||
SEXY SHOOT ||
ตึก
ตึก ตึก เสียงฝีเท้าเดินพลางวิ่งของใครบางคนกำลังรีบเร่งไปให้ถึงจุดหมาย หนุ่มน้อยร่างเล็กเหนื่อยหอบเมื่อมาหยุดอยู่หน้าประตูไม้บานใหญ่
ก่อนนัยน์ตากลมโตจะเบนสายตาไปเห็นป้ายประกาศที่ติดอยู่หน้าห้อง
ปิดรับสมัครแล้ว จาก ชมรมถ่ายภาพ
ร่างบางถึงกับขาอ่อนทั้งที่เขาอุตส่าห์รวบรวมความกล้าจะมาสมัครได้แล้วแท้ๆ
กลับต้องมาฝันสลายเพราะโดนทิ้งให้ทำเวรอยู่คนเดียว สายตาแห่งความผิดหวังจ้องมองใบสมัครในมือก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความเสียใจ
คนตัวเล็กตัดสินใจหันหลังเตรียมจะกลับบ้าน ขาเล็กกำลังจะก้าวเดินออกไป
แอดดด
ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกจากคนข้างใน
"นี่รุ่นน้อง!! จะมาสมัครชมรมถ่ายภาพใช่ไหม" เสียงแหบในลำคอของชายหนุ่มตัวสูงตะโกนเรียกคนที่กำลังจะเดินออกไปไกล
"เอ๋" ปลายเสียงสูงดูจะแปลกใจกับสิ่งที่ได้ยิน
นัยน์ตากลมโตเหลือบซ้ายเหลือบขวาแต่ก็ไม่พบใคร นิ้วเล็กชี้เข้าที่ตนเองเพื่อให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายเรียกเขาใช่ไหม
"นายนั่นและ ไอ้ตัวเล็ก
ถ้าจะมาสมัครเข้าชมรมล่ะก็ยังมีที่ว่างสำหรับนายอยู่นะ" รุ่นพี่ตัวสูงยิ้มกว้างโชว์ฟันครบสามสิบสองซี่ต้อนรับรุ่นน้องที่กำลังจะเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่สดๆร้อนๆ
"ข..ขอบคุณฮะ โดคยองซู ปีหนึ่ง คณะเภสัชศาสตร์ ขอความกรุณาด้วยฮะ" รอยยิ้มหวานสุดแสนจะดีใจถูกส่งกลับคืนไปให้รุ่นพี่ตัวสูงเช่นกัน
คนตัวเล็กโค้งขอบคุณอยู่หลายทีกว่าจะหยุด
ทำเอาคนเป็นพี่อดจะเอ็นดูในความนอบน้อมของรุ่นน้องตัวเล็กไม่ได้
"อ่า ไม่ต้องพูดทางการขนาดนั้นก็ได้ พี่ ปาร์คชานยอล รองประธานชมรมถ่ายภาพ
ยินดีต้อนรับ"
"ว่าแต่ ทำไมถึงอยากเข้าชมรมถ่ายภาพล่ะ" หลังจากเข้ามาในห้อง หนุ่มรุ่นพี่ก็จัดการถามคำถามธรรมดาๆแต่กลับทำให้คนถูกถามหน้าขึ้นสีได้ไม่ยาก
"เอ่อ ค คือ ผมก็แค่ชอบถ่ายรูปน่ะฮะ" คนตัวเล็กตอบกลับไปอย่างอ้อมแอ้ม
นัยน์ตากลมโตวูบไหวเมื่อนึกถึงสาเหตุที่ทำให้ตนมานั่งอยู่ตรงนี้
พลันพวงแก้มใสก็แดงขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล
"อ่า ฉันว่า ฉันพอจะรู้เหตุผลของนายนะ" คนตัวสูงยิ้มกว้างให้แต่สายตานั้นกลับมองรุ่นน้องตัวเล็กอย่างมีเลศนัย
คยองซูก็ยิ่งลนลานอยู่ไม่สุขเหมือนเด็กกำลังโดนสอบสวนความผิด คนตัวเล็กนั่งเล่นมือตัวเองไม่ยอมเงยหน้าขึ้นสบสายตารุ่นพี่ตัวสูง
"อ่า งื้ออ อย่าแกล้งกันสิฮะ พี่ชานยอล" รุ่นน้องตัวเล็กเริ่มออกอาการงอแงเมื่อคนอายุมากกว่ายังไม่ยอมหยุดแกล้งกันสักที
"ฮาฮ่า โดคยองซูนายนี่มันน่ารักชะมัดเลย ถึงว่าล่ะ..."
ชานยอลหยุดคำพูดเอาไว้แค่นั้น
"ถึงว่าอะไรหรอฮะ" นัยน์ตากลมโตฉายแววฉงน
"คยองซูอา
นายก็นั่งเล่นในห้องไปก่อนแล้วกันเดี๋ยวพี่จะเอาใบรายชื่อไปส่งฝ่ายกิจกรรมก่อน อย่าซนล่ะ
ไอ้ตัวเล็ก" ชานยอลทำเป็นไม่ได้ยินสิ่งที่ร่างบางถาม ยังไม่ทันที่ร่างบางจะเอ่ยตอบรับชายหนุ่มรุ่นพี่ตัวสูงก็เปิดประตูออกไปซะแล้ว
ชายหนุ่มร่างสูงผิวสีแทนในเครื่องแบบนักเรียนเรียบๆแต่คนใส่กลับทำให้มันดูดีได้อย่างน่าประหลาดใจ
หลังจากที่ทำธุระเสร็จ ร่างสูงก็ต้องกลับมาเคลียร์งานที่ห้องชมรมต่อ
"จะไปไหนวะ ชานยอล"
ริมฝีปากได้รูปเอ่ยถามเพื่อนรักที่เพิ่งออกมาจากห้องชมรม
"กระผมก็กำลังจะไปส่งใบรายชื่อไงครับ ท่านประธานจงอิน" น้ำเสียงยียวนกวนประสาทชวนให้ผู้มาใหม่อยากจะประทับบาทางามๆใส่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนรักซะจริง
"จะไปไหนก็ไปๆ" ท่านประธานโบกมือไล่คนตัวสูงอย่างตัดความรำคาญ
"เออๆ กูรับเด็กใหม่มาเพิ่มคนนึงนะ" ชานยอลบอกกับเพื่อนตัวเอง
ดวงตาโตฉายแววอย่างคนนึกสนุก
"จะรับทำไมเยอะแยะ เข้ามาก็ทำอะไรไม่เป็น เกะกะ"
ดูเหมือนท่านประธานจะไม่เห็นด้วยกับการกระทำของรองประธานชมรมสักเท่าไร
มือหนาบิดลูกบิดประตูก่อนจะเดินเข้าห้องชมรมไป
"แล้วมึงจะขอบใจกู คิมจงอิน"
แอดดด
เสียงประตูถูกเปิดออกเรียกความสงสัยจากคนในห้องได้ไม่ยาก
"พี่ชานยอลลืมอะไรไว้หรอฮะ"
น้ำเสียงหวานหูเอ่ยถามผู้ที่เข้ามาใหม่โดยไม่รู้ตัวสักนิดว่าไม่ใช่คนที่ตัวเองนึกถึง
นัยน์ตากลมโตไม่ได้ละสายตาไปจากภาพถ่ายในมือเลยแม้แต่น้อย
"..."
ร่างสูงไม่ได้ตอบอะไรกลับไป สายตาคมจ้องไปยังร่างบางจนรู้สึกตัว
นัยน์ตากลมโตเบิกกว้างจนลูกตาแถบจะถลน
ริมฝีปากอวบอ้าพะงาบๆแต่กลับไม่มีเสียงอะไรเล็ดรอดออกมา
คนตัวเล็กลุกขึ้นโค้งให้หนุ่มรุ่นพี่อย่างงกๆเงินๆก่อนขาเล็กจะรีบก้าวออกจากห้องนี้ให้เร็วที่สุด
โอ๊ะ
คำอุทานที่ส่งเสียงร้องอยู่ในใจก่อนที่คยองซูกำลังจะล้มไปจูบกับพื้น
"เห้ย!! ระวัง" เสียงทุ้มตะโกนออกมา
มือหนาคว้าเข้าที่เอวบางไว้ได้ทันแต่สิ่งที่กำลังจะเกิดหลังจากนี้นั้น
จุ้บ
ไร้ซึ่งปฏิกิริยาสิ่งมีชีวิตภายในห้อง รู้เพียงสองอย่างว่าภายในสายตาคมกำลังสะท้อนภาพพวงแก้มอิ่มสีแดงฉ่าที่แม้แต่ลูกมะเขือเทศยังอายกับสัมผัสนุ่มๆเหมือนปุยนุ่นที่ยังไม่จางหายไปจากริมฝีปากของเขา
"ขอ ขอโทษฮะ รุ่นพี่จงอิน!!"
ริมฝีปากอวบตะโกนโพลงออกมาเมื่อได้สติก่อนจะคนตัวเล็กจะรีบวิ่งออกไปพร้อมกับพวงแก้มใสที่ยังแดงไม่จางหาย
ปังง
เด็กหนุ่มรุ่นน้องได้ออกไปแล้วแต่คนที่ยังยืนอยู่ตรงนั้นจะรู้ไหมว่าตัวเองยกยิ้มจนปากจะฉีกถึงใบหูอยู่แล้ว
ไม่สบอารมณ์
มันคงจะเป็นอะไรที่ตรงกับความรู้สึกในตอนนี้ของหนุ่มรุ่นพี่ผิวสีแทนที่สุดแล้ว
ตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาในชมรม เขาก็พบว่า
คนตัวเล็กไม่คิดจะเข้ามาทักทายหรือพูดคุยกันเลยสักคำ แทบพอเผลอไปสบตาก็หันหน้าหนี
หนุ่มผิวแทนจะไม่เป็นเดือดเป็นร้อนเลยถ้าคนที่ขโมยจุ้บตนเมื่อวานไม่ได้นั่งหัวเราะคิกคักกับผู้ชายคนอื่นอยู่แถมก็ไม่เข้าใจตัวเองอยู่เหมือนกันว่าเขาจะหงุดหงิดไปทำไม
จะบอกว่า
"หึง" ก็คงไม่ใช่(มั้ง).....
คยองซูไม่แม้แต่จะคิดเหลียวมองไปข้างหลัง
คนตัวเล็กสัมผัสได้ถึงรังสีบางอย่างบ่งบอกว่าคนข้างหลังกำลังจ้องมาที่ตน
จริงๆวันนี้เขาจะไม่เข้าชมรมด้วยซ้ำหลังจากที่ตนซุ่มซ่ามเผลอไป...เอ่อ..ไปนั่นเข้า
กว่าเจ้าตัวจะข่มตานอนได้ก็เกือบจะเช้าอยู่แล้ว ยิ่งพอมาเจอหน้าหนุ่มรุ่นพี่จะๆ
ร่างบางก็ยิ่งกระสับกระส่ายเข้าไปใหญ่จะเข้าไปทักก็ไม่กล้า
ได้แต่คอยหลบหน้าเพราะคิดว่ารุ่นพี่ในดวงใจต้องเกลียดตัวเองมากๆแน่
"วันนี้ก็เป็นแรกของการเข้าชมรม เราจะมาจับบัดดี้กัน อ่าวล้วงเลยๆ" โทนเสียงทุ้มติดไปทางแหบตะโกนบอกพลางยื่นกล่องฉลากไปให้แต่คนเสี่ยงดวงจับกัน
หนึ่ง..
ตัวเลขพิมพ์หนาปรากฏบนกระดาษฉลากสีขาวนวล มือบางกุมฉลากไว้ในมืออย่างตื่นเต้นว่าจะได้ใครมาเป็นพี่บัดดี้
ถ้าได้พี่ชานยอลก็ดีนะสิ
หวังว่าวันนี้โชคจะเข้าข้างโดคยองซูคนนี้นะ
"จับกันหมดแล้วนะ
เดี่ยวพอพี่เรียกน้องคนไหนได้หมายเลขอะไรก็เดินออกมานะ"
รุ่นพี่ตากวางเอ่ยขึ้นก่อนจะก้าวมายืนหน้าห้อง
เพียงประโยคเดียวสามารถหยุดเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวได้เงียบสกัด
หมายเลขต่างๆถูกเรียกออกไปเรื่อยๆแต่ทำไมเลขหนึ่งถึงยังไม่ออกสักที
เขาจับได้หมายเลขแรกเลยนะ!!
"หมายเลข 1" คยองซูสะดุ้งตัวขึ้น
นัยน์ตากลมเลิกลักไปมา ขาเล็กค่อยๆก้าวออกไปยื่นหน้าห้อง
ทุกสายตาจ้องมาที่ร่างบางเป็นตาเดียว ท่านประธานชมรมถ่ายภาพลุกขึ้นจากโต๊ะประจำก่อนจะมาหยุดยืนตรงหน้าคู่กรณี
"ว้าว นายนี่โชคดีชะมัดเลย คยองซูอา ได้บัดดี้เป็นถึงท่านประธานชมรม" ปาร์คชานยอลตบไปที่ไหล่เล็กเบาๆ
ริมฝีปากได้รูปกระตุกยิ้มอย่างมีเลศนัยให้เพื่อนรัก
ยุ่งไม่เข้าเรื่อง...ไอ้คุณปาร์คชานยอล
ที่มาคะยั้นคะยอขอเปลี่ยนฉลากกับเขาก็เพราะอย่างนี้นี่เอง จงอินเบนสายตาจากเพื่อนสนิทมาเป็นคนตัวเล็กตรงหน้าแทน
แต่บัดดี้ของเขากลับเอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมเงยขึ้นมาซบตากันตรง
"ไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นมาแสดงความรับผิดชอบริมฝีปากพี่หน่อยหรอครับ
คยองซู" ขายาวก้าวเข้าไปประชิดตัว ริมฝีปากได้รูปแนบชิดบนใบหูขาวก่อนจะกระซิบให้ได้ยินกันแค่สองคน
หนุ่มร่างเล็กไม่ได้เอ่ยตอบอะไรออกไป
มือบางกำชายเสื้อจนมันยับไปหมด
พวงแก้มใสทีเบียดกันบนไปหน้าน่ารักแดงฉ่านด้วยความเขินอาย
เมื่อนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อวาน
เลือดที่หล่อเลี้ยงอยู่ในกายก็วิ่งมาที่หน้าอย่างไม่มีเหตุผล
"เอ่อ...ให้น้องๆแยกย้ายไปเรียนถ่ายภาพกับพี่บัดดี้ของตัวเองเลยนะครับ"
ก่อนที่บรรยากาศหน้าห้องจะติดเรทไปมากกว่าลูฮานรุ่นพี่ตากวางก็ไล่ให้รุ่นน้องไปทำกิจกรรมซะก่อน
ตอนนี้คนในชมรมก็ต่างแยกย้ายกันไปหมดจะเหลือก็เพียงแต่สองคนคู่กรณีกับอีกหนึ่งผู้ชม
"ไม่มีอะไรทำหรอไง ปาร์คชานยอล"
จงอินเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบแต่ก็ไม่ได้ละสายตาไปจากบัดดี้ตัวเองเลยแม้แต่น้อย
"โฮ คำขอบคุณสักคำก็ไม่มีนะเว้ยไอ้ประธาน ไปก็ได้ว่ะ อย่ารุนแรงมากล่ะ
น้องมันยังเด็ก" ก่อนจะออกไป ท่านรองขี้เล่นก็ไม่ลืมกวนอารมณ์เพื่อนรักให้ปวดประสาทเข้าไปอีก
ปัง คราวนี้ละเหลือกันอยู่สองคนแล้วจริงๆ
คยองซูยิ่งรู้สึกอายและทำตัวไม่ถูกเข้าไปใหญ่กับคำพูดของชานยอล
ขาเล็กเขยิบออกห่างจากร่างสูงมาเล็กน้อย
"จะเขยิบหนีไปไหนล่ะ หืม"
จงอินไม่พูดเปล่าขายาวสาวเท้าตามมาประชิดตัวหนุ่มรุ่นน้องในทันที
"คื..คือ รุ่นพี่ ช่วยเขยิบ..ออกหน่อยได้ไหมฮะ"
น้ำเสียงตะกุกตะกักของคนตัวเล็กเหมือนเป็นเครื่องกระตุ้นสัญชาตญาณความเป็นชายของร่างสูงได้เป็นอย่างดี
"จงอิน" คนตัวสูงเอ่ยออกมาแค่นั้น
"ฮะ?" คยองซูเอียงคอสงสัยในคำพูดของคนสูงกว่าโดยลืมไปว่าตอนนี้ตัวเขาเองแทบจะจมหายไปในวงแขนแกร่งของคนตรงหน้าอยู่แล้ว
“เรียกว่า พี่จงอิน สิ ทีชานยอล คยองซูยังเรียกมันได้เลย” คนสูงเผลอออดอ้อนคนในอ้อมกอดอย่างเอาแต่ใจ
นัยน์ตาคมแฝงไปด้วยความดื้อดึงแกมบังคับ จงอินยิ่งกระชับอ้อมกอดให้แน่นเข้าไปอีก
“แต่..เอ่อ..คือ มันไม่เหมาะสมนะฮะ รุ่นพี่” ขืนเรียกชื่อของเจ้าอ้อมกอดออกไปห้วนๆแบบนั้น
หัวใจดวงนี้คงเต้นจนกระเด็นออกมาข้างนอกแน่
“จะบอกว่านายกับไอ้ชานยอลเหมาะสมกันงั้นสิ” น้ำเสียงและแววตาที่เปลี่ยนไปของร่างสูงกำลังทำให้คยองซูคิดไปไกล
ริมฝีปากอวบอยากจะเอ่ยปฏิเสธแต่ปากมันก็แข็งเสียเหลือเกิน
หัวทุยส่ายไปมาเล็กน้อยหวังจะให้เจ้าของแขนแกร่งเข้าใจสิ่งที่ตนต้องการสื่อความหมาย
“....ไม่ใช่.” เพราะคนตัวสูงเอาแต่เงียบจนบรรยากาศรอบข้างเต็มไปด้วยความอึดอัด
คยองซูจึงตัดสินใจเอ่ยมันออกมาจนได้
แต่คงไม่มีใครรู้หรอกว่าริมฝีปากได้รูปน่ะยกยิ้มซะจนปากจะฉีกไปถึงใบหูอยู่แล้ว
“งั้นก็เรียกสิ” น้ำเสียงออดอ้อนมันกลับมาอีกแล้ว
คิมจงอินจะรู้บ้างมั้ยว่าทำให้หัวใจดวงน้อยๆของคยองซูมันแทบจะระเบิดออกมาให้ได้กับสิ่งที่ร่างสูงร้องขอ
“พ..พี่จงอิน” คนตัวเล็กเอ่ยเรียกชื่อร่างสูงตรงหน้าตามที่เจ้าตัวต้องการ
น้ำเสียงหวานจักจี้หูถูกส่งออกมาจากริมฝีปากอวบรูปหัวใจ
ปลายจมูกรั้นเชิดขึ้นบ่งบอกว่าร่างตรงหน้าเป็นคนเอาแต่ใจไม่ใช่น้อย
นัยน์ตากลมโตใสซื่ออย่างกับลูกกวางเริ่มมีน้ำตามาคลออยู่หน่อยๆทำเอาคิมจงอินแทบหยุดหายใจทันทีที่ได้สบสายตา
"เด็กขี้แย แกล้งแค่นี่ก็จะร้องไห้แล้วหรอ"
มือหนาบิดปลายจมูกรั้นด้วยความหมั่นเขี้ยว
ริมฝีปากได้รูปฉีกยิ้มกว้างสร้างความมีสเน่ห์ให้กับใบหน้าหล่อเหลาเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
"เปล่าซะหน่อย โอ๊ะ!! จะทำอะไรนะฮะ"
คยองซูบุ้ยริมฝีปากเชิดใส่คนขี้แกล้ง
แต่แล้วมือขาวๆก็ต้องรีบยกขึ้นมาปิดตาตัวเองอย่างรวดเร็ว
ก็ใครใช้ให้ท่านประธานหนุ่มมาถอดเสื้อโชว์คนอื่นแบบนี่เล่า!!
"ถอดเสื้อทำไมน่ะ คนบ้า"
คยองซูเอ่ยถามทั้งๆที่มือบางยังคงปิดตาอยู่
ปลายเสียงได้แต่แอบว่าคนขี้แกล้งเบาๆโดยไม่ให้เจ้าตัวรู้
"ถ่ายรูปไง อ่ะนี้เปลี่ยนมาใส่เสื้อฉันซะ เร็วสิ
หรือจะต้องเปลี่ยนให้ครับ"
หนุ่มรุ่นพี่จอมเจ้าเล่ห์ไม่พูดปลายนิ้วเรียวเตรียมจะแกะกระดุมเสื้อตัวเล็กออกจากร่างของคยองซูในทันที
"ม..ไม่ต้องฮะ!! คยองซูเปลี่ยนเองได้"
คนตัวเล็กรีบคว้าเสื้อเชิ้ตเอาไว้ก่อนจะรีบเดินออกเปลี่ยนโดยเร็ว แต่ก่อนที่จะก้าวออกไป
ร่างบางเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า...แล้วห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ามันอยู่ไหนกันล่ะเนี่ย
เรียวขาเล็กเลยต้องสาวเท้ากลับมาที่เดิมอีกครั้ง
"เปลี่ยนใจกลับมาให้พี่เปลี่ยนให้แล้วหรอครับ"
น้ำเสียงทะเล้นเอ่ยถามหยอกล้อกับคนตัวเล็ก นัยน์ตาคมฉายประกายวิบวับ
"บ้า..ไม่ใช่ซะหน่อย คือห้องเปลี่ยนเสื้ออยู่ไหนกันฮะ"
จงอินยังไม่หยุดแกล้งคนตัวเล็กง่ายๆ
รู้สึกหมั่นเขี้ยวยังไงก็ไม่รู้เวลาเห็นพวงแก้มใสที่แดงแล้วแดงอีกกับคำพูดของเขา
ขาวยาวก้าวไปหาคนตัวเล็กก่อนจะจัดแจงเดินไปส่งถึงหน้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนบานประตูห้องเปลี่ยนเสื้อจะปิดลงคนตัวโตผิวแทนก็ไม่ลืมทิ้งระเบิดลูกใหญ่ให้พวงแก้มใสได้ระเบิดตัวเองอีกสักรอบ.....
“รีบเปลี่ยนหน่อยก็ดีนะครับ เพราะเรายังมี อีกหลายท่า ต้องสอนกันแบบ
เนื้อแนบเนื้อ กันเลยเชียว”
“สะ เสร็จแล้วฮะ” คยองซูค่อยๆก้าวออกมาอย่างขัดเขิน
ก็ใครมันจะไปอดใจไม่ให้สั่นไว้กันได้ใส่เสื้อ คนที่แอบชอบ เชียวนะ คนตัวสูงกำลังเตรียมอุปกรณ์สำหรับการถ่ายรูปที่เขากำลังจะมอบบทเรียนสุดแสนพิเศษให้กับรุ่นน้องตัวเล็ก
แสงไฟถูกจัดให้โฟกัสไปที่ฉากสีขาว ริมฝีปากได้รูปอมยิ้มอย่างมีความสุขก่อนจะหันไปมองทางเจ้าของเสียงหวาน
หนุ่มน้อยร่างเล็กอยู่ในเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวสะอาดตา
เนื้อผ้าบางเบาแนบไปตามสัดส่วนซะจนเห็นไปถึงไหนต่อไหน โชคดีที่
คยองซูใส่เสื้อกล้ามเอาไว้ ไม่งั้นคนตัวเล็กคงไม่เดินออกมาสบายใจอย่างนี้หรอก
แค่นี้ก็อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนีอยู่แล้ว สำหรับจงอินไซต์มันอาจจะพอดีตัวเขาแต่พอไปอยู่บนร่างของรุ่นน้องตาโตมันกลับดูตัวเล็กลงไปถนัดตา
นัยน์ตาคมไล้สายตามองไปตามสัดส่วนของคนหน้าก่อนจะพบว่ามันยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ยังขัดใจตนอยู่
“แต่พี่ว่า ถอดกางเกงออก ดีกว่านะครับ”
ไม่รู้ว่าตอนไหนที่ชายหนุ่มรุ่นพี่ก้าวเข้ามาประชิดตัว
วงแขนแกร่งเอื้อมมาโอบล้อมสะโพกมนเข้ามาใกล้ตัวเพียงช่วงเวลาสั้นๆกางเกงยีนส์ตัวเก่งของร่างบางก็ลงไปกองกับพื้นโดยที่เจ้าตัวไม่ได้ทันตั้งตัว
คนตัวเล็กที่เพิ่งได้สติรีบดึงชายเสื้อมาปิดต้นขาขาวของตนเอาไว้ทันที
นัยน์ตาคมปรายตาสำรวจอีกครั้งก่อนจะจัดการปลดกระดุมเสื้อเผยให้เห็นเนินอกขาวเล็กน้อย
จะเรียกสติ โด คยองซู กลับมาตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว............
“พะ พี่จงอิน” น้ำเสียงหวานทำได้แค่เพียงเอ่ยออกอย่างแผ่วเบาก่อนลมหายใจจะถูกช่วงชิงไปโดยใครอีกคน
มือหนารั้งท้ายทอยเล็กให้เงยขึ้นพร้อมกับกดริมฝีปากได้รูปลงครอบครองกลีบปากอวบอิ่มอย่างทะนุถนอมและอ่อนโยน
ลิ้นร้อนละเลียดลงบนกลีบปากที่ปิดสนิทอย่างละเมียดละไมก่อนจะอาศัยช่วงที่ริมฝีปากรูปหัวใจเผยอขึ้นเพื่อรับอากาศส่งลิ้นร้อนเข้าไปลิ้มรสความหวานภายใน
ลิ้นร้อนเกี่ยวตวัดปลายลิ้นเล็กอย่างหยอกเย้า
สร้างความหวาบหวามให้คนอ่อนประสบการณ์ต้องครางฮือออกมาอย่างแผ่วเบา
มือหนาเลื่อนเข้าไปในสาบเสื้อช้าๆ ความร้อนจากฝ่ามือทำให้ร่างเล็กสะดุ้งฮือเมื่อโดนสัมผัส
“อื้อ..” ริมฝีปากบางครางประท้วงเมื่อมือหนาเลื่อนลงไปเคล้นคลึงสะโพกมน
แขนเล็กพยายามดันกายออกจากวงแขนแกร่ง
เรี่ยวแรงที่ไม่ค่อยจะมีอยู่แล้วกลับโดนคนตรงสูบไปเสียหมด ร่างสูงพรมจูบไปทั่วลำคอขาว
ขบเม้มแสดงความเป็นเจ้าของไว้ทุกพื้นที่ที่ริมฝีปากร้อนลากไปถึง
แรงดูดดุนจากผิวทำให้ร่างบางหลุดครางออกมาอีกครั้ง
มือหนาค่อยๆถอดเสื้อตัวบางออกจากร่างเล็กพร้อมกับก้มมองผลงานที่ตนเองทำไว้อย่างภาคภูมิใจ
“รู้มั้ย ว่าการเป็นช่างถ่ายภาพมันต้องมีจินตนาการด้วยนะ” เสียงกระซิบแผ่วเบาดังขึ้นข้างหู ริมฝีปากหยักงับลงบนใบหูเล็กอย่างหยอกล้อ
ร่างสูงดูจะมีความสุขกับการได้แกล้งคนตัวเล็กให้หลุดครางออกมาได้
“อื้อ. พอ ก..ก่อน นะฮะ” เสียงครางอื้ออึงเหมือนเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีที่กำลังราดลงไปบนกองไฟ
ทันที่หลุดจากการช่วงชิงลมหายใจ คยองซูจึงได้โอกาสเปิดปากพูดกับคนตรงหน้า
เรียวแขนเล็กพยายามดันอกแกร่งเอาไว้แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดการกระทำของร่างสูงได้เลย
“ชู่… เป็นเด็กดี เชื่อฟังพี่นะครับ” นิ้วเรียวแตะลงบนริมฝีปากอวบเป็นเชิงห้าม
นัยน์ตาคมฉายแววความต้องการอย่างไม่ปิดบัง
จงอินเผยยิ้มกว้างพร้อมกับก้มลงจุมพิตอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง คยองซูมารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่เขาโดนหนุ่มรุ่นพี่คว้าลงไปนั่งบนตักแล้ว
และตอนนี้ร่างบางก็กำลังนั่งทับหนุ่มรุ่นพี่อยู่บนโซฟานิ่มหลังห้อง
จงอินเอื้อมมาโอบคนตัวเล็กจากทางด้านหลังเอาไว้ร่างบางที่ไม่รู้จะสกัดกั้นอารมณ์หน้าร้อนของตัวเองยังไงก็ได้เลยเลือกที่จะซุกหน้าลงบนอกแกร่งแต่มันกลับส่งผลอีกอย่างกับคนตัวสูง
กลิ่นแชมพูอ่อนๆลอยไปปะทะจมูก
สันจมูกโด่งฝังลงบนเรือนผมนิ่มสูดดมอย่างไม่มีท่าทีจะเบื่อ
คนตัวสูงกลับมาเริ่มบนเรียนอีกครั้งหนึ่ง
มือหนาลูบไล้ไปตามสัดส่วนเอวโค้งที่ยังมีเสื้อกล้ามแนบเนื้อกั้นอยู่
สัมผัสจากลมหายใจอ่อน รวยรินอยู่ที่ซอกคอขาว
คยองซูพยายามสกัดกั้นเสียงครางเอาไว้เมื่อยามที่มือสากของจงอินลูบไล้ไปตามหน้าท้อง
ก่อนที่เสื้อกล้ามตัวบางจะค่อยๆถูกดึงออกจากตัวไป
บทเรียนของจงอินคราวนี้เริ่มรุนแรงกว่าคราวก่อนแต่ริมฝีปากที่ไล้บดเบียดอยู่อย่างนั้นก็ยังแฝงไปด้วยการหยอกเย้า
ตอนนี้บนตัวของคยองซูจะเหลือก็แต่เพียง.....
ป้อมปราการน้อยสีขาวสะอาดตา
“บทเรียนต่อไป
นายต้องทำให้นายแบบหรือนางแบบมีอารมณ์ร่วมกับตัวเองด้วย” เสียงทุ้มพร่ากระซิบชิดใบหู
ลมหายใจร้อนๆที่กำลังรดอยู่ใกล้ๆแทบทำให้ร่างเล็กลงไปกองกับพื้น ลิ้นร้อนไล่ต้อนเข้าไปลิ้มรสความหอมหวานภายในโพรงปากอีกครั้ง
ถึงแม้จะผ่านการจูบมาหลายครั้งแต่ว่าในทุกๆครั้งดูเหมือนความร้อนแรงจะพุ่งทะยานขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
“อ๊ะ..” ร่างสูงเลื่อนลงมายังแผ่นอกบางที่กระเพื่อมเพราะหายใจไม่ทัน
เรียวลิ้นร้อนตวัดดูดคลึงเม็ดทับทิมสีสวยอย่างชำนาญ
สร้างความรู้สึกแปลกใหม่ให้อีกคนจนเสียงหวานครางออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
ในที่สุดผู้บุกรุกก็เข้าโจมตีป้อมปราการน้อยของคนตัวเล็กจนได้..........
มือหนาไล้ไปตามขอบชั้นในสีขาวก่อนจะลุกล้ำเข้าไปกอบกุมส่วนนั้นเอาไว้ก่อนจะเริ่มขยับรูดรั้งมันอย่างเชื่องช้า
นัยน์ตากลมโตหลับพริ้มเพราะความรู้สึกแปลกใหม่กำลังแล่นไปทั่วกาย
สัมผัสที่กลางลำตัวเริ่มเร็วขึ้นเรื่อยๆ
“อื้อ..พี่จงอิน..” ริมฝีปากหนาบดเบียดจุมพิตร้อนลงมาอย่างแทบไม่พักหายใจ
จังหวะการชักนำของมือใหญ่ทำเอาสมองของร่างเล็กขาวโพลนไปหมด
พอคยองซูใกล้จะถึงฝั่งฝันจงอินก็ผละริมฝีปากออกพร้อมกับมือใหญ่ที่หยุดปรนเปรอไปเช่นกัน
“จะเป็นช่างถ่ายภาพก็ต้องรู้จักอดทนรู้มั้ยครับ” ดวงตากลมกำลังหวานเยิ้มไปด้วยความปรารถนา
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ฉายอยู่บนใบหน้าร่างสูงมันอดให้คนตัวเล็กส่งค้อนวงใหญ่ไปให้คนขี้แกล้งไม่ได้
คยองซูไม่ได้ไร้เดียงสาถึงขนาดไม่รู้ว่าต้องจัดการยังไงกับสิ่งนี้
มือบางเตรียมจะเข้าไปกอบกุมส่วนนั้นของตนแล้วจัดการมันซะ แต่มือหนากับจับมือของคนตัวเล็กเอาไว้ไม่ยอมให้เขาทำอย่างที่ต้องการ
“ปะ..ปล่อยนะฮะ”
“ความอดทนต่ำจังเลยนะ คยองซูอา...แต่พี่ก็ทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน” จงอินเอื้อมมาจับร่างบางนอนราบลงบนโซฟาก่อนจะก้มลงไปตรงหว่างขาเพื่อทำบางอย่าง
ความร้อนจากริมฝีปากที่ครอบครองส่วนนั้นเอาไว้สร้างความปั่นปวนแก่คยองซูอย่างถึงที่สุด
ร่างบางครางระงม มือเล็กจิกลงบนโซฟาเพื่อระบายอารมณ์
ความรู้สึกเสี่ยวซ่านภายในเพิ่มพูนขึ้นมากกว่าตอนที่ร่างสูงใช้มือให้หลายเท่าตัว
“อ้ะ.. พี่จงอิน.. อื้อ” ริมฝีปากอวบครางเรียกชื่อหนุ่มรุ่นพี่ยังคงดังไม่หยุด
เรียวลิ้นหนาเกี่ยวตวัดลิ้นรัวจนร่างบางบิดเร่าไปมา
เพียงไม่นานเสียงหวีดร้องก็ดังขึ้นพร้อมกับร่างบางที่กระตุกปลดปล่อยห้วงอารมณ์ออกมาเปรอะเปื้อนหน้าท้องน้อยเต็มไปหมด
แผ่นอกบางหยัดขึ้นพร้อมกับจังหวะหายใจถี่ทำให้ร่างตรงหน้าดูเซ็กซี่เหลือเกิน
จงอินเอื้อมไปหยิบกล้องที่วางไว้บนโต๊ะข้างโซฟาก่อนจะรัวชัตเตอร์เก็บภาพหายากของคนตรงหน้าไว้ให้มากที่สุด
“อื้อ...อย่าถ่ายนะฮะ ไม่เอา” มือบางยกขึ้นมาปิดหน้าเอาไว้ไม่คนข้างบนเก็บภาพได้
จงอินละจากการถ่ายรูปคนตรงหน้ากลับมามอบบทเรียนราคาแพงให้แก่คนใต้ร่างตัวเองต่อ
ชั้นในตัวบางที่หลุดหายไปตอนไหนก็ไม่รู้เผยให้เห็นช่องทางที่ไม่เคยมีใครได้รุกล้ำมาก่อนเมื่อมือหนาจับเรียวขาสวยตั้งชันขึ้น
ร่างสูงกลืนน้ำลายอย่างหื่นกระหาย สัญชาตญาณดิบถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา
ภาพคนตรงหน้านอนหายใจรวยรินกับผิวกายที่แดงเรื่อไปทั้งตัวสร้างความต้องการให้จงอินพุ่งสูงเสียจนไม่อาจหักห้ามใจตัวเองได้อีกแล้ว
“พ..พี่จงอิน..ไม่เรียนแล้วได้มั้ยฮะ” สายตาเว้าวอนจากตนตรงหน้าทำเอาร่างสูงต้องก้มลงไปจูบปลอบขวัญ
นัยน์ตากลมฉายแววเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด ริมฝีปากหยักคลี่ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
“มาถึงขนาดนี้แล้วต้องเรียนให้จบคอร์สสิครับ... คยองซูเด็กดี
เชื่อใจพี่นะครับ”
ใช่ว่าคยองซูจะไม่รักพี่จงอิน....ถ้าไม่รักก็คงไม่ยอมให้ร่างสูงคนตรงหน้าขนาดนี้หรอก
“มันจะไม่เจ็บใช่มั้ยฮะ...” ร่างบางกลั้นใจถามคำถามน่าอายออกไป
ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น
“ไม่หรอก พี่สัญญา” ร่างสูงโน้มตัวลงไปจุมพิตที่หน้าผากสวยเพื่อให้อีกคนได้คลายกังวล
“สัญญานะ” นิ้วก้อยเรียวเล็กยกขึ้นมาจะเกี่ยวก้อยสัญญาแต่คนตัวสูงกลับก้มลงพรมจูบไล้ตามนิ้วมือแทนคำสัญญา
มือหนาเคล้นคลึงสะโพกมนเบาๆเพื่อให้อีกคนผ่อนคลาย นิ้วแรกสอดแทรกเข้าอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวทำเอาคยองซูได้แต่กัดริมฝีปาก
เปลือกตาบางปิดแน่น นิ้วที่สอง สามแทรกเข้ามาตามลำดับเพื่อเบิกทาง
จงอินยังคงแช่นิ้วไว้สักพักเพื่อให้คนตรงหน้าคุ้นเคยเสียก่อน
“เด็กดีผ่อนคลายเข้าไว้ อย่าเกร็งนะครับ”
“เจ็บ..ฮึก อื้อ คยองซูเจ็บ..”
“โอ๋ๆ ไม่เจ็บนะครับ เด็กดีของพี่จงอิน” น้ำเสียงอ่อนโยนที่กระซิบชิดใบหูกับจุมพิตแสนอ่อนโยนที่พรมจูบไปทั่วใบหน้าช่วยปลอบประโลมคยองซูให้ลดอาการเกร็งได้เป็นอย่างดี
ร่างสูงกดย้ำริมฝีปากลงไปบนกลีบปากอิ่ม เม้มคลึงจนปากอวบเริ่มจะบวมเจ่อ
จังหวะที่เร่งขึ้นทำเอาร่างบางหลุดครางออกมาเบาๆ ร่างสูงจัดการถอดแสล็คตัวโปรดทิ้งไปอย่างไม่ใยดี
นิ้วทั้งสามที่ถูกถอนออกพร้อมกับร่างเล็กที่กระตุกเบาๆ
เมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบกับร่างเปลื่อยเปล่าเช่นเดียวกับตนทำเอาคยองหน้าขึ้นสีได้ไม่ยาก
ร่างสูงลอบหัวเราะกับความใสซื่อของคนตรงหน้าออกมาเบาๆ
“พร้อมนะครับ เด็กดีของพี่” จงอินโน้มตัวลงไปกดจมูกโด่งลงบนพวงแก้มใสสีแดงเรื่อ
มือหนาจับเรียวขาสวยให้ชันออกกว้างกว่าเดิม พร้อมกับดันตัวเองเข้าไปอย่างช้าๆ
มือเล็กจิกเข้าที่โซฟาแน่น ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้ากันเมื่ออีกคนเริ่มรุกล้ำเข้ามา
"ผ่อนคลายนะครับ"
ความคับแน่นของช่องทางที่ไม่เคยมีใครรุกล้ำมาก่อนทำเอาคิมจงอินต้องขบกรามแน่น คยองซูรัดเขาเสียจนแทบจะเข้าไปไม่ได้
น้ำเสียงทุ้มต้องคอยปลอบเพื่อให้คนตัวเล็กหายเกร็งอยู่เป็นระยะๆ
"อ๊าาาา" น้ำเสียงหวานครางลั่นเมื่ออีกคนดันกายเข้ามาจนสุด ร่างบางสั้นระริกภายใต้อ้อมกอดอบอุ่นของร่างสูง
มือเล็กจิกไหล่กว้างอย่างแรงเพื่อระบายความเจ็บปวดที่มาพร้อมความเสียวซ่าน
“คยองซูคนเก่ง” ร่างสูงจัดการให้รางวัลคนใต้ร่างเสร็จสรรพ
พออีกคนผ่อนคลายลง สะโพกหนาก็เริ่มขยับเบาๆช้าๆเพื่อสร้างความคุ้นเคย กายแกร่งดันตัวเองออกเกือบสุดก่อนจะกดย้ำเข้าไปแนบแน่นจนเด็กน้อยผวาเฮือก
คล้องแขนเข้ากับลำคอแกร่งอย่างหาที่พึ่ง
"อ้า..พี่จงอิน..อ้ะ" เสียงหวานครางกระเซ้าเรียกชื่ออีกฝ่ายไม่หยุดปาก
จังหวะที่เปลี่ยนไปกำลังเร่งขึ้นเรื่อยๆ
ความเจ็บปวดค่อยๆแปรเปลี่ยนไปมาเป็นความซาบซ่านเข้ามาแทนที่
ร่างเล็กขยับไปตามแรงกระแทกจนสั่นคลอนไปทั้งตัว
คยองซูขบเม้มริมฝีปากล่างทุกครั้งเมื่ออีกคนกระแทกเข้ามาถูกจุดไวต่อสัมผัส เสียงเนื้อที่เสียดสีไปมากับโซฟาตามแรงกระแทกดังก้องไปทั่วห้อง
สะโพกหนายังคงส่งแรงขยับเข้าไปไม่หยุด เสียงครางหวานดังสลับทุ้มดังไปก้องไปทั่ว
เหงื่อเม็ดเล็กเริ่มผุดพรายขึ้นบนใบหน้าคมแรงขยับที่ถี่ขึ้นทำเอาร่างเล็กประคอมสติเอาไว้ไม่อยู่
ขยับสะโพกมนสอดประสานจังหวะรักกับร่างสูงอย่างลืมตัว
“อื้ม...คยองซูอา”
"อะ..พี่จงอิน..อ้ะ" มือหนาเอื้อมมาสอดประสานนิ้วร่างบางเอาไว้
ก่อนจะกระชับอุ้งมืออย่างหวงแหน เขาเลือกไม่ผิดจริงๆที่ตกหลุมรักคนตรงหน้านี้
จะไม่ปล่อยให้ร่างบางหลุดมือไปเด็ดขาด
"ไม่..ไม่ไหว.แล้ว อ๊า"
ริมฝีปากอิ่มครางออกมาแทบจะขาดใจเมื่อใกล้ถึงปลายทาง ในหัวสมองขาวโพลนไปหมด
ความร้อนแรงของอีกคนที่ส่งมาแผดเผาจนเขาแทบจะหลอมละลายหายไป
จนเมื่อถึงที่สุดของห้วงอารมณ์ร่างบางก็กระตุกเกร็งแล้วปลดปล่อยหยาดหยดแห่งความสุขออกมาอีกครั้ง
“อาาา” เสียงครางต่ำบ่งบอกถึงความสุขอย่างชัดเจน
ร่างสูงขยับกายถี่ระรัวเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นเพราะใกล้จะถึงปลดปล่อยแล้วเช่นกัน
สะโพกหนาซอยถี่จนร่างบางขยับไปตามแรงกระแทก ริมฝีปากอิ่มยังคงครวญครางไม่หยุด
“พี่รักคยองซูนะ คนดีของพี่...” ประโยคบอกเล่าจากริมฝีปากหยักหยุดชะงัก
ก่อนร่างสูงจะกระตุกเกร็งแล้วปลดปล่อยหยาดน้ำรักเข้าไปภายในร่างกายของอีกคน
คยองซูรู้สึกถึงความวูบโหวงภายในท้องน้อย น้ำสีขุ่นขาวไหลออกมาตามเรียวขา
ทั้งสองร่างหอบสะท้าน ร่างบางเอ่ยประโยคๆหนึ่งก่อนจะหลับไปเพราะความเหนื่อย
“คยองซูก็รักพี่จงอินฮะ”
คิดจะเรียนถ่ายภาพก็ต้องอดทนหน่อยนะครับ...เพราะพี่น่ะความอดทนต่ำ(?)แต่พละกำลังสูง
END
Pretty good post. I just stumbled upon your blog and wanted to say that I have really enjoyed reading your blog posts. Any way I'll be subscribing to your feed and I hope you post again soon. Big thanks for the useful info. ทางเข้าเล่นคาสิโนufabetขั้นต่ำ10บาท
ReplyDelete