Saturday, September 20, 2014

Opposite Connection

                
                มันไม่ใช่อคติ... ก็แค่ไม่ชอบ ไม่สิ... แล้วทำไมต้องมาเปิดร้านตรงนี้ด้วยหล่ะ ? ความผิดกูเหรอ ? ไม่ใช๊ ไม่ใช่ เราไม่ผิดเลยสักนิดต่างหาก ! เราไม่ได้ผิด ท่องไว้ซีวอน กูไม่ผิดเว้ยยยย !
                “ถ้ามันย่นถาวรขึ้นมา กูไม่เอามึงส่งหมอหรอกนะเว้ย !” เอานิ้วดีดไปที่กลางหน้าผากของเพื่อนแรงๆจนขึ้นเป็นรอยแดงเด่นชัด ทันที่ที่ความเจ็บแผ่ซ่านไปทั่วหน้าผาก ผู้ถูกกระทำจึงหันขวับกลับมามองเจ้าของแรงกระแทกด้วยหน้าตาที่บ่งบอกได้ถึงความไม่พอใจ... ระดับปานกลาง
                “I wasn’t wrong !” สบถใส่หน้าเพื่อนซี้แล้วเดินจากไปพร้อมกับผ้ากันเปื้อนสีดำเข้มของตัวเอง ทิ้งจงฮุนที่ได้แต่มองตามด้วยความงุนงงกับอาการผิดปกติของเพื่อนไว้เบื้องหลัง
                เป็นเหี้ยไรของแม่งวะ ?” และเมื่อตัวเองไม่รู้เรื่อง จงฮุนจึงพาลอารมณ์เสยไปด้วยอีกคน – 3 –

                Thank you, Hope to see you again, sir” แจกยิ้มหวานให้กับลูกค้าที่หิ้วถุงของเดินออกไป เมื่อบานประตูปิดสนิท ขาเรียวก็เคลื่อนตัวไปยังอีกฝั่งของร้านซึ่งเต็มไปด้วยข้าวของมากมายระเกะระกะอยู่บนพื้น มือบางจัดการหยิบมันขึ้นมาจัดวางตามชั้นให้เป็นระเบียบ พร้อมกับเดินดูของรอบๆร้านไปด้วย
                เสียงเพลงบรรเลงยังคงดังต่อเนื่อง เล่นซ้ำมาตั้งแต่ช่วงเช้า กระทั่งตอนนี้ พระอาทิตย์กำลังจะลาจากขอบฟ้าไปแล้ว มันก็ยังคงเล่นวนซ้ำไปซ้ำมาเช่นเดิม เหงื่อเม็ดเล็กหยาดออกมาจากปลายจมูกโด่งบ่งบอกความเหนื่อยหอบจากการวางของเข้าชั้น เดาได้เลยว่าปริมาณของต้องบานตะไทเป็นแน่
                ลมด้านนอกร้านพัดพาเอาความหนาวเหน็บมาภายใน มู่ลี่สีเนื้อนวลสั่นไหวเพราะแรงลม ความเหน็บหนาวเรียงตัวรายรอบเรือนร่างของคยูฮยอนช้าๆ ดวงตากลมปิดลงซึมซับกับความยะเยือกเย็นที่เหมือนเช่นหัวใจของเขา... ที่ถูกแช่แข็งให้อยู่กับความพลาดพลั้งร่ำไป

                ผมกลับนะคร้าบบบ... จงฮุนตะโกนบอกคนในร้านก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าของตัวเอง แล้วเดินตามเพื่อนซี้ตัวสูงออกไปที่ด้านหน้า ซีวอนจัดการใส่รองเท้าให้เรียบร้อยแล้วยันตัวขึ้น ยืนรอเพื่อนที่กำลังมองหารองเท้าของตัวเองอยู่
                รองเท้ากูอยู่ไหนวะเนี่ย ?” มองอยู่นานสองนาน ก็ยังไม่เจอรองเท้าของตัวเองเสียที ซีวอนปรายตามองไปบนชั้นเพื่อจะช่วยหาด้วยอีกคน และไม่นานเกินรอ รองเท้าเจ้ากรรมก็วางลงบนพื้นดังแป๊ะด้วยฝีมือของผู้ช่วยเหลือ จงฮุนเงยหน้ามองเพื่อนพร้อมกับยิ้มแหยๆแล้วรีบยัดเท้าของตัวเองเข้าไปข้างใน
                ลมแรงนะว่ามั๊ย ?” หันไปถามเพื่อนที่เดินล้วงกระเป๋า เพราะเย็นมือ ร่างโปร่งมองหน้าเจ้าของคำถามที่ตอนนี้ทำตัวเหมือนไม่ได้พูดอะไรออกไป พร้อมกับพยักหน้าหงึกหงักเป็นการตอบคำถาม ซึ่งซีวอนไม่เห็นมันหรอก
                กูถามนี่ มึงได้ยินหรือเปล่า ?”
                หนาววว !
                ก็แค่นี้แหละ จะเงียบทำห่าอะไร... กลับดีๆนะเว้ย อย่าไปเมาที่ไหนหล่ะ ร่างสูงปลีกตัวเข้าตึกไปก่อนอีกฝ่าย จงฮุนโบกมือลาให้กับเพื่อนแล้วเดินตรงไปเพื่อจะหลับบ้านของตัวเองบ้าง ซีวอนมองตามร่างของเพื่อนจนกระทั่งลับตา เขาจึงเดินเข้าบ้านซึ่งเป็นตึกแถวไป
                ไฟในบ้านค่อยๆเปิดทีละดวง ห้องโถงเล็กๆ เงียบเชียบ ร้างผู้คน การอยู่คนเดียวเป็นชุดความเคยชินหนึ่งของซีวอนไปเสียแล้ว เพราะเป็นแบบนี้มาตั้งแต่อายุยังน้อย เขาจึงเป็นคนที่ไม่ค่อยสนใจใครนักจนหนักไปทางด้านเอาแต่ใจตัวเองเลยก็ว่าได้ รวมทั้งเรื่องของความรักหรือการอยู่เป็นคู่ก็ด้วย มันช่างห่างไกลความคิดของเขานัก
               
                แสงแดดอ่อนส่องผ่านผ้าม่านสีโอรสเข้ามากระทบกับนัยน์ตากลมที่ซ่อนอยู่ใต้เปลือกตา คยูฮยอนพลิกตัวหนีแสงแดดแล้วซุกหน้าลงกับหมอนข้างด้วยอาการเหมือนเด็กที่ไม่อยากตื่น หากแต่เมื่อใบหน้าเรียวกดลงกับใยผ้าแล้ว เสียงนาฬิกาปลุกก็ดังขึ้น ชวนให้สะดุ้งตื่นจากความงัวเงียเสียนี่... ได้ยินแล้วก็อยากจะเขวี้ยงมันไปให้ไกลตัว
                ขาเรียวก้าวลงมากจากเตียงอย่างทุลักทุเล พร้อมด้วยหน้าตาที่ไม่ค่อยจะสมประกอบสักเท่าไร่นัก ผมเผ้ายุ่งเหยิงเหมือนรังนก เสื้อผ้ายับยู่ยี่ย่นไปทุกส่วน ดวงตาที่เปิดเพียงครึ่งเดียวจ้องมองสารรูปที่สะท้อนผ่านกระจกบานยาวในห้องน้ำ มองไปมองมาช่างทำให้ขวัญผวาเสียเหลือเกิน
                เสียงน้ำไหลหยุดลง คยูฮยอนเดินออกมาจากห้องน้ำ ตรงรี่ไปที่ตู้เพื่อหาเสื้อผ้าชุดใหม่ด้วยหน้าตาที่ไฉไลกว่าเดิม มือบางไล่ไปเรื่อยเพื่อคัดสรรชุดที่น่าจะดูดี ดึงเสื้อเชิ้ตสีนวลออกมาแล้วจัดการแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนจะปิดไฟแล้วเดินออกจากห้องไป
                ฝากจักรยานด้วยนะคร้าบบบ เสียงสดใสในยามเช้าเตือนให้คยูฮยอนเงยหน้าออกไปมองหน้าร้านทั้ง เจ้าของจักรยานสีเหลืองส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรมาทางเขาที่เดินลงมาจากบันไดช้าๆ ผิดกับอีกคนถีบที่ทำหน้ามุ่ยใส่แล้วปลีกตัวไปล็อคจักรยาน... หลบรอยยิ้มของเขาที่ส่งกลับไปให้จงฮุน
                ไปทำหน้าแบบนั้นใส่พี่เค้า เดี๋ยวเย็นนี้ก็ไม่มีพาหนะกลับบ้านหรอก !” บ่นไปพร้อมกับมองหน้าเพื่อนตัวสูงที่ยังคงปั้นหน้าบูดไม่หาย แม้จะข้ามมาอีกฝั่งของถนนแล้วก็ตาม ซีวอนยักไหล่ให้กับจงฮุนแล้วรีบสาวเท้าเข้าร้านพิซซ่าไป ทิ้งให้จงฮุนต้องรีบวิ่งตามต้อยๆ
                พี่เค้าไปตบหน้าพ่อมึงหรือไงวะ ?”
                ถ้าอย่างนั้นกูคงรักเค้าตายเลยพูดไปตีแป้งไป จงฮุนมองหน้าเพื่อนทิฐิหนาแล้วหันกลับไปดึงพิซซ่าออกมาจากเตาอบ แล้วจัดมันลงจานอย่างชำนิชำนาญ
                พี่เค้าก็น่ารักดีออก... ไม่เหมือนมึง หน้าโหดสัส !” กระแทกชิ้นสุดท้ายลงบนจานใบสวยก่อนจะปลีกตัวออกห่างคนที่ตัวเองเพิ่งจะถากถางเสร็จ ซีวอนมองตามแผ่นหลังของอีกฝ่ายที่เคลื่อนห่างออกไปด้วยความรวดเร็วด้วยสายตาเอือมระอา... กัดกูซะตัวจะขาดแล้ว ไอ้จงฮุน !
               
                โชคดีนะเพื่อน อย่าลืมจักรยานหล่ะ !
                เออ ! มึงนั่นแหละเดินดีๆตะโกนบอกเพื่อนซี้ที่ถึงเวลาเลิกงานแล้ว วันนี้เป็นคิวของซีวอนที่จะต้องอยู่จนร้านปิด ส่วนจงฮุนก็จะกลับเวลาปกติ รายนั้นจึงปลีกตัวกลับไปก่อนโดยไม่รอเพราะกลัวว่าน้องชายต่างมารดาจะหิวแล้วร้องไห้งอแง แต่ใครจะเชื่อเล่า... แจจินหน่ะ โตตัวจะเป็นควายอยู่แล้ว !
                เสิร์ฟโต๊ะ 3 ที ซีวอน
                ครับพี่ ยิ้มรับคำสั่งแล้วเดินถือจานพิซซ่าไปเสิร์ฟให้ลูกค้าตามคำสั่ง เมื่ออาหารวางลง โปรยยิ้มหล่อให้กับลูกค้าแล้ว พ่อครัวรูปหล่อก็เดินกลับมาใยครัว จัดการทำงานของตัวเองไปเรื่อย ๆ ดวงตาคมเหลือบมองนาฬิกาเป็นระยะ เพื่อรอให้ถึงเวลาเลิกงานเสียที

                กลับแล้วนะครับ ตะโกนบอกคนในครัวที่เหลือแล้วเดินออกจากร้านไปเงียบๆ ครั้นเมื่อเงยหน้าขึ้นมองฟ้า เห็นเมฆครึ้มก่อตัวเต็มไปหมด ก็เป็นอันต้องเร่งฝีเท้า ข้ามไปเอาจักรยานที่ผูกไว้ที่มุมร้านฝั่งตรงข้าม แต่ฝนเจ้ากรรมก็ดันตกลงมาตอนที่เขาไขกุญแจเสร็จพอดี
                เวรเอ้ย !” สบถออกมาด้วยความไม่พอใจอย่างสูงสุด ซีวอนขยับตัวให้เข้าใกล้ร่มหลังคาน้อย ๆ ให้ได้มากที่สุด ใบหน้าเรียวมองไปที่ป้ายร้านซึ่งติดอยู่เหนือหัว ตัวอักษรภาษาอังกฤษเขียนไว้หราว่า “Hot Times” ครั้นเมื่อมองต่ำลงมาก็เป็นมู่ลี่สีเท้าที่บังสินค้าภายในเอาไว้ ว่าแล้วก็บ่นงุบงิบกับตัวเองด้วยอคติในใจกับร้านค้าแห่งนี้
                เมื่อไหร่จะได้กลับวะแม่ง...พึมพำเบาๆกับตัวเองที่กำลังนั่งอยู่บนพื้น เสียงฝนที่โหมกระหน่ำเข้ามาเรื่อยๆ ทำให้เค้าอดนึกภาพจำลองสภาพของตัวเองในขากลับไม่ได้ ผิวเนื้อใต้ร่มผ้าสัมผัสได้ถึงความชื้นแฉะเนื่องจากละอองฝน รวมทั้งกลุ่มผมสีน้ำตาลเข้มก็เริ่มชุ่มน้ำ เมื่อหันไปมอยานพาหนะของเพื่อนสนิทก็พบว่า มันเองไม่ได้มีสภาพอะไรต่างไปจากเขาเลยสักนิดเดียว
                จะเข้ามาหลบฝนก่อนก็ได้นะ... เสียงบานประตูเปิดออกพร้อมกับร่างบางในชุดที่บางไม่แพ้หุ่น ผมปุยสีดำอมเทาประกายเมื่อแสงไฟที่ด้านหน้าร้านสะท้อน ใบหน้าหวานนั้นมีสภาพไม่ต่างจากคนเพิ่งตื่น แต่อย่างไรก็ตาม เขายังคงสัมผัสได้ถึงความเยือกเย็นภายใต้ดวงตากลมคู่นั้นที่มันใกล้ปิด
ไม่รบกวนดีกว่าครับ
ฉันให้นายเลือกระหว่างพาราที่ไม่มีวันหาพบในนี้ กับแค่เดินเข้ามาอยู่กับขวดไวอากร้าซักพัก นิ้วบางชี้ไปที่ชั้นวางของด้วยท่าทางประชดประชันก่อนจะเดินกลับเข้ามาในร้านของตัวเอง โดยไม่วายปิดประตูให้กระแทกหน้าคนตัวสูงกว่า หากซีวอนตีความไม่ผิด คุณคนนั้นกำลังสื่อว่า ถ้าเค้าป่วย... จะไม่มีพาราให้กิน ดังนั้นขายาวจึงก้าวเข้าสู่ตัวร้านที่เขานึกแขยงในใจอย่างไร้เหตุผล
ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กถูกส่งให้กับคนที่ตัวสูงกว่า เขารับมาอย่างลวกๆแล้วจัดการขยี้ผมด้วยหวั่นว่าจะเป็นหวัด เมื่อเจ้าของสถานที่หายเข้าไปที่ด้านหลังร้าน ซีวอนก็กวาดสายตามองไปรอบตัวเขาที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ต่างๆที่ไม่คุ้นตา จะให้คุ้นได้ยังไงเล่า ! ก็ของพวกนี้มัน sex toys ทั้งนั้น
อ่ะ...เสียงหวานเรียกอีกฝ่ายที่เหมือนจะเหม่อลอยไปซักพัก ซีวอนยื่นมือไปรับแก้วชานั้นมาวางไว้บนโต๊ะ ในขณะที่อีกฝ่ายจัดการเดินไปเข็นจักรยานเข้ามาไว้ในร้านแล้วล็อคประตู ซีวอนมองด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยไว้ใจปนความงุนงงสงสัย แต่ยังไม่ทันได้อ้าปากถาม คนช่างสังเกต(สีหน้า) ก็ให้คำตอบกลับมาเสียก่อน
อยากนอนตายจมกองหิมะเป็นข่าวหน้าหนึ่งก็เชิญ ผายมือไปยังหน้าร้านที่เริ่มปกคลุมด้วยหิมะ ทำให้ซีวอนต้องพ่นลมหายใจออกมาอย่างเสียไม่ได้... โอเค ! กูจะนอนกับมึงนี่แหละ !!

เสียงเคาะประตูที่ชั้นสองทำให้คยูฮยอนต้องลุกขึ้นมาจากเตียง ละหนังสือที่อ่านเอาไว้บนหมอน ขาเรียวเดินไปยังบานประตูแล้วเปิดมันออกอย่างไม่ต้องสงสัย... จะมีใครหล่ะ ก็ต้องเป็นหมอนั่นอยู่แล้ว แต่เมื่อมือดึงบานประตูเข้ามา ภาพตรงหน้ากลับทำให้ร่างบางช็อคไม่น้อย
อย่าหาว่าเรื่องมากเลย คือผม... ไม่มีเสื้อ เกาหัวแกรกๆในสภาพเปลือยท่อนบน คยูฮยอนพยักหน้าเป็นอันว่ารับรู้แล้วเดินตรงเข้าไปที่ตู้เสื้อผ้าของตัวเอง เปิดหาเสื้อที่อีกฝ่ายน่าจะใส่ได้ ซึ่งมันต้องตัวใหญ่มากพอสมควร แต่คนตัวบางอย่างเขา จะไปมีเสื้อแบบนั้นได้ยังไงกัน ?
เมื่อรู้สึกว่าด้านนอกมันหนาวแปลก ๆ .ซีวอนจึงตัดสินใจเดินเข้ามาในห้องนอนของคยูฮยอนอย่างถือวิสาสะ แต่เพื่อไม่ให้มันดูรุกล้ำอาณาเขตเกินไป ร่างสูงจึงเดินไปยืนอยู่ที่ด้านหลังของอีกฝ่ายเงียบ ๆ มองคนตัวเล็กที่ก้มลงรื้อกองเสื้อผ้าของตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย
ตัวนี้สะ....ยันตัวขึ้นอีกที ก็ชนเข้ากับคางของอีกคนเสียเต็มแรง เล่นเอาเซถลาไปพิงเข้ากับตู้เสื้อผ้าพอดี เจ้าของคางแหลมๆได้แต่คลำป้อยๆไปบนใบหน้าของตัวเองอย่างเสียไม่ได้ หัวโคตรแข็ง !
เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย...
โทษทีๆ ข้างนอกมันหนาว ตัวนี้ใช่มั๊ย ?” ยืนนานๆ เริ่มรู้สึกกลัวแปลกๆ ก็คนตรงหน้าเค้าหน่ะ ขาย sex toys นะ แล้วเค้ามายืนเปลือยให้ดูนาน ๆ แบบนี้ ดีไม่ดีอาจจะโดนจับปล้ำได้ คยูฮยอนส่งเสื้อให้กับอีกฝ่ายแล้วเบี่ยงตัวเดินไปที่เตียง นอนอ่านหนังสือเหมือนเดิม
ขอบ...ฮึบ ! คุณ
อืม...มองคนที่ใส่เสื้อของตัวเองอยู่ แต่เหมือนว่าคยูฮยอนจะต้องรีบหาเสื้อตัวใหม่ให้กับซีวอนโดยเร่งด่วนเสียแล้ว เพราะเสื้อตัวนี้ มันเล็กเกินไปสำหรับซีวอนหน่ะสิ
ถอดๆ ตัวอื่นดีกว่า...รีบบอกอีกคนเพราะกลัวว่าเสื้อของตัวเองจะขาด ซีวอนที่เพิ่งจะยึดตัวลงไปในเสื้อได้ เบ้หน้าก่อนจะยอมถอดออกมาตามคำสั่ง แล้วหยิบเอาผ้าอีกผืนมาห่อตัวเอาไว้... มันปลอดภัยที่ไหนเล่า ปัดโธ่ !
ให้ตายเถอะ... ซึงฮยอนเอาเสื้อไปไว้ไหนหมดนะ
ถ้าไม่มีฉันนอนแบบนี้ก็ได้นะ
ไม่กลัวโดนฉันย่องไปปล้ำนายหรือไงพูดออกมาด้วยเสียงนิ่งเรียบ เล่นเอาอีกฝ่ายผงะไปซักพัก และว่าจะตั้งสิขึ้นมาได้อีกที ก็เพราะแรงสะกิดของอีกคนที่เรียกเขาให้เดินตามไปยังที่ไหนซักแห่ง
ขาเรียวนำคนตัวใหญ่กว่าขึ้นไปบนชั้นสาม ผลักบานประตูเล็กๆเข้าไป ยืนอยู่ในห้องนอนแคบ ๆ มือเล็กไล่ไปตามตู้เสื้อผ้า ในขณะที่ซีวอนก็สำรวจมองไปทั่วๆ ห้องซึ่งเต็มไปด้วย... ขวดน้ำหอมมากมาย กลิ่นของมันทำให้เขามีความรู้สึกเหมือนคนเมาแปลก ๆ ร่างสูงสะบัดหน้าเลี่ยงกลิ่นน้ำหอมเหล่านั้น แต่เหมือนจะไม่ทันแล้ว
อ่ะ...นี่... เฮ้ย ! ทำอะไรยื่นเสื้อให้กับอีกฝ่าย แต่เหมือนจะผิดคาดเมื่ออยู่ดี ๆ ซีวอนก็เอื้อมมือมาคล้องไว้ที่รอบเอวของเขาอย่างถือวิสาสะ คยูฮยอนพยายามผลักอีกคนให้ออกห่างตัวแต่ไม่เป็นผล ร่างบางจึงได้แต่พยายามเอื้อมมือไปปิดประตูห้องดังกล่าว... ห้องเก็บน้ำหอมปลุกอารมณ์
นาย...โอ้ย ! ตัวหนัก...ออกไปก่อนใบหน้าขาวเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ... ใกล้ขนาดนี้ก็ไม่ไหว เค้าเองก็ไม่ใช่คนที่อดทนอะไรเก่งนักหรอกนะ ไม่สิ... อดทนกับเรื่องแบบนี้แทบจะไม่เป็นเลยด้วยซ้ำ ยิ่งมือของอีกคนไล้ไปตามต้นขา แทนที่จะผลักกับร้องครางออกมาเสียอย่างนั้น... คยูฮยอน ! ตั้งสติไว้ !!
นาย ! ปล่อยสิ...อ๊ะ!!” เชี่ยนี่ ! จับของกูทำไม TT
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
                สะดุ้งเฮือกเพราะสัมผัสของอีกคนที่จ่ออยู่ตรงหว่างขา แม้บานประตูปิดลงไปแล้ว แต่ฤทธิ์ยาก็ไม่ได้หายไปสักนิด ขาเรียวพยายามถีบคนตรงหน้าให้ออกไปจากร่างกายของตัวเอง แต่เหมือนยิ่งขืน กลับยิ่งทำให้ซีวอนลากนิ้วสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนสุดท้าย เจ้าของเรี่ยวแรงก็โถมเข้าหาคยูฮยอนได้สำเร็จ
                ฉัน...เป็นผู้ชาย ! เฮ้ยยย ! ปล่อย ๆๆๆๆ ทุบอีกคนระรัวเพื่อหวังให้อีกคนได้รับรู้บาง ซีวอนชะงักนิ่งค่อย ๆ ผ่อนแรงที่จับเอาไว้ออกมา ดวงตาเข้มจ้องเข้าไปข้างในนัยน์ตาหวานที่ตอนนี้สั่นระริกด้วยความหวาดหวั่น ลมหายใจแข็งกร้าวของทั้งคู่ปะทะกันในห้วงอากาศ เมื่อทุกอย่างเริ่มสงบ คยูฮยอนก็พ่นลมหายใจออกมา แต่ยังไม่ทันไร อีกฝ่ายกลับจู่โจมเข้าหาริมฝีปากบางอย่างไม่ทันตั้งตัว
                                อื้อออออออ !” ขบ เม้ม ละเลียด ชิม กลีบปากสีชมพูอ่อนจนกลายเป็นสีกุหลาบแดง เรี่ยวแรงที่เคยมีอยู่ใต้อำนาจร่างกายของคยูฮยอนถดถอยลงไปกองอยู่บนพื้นไม่ต่างจากกางเกงที่โดนปลดลงไป ขาเรียวหนีบเข้าหากันให้ได้มากที่สุดเพื่อปกป้องความบริสุทธิ์ของตัวเองเอาไว้ ในใจได้แต่สวดภาวนาขอให้น้ำหอมบ้าๆนั่นหมดฤทธิ์เสียที
                นาย ! ออกไป !!” ครั้นเมื่ออีกฝ่ายถอนริมฝีปากออกมา ร่างบางก็พยายามตะโกนแทรกโสตประสาทที่คลุมเคลือเข้าไป มือเล็กๆพยายามมองหาอาวุธใกล้ตัวเพื่อปกป้องตัวเอง แต่ดูเหมือนว่าในพื้นที่แคบที่ติดต่อกับบันไดนี้จะไม่มีอะไรที่เป็นอาวุธได้เลย มือบางจึงได้แต่พยายามผลักอีกฝ่ายออกห่างให้ไกลตัว
                ซีวอน ! นายได้ยินมั๊ย ? อ๊ะ ! ปล่อยฉัน !!” เรียกชื่อของอีกฝ่ายเพื่อตั้งใจจะปลุกให้อีกคนได้สติ แต่มันก็ช้าไปเสียแล้ว เมื่อขาที่เคยพยุงร่างของตัวเองไว้ได้ ทรุดลงไปตามอารมณ์ที่พุ่งขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว ลิ้นเรียวที่ไล่วนอยู่ตามเรียวขาทำให้คยูฮยอนไม่เหลือความพยายามในการยับยั้งอารมณ์ของตัวเองอีกต่อไป
                ซีวอน...อ๊ะ !
                ครับ... อีกฝ่ายขานกลับในขณะที่นอนคร่อมร่างบางตรงหน้าอยู่ ดวงตาคมก้มลงมองใบหน้าอีกฝ่ายที่ตอนนี้เริ่มมีหยาดน้ำตาไหลลงมา จมูกโด่งกดลงที่ข้างแก้มของอีกคนไปพร้อมๆกับมือที่เลื่อนลงมาปลดกระดุมเสื้อตัวบางออก เพียงนิ้วเรียวสัมผัสเบาๆบนอกขาวคยูฮยอนก็สะท้านไปทั้งร่าง... หยุดไม่ได้แล้วจริงๆ
                มือเรียวลูบที่ตามแนวกราม สอดมือเข้าไปในกลุ่มผมแล้วดีดตัวขึ้นมานั่งประจันหน้ากับอีกฝ่าย ริมฝีปากของทั้งสองแนบชิดติดกัน ลิ้นเรียวเกี่ยวพันกันอยู่ภายในโพรงปาก ร่างหนาถูกผลักจนชิดกำแพงโดยมีสะโพกนวลนั่งทับอยู่บนตัก มือเรียวกลัดตะขอกางเกงของอีกฝ่ายออกพร้อมกับเลื่อนริมฝีปากลงมาไซร้ลงที่ซอกคอ
                อืมม... จับไหล่เล็กๆของอีกฝ่ายไว้ ผลักอีกคนให้ติดกับราวจับบันได กางเกงขายาวที่ยังคงเปียกฝนอยู่ถูกถอดกองไว้ที่บันได นิ้วเรียวเกี่ยวขอบชั้นในของอีกฝ่าย รั้งมันลงมาอย่างรวดเร็วแล้วแล้วก้มตัวลงใช้ลิ้นของตัวเองลากไล้ไปทั่วทั้งส่วน ในขณะที่ซีวอนสอดนิ้วเข้าสู่ร่างกายของอีกคน
                อ๊ะ ! นาย... อ๊า ~” ทันทีที่ถูกล่วงล้ำ ร่างบางเชิดหน้าขึ้นร้องด้วยความตกใจ แต่ไม่นานเท่าไหร่ เริ่มคุ้นชินกับมันเป็นอย่างดี ลิ้นเล็กที่ทำหน้าที่ค้างไว้ จึงกลับไปปรนเปรอความต้องการให้อีกฝ่ายดังเดิม พร้อมกับเสียงครางหวานที่ชวนให้ซีวอนต้องเร่งจังหวะนิ้วของตัวเองให้ตามทันอารมณ์ของอีกฝ่าย
                นาย... เรียกอีก่ายด้วยน้ำเสียงเบาหวิวเมื่ออยู่ ๆ เจ้าของนิ้วเมื่อครู่กลับถอนมันออกมา แขนแกร่งอุ้มร่างบางให้ยืนขึ้น พิงกับราวบันได ก่อนที่จะค่อย ๆ แยกขาของอีกฝ่ายออกแล้วสอดแทรกแก่นกายของตัวเองเข้าไปภายในช้าๆ มือบางที่แต่เดิมเคยยึดราวบันได เปลี่ยนมาจิกลงบนแผ่นหลังสีแทนของอีกฝ่าย ใบหน้าเรียวเกยอยู่กับบ่าของอีกคนพร้อมกับเสียงร้องหวานหูซึ่งดังตามจังหวะกระแทก
                อ๊ะ อ๊ะ... ซีวอน...ครั้นเมื่อเรียกชื่ออีกฝ่าย เจ้าของชื่อก็ส่งความระอุผ่านริมฝีปากมาให้อีกฝ่ายในทันที ลิ้นเกี่ยวกันในเรียวปาก มือข้างหนึ่งประครองใบหน้าของกันและกัน ในขณะที่ซีวอนใช้แขนของตนโอบไปรอบเอวบางคอดเพื่อพยุงอีกฝ่ายเอาไว้... ยิ่งสัมผัสใกล้ชิดยิ่งรู้สึกเหมือนสติของเขากระเจิดกระเจิงไม่เหลือชิ้นดี ยิ่งได้ยินเสียงหวานร้องครางที่ข้างหู ยิ่งลุ่มหลงในความไพเราะของมัน ยิ่งเห็นใบหน้าแดงระเรื่อของร่างตรงหน้า ยิ่งทำให้เขาอยากจะครอบครองคนๆนี้เอาไว้ให้ได้ทั้งคืน. แม้ในเวลานี้ ที่ฤทธิ์ยาจางลงไปแล้วและเขารู้สึกตัวกับการกระทำของตัวเองเป็นอย่างดี
                พี่ครับ... อื้ม !
                ห๊ะ... อ๊า สะดุ้งเพราะเสียงเรียกของอีกฝ่าย พอดีกับที่เขาไม่สามารถต้านทานอารมณ์ในร่างกายของตัวเองได้ คราบสีขาวไหลย้อยลงมาที่ต้นขา รวมทั้งเปรอะไปบนแผงกล้ามของอีกคน ขาที่เคยถูกยกไว้ถูกวางลงที่พื้นช้าๆ ทั้งสองฝ่ายจ้องหน้ากันเหมือนมีบางอย่างจะบอก แต่คำพูดเหล่านั้นอาจกำลังถูกแทนที่ด้วยแรงผลักเบาๆของร่างเล็กที่ดันให้อีกฝ่ายต้องยอมนั่งลงบนขั้นบันได
                นิ้วเรียวไล่ไปตามหน้าท้องแกร่ง ปาดคราบน้ำที่เลอะอยู่ขึ้นมาป้ายไปบนแผงอกของอีกฝ่าย แล้วใช้ปลายลิ้นเลียเก็บมันอย่างจงใจในขณะที่อีกนิ้วก็ละเลงมันลงที่อกของตัวเองก่อนจะแอ่นมันให้กับอีกฝ่ายได้กวัดความหวานเหล่านั้นเข้าริมฝีปากไปบ้าง... มีหรือที่ซีวอนจะปฏิเสธมัน
                พร้อมๆกับการปรนเปรอที่ยอดอกสีชมพู มือบางก็เลื่อนลงไปจับส่วนอ่อนไหวของทั้งสองฝ่ายให้แนบติดก่อนจะรูดมันขึ้นลงตามความยาว ตั้งใจให้ต่างฝ่ายต่างต้องเสียดสีกันและกัน ดวงตากลมที่เคยนิ่งสนิทตอนนี้ เปลี่ยนเป็นสายตายั่วยวนที่ไม่อาจหาที่ติได้
                ซีวอนผละใบหน้าออกมาจากอกขาวนวลตรงหน้า ใช้มือตัวเองแกะนิ้วเรียวที่ไล้วนไปมาออกเป็นสัญญาณที่บอกให้คยูฮยอนยกสะโพกขึ้นตาม มือเรียวจับไปที่แก่นกายของอีกฝ่ายแล้วสอดเข้าไปในช่องทางของตัวเองอย่างจงใจพร้อมเสียงครางยางที่ทำให้ซีวอนกำลังจะเป็นบ้าในไม่ช้า
                อ๊ะ...อ๊าาาาา... สะโพกยกขึ้นลงตามจังหวะ เท่าที่ตัวเองจะเร่งได้ มือหนาของอีกฝ่าย ไล้ไปตามแก่นกายของอีกคน คยูฮยอนบิดตัวเองไปมาเพราะไม่อาทนรับความรู้สึกวาบหวิวเหล่านี้ได้ ร่างบางหอบหายใจไปพร้อมกับเสียงครางกระเส่าที่ร้องเรียกชื่อของอีกคนอย่างไม่เป็นภาษา เรียกเสียจนเสียงหวานนั้นก้องไปทั่วหัวของซีวอนจนทำให้อารมณ์ของเขาจมดิ่งลงไปเรื่อย ๆ และเขาเองไม่อาจรับรู้ถึงสียงของฝนที่ตกกระหน่ำลงมาได้เลย
                ซีวอน...อ๊า !” ซบลงกับบ่ากว้างของอีกฝ่ายเมื่อรู้สึกได้ว่า อีกคนกำลังปลดปล่อยเข้ามาในร่างกายของตน ร่างสูงโอบรอบเอวบางเอาไว้ ปล่อยให้อีกคนซบนิ่ง ๆ แขนแกร่งคว้าเสื้อมาให้อีกคนหนึ่งถือเอาไว้แล้วค่อย ๆ อุ้มร่างเล็กเดินลงไปที่ชั้นล่างทั้งๆที่เรียวแขนนั้นยังคงกอดเขาเอาไว้แน่น

                แรงสั่นสะเทือนจากมือถือปลุกให้เจ้าของเครื่องลืมตาตื่นขึ้นมา แขนแกร่งควานหาโทรศัพท์เครื่องบางที่กองอยู่บนพื้นพร้อมกับกดรับทั้งๆที่ยังไม่ได้ดูเบอร์โทรเข้า
                มึงอยู่ไหนวะเนี่ย ?” เสียงคุ้นหูของเพื่อนดังขึ้นทันทีที่เขากดรับสาย ซีวอนมองไปรอบตัว พลันสายตาสะดุดกับร่างที่นอนอยู่ด้านข้างของเขา แขนยันตัวขึ้นนั่งบนเตียงให้เต็มที่ ครั้นเมื่อผ้าห่มล่นลงมาก็เผยให้เห็นรอยข่วนบนอกที่มีอยู่ประปรายกับรอยสีแดง
                ได้ยินกูป่าววะ ? อยู่ไหนเนี่ย ?”
                เออ... วันนี้กูไม่ทำงานหว่ะจงฮุน เหมือนจะไม่ค่อยสบายเท่าไหร่
                “อ่าว... เปียกฝนหล่ะสิท่า ! เออ ๆ เดี๋ยวบอกผู้จัดการให้ อย่าลืมกินยานะมึง !
                                เออ ๆรับปากเพื่อนไปปัด ๆ จะกินห่าอะไรเล่า ก็เขาปกติดี แต่คนข้าง ๆ เขานี่สิ... จะเรียกว่าอะไรดี ? วางโทรศัพท์ลงบนพื้นห้องแล้วปัดผ้าห่มออกจากตัว แต่พอยืนขึ้นเต็มความสูงก็เป็นอันต้องนั่งกลับลงไปใหม่ ? กางเกงในก็ไม่มี เสื้อผ้ากองอยู่ที่พื้น อย่าบอกนะว่า...
                ฝ่ามือไวเท่าความคิด ถลกผ้าออกเล็กน้อยให้เห็นท่อนบนของคยูฮยอนอย่างชัดเจน และเมื่อพบว่าสภาพของคนที่นอนซมอยู่ข้าง ๆ นั้นไม่ต่างอะไรจากเขา ซีวอนก็แทนกรี๊ด ! ร่างสูงคว้าผ้าเช็ดตัวที่ใกล้ที่สุดมาห่อตัวแล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปด้วยความเร็วแสง... กูต้องตรวจสอบ !!

                มันก็ไม่เจ็บนี่หว่า...บีบที่สะโพกของตัวเอง พร้อมกับมองกระจกไปด้วย เมื่อพบว่าตัวเองยังคงปกติ สมองก็คิดไปถึงคนที่นอนอยู่บนเตียง ซีวอนพยายามตั้งสติแล้วคิดดูว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น... แต่จะว่าไป คนบนเตียงจะเป็นยังไงบ้าง ? เพราะถ้าไม่ใช่เขาที่โดน ก็ต้องเป็นพี่คนนั้น... จริงมั๊ย ?
                ขายาวก้าวกลับไปที่เตียงซึ่งตัวเองเพิ่งจะลุกขึ้นมา มองใบหน้าหวานที่ซุกลงกับหมอนเหมือนเด็กหนีแสงอาทิตย์ ฝ่ามือหนาเกาหัวแกรกๆ เสยกลุ่มผมยุ่งเหยิงของตัวเองไปมา เขาเองก็ห่างจากการกระทำแบบนี้มานานมากแล้ว นานเสียจนตอนนี้เริ่มจะทำอะไรไม่ถูก... อันที่จริงทำอะไรไม่ถูกมาตั้งแต่ตอนตื่นแล้วหล่ะ
                กับผู้ชายก็ไม่เคย... แม่เจ้าโว้ย ! นี้มันอะไรวะ ?” นั่งลงบนเตียงเหมือนเดิม พร้อมกับบ่นพึมพำเสียงค่อย ด้วยกลัวว่าคนที่นอนหลบแดดจะตื่นขึ้นมาจากฝัน ซีวอนค่อย ๆ ทิ้งตัวลงบนเตียงข้างๆอีกฝ่าย แรงยวบของมันทำให้คยูฮยอนเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาเล็กน้อย แต่สุดท้ายร่างบางก็หันกลับไปขดตัวลงในผ้าห่มเหมือนเดิม
                ขี้เซาชะมัด... นอนมองคนข้าง ๆ ด้วยแววตาเรียบเฉยพลางนึกถึงเมื่อวานที่เขามีเรื่องกับลูกค้ารายหนึ่งจากร้านของคยูฮยอนที่ดูเหมือนจะเป็นไอ้พวกบ้ากามที่มาลวนลามพนักงานในร้านพิซซ่าของเขา แต่ความหวังดีที่เข้าไปช่วย กลับทำให้โดนผู้จัดการต่อว่าจนไม่เหลือชิ้นดี แถมโดนไอ้คนข้างๆนี่ด่ากราดใส่ให้อีก...
                จะมานอนนึกแค้นก็ใช่เหตุ ว่าแล้วร่างสูงก็เดินเข้าห้องน้ำไปอีกรอบแล้วรีบอาบน้ำอย่างรวดเร็ว ก่อนจะออกมาเดินเข้าครัว ทำอาหารให้กับคนที่นอนซมอยู่บนที่นอน ที่ไม่รู้ว่ารายนั้นเขาตื่นสายหรือป่วยไปแล้วกันแน่... ข้าวต้มเสร็จเมื่อไหร่ค่อยไปดูแล้วกัน
                ยกจานอาหารเข้าห้องนอนที่เงียบสงบแล้ววางมันเอาไว้บนโต๊ะที่ข้างหัวเตียง ซีวอนค่อย ๆ สะกิดอีกคนที่ควรจะลืมตาตื่นได้แล้ว แรงเขย่าไม่มากมายถูกส่งไปเพื่อหวังให้อีกคนตื่นขึ้นมา คยูฮยอนสะบัดตัวเล็กน้อยเมื่อโดนสะกิด แต่เมื่อครั้งที่สองและสามตามมาเขาก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมองคนที่ยืนอยู่ข้างเตียง
                เอ่อ... กิน...กินข้าวก่อน
                อ่ะ... คืองง... เสียงที่ไม่คุ้นนักทำให้คยูฮยอนเริ่มลำดับเหตุการณ์ และความหนาวแปลก ๆ บนเรือนร่างของเขากำลังช่วยรื้อฟื้นเรื่องเมื่อคืนได้เป็นอย่างดี และทันทีที่มันถูกปะติดปะต่อกันอย่างครบถ้วนแล้ว ร่างบางก็รีบดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเองเอาไว้แล้วหันขวับไปมองนาฬิกาในทันที
                นะ...นาย หยิบผ้าเช็ดตัวให้หน่อย...สะกิดบอกคนที่เข้ามาปลุกให้ช่วยเหลือเขาสักนิด ซีวอนเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วมองหาผ้าเช็ดตัวในขณะที่คยูฮยอนอาศัยช่วงที่อีกฝ่ายหันหลังก้มลงมองสภาพกายของตัวเองใต้ผ้าห่มด้วยแววตาไม่สู้ดี... ไอ้น้ำหอมเวรตะไล ! TT
                “อ่ะ... เดินไหวนะ...
                จะรู้เหรอ ?” ปากไวเสมอ จริงมั๊ย ? ดวงตากลมสัญญาณไปบอกให้อีกคนหันหลังไป ซึ่งซีวอนก็โอเคที่จะทำอย่างนั้น เพียงแต่ไม่ว่าจะหันหรือไม่ กระจกก็สะท้อนภาพคนด้านหลังให้เห็นอยู่ดี ทันทีที่ผ้าห่มเปิดออก ร่างสูงที่เหลือบมองผ่านทางกระจกก็แทบต่อยหน้าตัวเอง รอยแดงจ้ำเป็นลายตามผิวขาวเนียน หนำซ้ำที่ต้นขาของอีกฝ่ายยังเปรอะคราบเลือดที่แห้งติดอยู่ด้วย... เมื่อคืนนี้มันอะไรกันวะ ?
                เอ่อ.. นาย...
                ฮะ ?”
                คือ... ลุกไม่ไหว... บอกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้มพร้อมกับเอาผ้าเช็ดตัวพันตัวเองไว้ให้ได้มากที่สุด ซีวอนหันหน้ากลับไปมองอีกคนที่งัวเงียเต็มทน พอหันมาเห็นรอยแดงเหล่านั้นเต็มตา เขาหล่ะอยากจะรู้ว่าเมื่อคืนตัวเองทำอะไรลงไปบนตัวคนๆนี้บ้างเหลือเกิน ทำไมมันถึงได้มากมายเหมือนตาสับประรดขนาดนี้
                ร่างสูงเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายแล้วประคองขึ้นมาแต่เหมือนว่าแม้แต่แรงจะยกแขนขึ้นมาเกาะบ่าเขา คยูฮยอนยังไม่มี เจ้าของผลงานศิลปะสีกุหลาบจึงตวัดแขนรวบไปรอบเอวอีกฝ่าย จับแขนเล็ก ๆ ขึ้นมาคล้องคอของเขาเอาไว้แล้วอุ้มอีกคน กึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว... เดี๋ยวผ้าหลุดอีก  = =
                “นั่งนิ่ง ๆ เดี๋ยวผมช่วย...
                ไม่ต้อง!
                เดินไม่ไหวอยู่นะ... สังขารหน่ะสังขาร
                นะ...นั่นแหละ...อาบได้
                เมื่อคืนเห็นมากกว่านี้อีกปลอบใจเหรอ ? ไม่เชิงหรอก แต่มันก็ทำให้อีกคนยอมจิ๊ปากแล้วเลิกดันตัวเขาออกมาจากม่านเสียที คยูฮยอนค่อยนั่งลงกับพื้นห้องน้ำในขณะที่ซีวอนก็จัดการพับขากางเกงขึ้นแล้วเดินไปหยิบสบู่ที่หน้ากระจกมาให้อีกคน
                ถูให้ ?”
                ไม่ต้อง... รีบเอื้อมมือไปคว้าสบู่มาจากมืออีกคนแต่นั่งบนพื้นกับยืนเต็มความสูงมันต่างกันราวฟ้ากับดิน ซีวอนนั่งลงข้างๆแล้วจัดการเทสบู่ใส่มือตัวเองแล้วรีบฟอกมันลงที่หลังของอีกฝ่ายช้า ๆ โดยที่อีกคนหมดโอกาสจะขัดขืน เพราะแค่ขยับขา... มันก็เจ็บแปล้บ ! ไปทั้งสะโพกเสียแล้ว
                แบมือ ให้ถูเองแล้วบีบครีมอาบน้ำลงบนมือของอีกคน คยูฮยอนค่อย ๆ ยืดขาออกมาแล้วถูไปตามเรียวขา ขจัดเอาคราบทั้งหลายทั้งปวงออกไป ไม่มีเสียงอะไรโพล่งออกมาจากปากของอีกร่างบางเลยแม้ซักนิดจนซีวอนเองก็ไม่รู้จะเดาได้อย่างไรว่าอีกฝ่ายนั้นรู้สึกอย่างไรกันแน่ในตอนนี้
                เจ็บเหรอ ?”
                “...”
                พี่เจ็บเหรอ ? ผมช่วยมั๊ย ?”
                ไม่ต้อง...ไม่เป็น...ไรกัดฟันตอบออกไปเสียงแผ่วจนอีกฝ่ายเริ่มใจสั่น ผมสีน้ำตาลปรกลงมาบังดวงตาหวานที่ตอนนี้เริ่มจะชื้นน้ำตา แต่คยูฮยอนต้องกลั้นมันเอาไว้ เจ็บสิ เจ็บโคตรๆ เจ็บมากด้วย เจ็บจนร้องไม่ออกไม่อยากจะเดินไปไหน มันมากกว่าเจ็บตามตัว แต่มันเจ็บข้างในอก มันแค้นว่าที่แท้เราเองก็สำส่อนเหมือนที่คนอื่นเค้าว่ากัน
                เฮ้ย... พี่ คือเมื่อคืน ผมผิดเอง... ผมขอโทษ พี่อย่าคิดมากนะ...ผมแค่
                ช่างเถอะ... ล้างออกให้หน่อย...เสียงหวานยังคงแผ่วเบาเหมือนเดิม ซีวอนจึงได้แต่ก้มหน้ารับคำขอนั้นแล้วจัดการให้อีกคนแต่โดยดี กระทั่งจบกระบวนการ เมื่อน้ำหยุดไหล ซีวอนย่อตัวลงให้อีกคนขึ้นมาขี่หลังและคยูฮยอนรับคำเชิญนั้นด้วยการคล้องแขนของตัวเองลงบนคอของอีกฝ่าย ยึดบ่ากว้างไว้วางใบหน้าของตัวเองที่ตอนนี้น้ำตาไหลลงมาจนถึงคาง
                ขอโทษ... กระซิบเบาๆด้วยน้ำเสียงสั่นเครือที่ข้างหูของซีวอนเมื่ออีกฝ่ายวางเขาลงบนเตียง ผ้าเช็ดตัวอีกผืนถูกหยิบมาเช็ดหัวให้อีกคน เช็ดน้ำตาที่ไหลลงมา ให้พ้นใบหน้าเรียวนั้นไปเสีย ด้วยระยะที่ใกล้ชิดขนาดนี้มันทำให้ซีวอนมองหน้าอีกฝ่ายได้ชัดขึ้นกว่าเดิม ขอโทษ ? บ้าหรือเปล่าไอ้พี่ติงต๊อง เค้าต่างหากที่ควรพูดคำนั้น ล่อพี่ซะยับเยินเลย = =
                “เอ่อ... พี่ไม่ต้องร้องสิ... ผมเข้าใจ ผมรู้...ผะ ยังไม่ทันพูดอะไรอีกคนก็กอดซีวอนเอาไว้แน่นจนร่างสูงพูดอะไรต่อไม่ได้ เสียงสะอื้นที่อยู่ใกล้ชิดเริ่มทำให้ซีวอนเริ่มจะใจสั่น นึกถึงคำพูดที่เคยกล่าวนินทาเจ้าของร้านเอาไว้ ก้องไปก้องมาเป็นลูกบอลอยู่ในหัว สารพัดคำเปรียบเปรยของเขาตอนนี้มันทำให้เขาเองรู้สึกโดนบีบหัวใจ เพราะนอกจากเขาจะเป็นคนพูดจาโกหกแล้ว เขายังทำเพียงแค่ตัดสินคนจากภายนอกเท่านั้น
                เอ่อ... พี่ครับ แต่งตัวแล้วกินข้าวดีกว่า ผมทำข้าวต้มมาให้ด้วยนะค่อย ๆ ผละออกจากร่างบางให้อีกฝ่ายได้จัดการแต่งตัวให้เรียบร้อย เปลี่ยนไปหยิบข้าวต้มที่ตั้งไว้จนชืดเสียแล้วมาให้อีกคนบนเตียง คยูฮยอนมองตามท่าทางของซีวอนแล้วนั่งรอนิ่งๆ เฉย ๆ อย่างว่าง่าย
                มาพี่ เดี๋ยวผมป้อน หนึ่ง สอง สั้ม ! อ้ามมมทำท่าอ้าปากให้อีกคนอ้าปากตามไปด้วย ฝ่ามือเล็กๆ ยกขึ้นมาปาดน้ำตาแล้วค่อย ๆ ตะล่อมข้าวต้มคำน้อยเข้าไปปากไปช้า ๆ แม้ว่ามันจะเย็นแล้วแต่รสชาติของมันก็ยังคงลงตัวอยู่ สมกับที่เป็นพ่อครัวมือดีของร้านจริงๆ
                เวลาหนึ่งวันผ่านไปแบบไม่เร็วไม่ช้า กระทั่งใกล้ค่ำ เมื่อพาคยูฮยอนไปอาบน้ำเสร็จแล้ว ซีวอนจึงต้องขอตัวกลับบ้านไปก่อน ซึ่งร่างบางก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแต่กล่าวขอบคุณด้วยน้ำเสียงเบาหวิว ร่างสูงเดินลงไปที่ชั้นล่างแล้วเข็นจักรยานออกมาเตรียมถีบกลับอย่างเงียบๆ... พรุ่งนี้เค้าควรหาอะไรมาฝากพี่คยูฮยอนหรือเปล่า ?

                หายดีแล้วหรือไง ?”
                เออ บอกปัดเพื่อนสนิทไปแบบนิ่ง ๆ จักรยานสีเหลืองจอดลงที่หน้าร้านเหมือนอย่างเคย จงฮุนเดินไปที่บานประตูแล้วผลักเข้าไป ร่างบางยืนจัดกระปุกยาบางอย่างอยู่ที่ด้านหลังเคาท์เตอร์โดยไม่ทันสังเกตว่ามีคนผลักประตูเข้ามาพอดี
                พี่คยูฮยอนคร้าบบบ !
                ห๊ะ ? เฮ้ยย !” เพราะเสียงเรียกของจงฮุนแท้ๆ ทำให้คยูฮยอนตกใจ ร่างบางจึงหันหน้าไปโขกกับฝาตู้พอดี ทำให้กระปุกยาที่ตัวเองเพิ่งจะจัดเข้าไป ร่วงลงมาที่พื้นกระจัดกระจาย เดือดร้อนถึงผู้มาเยือนทั้งสองต้องเข้าไปช่วยเก็บข้าวของในร้านกันอย่างรีบเร่ง โดยเฉพาะซีวอนที่ดูเป็นเดือดเป็นร้อนอย่างยิ่งเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังเดินไม่ค่อยถนัด
                เดี๋ยวผมเก็บเองดีกว่า พี่ไปนั่งเถอะร่างสูงหันไปบอกกับอีกฝ่ายที่ค่อย ๆ ก้มตัวลงไปอย่าทุลักทุเล จงฮุนที่อยู่ใกล้กว่าจึงค่อย ๆ พยุงคยูฮยอนเข้าไปนั่งแล้วลงมาช่วยซีวอนเก็บกระปุกยาที่ตกอยู่บนพื้น
                ไวอากร้า ? มึงน่าจะมีซักป๋องนะซีวอน ได้ข่าวว่านกเขาไม่ขัน ?”
                เหอะๆ แต่อย่างมึงต้องทีละสามเม็ด ?” โต้กลับเพื่อนซี้ไป แล้วเหลือบไปมองคยูฮยอนเล็กน้อย เห็นร่างบางนั่งขยับปากบ่นพึมพัมอยู่คนเดียวก็อดจะยิ้มไม่ได้ ครั้นเมื่ออ่านริมฝีปากอีกคนออก ก็เป็นเป็นอันต้องสะกดกลั้นเสียงหัวเราะของตัวเองเอาไว้เพราะคำบ่นของอีกคนมันช่างจะเหมือนเด็กสิ้นดี
ก็ถ้ามันไม่ขันป่านนี้กูก็คงเดินได้ดีกว่านี้หรอก
                มึงรู้ยัง เราได้หยุดหนึ่งอาทิตย์หว่ะ
                อ่าว ? ทำไมอ่ะ ?”
                พักร้อน... สาขาใหญ่เขาส่งนักงานมาฝึกงานสิบวัน กูเลยกะจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัดหว่ะ ไปด้วยกันป่าว ?”
                ไม่หว่ะ... ขอกูเที่ยวเดี่ยวๆดีกว่าเมื่อประเด็นการพูดคุยจบลง สองเพื่อนซี้ก็ลงมือตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อไปหากแต่กับเพื่อนกล้ามใหญ่ เขากลับนึกถึงเจ้าของร้านฝั่งตรงข้ามที่ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง เดินไหวหรือเปล่า ? แล้วป่านนี้จะกินข้าวหรือยัง... ว่าไปแล้ว เย็นนี้ก่อนกลับบ้าน แวะไปหาซักหน่อยดีกว่า

                ปิดแล้วครับ... ทันทีที่เสียงกระดิ่งดังขึ้น คยูฮยอนก็ตะโกนบอกทันที ซีวอนค่อย ๆ ผลักปิดประตูปิดลงแล้วเดินมาหาอีกคนที่กำลังก้มๆเงย ๆ อยู่กับสมุดบัญชี ร่างบางเหลือบขึ้นมามองอีกฝ่ายช้าๆแล้วก้มหน้าลงไปจัดการงานของตัวเองเหมือนเดิมโดยไม่คิดจะเอ่ยปากทักทายอีกฝ่ายแม้แต่น้อย
                หายเจ็บหรือยัง ?”
                ก็ดีขึ้นบ้าง ตอบโดยไม่คิดจะมองหน้าอีกฝ่ายทำให้ซีวอนคิดว่าอีกคนคงจะโกรธเขาอยู่ไม่น้อย คยูฮยอนปิดสมุดของตัวเองแล้วสอดมันลงไปที่ลิ้นชักใต้โต๊ะก่อนจะพยุงตัวขึ้นยืนเต็มความสูง มองหน้าอีกฝ่ายด้วยแววตาว่างเปล่า ไม่สื่ออะไรใดๆทั้งสิ้น
                ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ทำตัวเป็นภาระให้นายหรอก
                ไม่ใช่แบบนั้น อันที่จริงผมแค่อยากขอโทษ
                “... ฉันสะเพร่าเองแหละยิ้มบางๆบอกอีกคนแล้วเดินช้าๆไปที่ชั้นวางซีดี มือบางค่อย ๆ พลิกมันลงมาแล้วเอื้อมมือไปดึงโซ่เส้นเล็กเพื่อให้มู่ลี่ปิดบังข้าวของภายในร้านให้เรียบร้อย เมื่อซีวอนเห็นดังนั้นจึงเดินไปยังอีกฝั่งแล้วทำแบบเดียวกันกับอีกฝ่ายโดยไม่ลังเลใจ
                ดวงตาคมกวาดมองไปรอบร้าน ไม่ใช่แววตาที่ขยะแขยง ไม่ใช่แววตาที่ดูถูกดูแคลน แต่มันนิ่งเฉย เขามองผ่านกระจกไปยังร้านพิซซ่าฝั่งตรงข้าม พนักงานฝึกงานใหม่คนหนึ่งยกขยะมาทิ้งที่ด้านนอกร้านด้วยแววตาเบื่อหน่าย วูบหนึ่งที่เขาคิดขึ้นมาได้ว่าโลกนี้ คนเราก็อาจต้องทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ เหมือนกับตัวเขาที่ไม่ชอบการตีแป้ง แต่ก็ต้องทนเรียนมันเรื่อยมา กระทั่งตอนนี้ แม้เขาเองเป็นพ่อครัว เขาก็ยังไม่ชอบการตีแป้งอยู่ดี คยูฮยอนเองอาจจะไม่อยากขายของพวกนี้ก็ได้ แต่มันมีเหตุผลจำเป็นหนิ ที่จะต้องทำ
                มองอดีตอยู่เหรอ ?”
                “...” น้ำเสียงเรียบสะกิดซีวอนให้หลุดออกมาจากความคิดของตัวเอง เขาหันไปมองใบหน้าของคนข้างๆที่จ้องมองไปยังจุดเดียวกับเขา แขนเรียวเอื้อมไปดึงมู่ลี่ปิดลงแทนอีกฝ่ายที่ยังคงค้างมือเอาไว้อย่างนั้นแล้วเดินกลับไปที่เคาท์เตอร์เพื่อจัดการปิดไฟภายในร้าน แล้วจึงหยิบสเปรย์ดับกลิ่นขึ้นมาฉีดในอากาศ
                นายแยกแยะชีวิตออกแล้วเหรอ ?”นึกไปถึงเมื่อไม่กี่วันก่อนที่เขายืนด่าซีวอนปาวๆเนื่องจากหมอนี่ดูถูกเขาจนเสียหาย ร่างบางนั่งลงบนโซฟาแล้วหันหน้าไปจ้องอีกฝ่ายที่ยังคงยืนค้างอยู่ที่เดิม
                หมายความว่าไง...
                ความชอบกับความจำเป็น... ไม่ได้รังเกียจมันแล้วนี่ ?” ดิลโด้อันโตถูกเขวี้ยงไปใกล้ๆกับที่ซีวอนยืน ร่างสูงก้มลงมองเจ้าแท่งพลาสติกจอมปลอมนั้นแล้วหยิบมันขึ้นมาถือเอาไว้ หมุนไปหมุนมาในอากาศแล้วเดินลงมานั่งข้างๆอีกคนที่เอนคอมองเพดานอยู่
                คงงั้นหล่ะมั้งครับ...
                เฮ้อ... เกลียดความจำเป็นที่ทำให้เราชอบ ว่ามั๊ย ?”
                หมายถึง ?” ยังคงสนุกกับการสำรวจอาวุธในมือของตัวเอง คยูฮยอนมองอีกคนที่เหมือนจะอยากรู้อยากเห็นกับเจ้าดิลโด้เป็นพิเศษ ร่างบางคว้ามันมาจากมือของอีกคนแล้วกดปุ่มให้มันทำงานก่อนจะส่งกลับไปให้ซีวอนเหมือนเดิม
                ฮะๆ... ถ้ามันมีซักร้อยอัน เอามาแต่งบนต้นคริสมาสต์คงสวย
                สะท้อนความหื่นกามของซานต้าอย่างชัดเจน คยูฮยอนคลี่ยิ้มออกมาแล้วจ้องไปที่ปลายสุดของแท่งพลาสติกซึ่งมีแสงสีชมพูปนม่วงวูบวาบอยู่ ซีวอนหันไปมองหน้าอีกฝ่ายทันทีโดยใช้แสงนั้นเป็นเหมือนไฟฉายส่องมองแววตาของอีกฝ่าย
                บางทีฉันก็อยากมีความรู้สึกที่แตกต่างกับมันนะ
                “...” คยูฮยอนลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล ขาเรียวค่อย ๆ ก้าวเดินออกไปจากที่นั่งตรงนั้นในขณะที่ซีวอนยังคงจ้องมองไปที่เจ้าแท่งนั้นอยู่เช่นเดิม แขนแกร่งตวัดดึงร่างบางที่กำลังเดินผ่านหน้าเขาไปลงมานั่งบนตัก กดสันจมูกของตัวเองลงบนแผ่นหลังไม่กว้างนั้น นิ้วยาวเกี่ยวปิดสวิชต์ให้กับมัน บรรยากาศภายในห้องจึงเหลือเพียงความมืดและเขาสองคน
                เมื่อคืนผมรู้ตัว...
                ฉันก็รู้
                ตอนที่เราอยู่บนเตียงผมรู้... แต่ผมหยุดไม่ได้
                ฉันก็หยุดไม่ได้
                ตอนนี้ผม... มันอาจจะดูงี่เง่า แต่ซีวอนก็ไม่อาจหยุดลงไปได้จริง ๆ ? หรือน้ำหอมนั่นรั่วออกมาจากตู้ ? แต่ใครจะสนใจในเมื่อคยูฮยอนก้มหน้าลงมาประทับจูบเบาๆบนริมฝีปากของเขา จะเรียกหาน้ำหอมทำไม ในเมื่อนิ้วเรียวนั้นกำลังกลัดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาออกทีละเม็ด แล้วรูดปลายนิ้วลงบนอกของเขาอย่างจงใจ
                แบบนี้หรือเปล่า ?”
                                ประมาณนั้นแหละครับ กรีดรอยยิ้มให้อีกฝ่ายแล้วผลักร่างบางนอนลงบนโซฟา ลิ้นเรียวสอดเข้าหาอีกฝ่ายเหมือนกับมือของซีวอนที่สอดเข้าไปเอวคอดใต้ร่มผ้า กลิ่นน้ำหอมผู้ชายอ่อนๆปนกับกลิ่นของพิซซ่ากระทบกับประสาทการรับรู้ของคยูฮยอน ร่างบางขบเบาๆลงบนริมฝีปากอีกฝ่ายเบา ๆ
                พิซซ่าร้านนายก็อร่อยนะ... แต่คนทำอร่อยกว่า ปลดเสื้อของอีกคนลงไปกองอยู่บนพื้น ดวงตาหวานมองเข้าไปภายในนัยน์ตาคมนั้น ซีวอนยิ้มบางๆออกมาโดยไม่พูดอะไร ริมฝีปากบางขบลงบนอกของอีกคน แลกกันกับฝ่ามือที่วกวนอยู่กับการปลดกางเกงของยาวของเขาลงไป
                พลิกร่างบางลงแนบโซฟาแล้วค่อยๆถอดเสื้อยืดคอย้วยสีเทาออกไปให้พ้นตา มือหนาสัมผัสลงบนอกของอีกฝ่าย ไล้ลงมาเรื่อยๆ ในขณะที่อีกมือ ยังคงปรนเปรออยู่ที่ท่อนเนื้อซึ่งกำลังแข็งตัวขึ้นเรื่อยๆ อารมณ์ที่ปะทุสูง แสดงออกมาผ่านความชื้นแฉะที่คนตัวใหญ่กว่าสัมผัสได้จากปลายส่วนนั้น มันเยิ้มจนทำให้ซีวอนอยากครอบครองเรือนร่างนี้เร็วๆ
                อื้ม...ครางหวานเรียกร้องให้อีกฝ่ายลงไม้ลงมือให้มากกว่านี้ ดวงตากลมส่งสายตาหวานเชื่อม จ้องลงที่ใบหน้าอีกคนในขณะที่เรียวขาของตนก็แยกออกตาม พาดปลายเท้าเอาไว้ที่พนักพิง รอให้นิ้วที่ไล้วน สอดเข้ามาข้างในช่องทางที่เปิดรับ ริมฝีปากเรียบยกยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจะค่อยๆลากปลายนิ้วลงมาเรื่อยๆ จนถึงปากทางเข้าที่กำลังรอการเข้ามาของแขกคนพิเศษ
                กดปลายนิ้วลงไปช้าๆ แต่กลับเรียกเสียงครวญครางจากอีกฝ่ายได้มหาศาล คยูฮยอนกระตุกอกเล็กน้อย ขมวดคิ้วจนเป็นปมอยู่ที่กลางหน้าผากเพราะเจ้าของนิ้วพี่ไม่ยอมสอดลงไปจนสุดเสียที สุดท้าย สะโพกบางจึงรับหน้าที่กระแทกเข้าไปหาสัมผัสนั้นด้วยตนเอง ทำเอาซีวอนประหลาดใจไม่น้อย แต่ก็ยังคงสนองกลับด้วยการกดนิ้วที่สองเข้าไปจนมิดอย่างไม่รอช้า
                อ๊า... ซีวอน... ครางเรียกคนขี้แกล้งเพราะความไม่พอใจ มือเล็กๆ จิกลงบนที่พนักพิง ระบายอารมณ์และความต้องการที่เหมือนจะสูงเกินควร ร่างสูงกระตุกรอยยิ้มแล้วก้มลงทาบริมฝีปากกับอีกคน สอดลิ้นเข้าไปกวาดต้อนพร้อมด้วยการหยอกล้อช่องทางด้วยการวนนิ้ว ควานไปทั่วๆ ทำเอาอีกร่างกระตุกขึ้นมาโอบรอบคออีกฝ่ายในทันที
                เริ่มขยับปลายนิ้วเข้าออก ในขณะที่ปลายจมูกโด่งไล้ไปทั่วๆอกขาวเนียนจองอีกคน คยูฮยอนขยับสะโพกรับจังหวะนั้น ฝ่ามือเรียวกดไปที่กลุ่มผมสีน้ำตาลเข้มให้แนบลงมาข้างตัวเพื่อนสนองอารมณ์ของตนเอง พร้อมด้วยการกวาดสายตาลงไปมองที่มือที่กำลังขยับเข้าออกอยู่ในร่างกายของตน
                ซีวอน... อ๊ะ ยังพูดไม่ทันจบประโยค นิ้วของพี่ก็กระแทกเข้าหาตัวเขาอย่างแรง คยูฮยอนสะดุ้งขึ้นมาแล้วรีบก้มลงมามองอีก่ายของตัวเอง ซีวอนเงยหน้าขึ้นมาหาร่างบางแล้วยักคิ้วให้เล็กน้อย ในขณะที่ร่างบางส่งสายตาหวานเชื่อมไปตอบกลับ พร้อมกับช้อนปลายคางนั้นขึ้นมา...
                แค่นี้เองเหรอ ?” ทันทีที่คยูฮยอนพูดจบ นิ้วที่สองและสามก็ตามเข้าไป ควานลึกอยู่ภายในนั้น ราวกับต้องการล้วงหาสมบัติล้ำค้า ร่างบางเผยอริมฝีปาก ครางออกมาไม่เป็นศัพท์ ดิ้นเร่าไปทั่วในขณะที่นิ้วทั้งสามยังคงวนอยู่ภายในร่างกายของตน
                อ๊า ... อ๊า ครางซ้ำครั้งแล้วครั้งเล่า ขาเรียวชันขึ้นมาทั้งสองข้าง ตอดรับนิ้วที่ดันลึกเข้ามาเรื่อยๆจนสุด ร่างสูงถอนนิ้วออกมาอย่างรวดเร็วก่อนจะกระแทกท่อนเนื้อของตนเองเข้าไปแทนที่ ร่างทั้งร่างทาบลงกับตัวของคยูฮยอน เลื่อนริมฝีปากของตนเอง ดูดดุนไปที่ยอดอกของอีกคน มืออีกข้างก็ลูบไปทั่วตัว
                อื้อ... อ๊า.. อย่างนั้นแหละ...อื้มมครางตอบรับด้วยความพอใจ ขาที่แยกออกอยู่แล้วยิ่งแยกให้กว้างขึ้นกว่าเดิม มือบางกดที่ท้ายทอยของร่างสูงเข้ามาพร้อมขยับสะโพกรับแรงกระแทกถี่ระรัว ฟันขาวขบไปบนยอดอก แล้วเม้มเนื้อนวลนั้นจนเป็นรอยแดงที่เห็นชัด
                เร็วอีก...อ๊า...จะไปแล้ว.. สั่งกำชับบอกคนที่กำลังลิ้มรสร่างกายของตนเองอยู่ ซีวอนเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ร่างบางก่อนจะเร่งจังหวะสะโพกของตนเองเข้าไปอีก เสียงครางหวานดังขึ้นมาจนสุดพร้อมกับความรู้สึกแฉะบริเวณหน้าท้องของอีก่าย ร่างบางทิ้งตัวลงนอนยวบไปกับเบาะสีแดง หอบหายใจจนอกกระเพื่อมเห็นซี่โครงชัดเจน
                ยังไม่ทันจะได้หยุดพัก คยูฮยอนพลิกตัวขึ้นมาอีกครั้ง ก้าวลงไปนั่งอยู่บนพื้น จ่อริมฝีปากลงตรงกลางตัวของอีกคนที่นั่งพิงพนักอยู่ มือบางเอื้อมขึ้นมาลูบไล้ไปทั่วๆ จนสัมผัสได้ถึงความต้องการที่ผนวกรวมกันจนแข็งอยู่ภายใน นิ้วเกลี่ยไปทั่วๆอย่างใจเย็น แล้วจึงค่อยใช้ปลายลิ้นของตัวเอง โลมเลียไปทั่วราวกับเป็นอมยิ้มของเด็กตัวเล็กๆ
                อื้มม.. คยูฮยอนอ่าครางเรียกชื่ออีกฝ่ายพร้อมกับกดกลุ่มผมสีดำลงไปให้แนบชิด ฝ่ามือเล็กหยอกเล่นไปกับส่วนนั้นด้วยความสนุกสนาน ในขณะที่ลิ้น ก็เก็บในทุกรายละเอียดความเสียวซ่าน กวัดไปทั่วๆจนซีวอนต้องบิดสะโพกเพื่อคลายความต้องการของตนเองไม่เผลอกระแทกเข้าหาอีก่ายไปมากกว่านี้ หากแต่คนข้างล่าง ก็ช่างจะยั่วยวนเขาด้วยการแหกแข้งแหกขาเสียเหลือเกิน
                ปลายลิ้นเรียวโลมเลียไปจนทั่ว ซีวอนครางเบาๆแล้วดึงอีกฝ่ายขึ้นมา แขนแกร่งโอบไปรอบเอวบางคอดแล้วปล่อยสะโพกมนลงบนหน้าตักของตัวเอง ดวงตาหวานจ้องมองอีกฝ่ายพร้อมประทับริมฝีปากของตัวเองลงไป ฝ่ามือเล็กยังคงทำหน้าที่ปรนเปรอให้อีกฝ่ายไม่หยุดหย่อนกระทั้งร่างสูงปล่อยความต้องการออกมาจนเต็มฝ่ามือบาง
                หืม ?”
                เปล่า... อ๊ะ !” รู้สึกตัวอีกครั้ง ร่างบางก็โดนล่วงล้ำด้วยแท่งพลาสติกจอมปลอมที่เป็นประเด็นอยู่เมื่อครู่ ซีวอนกดมันเข้าไปลึกกว่าเดิมจนคยูฮยอนสะดุ้งด้วยความตกใจ นิ้วยาวเกี่ยวสวิชต์ของมันให้เริ่มทำงาน เล่นเอาอีกคนแทบจะทรงตัวไม่อยู่บนตักของอีกฝ่าย
                ซีวอน... อ๊ะ... อ๊า... อ๊า...กดใบหน้าของตัวเองลงบนบ่าของอีกฝ่ายด้วยอายเสียงหวานที่ร้องระงม ร่างสูงยักคิ้วขึ้นก่อนจะจับไปที่ท่อนเนื้อของอีกฝ่ายแล้วรูดมัน พร้อม ๆ กับมืออีกข้างที่ขยับแท่งพลาสติกเข้าออก คยูฮยอนยึดบ่าแกร่งเอาไว้แน่น ใบหน้าหวานเชิดขึ้น ขบมั่วไปตามใบหูของอีกฝ่าย ไล้โครงหน้าคมเข้มนั้นลงมาเรื่อย แต่ความรู้สึกที่แล่นพล่านก็ไม่ได้น้อยลงไปเลยสักนิด
                ไม่...อ๊า...ซีวอน...อ๊ะ...ฮ๊า... ถอนหายใจยาวเมื่อสิ่งที่ทำให้เขาอึดอัดได้สงบลง ร่างบางทิ้งตัวลงกับอีกฝ่ายแบบโถมทับทั้งร่าง คนที่นั่งเป็นเบาะถอนเจ้าอาวุธร้ายออกมาจากอีกฝ่ายแล้วอุ้มร่างบางเดินขึ้นบันได้ไป เสียงหอบหายใจที่ห่างหูไปไม่ถึงสิบเซนบอกได้ว่าคนที่ซบอยู่นั้นเหนื่อยแค่ไหน... แต่เดี๋ยวก็หาย ใช่มั๊ยหล่ะ ?
               
                                ตวัดแขนเรียวมากอดคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ ด้วยลักษณะท่าทางที่เรียกว่าออดอ้อน คยูฮยอนซุกหน้าลงกับอกเปล่าที่กระเพื่อมขึ้นลง เสียงท้องร้องปลุกอีกคนให้ตื่นจากความฝันเช่นกัน ดวงตากลมช้อนขึ้นมองดวงตาคมที่จ้องมาทางเขาเหมือนรู้ว่าอะไรที่เขากำลังพยายามเรียกร้อง
                นะ...
                ไหนหล่ะ ? ค่าอาหารนิ้วเรียวยกขึ้นดีดที่ปลายจมูกอีกฝ่ายอย่างหม่นไส้ แล้วแทนที่มันด้วยริมฝีปากของตัวเองที่แตะลงไปเบา ๆ ซีวอนลุกขึ้นจากเตียงพร้อมกับผ้าเช็ดตัวที่พันอยู่รอบเอวปล่อยให้ร่างบางนอนรออย่างเดิม... คยูฮยอนยิ้มตามร่างสูงที่เดินออกไปก่อนจะหลับตาเข้าสู่ความฝันของตัวเองอีกครั้ง
ทัศนคติ ความรู้สึก มุมมอง ความคุ้นเคย สิ่งที่เห็น ความต้องการ เปลือกนอก
ความรัก


ปัดฉิมลิขิต.
                หน้าตาดูสดใสขึ้นนะ... ไปทำไรมาวะ ?”
                อยู่แถวนี้แหละ พักผ่อนเต็มที่ ตอบเพื่อนสนิทไปอย่างคุ้นเคยก่อนจะจัดการปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองให้เรียบร้อย จงฮุนเดินยกพิซซ่าออกเสิร์ฟแล้วกลับเข้ามาช่วยลงหน้าพิซซ่าเหมือนเดิม ซีวอนยิ้มออกมาน้อย ๆ พร้อมกับฮัมเพลงไปด้วย
                เดี๋ยวไปหาอะไรกินกันมั๊ย ?” เมื่อเห็นว่าใกล้เวลาเลิกงานแล้ว จงฮุนก็เอ่นปากชวนเพื่อนซี้ ซีวอนพยักหน้าเป็นอันว่าตอบตกลง ครั้นเมื่อเสียงกริ่งของพิซซ่าถาดสุดท้ายดังขึค้น สองเพื่อนซี้ก็ได้เวลาเปลี่ยนกะงาน ทั้งคู่จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนจะเดินออกมา
                ร่างสูงเดินข้ามไปฝั่งตรงข้ามเพื่อเอาจักรยานเหมือนเดิม ฝ่ามือหนาเคาะเรียกคนในร้านให้เดินมาหา คยูฮยอนเงยหน้าขึ้นมองก่อนะจเปิดประตูออกมาหารุ่นน้องทั้งสองที่ยืนอยู่หน้าร้าน คนหนึ่งอารมณ์ดีจนผิดผี ส่วนอีกคนก็งงเป็นไก่ตาแตก
                ไปกินข้าวด้วยกันมั๊ย ?”
                ที่ไหนหล่ะ ?”
                ที่ไหนวะ ?” หันไปถามต้นเรื่องคนชวน จงฮุนยักไหล่เป็นเชิงว่าหาเอากลางทาง คยูฮยอนพนักหน้าตกลงแล้วจัดการรูดมู่ลี่ลงปิดร้านก่อนจะเดินออกมาจากตัวร้าน พร้อมกับอ้อมไปด้านหลังเข็นจักรยานสีเหลืองกับอีกคันออกมาด้วย
                มึงปั่นไปก่อนเลย... เดี๋ยวกูตาม
                อ่ะ...เออๆ จงฮุนถีบจักรยานนำหน้าอีกสองคู่ที่นั่งซ้อนท้ายกันอยู่ มือก็ยกขึ้นเกาหัวด้วยสีหน้างง ๆ .... มันไปได้กันตอนไหนวะ ?


 end

No comments:

Post a Comment