็นจิมองร่างบางอย่างไม่เข้าใจ

     "ข้าทนไม่ไหวแล้วนะ"เร็นจิเอ่ยอย่างขัดใจ พยายามจะซุกไซร้ซอกคออีกครั้ แต่ร่างบางดันเขาไว้ก่อน และเอ่ยเสียงพร่ายั่วยวนปนหอบ ใบหน้างามแดง

     "ไป...ที่ห้องได้มั๊ย...ข้าก็ไม่ไหวแล้ว...."ร่างบางเอ่ยอย่างเขินอาย เร็นจิยิ้มกริ่ม

     "ก็น่าจะบอกให้เร็วกว่านี้สิ"ว่าจบก็ช้อนตัวร่างบางขึ้นก่อนจะรีบวิ่งทันทีเพื่อไปที่ห้องของร่างบาง แล้วบทรักของทั้งคู่ก็บรรเลงต่อไป

     แต่หลังจากที่ทั้งคู่หายลับไปยังมุมกำแพง ร่างสูงผมสีเงินก็ก้าวเท้าออกมาจากมุมหลบซ่อน รอยยิ้มเจ้าเล่ห์แต้มบนใบหน้า มองไปตามทางที่คู่รักหายลับไป

     "หึหึหึ ถ้าเป็นข้า เจ้าจะร้องแบบนั้นมั๊ยนะเบียคุยะ หึหึหึ"งินหัวเราะในลำคออย่างเจ้าเล่ห์ "อยากจะลองชะมัด"




     หลายวันต่อมา.....

     เร็นจิ ดินผิวปากอย่างสบายใจ เพราะหลายวันมานี้ ไร้วี่แววของงิน ไม่มีการแอบตาม ไม่มีการใกล้ชิดกันเกินไปอย่างที่คาด ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่น่าพอใจมากๆสำหรับเร็นจิ วันนี้เขาจึงไม่กังวลมากนัก เมื่อต้องมาช่วยคุมยมทูตใหม่กับลูเคีย

     "สงสัยมันต้องเลิกคิดไปแล้วละมั้ง เหอะๆ ให้มันรู้ซะบ้างคนรักข้าใครอย่าแตะโว้ย!"เร็นจิเอ่ยอย่างสะใจ ก่อนจะเดินไปหาลูเคีย

     "ไง ลูเคีย"

     แต่ไม่ทันได้ยกมือโบกทักทาย ก็ถูกลูกถีบจากร่างเล็กอัดเข้าเต็มหน้าอก จนเขาเองกระเด็นหงายหลังกลิ้งไปหลายตลบ

     "โอย~.....ทำอะไรของเจ้ากันฟ่ะ!!"

     "ยังจะมีหน้ามาพูดอีก"หญิงสาวร่างเล็กแหวใส่อย่างอารมณ์เสีย "มาสายแล้วยังจะโวยวาย ให้มันน้อยๆหน่อยนะเว้ย คิดว่าเป็นรองหัวหน้าแล้วจะทำอะไรก็ได้หรือไง!!"ว่าแล้วก็เหยยียบแผ่นหลังร่างสูงเอาไว้อย่างข่มขู่

     "เฮ้ยๆ ข้าติดธุระหรอกถึงได้มาสาย! มาก็ดีกว่าไม่มาละฟ่ะ! จ๊าก!"ร่างสูงร้องเสียงหลงเมื่อร่างเล็กกระทืบเท้าลงมาครั้งหนึ่ง

     "เงียบไปซะแก!"

     "เอาเถอะ ลูเคียจัง พอได้แล้วหล่ะ"นานาโอะเอ่ยอย่างใจเย็น

     "นั่นสิ โกรธมากหน้าแก่เร็วนะจ้ะ"รันงิคุเอ่ยอย่างขบขัน

     ลูเคียยอมยกเท้าออกจากร่างสูงแต่โดยดี เร็นจิลุกขึ้นยืนอย่างโซเซเจ็บปวดที่หลัง โชคดีที่มีไคเอ็นคอยช่วยพยุง

     "ถึงชะมัด!"เร็นจิเอ่ย

     "เงียบไปเลยย่ะ"ลูเคียยกกำปั้นขู่

     "เอาล่ะ เอาล่ะจ้า! มาทำงานกันต่อเถอะน้า!!"ยาริจุเอ่ยอย่างร่าเริง ส่งยิ้มหวานอย่างน่ารัก

     แล้วการทำงานก็ดำเนินไปอย่างรวดเร็วและเรียบร้อย.....

     จนกระทั่ง.....

     "แล้วทำไมฉันจะต้องมาช่วยกวาดขยะพวกนี้ด้วยฟ่ะ!"เร็นจิบ่นอุบ ขณะเดียวกันมือก็ถือไม้กวาด กวาดพื้นที่เต็มไปด้วยใบไม้

     "อย่าบ่นมาก ทำต่อไปเถอะน่า"ลูเคียเอ่ย

     ทั้งสองได้หน้าที่รับผิดชอบให้มากวาดเศษใบไม้ในสวนแห่งหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่พักผ่อนแห่งหนึ่งของหน่วยทั้ง 13 หน่วย (สมมติว่ามีนะ -_-)

     "เฮ้อ~ น่าเบื่อชะมัด"เร็นจิบ่นอีกรอบ ก่อนจะกวาดพื้นต่อไป

     หญิงสาวเหลือบสายตามองร่างสูงผมแดงอยู่สักครู่ก่อนจะรีบหันหน้าหนีเมื่อร่าสูงหันมามอง

     "อะไร?"เร็นจิเอ่ยอย่างแปลกใจ

     "เปล่า"ลูเคียรีบปฏิเสธ

     "เปล่าอะไร? เห็นแอบมองมาตั้งนานแล้วนิ"

     ลูเคียถอนหายใจ ก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับร่างสูง มองเร็นจิอย่างจริงจังเคร่งเครียด

     "จริงหรือเปล่า...."

     "อะไรล่ะที่จริง?"

     "จริงหรือเปล่าหล่ะ....ที่เจ้า 'รัก' ข้า?"

 

     สายลมเย็นพัดผ่านแมกไม้ซึ่งส่งเสียง 'แซ่กๆ' เสียดสีกัน กองใบไม้สีส้มแดงและน้ำตาลที่กวาดรวมกันไว้เป็นกองใหญ่ปลิวแตกกระจายออกไปตามลม ร่างสูงมองร่างบางตรงหน้าอย่างตกตะลึง

     "จริงหรือเปล่า?"ลูเคียคาดคั้น

     เร็นจิมองลูเคียที่มีสีหน้าจริงจัง เขานิ่งคิด.....

     ลูเคียจ้องมองร่างสูงอย่างอดทนและรอคอย.....

     ขณะเดียวกัน ร่างบางของบุรุษผู้หนึ่งก็กำลังก้าวย่าวเดินมาตามทางเดินของทางเข้าสวนที่ปูด้วยหินสีขาว ใบไม้สีสันสดสวยร่วหล่นลงมาอย่างช้าๆ ดวงตาสีราตรีเงยหน้ามองใบไม้เหล่านั้นก่อนจะเอ่ย

     "สวยจัง....สีเหมือนผมเร็นจิเลยแฮะ"

     ร่างบางอดแย้มยิ้มน้อยๆไม่ได้เมื่อนึกถึงร่างสูงผมแดงที่ได้เข้ามาเติมเต็มจิตใจอันอ้างว้างของเขา ความหนาวเย็นที่ได้สัมผัสจนชาขิน ค่อยๆละลายหายไปด้วยความอบอุ่นจากความรักที่ร่างสูงมอบให้ และอ้อมกอดที่ปลอดภัย เต็มไปด้วยความอบอุ่น

     เมื่อเบียคุยะเดินต่อมาเรื่อยๆก็พบร่างในชุดำสองร่างยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เบียคุยะสังเกตเห็นว่าเป็นเร็นจิและน้องสาวบุญธรรมของเขาลูเคีย จึบคิดจะเดินเข้าไปทักทายซะหน่อย ไหนๆก็ออกมาเดินเล่นผ่อนคลายเครียดตามที่งินแนะนำแล้ว

     "ใช่ ข้ารักเจ้า!"

     เท้าที่กำลังก้าวย่างเข้าไปหาชะงักทันที ดวงตาสีดำสวยเบิกกว้างอย่างตกตะลึง และที่รับรู้ได้อย่างมากคือ...หัวใจที่เจ็บแปล๊บอยู่ข้างในอกนี้.....

     เร็นจิจ้องมองลูเคียอย่างจริงจังก่อนจะเอ่ยซ้ำอีกครั้ง "ข้ารักเจ้า! แต่...."

     แกร็ก....

     "หืม?"เร็นจิหยุดพูดกระทันหันก่อนจะหันไปมองตามเสียง รู้สึกได้ถึงสัมผัสเบาบางที่คุ้นเคย....ใช่หรือเปล่านะ.....หรือว่าคิดมากไป....

     "แต่อะไร?"ลูเคียคาดคั้น

     เร็นจิหันมามองหญิงสาวอีกครั้งก่อนจะเอ่ยต่ออย่างจริงจัง "ใช่ ข้ารักเจ้า แต่นั่นมันเป็นเมื่อก่อน!"

     "หา??"

     "เมื่อก่อนข้าชอบเจ้าจริงๆ แต่ตอนนี้ ข้ารู้สึกกับเจ้าไปได้แค่เพื่อนเท่านั้น"

     ลูเคียได้ยินดังนั้นก็ค่อยๆแย้มยิ้มน้อยๆ

     "ตอนนี้ข้ามีคนที่ข้ารักแล้ว! และข้าก็รักคนๆนั้นมากๆด้วย และจะไม่ปล่อยคนๆนั้นไปเหมือนกับที่ข้าไปทำกับเจ้าเป็นอันขาด ข้าจะไม่ให้มันเกิดความผิดพลาดแบบนั้นอีก!"

     ลูเคียยิ้มกว้าง ก่อนจะหัวเราะร่าออกมาอย่างร่าเริง เร็นจิมองหญิงสาวอย่างงงงวย

     "ฮ่าฮ่าฮ่า งั้นเรอะ ฮ่าฮ่าฮ่า ดีจริงๆ ดีแล้วๆ"ลูเคียเดินเข้ามาหาร่างสูงตบไหล่เร็นจิป้าๆ "ข้าเองก็คิดกับเจ้าไปแค่เพื่อนเหมือนกัน ในที่สุดก็หมดปัญหาซักที หัวหน้าอิชิมารุนี่เล่นเอาใจหายเลยนะเนี่ย ฮ่าฮ่าฮ่า"

     "หัวหน้าอิชมารุ?"

     "ช่าย~ เขาบอกข้าว่าเจ้าน่ะชอบข้า ข้าเลยกังวลมาก เลยมาถามให้ให้เคลียร์นี่แหละ ดีๆจริงๆที่จบได้แบบนี้"

     "เหรอ"เร็นจิรู้สึกแปลกใจและยังงงวยไม่หาย จนลูเคียยิงคำถามที่ทำให้ร่างสูงสะอึกกึกเข้าให้

     "แล้วใครล่ะคือคนที่เจ้ารัก ให้ข้าไปเป็นแม่สื่อให้มั๊ยละ?"

     "เอ่อ....อา....คือว่า..."เร็นจิอ้ำอึ้ง เกาแก้มแก้เขิน

     "อย่ามาอ้ำอึ้งมากน่า! บอกมาๆ"ลูเคียคาดคั้น

     "คือว่า...."เร็นจิกระซิบกระซาบข้างหูลูเคีย หญิงสาวเบิกตากว้างก่อนจะโพล่งออกมาอย่างตกใจ "ท่านพี่เบียคุยะเนี่ยนะ!!"

     "ชู่ว์~! เบาๆสิฟ่ะ!"

     "เป็นไปได้ไง!? รีบเล่าให้ข้าฟังเดี๋ยวนี้เลยนะเฟ้า!"ลูเคียกระชากคอเร็นจิ ส่งสายตาพิฆาตคาดคั้นอย่างแรง

     "อ่ะจ้า จ้า แหะๆ"




     หยุด!.....หยุดเดี๋ยวนี้!.....พอที!!

     ปัง!!

     เสียงประตูห้องทำงานของหัวหน้าแห่งหน่วยที่หกปิดดังลั่น ร่างบอบบางผู้กะทำยืนนิ่ หลังบางพิงประตูเลื่อน ดวงหน้างามก้มลงมองพื้น บรรยากาศเศร้าโศกและเงียบเหงาแผ่ไปทั่วห้อง และร่างบอบางนั้นก็ทรุดกายลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง ดวงตาสีราตรีเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและตกตะลึงพร้อมกับหยาดน้ำใสไหลอาบแก้มนวล

     น้ำตาที่คิดว่าเหือดหายไปแล้ว.....เพียงคนๆเดียว กลับทำให้เขาเจ็บถึงขนาดต้องหลั่งน้ำตาขนาดนี้.....

     เพียงคนๆเดียว ที่แทบให้เขาเป็นบ้า.....

     เพียงคนๆเดียว ที่ทำให้เขาต้องแทบหายใจไม่ออก......

     แค่คนๆเดียวเท่านั้น.....ที่ทำให้เขาโง่เง่าได้ขนาดนี้!!!

     "คนโกหก....."เบียคุยะเอ่ยอย่างเจ็บปวด มือเรียวยกทาบที่หน้าอกด้านซ้าย รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่แล่นผ่าน ".....โกหก....."

     ครืด.....

     บานประตูเลื่อนเปิดออกก่อนจะเลื่อนปิดลง ร่างบางหันไปมองทั้งน้ำตา หวังจะพบกับร่างสูงที่ทำให้หัวใจเขาเจ็บปวดขนาดนี้ เพื่อจะได้คุยกันให้รู้แน่ แต่แล้วกลับไม่ใช่ดั่งหวัง....

     "ขนาดเศร้ายังงงดงามจริงๆนะเบียคุยะ"

     "อิชิมารุ งิน....."เบียคุยะเอ่ยเสียงแผ่ว รีบปาดน้ำตาออกก่อนจะรีบยืนขึ้น

     "โดนเร็นจิหักอกหรือไง"ร่างสูงเอ่ยเสียดแทงจิตใจร่างบาง

     เบียคุยะกำมือแน่น ก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับงินแต่แล้วก็ต้องเบิกตาโตอย่างตกใจเมื่อร่างสูงเข้ามาใกล้เขาโดยไม่รู้ตัว ใบหน้าเจ้าเล่ห์อยู่ห่างจากดวงหน้างามเพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้น เบียคุยะรีบผลักงินออก ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่พอใจ

     "มีธุระอะไร!?"

     งินยักไหล่ก่อนจะเอ่ย "ก็เปล่าหรอก...แต่เห็นคสวยเสียใจเลยอดไม่ได้ที่จะช่วยเหลือ"

     "ข้าไม่ได้เสียใจ หรือเป็นอะไร! หากไม่มีธุรุใดๆก็ออกไปซะ"

     "จริงหรือ?"งินยิ้มกริ่ม "อย่าหลอกกันดีกว่าน่าเบียคุยะ.....เจ้ากำลังร้องไห้อยู่นะ"

     ร่างบางยกมือขึ้นสัมผะสขอบตาก็พบหยาดน้ำใสยังคงไหลรินอยู่ เบียคุยะรีบป้ายออกอย่างรวดเร็ว งินค่อยๆเดินเข้าไปช้าๆ ก่อนจะยื่นมือใหญ่มาสัมผัสพวงแก้มนวลที่เปียกน้ำใส

     "ข้าช่วยนะ"ว่าจบก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้อย่างรวดเร็วก่อนจะเลียซับหน้าตามให้ร่างบางทันที

     "จะทำอะไรน่ะ!?"เบียคุยะผลักงินออกอย่างรวดเร็ว แต่งินกลับไวกว่ารวบข้อมือทั้งสองข้างก่อนจะดึงร่างบางให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของเขาเอง ร่างบางร้องอย่างตกใจ

     "ปะ ปล่อยข้านะ!!! บังอาจมาก! ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!"ร่างบางดิ้นรน มือเรียวเตรียมคว้าดาบฟันวิญญาณออกมา แต่ร่างสูงรู้ทัน จับร่างบางตรึงกับกำแพงห้องทันที

     "อยู่นิ่งๆ"

     "ไม่!! ปล่อยข้า!!!"ร่างบางร้องเสียงดัง พยายามดิ้นหนี แต่ร่างสูงแรงเยอะกว่าอย่างเหลือเชื่อ ร่างบางดิ้นรนขัดขืนอยู่นาน จนหมดแรง หยุดดิ้นรนและหอบหายใจหนัก มองร่างสูงผมเงินอย่างไม่พอใจ

     "หมดแรงแล้วใช่มั๊ย"

     "แฮ่ก...แฮ่ก...."ร่างบางมองร่างสูงอย่งอาฆาต

     "งั้นก็ดี..."งินยิ้มเจ้าเล่ห์ "เริ่มละนะ"ใบหน้ายืนเข้าไปใกล้ซอกคอร่างบางก่อนจะเริ่มซุกไซร้อย่างพอใจ

     "อย่า!...หยุด ปล่อยข้า!!"ร่างบางดิ้นรนอีกครั้ง ร่างสูงบดเบียดร่างกายแนบชิดกับร่างบางอย่างรวดเร็ว ก่อนจะขบเม้มสร้างรอยรักให้ร่างบางทันที เบียคุยะกลั้นเสียงครางเอาไว้ เขาไม่ชอบเลย....รังเกียจเหลือเกิน สัมผัสของใครก็ตามที่ไม่ใช่ของเร็นจิ เขาไม่ชอบเลย.....เร็นจิ.....

     "ใช่ ! ข้ารักเจ้า!"

     เสียงก้องนั้นดังอยู่ในหัว....คำว่า 'รัก' ที่เคยบอกว่าใหเพียงแค่เขาคนเดียว....แต่คำนั้นไม่ใช่ของเขาอีกแล้ว.....คนโกหก หลอกลวง.....

     "คนโกหก...."

     งินหยุดการกระทำ ก่อนจะมองร่างบางอย่างสงสัย ก่อนจะยิ้มกริ่มเมื่อให้ใบหน้าหวานเปื้อนน้ำตาใสงดงาม

     "โกหก....ฮึก....คนโกหก....."ร่างบางทรุดกายลง งินมองดูร่างบางอย่างพอใจ ก่อนจะนั่งลงบ้าง มองดูร่างบางที่กำลังสะอื้นไห้เงียบๆ

     "หึหึหึ ขนาดนี้เชียวรึนี่เบียคุยะ"ร่างสูงเอ่ยยิ้มกริ่ม เชยคางมนขึ้นสบตาตน ดวงตาสีดำแห่งความโศกเศร้าสบตาสีฟ้าอย่างหมดอาลัยและอ่อนแรง มือใหญ่รวบข้อแขนทั้งสองข้างของร่างบางขึ้นเหนือหัวและกดไว้ด้วยมือเดียว

     "น่าสงสารจริงๆเบียคุยะ...ดูเจ้าสิ"งินยิ้มเจ้าเล่ห์ "ดูที่มันทำกับเจ้าสิ....ช่างโง่เง่าเหลือเกินที่ทำกับเจ้าเช่นนี้"

     ร่างบางไม่ตอบอะไร เพียงสะอื้นเงียบๆต่อไป

     "ดูที่มันทำกับเจ้า...ทั้งๆที่เจ้าเคยงดงามกว่านี้ เคยสง่ากว่านี้ แล้วดูตอนนี้ ดูสิ่งที่มันทำกับเจ้าสิเบียคุยะ.....ช่างเป็นคนโกหกหลอกลวงจริงๆ"

     "ฮึก...ฮึก....."

     "ข้าจะช่วยเจ้าเอง"งินเอ่ย "ข้าจะช่วยบรรเทาความทุกข์ให้เจ้าเองเบียคุยะ...บอกข้าเถอะหากเจ้าทุกข์ทรมาน เพราะข้าจะปลดเปลื้องความทุกข์นั่นให้เจ้าเอง"ร่างสูงจุมพิตหน้าผากมนอย่างอ่อนโยน "บอกข้าเถอะเบียคุยะ....เพียงเจ้ายินยอม ความทุกข์นั้นจะหมดไป"ร่างสูงซุกไซรซอกคอขาว มือใหญ่ปลดเลื้องอาภรณ์อย่างช้าๆ

     "ข้า...."ร่างบางเอ่ยก่อนจะนิ่งเงียบไป....

     "บอกข้ามาเถอะ"ร่างสูงลูบไล้แก้มเนียน ยิ้มเจ้าเล่ห์มองดูหน้าอกขาวนวลอย่างพอใจ

     ครืด.....

     ร่างสูงผมสีเงินหันไปมองต้นเสียงที่ขัดจังหวะของเขาอย่างไม่ค่อยพอใจนัก ก่อนจะยิ้มร่าเมื่อรับรู้ว่าเป็นใคร

     เร็นจิเบิกตาโตอย่างตกใจ มองดูภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง.....ภาพของเบียคุยะที่นั่งลงกับพื้น แขนทั้งสองข้างถูกตรึงดวยมือใหญ่ของงิน สภาพร่างกายกึ่งเปลือย ดวงตาสีดำงดงามหันมามองเขานั้นเปื้อนไปด้วยน้ำตา และร่างของงินที่ห่างจากคนรักเขาเขาเพียงไปกี่นิ้ว มือใหญ่ลูบไล้ใบหน้าอย่างถือสิทธิ์.....

     "เร็นจิ...."เบียคุยะเอ่ย เบิกตาโตมองร่างสูง ยิ่งทำให้ทำนบหน้าตาพังทลายมากขึ้นอีก

     เร็นจิมองงิน ก่อนจะกำมือแน่น มองงินอย่างเดือดดาล ชักดาบฟันวิญญาณออกอย่างรวดเร็ว ชี้ปลายดาบไปที่งิน

     "แก!!"

     "หึหึหึ คิดจะสู้กับฉันงั้นเรอะ"

     "แกทำอะไรเบียคุยะ!!!"

     "นั่นน่าจะถามตัวเองมากกว่านะ อาบารา เร็นจิ"งินลุกขึ้นยืน ปล่อยเบียคุยะให้เป็นอิสระ "เจ้าเองไม่ใช่เหรอที่ทำให้เบียคุยะเป็นแบบนี้"

"นั่นน่าจะถามตัวเองมากกว่านะ อาบาราอิ เร็นจิ...เจ้าเองไม่ใช่เหรอที่ทำให้เบียคุยะเป็นแบบนี้"

     "พูดอะไรของแก!!"เร็นจิตะคอกงินอย่างเดือดดาล

     "หึหึหึ เพราะเจ้าเองนั่นแหละ"งินเหลือบมองเบียคุยะที่นั่งกอดตัวเอง น้ำตาไหลเงียบๆอยู่กับพื้น ร่างบางหันมามองงินอย่างสับสน "เพราะเจ้า...พูดเองไม่ใช่เหรอไงว่ารัก คุจิกิ ลูเคีย"

     ร่างบางเบิกตาโต ความเจ็บปวดแล่นไปทั่วหัวใจที่บอบช้ำ...ความบอบช้ำที่ไม่ยอาพบเจออีก เพราะรู้ว่าถ้าเจอแล้ว จะผิดหวัง ผิดหวังอย่างที่สุด เหมือนดั่งเช่นครั้งที่สูบเสียภรรยาที่รักไป.....และครั้งนี้เขาไม่ต้องการเช่นนั้นอีก เบียคุยะหลับตาแน่น ยกมือขึ้นปิดหู "พอซะที! ออกไปให้หมด!! ออกไป!!"

     "เบียคุยะ!"เร็นจิเดินเข้าไปหาร่างบางอย่างห่วงใย แต่ถูกร่างสูงผมเงินขวางเอาไว้เสียก่อน ร่างสูงทั้งสองจ้องตากันอย่างไม่พอใจ คู่หนึ่งเดือดดาล อีกคู่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์เพทุบาย "ถอยไป!"เร็นจิสั่งเสียงแข็ง

     "เจ้าต่างหากที่ต้องไป...ไปซะ เจ้าเลือกที่จะอยู่กับลูเคียแล้วนิ หึหึ"งินหัวเราะในลำคออย่างพอใจ

     และทันใดนั้น เร็นจิก็เข้าใจทุกอย่างทันที คำพูดของลูเคียที่ว่า '.....หัวหน้าอิชิมารุเนี่ยเล่นเอาใจหายเลยนะเนี่ย.....เขาบอกข้าว่าเจ้าน่ะชอบข้า'

    
"อย่างนี้นี่เอง"เร็ยจิเอ่ยเสียงรอดไรฟัน มองงินอย่างแค้นเคือง "เป็นแบบนี้นี่เอง....เป็นแผนของเจ้านั่นเอง!"

     "หมายถึงอะไรเหรอ?? หึหึ"งินเอ่ยไม่รู้ไม่ชี้

     "เบียคุยะ!"เร็นจิหันไปมองเบียคุยะที่นั่งกอดตัวเองอยู่ที่พื้นแทน

     "ไม่...."ร่างบางพึมพำอย่างสับสน

     "เบียคุยะ ฟังนะ! มันเป็นแผนการของเจ้านี่!"ร่างสูงชี้ปลายดาบใส่หน้าร่างสูงผมเงิน "มันต้องการเจ้า! มันต้องการให้เราแตกกัน อย่าไปฟังมัน! ที่เจ้าเห็นนั่นมันผิด! เจ้าเข้าใจผิดนะเบียคุยะ!"

     "อะไรที่เข้าใจผิดล่ะ?"ร่างสูงผมเงินเอ่ยขัด ก่อนจะหันไปทางเบียคุยะ และลดตัวลงนั่งให้อยู่ในระดับเดียวกับร่างบาง "เปล่าเลย ที่เจ้าได้ยินน่ะถูกต้องแล้วเบียคุยะ...เร็นจิที่เจ้ารักนักหนาเห็นเจ้าเป็นเพียงทางผ่านชั่วคราว เป็นสะพานทอดไปหาลูเคียต่างหาก"

     "หุบปากนะ! อย่าไปเชื่อมันนะเบียคุยะ!"เร็นจิแย้ง

     "เชื่อข้าสิ...เชื่อข้า"งินยิ้มเจ้าเล่ห์ "เจ้าโดนหลอกแล้ว...เร็นจิของเจ้าหลอกเจ้าเท่านั้น เจ้าก็เห็นมาแล้วด้วยตาของตัวเองนี่นาเบียคุยะ"

     ร่างบางมองงิน น้ำตาใสไหลอาบพวงแก้มสวย

     "อย่าไปเชื่อมัน! แก!! อิชิมารุ งิน ข้าไม่ปล่อยแกไว้แน่!!" ร่างสูงผมแดงยกดาบขึ้นสูงเตรียมฟาดฟันลงที่ต้นคอของร่างผมสีเงิน

     งินยิ้มกริ่ม.....

     "หยุดนะ!!"

     กึก.....

     "เบียคุยะ....??"

     เร็นจิมองร่างบางตรงหน้าอย่างคาดไม่ถึง คมดาบห่างจากต้นคอระหงเพียงไม่กี่นิ้ว โชคดีที่เร็นจิหยุดมือได้ทัน

     "อย่าทำอะไรเขา"เบียคุยะเอ่ยทั้งน้ำตา

     "ทำไม?.....ทำไมเจ้า....."เร็นจิมองร่างบางอย่างไม่เข้าใจ

     ดวงตาสีราตรีฉายแววเจ็บปวดมาที่ร่างสูงตรงหน้าก่อนจะเปลี่ยนเป็นหม่นมัวจนไม่อาจรับรู้ว่าหมายถึงอะไร

     "ไปซะ...ออกไป....ข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้าอีก"ร่างบางเอ่ยอย่างตัดพ้อ

     "อะไรกัน?"เร็นจิมองร่างบางอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะมองเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของงิน "เจ้าทำแบบนี้ไม่ได้นะเบียคุยะ!! เจ้ากำลังหลงกลมัน มันหลอก!!"

     "เจ้านั่นแหละที่หลอกลวง!!"เบียคุยะเอ่ยขัด "เจ้าโกหกข้า! เจ้าเห็นข้าเป็นแค่ของเล่นหรือไง!!"

     "ไม่ใช่แบบนั้นนะ!!"

     "หรือเห็นค่าเป็นทางผ่านชั่วคราว!"ร่างบางกำมือแน่น "ข้าน่ะ....ข้าคิดว่าเจ้า...จะเป็นคนที่รักข้าจริงๆ....ข้าคิดว่าเจ้า....คือคนที่จะไม่ทิ้งข้าไปไหน เหมือนที่เจ้าพร่ำบอกข้าเสมอ...ฮึก...แต่เจ้ามันก็แค่คนโกหก!!"

     "เบียคุยะ..."เร็นจิเอ่ยอย่างอ้อนวอน "ได้โปรดฟังข้า"

     "ไม่! ข้าไม่ฟังอะไรทั้งนั้น!! ทุกอย่างที่เจ้าทำกับข้า สิ่งที่เรียกว่ารัก แท้จริงแล้วแค่คำหลอกลวง เจ้ามันคนโกหกหลอกลวง!!!"

     "ไม่ใช่นะ!"

     "หยุดหลอกลวงเบียคุยะได้แล้วอาบาราอิ"งินเอ่ยขัดก่อนจะยื่นมือมาจับบ่าเบียคุยะและดึงให้ร่างบางเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน กอดปลอบประโลม ร่างบางไม่รู้ว่าอ้อมกอดนี้หวังดีหรือไม่ หรือคือแผนการร้ายของงิน แต่ตอนนี้เบียคุยะไม่มีทางเลือกและกำลังสับสน ร่างบางจึงจำต้องอาศัยอ้อมกอดนี้เป็นที่พึ่งพิง แขนเรียวกอดร่างสูงผมเงินแน่น ทำนบน้ำตาพังทลายอีกครั้ง

     "ฮึก...พอที....ฮึก...ข้าไม่อยากฟังแล้ว...ฮึก...พาข้าออกไปที...งิน....ฮึก...."

     เร็นจิมองร่างบางอย่างเจ็บปวดรวดร้าว ทำไมจึงเป็นแบบนี้? ทำไมทุกอย่างถึงเป็นแบบนี้.....ใช่ เพราะงิน....เพราะมันคนเดียว.....

     "เพราะแก"เร็นจิกัดฟันกรอด มองงินอย่างแค้นเคืองอย่างที่สุด

     "หึหึหึ"งินยิ้มเจ้าเล่ห์ "เพราะแกต่างหากอาบาราอิ"

     และเพียงชั่วเวลาร่างทั้งสองร่างก็หายไปอย่างรวดเร็ว เร็นจิเบิกตาโต

     "เบียคุยะ!!!"

     ร่างสูงมองไปทั่วห้องก่อนจะวิ่งออกมานอกห้องและเริ่มวิ่งไปทั่วทั้งหน่วยหก แต่ไร้วี่แววของร่างบางและร่างสูงผมเงิน เร็นจิกำมือแน่น...ยังไงเขาก็ต้องเอาเบียคุยะคืนมาให้ได้....ว่าแล้วก็เริ่มค้นหาไปทุกหน่วย ตั้งแต่หน่วยแรกจนถึงหน่วยสุดท้ายอย่างไม่ลดละ เจอใครก็ถามแต่คำถามเดิมซ้ำๆ 'เห็นเบียคุยะหรือเปล่า?'

    แต่ไม่ว่ายังไง หาจนทั่วก็ไร้ผล ร่างสูงหยุดวิ่งก่อนจะพิงกำแพงใหญ่และทรุดตัวนั่งลงกับพื้นอย่างหมดแรง

     "บัดซบ...."ร่างสูงเอ่ยอย่างโกรธแค้น จะหาจากพลังวิญญาณของเบียคุยะก็ไม่ได้ เพราะมันช่างเจือจางเหลือเกิน


     วันต่อมา.....

     "เป็นยังไงบ้างล่ะเบียคุยะ?"

     "ข้าสบายดีแล้ว"เบียคุยะเอ่ยตอบเรียบๆเย็นชา...ที่แฝงไปด้วยความเจ็บปวด

     งินมองร่างบางที่ยังคงนั่นนิ่งอยู่กับที่มาตั้งแต่เช้า สายตาสีราตรีเหม่อมองออกไปไกลที่ท้องฟ้าสีครามที่แต่งแต้มด้วยเมฆสีขาวละมุนราวปุยนุ่น ใบไม้สีสันสดสวยพัดผ่านตาไปบ้างยามสายลมเย็นโชยมา ร่างสูงผมเงินพาเบียคุยะมาอยู่หลบอยู่ที่นี่....

     "เหม่ออะไรอยู่?"ร่างสูงสวมกอดร่างบางจากด้านหลัง เบียคุยะสะดุ้งผวา งิยยิ้มกริ่มดึงร่างบางเข้ามาใกล้มือใหญ่กุมมือเรียวขึ้นมาอย่างอ่อนโยนจนร่างบางยังแปลกใจ แต่ยังไงเสีย....อ้อมกอดนี้แม้อบอุ่น แต่ว่างเปล่าเหลือเกิน.....

     "ปล่อยข้าเถอะ....ความอ่อนโยนที่เสแสร้งเช่นนี้มันช่างน่ารังเกียจ"ร่างบางเอ่ยอย่างไร้เยื่อใย

     "หึหึหึ เจ้าจะรู้แน่ได้ยังไงว่าข้าเสแสร้งทำดีกับเจ้า"งินเอ่ย

     "เพราะอ้อมกอดของเจ้า...มันว่างเปล่า"

     "หึหึหึ งั้นเหรอ"ร่างสูงเอ่ยก่อนจะก้มลงจุมพิตที่ต้นคอขาว ร่างบางเบิกตาโตก่อนจะกำมือแน่น

     "อย่าทำแบบนั้น"ร่างบางเอ่ยเสียงเย็น

     "หึหึหึ หากข้าจะทำ"งินกระซิบข้างหูร่างบาง "แล้วเจ้าจะทำอะไรได้"

     "วิถีมารที่! อุ๊บ!!"

     มือใหญ่ปิดปากร่างบางได้ทันก่อนจะเปลี่ยนเป็นตวัดร่างขึ้นคร่อมร่างบางแทน ส่วนมือใหญ่อีกข้างก็รวบข้อมือเล็กทั้งสองข้างกดกับพื้นไว้แน่น เบียคุยะมองร่างสูงอย่างตกใจ มือใหญ่ยังคงปิดปากของเขาเอาไว้แน่น

     "ข้าไม่ได้พาเจ้าหนีมาฟรีๆหรอกนะ"ร่างสูงเอ่ยเจ้าเล่ห์ก่อนจะค่อยๆโน้มตัวลงใกล้ซอกคอขาว ร่างบางพยายามดิ้นรนขัดขืนแต่ไร้ผล

     "อื้อ!! อื้ม!!"เบียคุยะพยายามส่งเสียงแต่ก็ไร้ผลเช่นกัน

     "เสร็จข้าละ"งินยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างไม่ปิดบัง เบียคุยะพยายามดิ้รนหนี แต่ไม่ว่าจะพยายามเท่าไหร่ ร่างสูงก็มีแรงมากกว่าเขาอยู่ดี

     งินโน้มตัวลงไปที่ซอกคอขาว ซุกไซร้ลำคอระหงอย่างพอใจ ก่อนจะขบเม้มฝากรอยรักเอาไว้ด้วยริมฝีปากและลิ้นร้อน

     "อื้อ!"ร่างบางหลับตาแน่น พยายามไม่ส่งเสียงครางใดๆออกมา

     มือใหญ่ที่ปิดปากเปิดออก ร่างบางสูดอากาศเข้าปอดอย่างรวดเร็ว เตรียมจะต่อว่าร่างสูงแต่แล้วก็ต้องกลืนคำเหล่านั้นเข้าไปเมื่อริมฝีปากของร่างสูงประกบลงมาอย่างรุนแรง มือใหญ่บีบแก้มนวลจนร่างบางต้องเผยอปากขึ้นอย่างไม่มีทางเลือก ลิ้นร้อนจึงถูกส่งเข้าไปอย่างง่ายดาย มือเรียวทั้งทุบทั้งตี พยายามดันร่างสูงให้ออกห่างจากตัวแต่ไม่มีทางทำได้เลย

     มือของงินเลื่อนลงไปปลดผ้าคาดเอวของร่างบางอย่าวรวดเร็ว ร่างบางผวาอย่างหวาดหวั่น เมื่อมือใหญ่ลอดผ่านสาบเสื้อเข้าไปสัมผัสสะโพกมน ขณะเดียวกัน ร่างสูงก็ค่อยๆถอนริมฝีปากออกอย่างช้าๆ รั้งรออยู่ที่ปลายลิ้นของร่างบาง แต่เบียคุยะผลักร่างสูงออกอย่างรวดเร็ว งินยิ้มกริ่มเมื่อเห็นว่าใบหน้างามหลั่งน้ำตาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ดวงตาสีราตรีเต็มไปด้วยความโกรธเคือง

     "อย่าทำแบบนี้!!"

     "บอกช้าไปละมั้ง"ร่างสูงจับร่างบางคว่ำตัวลงก่อนจะมัดข้อมือทั้งสองข้างด้วยสายผ้าคาดเอวของร่างบางเอง

     "ไม่!! ปล่อยข้านะ! ปล่อยสิ!!!"

     "ปิดปากด้วยก็แล้วกัน"

     ว่าแล้วก็ดึงสายผ้าคาดเอวของตัวเองออกแทนก่อนจะใช้มันปิดปากร่างปากจนแน่น ทีนี้ ร่างบางก็ทได้เพียงดิ้นรนเท่านนั้น

     "หึหึหึ"

     "อื้อๆ!!"ร่างบางพยายามดิ้นรนหนี แต่ร่างสูงกดร่างบางเอาไว้ ก่อนจะก้มลงกระซิบข้างหู

     "ข้าไม่ปล่อยเจ้าแน่เบียคุยะ....จนกว่าเจ้าจะเป็นของข้า"

     ร่างบางมองร่างสูงอย่างหวาดหวั่นก่อนจะภาพนั้นจะถูกบดบังด้วยม่านน้ำตา

ร่างบางตัวสั่นอย่างหวาดผวา หลับตาแน่นเพื่อหลบหลีกความจริงอันโหดร้ายแต่กระนั้นก็ยังคงรับรู้ถึงสัมผัสอันน่ารังเกียจจากร่างสูงได้อยู่ดี

     มือใหญ่ที่ลูบไล้แผ่นอกเนียนหยุดอยู่ที่ปุ่มกุหลาบสวย นิ้วยาวบีบมันเบาๆ ร่างบางกัดสายผ้าแน่นเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องร้องครางออกมากับสัมผัสนั้น

     "หึหึหึ จะอดกลั้นไปทำไมเบียคุยะ"งินเอ่ยเจ้าเล่ห์ก่อนจะซุกไซ้ซอกคอระหงโลมเลียอย่างกระหายและขบเม้มสร้างรอยช้ำหลายจุด ลิ้นร้อนเลียที่จุดขบเม้มนั้นซ้ำก่อนจะเลื่อนลงมาที่กุหลาบบนผิวเนียน เบียคุยะพยายามดิ้นหนีอีกครั้งแต่ก็เป็นอีกครั้งที่ไร้ผล

     "อื้อ...."ร่างบางส่งเสียงประท้วงแต่ร่างสูงก็ไม่สนใจ มือใหญ่ลากลงมาที่ต้นขานุ่ม ส่วนลิ้นร้อนก็โลมเลียที่ปุ่มกุหลาบอย่างเร่าร้อน ขบเม้มเบาๆ ร่างบางเผลอแอ่นกายรับสัมผัส แต่ตั้นสติทันที่จะกลั้นเสียงครางออกมา มือใหญ่ลูบไปที่สะโพกมนก่อนจะเคล้นคลึงอย่างหนำใจ ลิ้นร้อนร่นลงมาเรื่อยๆจนหยุดอยู่ที่ท้องน้อย ครั้งนี้ร่างบางเริ่มรับรู้ต่อไปได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เบียคุยะดิ้นรนอีกครั้ง ขาทั้งสองข้างที่ยังเป็นอิสระพยายามดันร่างสูงให้ออกห่าง แค่เขาเปลือยกายต่อหน้าคนๆนี้ก็อัปยศพอแล้ว!

     "ดื้อด้านจริงๆนะ"

     "อื้อ!!"

     ร่างสูงไม่ใช่คนใจเย็นมากมาย ที่จริงเขาอยากจะเล่นกับร่างบางอีกสัน่อย แต่ร่างบางไม่ให้ความร่วมมือเอาเสียจึงตัดสินใจ....

     "ดื้อแบบนี้ก็รวบรัดไปเลยแล้วกัน"

     ได้ยินเช่นนั้นเบียคุยะก็เบิกตาโตอย่างตกตะลึงเมื่อร่างสูงจับขาเรียวของเขาแยกออก น้ำตาใสไหลอีกครั้ง พยายามหุบขาลงอย่างอับอาย แต่ร่างสูงจับมันอ้อาออกอีกครั้งก่อนจะยิ้มกริ่ม สายตามองที่ช่องทางแคบ

     "มิน่าละเจ้าอาบาราอิถึงหลงนักหลงหนา หึหึหึ"

     "อื้อ!!"ร่างบางพยายามดิ้นรนแต่ร่างสูงจับขาเรียวยกขึ้นพาดบ่า ก่อนจะโน้มตัวลงมากระซิบข้างหูร่างบางที่ตอนนี้น้ำตาไหลอาบแก้ม ดวงตาสีราตรีตื่นตระหนก ตัวสั่นอย่างหวาดกลัว "ฮึก...อื้อ...ฮึก...."

     งินขบติ่งหูร่างบางเบาๆก่อนจะจุมพิตที่หน้าผากมนเหมือนปลอบประโลม

     "หึหึหึหึ"

     ร่างบางพยายามดิ้นหนีแต่ทว่า....

     "อื้อ!!! อื้อ!!!!!!"

     ร่างสูงกระแทกตัวเข้าไปในช่องทางแคบที่ยังไม่ได้ถูกเบิกทางเสียก่อนทำให้ร่างบางกระตุกวูบอย่างเจ็บปวด ดวงตาสีราตรีเบิกกว้าง ม่านน้ำใสไหลรินอย่างรวดร้าว แล้วภาพของคนที่หัวใจโหยหาก็ปรากฎขึ้นในหัว

     .....เร็นจิ.....

     .....ขอโทษ.....เร็นจิ.....



     งินแต่งตัวเรียบร้อยก่อนจะหันมามองร่างบอบบางที่สลบไปอยู่บนฟูกที่นอนหนานุ่ม เรือนร่างงดงามเต็มไปด้วยรอยจ้ำแดง ทีช่องทางแคบเปรอะเปื้อนด้วยเลือดสีแดงสดและน้ำขุ่นขาว ใบหน้างดงามสลบไสลยังคงเห็นเปนน้ำตาใส เสื้อผ้าตัวใหญ่หลุดบุ่ยจนน่าสงสาร

     "เสียงเจ้าช่างน่าฟังจริงๆเบียคุยะ"งินก้มลงยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ดวงหน้างาม มือใหญ่เสยผมสีดำขึ้น ก่อนจะก้มลงจุมพิตที่ริมฝีปากบางอย่างแผ่วเบาอ่อนโยนอีกทั้งใปลายลิ้นเลียหยาดน้ำตาใสให้ "ก็ไม่อยากจะขืนใจหรอกนะ แต่เจ้าขัดขืนก็ไม่มีทางเลือก"






     เร็นจิสะดุ้งอย่างตกใจ มองซ้ายมองขวาอย่างรวดเร็ว ฝีเท้าที่เคยเร่งให้เร็วขึ้นกับหยุดนิ่ง

     "เกิดอะไรขึ้นเร็นจิ!? มีอะไร?"ลูเคียถามเพื่อนอย่างสงสัย

     พวกเขากำลังออกตามหาเบียคุยะมาตั้งแต่เช้า แต่ก็ไร้ร่องรอยใดๆทั้งสิ้น

     "ข้ารู้สึก....."เร็นจิเอ่ย เขารู้สึกถึงเบียคุยะมาหลายครั้งแล้วเมื่อไม่นานมานี้ เขาสัมผัสได้ถึงพลังกดดันวิญญาณที่แผ่วเบาเจือจางจนเกือบจางหาย มีหลายครั้งที่รู้สึกเหมือนมันจะเพิ่มขึ้นแต่ก็ลดลงอย่างรวดเร็ว "เจ้ารู้สึกหรือเปล่า?"

      ลูเคียก็รู้สึกเช่นกัน แต่ไม่แน่ใจนัก เธอพยักหน้าเล็กน้อย

     เร็นจิกำมือแน่นตอนนี้พลังนั้นเบาบางลงมากแล้ว ทำให้เขาเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเบียคุยะอยู่ทางไหนกันแน่ เพราะตลอดมาเขาตามกระแสเบาบางนั้นมาตลอด

     "เอาอย่างนี้แล้วกัน"ลูเคียเสนอ "ไปหาท่านหัวหน้าอุคิทาเกะกัน หัวหน้ารู้ดีว่าจะหาหัวหน้าอิชิมารุได้ที่ไหน"

     "ก็ได้"เร็นจิตอบรับ แต่ยังกังวลไม่หาย เขามองซ้ายมองขาพยายามจับสัมผัlนั้นอีก แต่ทางไหนละ?.....



     ".....เรื่องก็เป็นแบบนี้หล่ะค่ะหัวหน้า"ลูเคียเอ่ยอย่างเคร่งเครียด ก่อนจะเหลือบตามองเพื่อนสนิทข้างกายอย่างกังวล

     "อย่างนี้เองเหรอ"อุคิทาเกะ จูชิโร่ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ที่ 13 เอ่ยอย่างหนักใจ ก่อนจะหันมามองร่างสูงผมแดง "ใจเย็นไว้ อาบาราอิ เร็นจิ"

     "ครับ"ร่างสูงตอบรับเรียบๆ พยายามไม่ร้อนรน วู่วามจนเกินไป แต่ว่า.....มันช่างทำได้ยากเย็นเหลือเกิน ไม่รู้ว่าตอนนี้เบียคุยะจะเป็นยังไงบ้าง?

     "กรุณาช่วยหน่อยเถอะค่ะหัวหน้า"ลูเคียก้มหัวร้องขอ

     "มันก็....."

     "ได้โปรดเถอะครับ!"เร็นจิโพล่งออกมาก่อนจะก้มหัวให้จูชิโร่จนติดพื้น "ได้โปรดเถอะครับท่านอุคิทาเกะ!! ท่านไม่จำเป็นต้องไปก็ได้ครับ แต่ช่วยบอกผมมาเถอะครับ! แม้จะเป็นข้อมูลที่น้อยนิดก็ยังดี!!"

     ชายหนุ่มผมขาวมองร่างสูงอย่างอึ้งๆ ก่อนจะถอนหายใจและเอ่ย "ได้...ข้าจะช่วย"

     สองสหายมองจูชิโร่อย่างมีความหวัง

     "ข้าไม่รู้หรอกนะว่างินน่ะพาเบียคุยะไปที่ไหน แต่ข้ารู้ได้ว่าเราจะหาข้อมูลได้จากใคร"

     "ใครหรือครับ!?"เร็นจิเอ่ยอย่างร้อนรน

     "ไอเซ็นน่ะ"จูชิโร่เอ่ย

     ..........

     ทั้งสามก้าวตรงไปที่สวนหย่อมเล็กของหน่วยที่ 6 โดยมีจูชิโร่เป็นผู้นำขบวน และตามด้วยสองยมทูต เร็นจิยังคงแสดงอาการรีบร้อนให้เห็นอยู่ตลอดเวลา มองซ้ายมองขวาพยายามจับสัมผัสหลายครั้ง จนลูเคียต้องปลอบว่าให้ใจเย็นอยู่หลายครั้ง

     ทั้งสามเดินมาตามระเบียงและเห็นร่างสูงผมสีน้ำตาลกำลังนั่งเขียนบางอย่างลงในกระดาษม้วนสีขาวดวยพู่กัน ดวงตาตั้งใจและเต็มไปด้วยสมาธิหลังกรอบแว่นจับจ้องที่ตัวอักษรแต่ละตัวอย่างลำเอียด จนเมื่อคณะเดินมาใกล้ ปลายพู่กันจึงหยุดวาดลวดลายอักขระ มือใหญ่วางมันลงก่อนที่ใบหน้าคมจะค่อยๆหันมาทางผู้มาเยือน

     "สวัสดีจูชิโร่ ลูเคีย เร็นจิ"ร่างสูงเอ่ยทักอย่างเป็นมิตรและใจดี

     "สวัสดีไอเซ็น"จูชิโร่เอ่ยตอบรับก่อนจะค่อยๆนั่งลง เว้นระยะห่างพอควร เร็นจิและลูเคียกล่าวทักทายและทำความเคารพก่อนจะนั่งอยู่เบื้องหลังของจูชิโร่

     "วันนี้มากันเยอะแยะเชียว มีอะไรเหรอ?"ร่างสูงถาม ก่อนจะส่งถ้วยน้ำชาให้จูชิโร่

     "มีเรื่องนิดหน่อย"จูชิโร่รับถ้วยชามาอย่างระมักระวังก่อนจะเอ่ยเขาเรื่องทันที "เจ้ารู้มั๊ยว่างินมีที่อยู่ที่ไหนบ้าง? หรืออาจจะเป็นที่ที่เขาชอบไปบ่อยๆน่ะ"

     "ถามทำไมเหรอ?"ไอเช็นเอ่ยถามยิ้มๆ

     "ก่อเรื่องไว้น่ะสิ"จูชิโร่เอ่ยเรียบๆ

     "ฮะฮ่า อีกแล้วเหรอ"ไอเซ็นเอ่ย หัวเราะน้อยๆก่อนจะเอ่ย "เรื่องใหญ่แค่ไหนละ?"

     "ก็....."จูชิโร่ยกน้ำชาขึ้นมาจิบก่อนจะเอ่ยต่อ "...ทำให้หลายคนปวดหัวทีเดียว"

     "อืม คงจะวุ่นกันน่าดู"

     "ตอบมาได้หรือยังละ?"

     "ก็ได้ๆ"ไอเช็นยิ้มกว้าง "มีสองที่.....ที่แรกเป็นถ้ำ ห่างจากโซลโซไซตี้ไปเพียงสองกิโลเมตร ทางทิศเหนือ ในป่า และที่สุดท้ายก็คือ หน่วยของเขาเองนั่นแหละ ที่หน่วยจะมีบ้านหลังหนึ่งสร้างขึ้นมา หลังเล็กๆกว่าทุกหลังนั่นแหละ"

     "อืม..ได้ยะ.."

     ตึงตัง ตึงตัง ตึงตัง ตึงตัง!!.....

     ยังไม่ทันที่จูชิร่จะพูดจบ ร่างสูงผมแดงก็วิ่งไปไกลเสียแล้ว ลูเคียหน้าเหวออย่างตกใจก่อนจะรีบขาโทษขอโพยเป็นการใหญ่ และกล่าวลาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะวิ่งตามเร็นจิไป

     "เจ้าเด็กพวกนี้นิน้า"จูชิโร่พึมพำอย่างเอ็นดูก่อนจะวางถ้วยชาลงอย่างเบามือและเอ่ย "ขอบคุณสำหรับข้อมูลและน้ำชา"

      ร่างโปร่งลุกขึ้นยืนก่อนจะหันหลังเตรียมเดินจากไปแต่แล้วก็รู้สึกได้ถึงมือใหญ่ที่เอื้อมมาคว้าแขของเขาไว้ จูชิโร่หันขวับไปมองอย่างไม่พอใจ

     "ปล่อย!"

     "อย่าเพิ่อกลับสิครับ"ไอเช็นยิ้มกว้างตามแบบฉบับ "อยู่ด้วยกันอีกสักหน่อยสิครับ"

     "ข้ามีเรื่องต้องทำอีกมาก ไม่ได้มาว่างนั่งเขียนกลอนอย่างเจ้านะ"ร่างโปร่งสะบัดข้อมืออกแต่มือใหญ่ก็กำไว้แน่น

     "แหมๆ ใจร้ายจัง ทั้งๆที่ข้าน่ะ อยากจะอยู่ใกล้เจ้าแท้ๆ"ร่างสูงดึงให้ฝ่ายตรงข้ามเข้ามาใกล้จนร่างโปร่งได้กลิ่นชาหอมมาจากร่างสูงและร่างสูงเองก็ได้กลิ่นยามาจากตัวร่างบางเองเช่นกัน ไอเซ็นยื่นหน้าเข้าไปใกล้มากขึ้น

     "อย่าแม้แต่จะคิด!"จูชิโร่เอ่ยเสียงเข้ม

     "ไม่คิดหรอก...แต่จะทำเลยต่างหาก"

     "เจ้า!!"ร่างโปร่งพยายามผลักร่างสูงออก แต่ถูกรวบข้อมือและดึงเข้ามาปะทะกับอกแกร่งอย่างรวดเร็ว "อย่าให้ข้าต้องใช้กำลังนะ!!"

     "หึหึหึ ดุอีกแล้ว"ไอเซ็นเอ่ยอย่างไม่หยีระ

     หมับ!

     มือใหญ่ของใครบางคนวางที่หัวไหล่ของไอเซ็น ทั้งสองหันไปมองทันที ก็พบร่างสูงแกร่งในชุดสีสันบาดตาที่คุ้นเคย ซุนซุยยิ้มกว้างก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นวาบ

     "ทำอะไรอยู่เหรอไอเซ็น?"

     ไอเซ็นยิ้มก่อนจะตอบเสียงเย็นพอกัน "ก็เห็นจูชิโร่ทำท่าจะไม่ค่อยสบายเลยคิดจะช่วยน่ะ"

     "ช่วยเหรอ...แล้วมันถึงขนาดนี้ด้วยเหรอไง (ฟ่ะ) "

     "ก็ต้องวัดไข้นี่ เดี๋ยวโรคกำเริบช่วยไม่ทัน ก็เลยต้องเตรียมพร้อมไว้ก่อน นี่กะจะอุ้มไปส่งถึงที่หน่วยเลยนะ"

     "อ๋อเหรอ!"ซุนซุยรู้สึกได้ถึงขมับที่เต้นตุบๆ "ตอนนี้คงไม่ต้องแล้วละนะ จู่ชิโร่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากนิ"

     ร่างแกร่งหันไปมองร่างโปร่ง จูชิโร่ถอนหายใจอย่างระอาก่อนจะสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมได้ ก่อนจะเดินจากไปจากร่างสูงทั้งสองอย่างรวดเร็ว

     ร่างสูงหันมามองกัน ซุนซุยหุบยิ้มก่อนจะเอ่ยอย่างไม่พอใจ

     "อย่าทำแบบนั้นอีก!"

     "ของแบบนี้ใครดีใครได้"ไอเซ็นเอ่ยอย่างท้าทาย

     "ที่แน่ๆแกไม่มีทางได้"ซุนซุยเอ่ยเสียงกร้าวก่อนจะรีบเดินตามจูชิโร่ไปทันที

     ไอเซ็นเพียงหัวเราะในลำคอก่อนจะนั่งลงกลับตามเดิม มือใหญ่ถอดแว่นตาออก เผยให้เห็นใบหน้าคมคาย ดวงตาสีน้ำตาลดูฉายแววเจ้าเล่ห์กว่าตอนปกติ

     "หึหึหึ แค่นี้ต้องหวงกันด้วย เป็นอย่างนี้ทุกคนเลยน้า~ ไม่ไหวจริงๆ"ร่างสูงเหลือบมองถ้วยช่ที่ร่างโปร่งจิบ ยังคงวางอยู่ที่เดิม รอยยิ้มเจ้าเล่ห์เผยขึ้นอย่างไม่ปิดปัง "จูชิโร่ก็เล่นตัวชะมัด ฮิตซึกายะก็ดุจริงๆ อิซึรุก็อ่อนต่อโลกไปหน่อย จะว่าไปเบียคุยะคนงามก็ยังไม่เคยลองดูเลยนี่นะ หึหึหึ....เล่นกับใครก็น่าสนุกทั้งนั้น"
เปลือกตาบางปรือขึ้นอย่างช้าๆ เผให้เห็นดวงตาสีราตรีหม่นหมอง ร่างกายบอบบางนอนตะแคงข้างรับรู้ถึงสัมผัสของร่างสูง

     "ตื่นแล้วเรอะ"งินเอ่ย ยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะก้มลงจุมพิตที่ต้นคอขาวระหงที่เต็มไปด้วยรอยรักมากมาย

     "อย่ามาแตะต้องข้า!"เบียคุยะเอ่ยเสียงแหบพร่าเป็นผลมากจากการกรีดร้องที่แสนทรมาน มือเรียวกำผ้าปูที่นอนแน่น

     "หึหึหึ"ร่างสูงเพียงหัวเราะในลำคอก่อนจะใช้มือใหญ่ขึ้นมาลูบไล้หัวไหล่มนสวยน่าสัมผัส มือเรียวของเบียคุยะกำแน่นอย่างไม่พอใจ

     "ข้าบอกว่า อย่า!"

     "เจ้าไม่มีสิทธิ์สั่งข้านะเบียคุยะ หึหึหึหึ เจ้าน่ะตอนนี้ อยู่ในสถานภาพที่ต้องฟังข้ามากกว่า...ถ้าไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นที่รู้กันทั่วละก็นะ"

     "เจ้า!!"

     "หึหึหึหึ"

     เบียคุยะสะบัดตัวออกจากร่างสูงก่อนจะลุกขึ้นนั่ง แต่แล้วความเจ็บปวดก็แล่นปล๊าบไปทั่วร่างล่าง

     "อึก!...."เบียคุยะกัดฟันก่อนจะสังเกตเห็นเสื้อผ้าตัวเองที่หลุดลุ่ยจึงรีบสวมใส่ให้เหมือนเดิมโดยเร็ว แต่แล้วมือใหญ่ของร่างสูงผมเงินก็กลับคว้าข้อมือเรียวทั้งสองข้างเอาไว้ให้ให้ร่างบางหันมาทางตน

     "จะไปไหน"

     "ปล่อยข้า!"

     ร่างสูงดันให้ร่างบางล้มลงประแทกฟูกนอนจนร่างบางต้องร้องอย่างเจ็บปวดเมื่อความเจ็บปวดนั้นแล่นไปทั่วทั้งสะโพกและช่องทางแคบที่บอบช้ำ ร่างสูงขึ้นคร่อมร่างบอบบางก่อนจะกดแขนทั้งสองข้างไว้แน่น ร่างบางเบิกตาโตอย่างตกใจอีกครั้ง และครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความหวาดกลัว

     "มาต่อกันดีกว่า เมื่อกี้เจ้าสลบไปซะก่อน มันไม่ค่อยจะได้อารมณ์เท่าไหร่"

     "หยุดนะ!! อย่าพูดแบบนั้นอีก!!"เบียคุยะเอ่ยเสียงดังอย่างอับอายและโกรธแค้น

     "ทำไมละเบียคุยะ ทนไม่ได้เหรอไงที่ต้องรับรู้ว่าตัวเองโดนอะไรบ้าง"งินยิ้มกริ่ม "อย่างรู้มั๊ยละว่าข้าทำอะไรเจ้าบ้างตอนเจ้าสลบไป"

     "ไม่!! ปล่อยข้าเดียวนี้! ปล่อยสิ!!"ร่างบางดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดชีวิต

     "รู้มั๊ย....ตอนเจ้าหลับไป ข้าสัมผัสตรงนี้"มือใหญ่รวบข้อมือทั้งสองข้างของร่างบางก่อนจะใช้อีกมือแตะที่ริมฝีปากอิ่ม ร่างบางสะดุ้งอย่างหวาดผวา "เลื่อนลงมาตรงนี้"นิ้วยาวไล่ลงมาที่ลำคอระหง และกดที่จุดรอยรักที่ตนสร้างไว้เบาๆ ก่อนจะก้มลงใช้จมูกซุกไซร้ซอกคอขาว เบียคุยะพยายามดิ้นหนี "และก็ตรงนี้..."มือใหญ่ลอดผ่านสาบเสื้อเข้าไปแตะสัมผัสยอดกุหลาบสวย "ข้าทั้งแทะโลมเลียเจ้า จนเจ้าตอบสนองข้าด้วยความใคร่พอใจ...."

     "ไม่จริง!!"

     "จริงแท้....หึหึหึ"มือใหญ่เลื่อนลงไปที่ต้นขาขาว "และเจ้าก็ครางอย่างสุขสมพอใจ เมื่อข้าได้สัมผัสกับทุกส่วนของร่างกายของเจ้า" มือใหญ่เลื่อนขึ้นไปถึงโคนต้นขา "เจ้าเรียกร้อง...เจ้าสุขสมพอใจ...เจ้าไม่ได้ปฏิเสธ......เจ้าตอบรับข้า ทั้งภายนอก...."เบียคุยะมองร่างสูงผ่านน้ำตาใสอย่างหวาดหวั่น "....และแม้แต่ภายใน....ที่ตอบรับข้าอย่างไม่ผลักไส"

     "ไม่จริง!!!!"

     "หึหึหึหึ"

     "ไม่!! เจ้าโกหก เจ้ามันสารเลว!!"ร่างบางต่อว่า น้ำตาใสไหลรินอย่างแค้นเคือง พยายามดิ้นรนให้หลุดพ้นจากพันธนาการของร่างสูง "ข้าไม่เชื่อ!! เจ้ามันสารเลว!! ปล่อยข้านะ!!"

     ร่างสูงและร่างบางพยายามยื้อยุดต่อสู้กันอยู่พักหนึ่ง จนสุดท้ายด้วยร่างกายที่บอบช้ำอ่อนแอทำให้ร่างบางต้องพ่ายแพ้อย่างหมดท่า ร่างบางตัวสั่นอย่างหวาดหวั่น น้ำตาไหลอย่างแค้นเคืองและอับอาย

     "ปล่อยข้า.....ไม่เอาแล้ว...พอที...."

     ร่างสูงหัวเราะในลำคออย่างชั่วร้ายก้มลงซุกไซร้ซอกคอขาวอย่างพอใจ เบียคุยะร้องไห้เงียบๆ หมดแรงที่จะทำสิ่งใดๆ

     ครืด~!!

     "เบียคุยะ!!"

     ร่างบอบบางเบิกตาโตก่อนจะหันไปมองเจ้าของเสียงที่จดจำได้ดี ดวงตาสีราตรีเบิกกว้างอย่างตกตะลึง สบตากับดวงตาสีแดงที่มองมาอย่างตกตะลึงไม่แพ้กัน งินหยุดการกระทำทุกอย่างแต่ก็ยังไม่ลุกไปไหนจากร่างบาง เขาเพียงส่งยิ้มเย้ยยันไปให้เร็นจิและเอ่ยอย่างผู้ชนะ

     "มาช้านะ อาบาราอิ"

     เบียคุยะน้ำตาไหลอีกครั้ง มือเรียวกำแน่น หัวใจส่งเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดรวดร้าวกว่าที่เคยเป็นมา.....น่ารังเกียจนัก....เกลียดเหลือเกิน...เลียดร่างกายนี้เหลือเกิน....อย่ามองแบบนั้น ได้โปรด เร็นจิ....อย่ามอง....

     "อย่ามอง...."ร่างบางเอ่ยเสียงสะอื้นไห้

     เร็นจิยืนนิ่งค้างอยู่ที่ประตูเลื่อน เขามองภาพตรงหน้าอย่างตกใจ ร่างบอบบางใต้ร่างใหญ่สั่นสะท้าน ดวงตาสีราตรีสวยเต็มไปด้วยม่านน้ำตาและร่างบอบบางนั้นก็อยู่ในสภาพกึ่งเปลือบเปล่า และเต็มไปด้วยรอยจ้ำมากมาย อีกทั้งรอยเลือดที่เตียง.....บ่งบอกร่างสูงได้กระจ่างชัด....มันเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากให้เกิดขึ้น.....

     "อย่ามองข้า....อย่า!....ฮึก....."เบียคุยะหันหน้าหนีร่างสูง พยายามดันงินออก

     "ขัดจังหวะจริงๆนะอาบาราอิ เห็นแล้วนิว่าข้ากำลังทำอะไรอยู่....รีบๆออกไปซะสิ"งินเอ่ยยิ้มเย้ย

     "อย่ามอง!! อย่ามองข้า!!"เบียคุยะกรีดร้อง น้ำตาไหลพรากอย่างรวดร้าว ข้อมือสะบัดออกจากการเกาะกุมและกอดตัวเองแน่น "อย่ามอง!!....ฮึก....อย่ามองข้า...อย่า....ฮึก....เร็นจิ...อย่ามองข้าเลย....ฮึก....."

     "เจ้า...."เร็นจิเอ่ยเบาๆ

     "อา....จะอายไปทำไมละเบียคุยะ"ร่างสูงผมเงินว่า "ให้มันดูสิว่าตอนนี้เจ้าเป็นยังไงบ้าง"ร่างสูงลงจากตัวของร่างบางก่อนจะ กระชากแขนให้ร่างบางลุกขึ้นยืนอย่างไม่ปราณี

     "ไม่! ปล่อยข้า!!"ร่างบางกรีดร้องพยายามไม่หันไปมองร่างสูงผมแดง

     "ให้มันดู!"งินจับคอเสื้อของร่างบางแหวกออก ก่อนจะจับแขนทั้งสองข้างของร่างบางไพล่ไว้ข้างหลัง

     "อย่า!! ฮึก! ปล่อยข้า"

     "ดูซะสิ อาบาราอิ ดูร่างกายของเบียคุยะตอนนี้ซะสิ"

     ร่างสูงจับจ้องร่างบอบบางที่เต็มไปด้วยรอยจ้ำมากมายกว่าที่คาดคิด ร่างบางสั่นสะท้านอย่างหวาดกลัวและอับอาย น้ำตาไหลรินไม่ขาดสาย ริมฝีปากบางเอ่นพร่ำอย่างทรมานอยู่ภายใจ

     "อย่ามอง...ฮึก....อย่ามองข้า....ฮึก ฮือๆ....อย่ามอง..."

     "จะเอายังไงดีละอาบาราอิ หึหึหึ"งินยิ้มเจ้าเล่ห์ "เบียคุยะน่ะเป็นของข้าแล้วนะ ยังจะต้องการอยู่อีกมั๊ยละ"

     "ฮึก...."ร่างบางทรุดกายลงอย่างหมดแรง ร่างสูงปล่อยข้อแขนทั้งสองข้าง เบียคุยะรีบปิดเสื้อมิดชิดก่อนจะก้มตัวลงร้องไห้อย่าวรวดร้าว

     "ว่ายังไง....ตัดใจแล้วสินะ"งินเอ่ยยิ้มกริ่ม "อย่างว่าละ สิ่งที่แปดเปื้อนแล้วนะ มันช่าง 'ไร้ค่า' และไม่มีใครต้องการหรอก เจ้าเองก็ไม่ต้องการเช่นกันใช่มั๊ยละ"

     ร่างสูงผมสีเงินยิ้มกว้างอย่างเจ้าเล่ห์ มองดูร่างสูงผมแดงที่กำมือแน่น ใบหน้าเข้มคมคายก้มลงมองพื้น

     "หึหึหึ หรือเจ้ายังต้องการ 'ของไร้ค่า' อยู่ละ?"

     "ไม่....."

     งินยิ้มกริ่ม ร่างบางกำมือแน่น หัวใจแทบแตกสลายเมื่อได้รับฟัง สะอื้นไห้อย่างหยุดไม่ได้

     ก็สมควรแล้ว.....เบียคุยะคิด.....ร่างกายที่แปดเปื้อนนี้ยังจะมีใครที่ต้องการอีกเล่า.....

     เร็นจิจะได้สมหวังกับลูเคียสักที.....ส่วนเขา.....คนที่ไร้ค่าและแปดเปื้อนอย่างน่ารังเกียจ.....จะหายไปเอง.....

     "ไม่ได้ไร้ค่าสักหน่อย"

     "ฮึก...."ร่างบางเบิกตาโตก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองร่างสูง

     งินที่แปลกใจไม่แพ้กันมองเร็นจิอย่างไม่เข้าใจ

     "แล้วยังไงละ"เร็นจิเอ่ยอย่างท้าทาย "ถ้าเจ้าทำอะไรเบียคุยะแล้ว มันจะยังไงละ? คิดเหรอว่าข้าจะยอมแพ้ง่ายๆ....คิดผิดคิดใหม่ได้แล้วเจ้าสารเลวเอ๊ย เบียคุยะ.....สำหรับข้า เบียคุยะเป็น 'ดวงจันทร์ที่ล้ำค่าที่สุด' ต่างหาก ไม่ว่าจะแปลดเปื้อนหรือไม่ จะเป็นอะไร หากข้า 'รัก' ซะอย่าง ก็ไม่สนหรอกเฟ้ย!!"

     ร่างบางมองร่างสูงอย่างอึ้งๆ ก่อนจะรู้สึกยืนดีอย่างเปี่ยมล้น ความปวดร้าวเริ่มเลือนหายอย่างช้าๆ ทำนบน้ำตาแห่งความดีใจหลั่งไหลแทนที่ความโศกเศร้า มือเรียวยกขึ้นมาปิดใบหน้างามก่อนจะสะอื้นด้วยความปิติดีใจอย่างยิ่ง

     งินกำมือแน่น รับรู้ได้ทันทีว่าแผนการของเขาไม่ประสบผมเสียแล้ว เร็นจิมองร่างสูผมเงินอย่างเดือดดาลก่อนจะชักดาบฟันวิญญาณออกมาและชี้ตรงไปที่ร่างสูงผมสีเงิน

     "สิ่งที่เจ้าทำกับเบียคุยะ ข้าจะจัดการให้สาสม!!"

     งินยิ้มเจ้าเล่ห์ "ไม่มีทางหรอก หึหึหึ"

     ว่าแล้วมีดสั้นสามเล่มก็พุ่งตรงเข้าหาเร็นจิทันที ร่างสูงกัดฟันกรอดก่อนจะใช้ดาบในมือปัดป้องได้อย่างชำนาญก่อนจะหันไปมองร่างสูงผมเงินใหม่อีกครั้งแต่ไร้วี่แวว.....งินหนีไปได้เสียแล้ว.....

     "บัดซบ!"เร็นจิสบถอย่างไม่พอใจ

     ร่างสูงเก็บดาบก่อนจะหันมามองร่างบางที่สะอื้นไห้อยู่ที่พื้น มือใหญ่ลูบหัวร่างบางอย่างห่วงใย "อย่าร้องเลยนะ.....ข้ามารับเจ้ากลับแล้ว....."

     ร่างบางเงยดวงหน้างามขึ้นจากฝ่ามือ ก่อนจะเอ่ยเสียงสั่นสะอื้น "จริงหรือเปล่า....ฮึก....ที่เจ้าพูดนั่น....จริงหรือเปล่า....."

     เร็นจิยิ้มอ่อนโยนก่อนจะดึงร่างบางเข้ามากอดแน่นเอ่ยอย่างหนักแน่นจริงจัง "ทุกสิ่งที่ข้าพูดกับเจ้านั้นคือความจริงทั้งหมด ข้าอาจจะเคยรักลูเคียก็จริง แต่ตอนนี้ หัวใจของข้ามีแต่เจ้าเท่านั้น.....ดวงจันทร์ที่ส่องไสวให้หัวใจของข้านั้นไม่หลงทางอีกต่อไป"

     เบียคุยะหลับตาอย่างพอใจและรับรู้ถึงความอบอุ่นในอ้อมกอดที่ปลอดภัยนี้ มีเพียงคนเดียวที่มีความอบอุ่นแบบนี้ มีเพียงอ้อมกอดเดียวที่จะทำให้หัวใจดวงนี้เต็มไปด้วยแสงอาทิตย์ต่อไป

     ร่างบางดันกายออกเบาๆ สบตาร่างสูงก่อนจะเอ่ย

     "ข้าก็รักเจ้า"เบียคุยะเอ่ย "มีเพียงแต่เจ้าคนเดียวเท่านั้น ที่หัวใจของข้าจะยอมจำนนให้" กล่าวจบก็โผกอดร่างสูงมอบจุมพิตหวานให้

     ร่างสูงตอบรับอย่างรักใคร่ก่อนจะค่อยๆถอนจูบออกช้าๆและช้อนตัวร่างบางขึ้นอย่างทนุถนอม เบียคุยะพิงอกแกร่งอย่างวางใจก่อนจะค่อยๆหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า

     "อย่าไปไหนนะเร็นจิ...กอดข้าเอาไว้..."

     "ข้าจะไม่ไปไหนแน่นอน...จะกอดเจ้าตลอดไป....."ร่างสูงมอบจุมพิตอ่อนโยนให้ที่หน้าผากมนก่อนจะพาร่างบางออกจากเรือนหลังเล็กนี้อย่างรวดเร็ว.....



     ข้าจะมีเพียงเจ้าเท่านั้น....หัวใจของข้าจะรักเพียงแต่เจ้าเท่านั้น.....

     จันทราเดียวในดวงใจของข้า.....ต่อให้ข้าบอกคำว่า 'รัก' อีกกี่ล้านคำก็ไม่เท่ากับความรู้สึกที่อยู่ข้างใน......




No comments:

Post a Comment