Tuesday, September 16, 2014

Fan Fic Baramos - L x L - เมื่อเราเป็นเส้นขนาน By Juntiva





เส้นขนาน.....รู้กันดีว่า จะไม่มีวันมาบรรจบกันได้เด็ดขาด.....

เส้นขนาน.....เป็นเพียงเส้นที่มุ่งตรงไปด้วยกัน แต่ไม่มีทางจะบรรจบกันได้.....

เส้นขนาน.....ก็เหมือนเราทั้งสองคน.....คนหนึ่งสีขาว คนหนึ่งสีดำ.....

คนหนึ่งนักบวช เทวาผู้รับใช้พระเจ้า.....กับอีกคนซึ่งเป็นปีศาจ ซาตานผู้ต่อต้านพระเจ้า.....

เราต่างกัน.....เรารู้ดี.....แต่ฉันไม่สน.....

ฉันจะทำให้เส้นขนานนั้นมาบรรจบกันให้ได้.....ฉันจะทำให้นายเป็นของฉัน.....

ฉันจะทำลายกำแพงนั่น.....ทำลายเส้นขนานนั่น ให้พันกันจนยุ่งเหยิง.....

ทำให้มันวุ่นวาย จนไม่อาจแก้ออกได้.....ฉันจะทำ.....

เพื่อให้ได้นาย ลอเรนซ์.....ต่อให้ต้องตกนรกหมกไหม้ฉันก็ไม่สน.....

แต่สิ่งเดียวที่ฉันสน คือการไม่มีนายอยู่เคียงข้าง.....มันทรมานยิ่งกว่าถูกเผาด้วยไฟนรกเสียอีก.....







     หลายปีจากสงครามศักดิ์สิทธิ์ ทุกชีวิตกลับมาสงบสุขอีกครั้ง การดำเนินชีวิตเริ่มต้นขึ้น ผ่านไปวันแล้ววันเล่า เดือนแล้วเดือนเล่า ปีแล้วปีเล่า จนถึงวันที่เจ้าตัวป่วนประจำป้อมอัศวินจบการศึกษา

     "เจ้าหญิง เฟลิโอน่า เกรเดเวล แห่ง บ..."

     "อะแฮ่ม!!"เอวิเดสกระแอมไอเสียงดัง มองที่ผู้ประกาศชื่ออย่างดุดัน

     "เอ่อ....กระผมหมายถึง เจ้าหญิง แห่ง เด...."

     "อะแฮ่ม!!"ไฮคิงชามัลกระแอมไอขัดอย่างไม่พอใจ

     "เอ่อ.....กระหม่อม....เจ้าหญิง แห่ง บา..."

     "อะแฮ่ม!!"เอวิเดสกระแอมอีกครั้ง

     "หมายถึง เจ้าหญิงแห่ง เด...."

     "อะแฮ่ม!!"ไฮคิงชามัลกระแอมเสียงดังกว่าเดิม

     "ขะ คือ....คือ....."

     "ขึ้นต้นด้วยเดมอสก็จบแล้ว!!"เอวิเดสลกขึ้นยืนตะโกนก้องอย่างเหลืออด

     "ไม่ได้!!"ชามัลขัดเสียงกร้าว "ต้องบารามอส!!"

     เอวิเดสหันใบหน้าติดหวานมาทางชามัล และเอ่ยอย่างไม่พอใจ "เดมอส!!"

     "ต้องบารามอส!!"ชามัลไม่ยอมแพ้

     "เดมอส!!"

     "บารามอส!!"

     "ก็บอกว่าเดมอส!!"

     "ยังๆไงก็ต้องบารามอส!! นี่ถิ่นเอเดน!!"

     "ยังไงก็ต้องเดมอส นั่นลูกข้านิ!!"

     "บารามอส!!"

     "เดมอส เดมอส เดมอส เดมอส!!"เอวิเดสเอ่ยอย่างไม่ยอมแพ้

     "งั้นจะเอายังไงว่ามาเลย เจ้าปีศาจ!!"ชามัลที่ฟิวส์ขาดชักดาบออกมาอย่างเหลืออด

     "กล้าท้าก็กล้ารับ!!"เอวิเดสเรียกดาบของตนออกมาบ้าง ทุกคนในงานมองทั้งคู่อย่างหวาดๆและหน่ายใจ

     "พอแล้ว!!"เสียงตะโกนขัดจังหวะท้าดวลของสองกษัตริย์ บาโรที่นั่งอยู่ข้างๆเอวิเดสยืนขึ้น มองทั้งคู่ ก่อนจะมองที่ผู้ประกาศ "บอกว่า สะใภ้แห่งคาโนวาล!!"

     "อะไรนะ!!"เอวิเดสและชามัลร้องอย่างตกใจ

     ผู้ประกาศไม่อยากจะยื้อเรื่องนาน อีกทั้งสายตาเยือกเย็นจากบาโรก็ส่งมาให้จึงรีบเอ่ยออกไปอย่างรวดเร็ว "เจ้าหญิงเฟลิโอน่า เกรเดเวล สะใภ้แห่งคาโนวาล!!"

     เฟรินตบหน้าผากตัวเองดังป้าบใหญ่ อยากจะร้องไห้ในความอับอายนี้เหลือเกิน

     "เจ้าทำอะไรของเจ้า!?"เอวิเดสแหวใส่บาโร

     "นั่งลงเถอะน่า ข้ารำคาญ"บาโรเอ่ย

     "ไม่ เจ้าไม่มีสิทธิสั่งข้า! เจ้ากล้าดียังไง!!"เอวิเดสว่า

     "ถ้าเจ้าไม่นั่ง"บาโรแอบจับบั้นท้ายของเอวิเดส ร่างบางสะดุ้ง มองร่างสูงอย่างตกใจ บาโรยิ้มเจ้าเล่ห์ "เจ้ารู้นะว่าข้าหมายถึงอะไร" เอวิเดสหน้าแดงก่อนจะนั่งลงอย่างยอมจำนน ใบหน้าหงุดหงิดแดงก่ำ บาโรยิ้มอย่างพอใจ



     เมื่องานรับใบปริญญาบัตรสิ้นสุดลง เหล่านักเรียนแห่งป้องอัศวินวิ่งนำขบวนออกมาโห่ร้องอย่างยินดี ก่อนจะกระโดดกอดคอกันอย่างรักใคร่ ผูกพันธ์ บ้างร้องไห้ บ้างกลั้นน้ำตา แต่เจ้าตัวป่วนของเรากลับบ่อน้ำตาแตกสมหญิงก็วันนี้นั่นแหละ เฟรินเดินกอดเพื่อนทีละคนอย่างเศร้าที่ต้องจากกัน แต่นานที่สุดก็จะเป็นพวกสามสาวแห่งป้อมอัศวินที่สอนความเป็นหญิงให้เธอมาตลอด

     "ไม่มีใครตีหัวฉันแบบเธอ ฉันคงเหงาแย่เลยแองจี้ โฮๆ"เฟรินเช็ดน้ำตา

     "ยัยบ้าเอ๊ย อย่าทำให้ฉนร้องไห้มากกว่านี้สิ"แองจี้พยายามกลั้นน้ำตาที่เพิ่มมากขึ้น

     "เธอด้วยมาทิลด้า ไม่มีเธอคอยตะคอกแบบนี้เหงาแย่....เธอด้วยนะเรนอน โฮๆ เธอนี่แม่พระของฉันแท้ๆ!!"

     แล้วสี่สาวก็กอดคอกันร้องไห้ จนพวกหนุ่มๆเห็นแล้วยังแปลกใจ

     "ยินดีด้วยนะพวกเธอ"โรเวนเอ่ย เดินนำขบวนเหล่าอดีตรุ่นพี่มาแสดงความบยินดี "จบแล้วอย่าลืมเอาวิชาที่ร่ำเรียนมา มาใช้ในชีวิตให้เป็นประโยชย์ที่สุดนะ"

     "คร้าบ! / ค่า!!"

     เฟรินและผองเพื่อนทักทายแลรับคำอวยพรจากรุ่นพี่อย่างซาบซึ้ง จนมาถึงลอเรนซ์ เฟรินมองไปรอบๆก่อนจะมองหน้าลอเรนซ์อย่างแปลกใจ

     "อ้าวพี่? แล้วพี่ลูคัสอ่ะ??"

     ลอเรนซ์หน้าบึ้งก่อนจะเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ "จะไปรู้มันเรอะ ฉันกับมันไม่ได้เป็นปาต้องโก๋นะ"

     "อ้าว? ก็เห็นสนิทกันนิพี่"

     "เออ! แต่พอจบมันก็หายหัวไปเลยเว้ย! อย่าถามมาก โมโหหิว!!"

     "ง่า~ แหมๆ งอนเขาอ่ะดิ"

     "แกอยากหน้าพรุนมั๊ยเฟริน"ลอเรนซ์ชูมีดสั้นขึ้นขู่

     "ง่ะ! พี่เป็นนักบวชทำร้ายคนอื่นมันบาปนา"

     ลอเรนซ์ทำหน้าเหี้ยมขึ้น

     "คร้าบๆ ไม่พูดแล้วๆ!"เฟรินรีบพูดทันที "ขอบคุณคร้าบที่มาอวยพร"

     "เออๆ โชคดี ใช้ชีวิตให้คุ้มละ พอแต่งงานแล้วหัดทำตัวดีๆให้เป็นตัวอย่างกับลูกบ้างละ"

     "ใครบอกว่าผมจะแต่งงาน"เฟรินเบ้ปาก

     "เล่นประกาศซะกลางงานแบบนั้น ใครไม่รู้ก็บ้าแล้ว"

     "โหย~! พี่อย่าพูดดิ อับอายชะมัด"

     "หึหึหึ งั้นโชคดี ฉันต้องไปแล้ว"

     "จะกลับไปดำรงตำแหน่งเจ้าชายต่อใช่ม่ะ??"เฟรินเอ่ยอย่างรู้ทัน

     ลอเรนซ์ไม่ได้ร้อนใจอย่างใด "ก็รู้แล้วนิ ฉันเป็นหลานตาอ้วนลงพุงนั่น น่าเบื่อชะมัด"

     "สู้ๆสู้ตายพี่ลอเรนซ์ ได้ข่าวอะไรจากพี่ลูคัสบอกกันบ้างเด้อ!!"

     "รู้แล้วน่า!"ลอเรนซ์เอ่ย ก่อนจะเดินขึ้นราชรถสีทอง ใบหน้าบูดบึ้งเปลี่ยนเป็นเศร้าหมองอย่างรวดเร็ว เมื่อราชรถสีทองเคลื่อนตัวออกจากโรงเรียนพระราชาแล้ว ดวงตาสีอเมทิสต์ก็เหม่อออกไปนอกหน้าต่างอย่างเศร้าศร้อย

     "นายอยู่ไหนนะลูคัส....."

ร่างสูงในผ้าคลุมสีดำควบม้ามาตามเส้นทางรกชันอย่างรวดเร็วปานสายลม ทำให้เกิดแรงลมปะทะหมวกคลุมสีดำร่วงไปด้านหลัง เปิดเผยให้เห็นใบหน้าคมเข้มหล่อเหลา ดวงตาคมเข้มสีดำสนิท เส้นผมสีดำสั้นรากไทรปลิวไปตามแรงลม ร่างสูงเยียดยิ้มก่อนจะเงยหน้ามองท้องฟ้าสดใสเบื้องบน เสียงร้องของเหยี่ยวดังกึกก้อง และตามด้วยเสียงควบม้ามากมาย และเสียงโห่ร้องเหมือนพวกชาวป่า

     และกองทัพในชุดดำก็โผล่ออกมาจากเงามืดของพงไพร เสียงกู่ร้อง โห่ดังก้อง เสียงควบม้าดังจนแผ่นดินสั่นไหว ใบหน้าของเหล่าโจรป่าดูกระหายในความต้องการและสนุกสนาน ร่างสูงหัวหน้ากองโจรยิ้มร่า ก่อนจะมองเยี่ยวของตนที่โผบินถลามาเคียงข้าง

     "มุ่งหน้าสู่แอเรียส!!"ร่างสูงตะเบ็งเสียงก้องกังวานและถูกตอบรับด้วยเสียงโห่ร้องอีกครั้ง

     ม้าสีดำนำขบวนกระโจนทะยานข้ามผาหินลงสู่พื้นดินต่ำกว่ามากได้อย่างช่ำชอง ผู้เป็นนายดึงสายบังเหียนแน่น ก่อนจะเผยยิ้มเจ้าเล่ห์

     "รอฉันก่อนเถอะลอเรนซ์ ฉันจะพานายกลับไปสู่อดีตของเราเอง"


     ณ ราชวังแห่งแอเรียส

     กษัตริย์ริชาร์ดเฝ้าคอยบนบัลลังก์อย่างใจเย็น  ดวงตาสุขุมสมดั่งกษัตริย์ก่อนจะเงยหน้าขึ้นเมื่อประตูห้องโถงเปิดเข้ามา พร้อมร่างบางสีงาช้างในชุดนักบวชสีดำ ริมฝีปากแย้มสรวลอย่างพอใจเมื่อร่างบางเดินเข้ามา กษัตริย์ยืนขึ้นก่อนจะเอ่ยอย่างร่าเริง

     "ยินดีต้อนรับกลับบ้าน ลอเรนซ์"

     "กระหม่อมยินดีที่ได้กลับบ้านเช่นกัน"ลอเรนซ์โค้งตัวอย่างสุภาพ

     "โอ๊ย! ไม่ต้องมากพิธี เจ้ากับข้าเหมือนพ่อลูก คุยยกันแบบคนธรรมดาดีกว่า"

     "ครับ"

     "ดีแล้ว มานี่สิ"ริชาร์ดกวักมือเรียกนักบวชหนุ่มให้เดินตามไปยังห้องข้างๆซึ่งเป็นห้องโถงเล็ก

     ห้องโถงเล็กซึ่งตกแต่งอย่างวิจิตรงดงาม ดูอบอุ่นและสบายกว่าห้องโถงใหญ่ที่ฟู่ฟ่าเสียอีก ลอเรนซ์มองไปรอบๆห้องอย่างคิดถึง ตอนเด็กๆเขามักจะมาเล่นกับบรรดาโอรสธิดาของกษัตริย์ริดชาร์ดบ่อยๆ

     "ท่านพี่เคนเป็นอย่างไรบ้างท่านลุง?"ลอเรนซ์เอ่ยถามกษัตริย์ริดชาร์ดทันทีเมื่อนึกได้

     "นั่งก่อนเถอะ"ริดชาร์ดผายมือไปทางโซฟาสีทองก่อนจะนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม ร่างบางเดินมานั่งอย่างว่าง่าย ชุดสีดำตัดกับบรรยากาศสีทองอย่างมาก ทำให้ร่างบางดูสะดุดตามากกว่าเดิม ริดชาร์ดยิ้มอย่างพอใจก่อนจะตอบคำถาม "เคนนั้นสบายดีไม่ต้องห่วง มันไปๆมาๆระหว่างวังกับสนามรบนั่นแหละ"

     "ข้าก็ได้ข่าวว่าเกิดกบฎทางตอนเหนือ ท่านพี่เคนเป็นผู้นำทัพไปปราบ"

     "ช่ายๆ"ริดชาร์ดเอ่ยอย่างไม่วิตก "ก็แค่พวกไม่พอใจนิดๆหน่อยๆเท่านั้นแหละ โกงคนอื่นเขามาก พอโดนโกงเอาคืนบ้างก็โวยวายก่อสงครามกลางเมือง น่าเบื่อจริงๆ"

     "หวังว่าพี่เคนคงไม่เป็นอะไรมาก"ลอเรนซ์เอ่ยอย่างกังวล เพราะแต่เล็กแต่น้อยตั้งแต่ที่เขาเข้ามาอยู่ในวังนี้ คนที่สนิทที่สุดสำหรับลอเรนซ์ก็คือ เจ้าชายเคน ซึ่งลอเรนซ์นับถือและเคารพมากเหมือนพี่ชายแท้ๆ

     "มันสบายดีน่า"ริดชาร์ดตอบปัดๆ "ว่าแต่เจ้าเถอะ ยังไงก็คิดจะบวชจนได้น่ะสินะ ดูสิ ข้าบอกแล้วบอกอีกว่าอย่าก็ไม่ฟัง"

     "ข้าปลูกฝังและเชื่อมั่นในพระเจ้าแต่เล็กท่านลุง.....ท่านก็รู้ พ่อของข้า สหายของท่านลุงก็เป็นนักบวชเหมือนกัน ข้าอยากเดินตามรอยเท้าท่าน"

     "อืมๆ ข้าเข้าใจ.....นานเท่าใดแล้วนะ นับตั้งแต่พ่อแม่เจ้าปกป้องเจ้าจากพวกโจรป่าจนตัวตาย.....ตอนนั้นเจ้ายังเด็กมาก ห้าขวบเอง แต่พูดจาเหมือนผู้ใหญ่ไม่มีผิด นิสัยแม่เจ้าชัดๆ หึหึหึ.....เอาเถอะ เรื่องที่ข้าอยากจะพูดกับเจ้าจริงๆนั้นเป็นเรื่องนี้ต่างหาก.....ข้าอยากให้เจ้ามาเป็นลูกบุญธรรมของข้า"

     "หา!??"ลอเรนซ์อึ้งไปทันที

     "ใช่ ข้าอยากให้เจ้ามาเป็นลูกข้า และดำรงค์ตำแหน่งเจ้าชายแห่งแอเรียสเช่นกัน จะเติมนักบวชเข้าไปด้วยก็ได้นะตามใจเจ้า"ริชาร์ดยิ้มกริ่ม

     "ตะ แต่ท่านลุง!"ลอเรนซ์ไม่ชอบเลย "ข้าแค่ยอมจะดำรงค์ตำแหน่งเจ้าชายเท่านั้นตามที่ท่านต้องการ แต่ไม่ได้หมายถึงเป็นลูกชายท่าน"

     "ไหนๆจะเป็นเจ้าชายก็เป็นลูกชายไปด้วยซะเลยสิ!"ริชาร์ดยิ้มร่า

     "แต่ท่านลุง ขะ ข้า....."

     "อย่าปฏิเสธเลยน่า!"ริชาร์ดมัดมือชกเอาเสียดื้อๆ "ข้ารักเจ้าเหมือนลูกชายจริงๆ ใครๆก็รู้ว่าเจ้าเป็นหนึ่งในบรรดาลูกๆที่ข้าห่วงใยที่สุด"

     "แต่....."

     "เป็นอันตกลง!"ริชาร์ดตัดบท ตีเข่าดังป้าบ "ข้าจะจัดงานให้เร็วที่สุด แหม! ดีใจจริงๆจะได้ลูกชายอีกคนแล้วเว้ย!"

     และเพียงไม่กี่อาทิตย์ต่อมา ลอเรนซ์ก็ถูกจับแต่งกายในชุดเจ้าชายเรียบหรู ยืนสาบานตนหน้าแท่นพิธี ก่อนจะต้องย้ายมาอยู่วังถาวร แม้จะได้ชื่อว่าเป็น 'เจ้าชาย นักบวช ลอเรนซ์ โมนาโรค แห่งแอเรียส' ก็เถอะ แต่ชีวิตแบบนี้มันต่างจากคำว่านักบวชผู้เดินทางสายกลางชัดๆ

     "ให้ตายเถอะ!"ลอเรนซ์ร้องลั่นอย่างไม่พอใจ ก่อนจะกระแทกตัวนั่งลงบนเตียงใหญ่ในห้องนอนใหม่ของตน เขามองไปรอบๆห้องอย่างหงุดหงิด ก่อนจะแหกปากร้องระบายอารมณ์

     "หนอยๆ!! ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!"

     "โอ๊ยๆ! แมวที่ไหนมาหอนแถวนี้เนี้ย!"

     ลอเรนซ์หยุดแหกปาก ก่อนจะหันไปมองผู้มาใหม่ "พี่เคน!" ร่างบางยิ้มร่าอย่างดีใจ

     "ไง ลอเรนซ์"รอยยิ้มขี้เล่นบนใบหน้ารูปสลักคมเข้ม ดวงตาสีน้ำเงินสว่างสดใสมองร่างบางอย่างรักใคร่ เอ็นดู ผมสีดำสนิทถักเป็นเปียพันไว้รอบคอ วงแขนกว้างอ้ากว้าง ก่อนจะกอดร่างบางอย่างดีใจไม่แพ้กัน

     "โอ๊ย! ปล่อยน่า"ลอเรนซ์ดันตัวออกห่างพี่ชาย

     "อะไรกัน พี่ชายกอดนิดกอดหน่อยแค่นี้รังเกียจไปได้"

     "สยองเว้ย สยอง!"ลอเรนซ์ว่า

     "โหย~ นี่พี่นะ"เคนเบ้ปาก

     "อย่าทำแบบนั้น ดูแล้วน่ารำคาญชะมัด"ลอเรนซ์เอ่ยก่อนจะยิ้มน้อยๆอย่างขบขัน

     "เอาเถอะ จะว่าไปได้เป็นเจ้าชายแล้วรู้สึกยังไงบ้างละ"เคนถามยิ้มขบขัน ก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียงใหญ่สีขาว

     "แย่มาก"ลอเรนซ์เริ่มกลับมาหน้าบึ้งอีกครั้ง นั่งลงข้างร่างบาง เคนลุกขึ้นนั่งก่อนจะกอดคอน้องชายหลวมๆและเอ่ย

     "เอาน่าๆ ทีนี้เราจะได้เป็นพี่น้องจริงๆกันซะที"

     ลอเรนซ์เบ้ปาก ก่อนจะทำท่านึกอะไรขึ้นมาได้ "นี่กี่โมงแล้วเนี่ย?"

      "เอ่อ.....ประมาณสามโมงเย็น มีอะไรเหรอ?"เคนถามอย่างสนใจ

     "ตายละ ต้องไปแล้ว"ลอเรนซ์รีบลุกขึ้นจากเตียง วิ่งไปที่ตู้เส้อผ้า คว้าชุดที่เรียบที่สุด ก่อนจะวิ่งไปอยู่หลังฉากกั้นสำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้า

     "จะรีบไปไหนน่ะ?"เคนเอ่ยถาม รอร่างบางที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า

     "นัดซิสเตอร์เทเรซ่าไว้ที่โบถส์ว่าจะไปช่วยดูแลเด็กๆน่ะ....นี่วานช่วยหยิบเสื้อคลุมสีดำหน้ากระจกให้หน่อย"

     เคนลุกขึ้นไปหยิบเสื้อคลุมสีดำมาให้ ก่อนจะโยนข้ามฉากกั้นเข้าไปให้ลอเรนซ์ และยืนรออยู่ตรงนั้น

     "อ้อ! งานนักบวชเหรอ เหอๆ สมฉายา 'เจ้าชาย นักบวช'จริงๆ"

     "ไม่ตลกหรอกนะที่ได้ไอ้ตำแหน่งเจ้าชายมาด้วยน่ะ"ลอเรนซ์เถียงกลับอย่างไม่พอใจ "นี่พี่ช่วยใส่สร้อยให้หน่อยดิ"ลอเรนซ์เดินออกมาหลังฉากกั้น ในมือถือสร้อยห้องจี้ไม้กางเขนเอาไว้ส่งให้เคน

     "สวมหัวไม่ได้เหรอไง"

     "สร้อยมันเล็ก สวมหัวก็ขาดน่ะสิ"ลอเรนซ์เอ่ย ก่อนจะส่งสร้อยให้และหลังหลังให้ เคนรับสร้อยมาก่อนจะสวมสร้อยให้อย่างว่าง่าย ดวงตาสีน้ำเงินมองต้นคอขาวผ่อง ก่อนจะไล่ลงไปที่หัวไหล่ที่ซ่อนอยู่ใต้อาภรณ์เรียบๆสีดำซึ่งตัดกับผิวงาช้าง

     "เสร็จหรือยัง"

     "อืม"เคนรีบใส่สร้อยให้เรียบร้อย "เสร็จแล้ว"

     "ไปนะ"

     "เดี๋ยวสิ"เคนรีบกอดคอน้องชายเอาไว้ "ไปด้วยนะ" ดวงตาสีน้ำเงินอ้อนวอน ลอเรนซ์ถอนหายใจก่อนจะเอ่ย

     "ตามใจ"

     "ดีมาก!"

     เคนจับมือลอเรนซ์ก่อนจะเดินนำออกจากห้องไป ดูอารมณ์ดีขึ้นทันตา

     "ไม่ต้องจับมือก็ได้น่า!"ลอเรนซ์เอ่ย

     "ทำไมลบะ"เคนหันมามอง แกล้งทำหน้าซื่อ "ตอนเด็กๆก็จับมือกันนิ"

     "แต่นี่โตแล้วนะ!"ลอเรนซ์เอ่ย อายเล็กน้อย

     "ใครสนละ"เคนยิ้มขบขันก่อนจะกระชับมือลอเรนซ์แน่นและจูงมือไปขึ้นราชรถเพื่อมุ่งตรงสู่โบสถ์ของเมืองซึ่งเป็นจุดหมายของราชรถไม้เรียบๆนี้




     "ขอบพระทัยเจ้าชายมากเลยเจ้าค่ะ ที่ทรงอุตส่าห์เสด็จมาที่นี่"แม่ชีวัยกลางเอ่ยอย่างสำนึกน้ำใจ

     "โอ๊ย! แค่นี้เองครับ แต่พูดแบบธรรมดากับผมเหมือนกันลอเรนซ์ดีกว่าครับ เราเองก็มนุษย์เหมือนกัน อีกอย่างผมว่ามันไม่ยุ่งยากดี"เคนเอ่ยยิ้มๆ

     "เจ้าค่ะ"แม่ชียิ้มเอ็นดู

     เคนยิ้มกว้างก่อนจะหันไปดูลอเรนซ์ที่ตอนนี้กำลังเล่นกับเด็กกำพร้ามากมาย

     "พี่ลอเรนซ์ค่ะ อ้มได้มั๊ย"เด็กหญิงตัวเล็กคนหนึ่งเอ่ย

     "เอาสิ"ลอเรนซ์ยิ้มละไม ก่อนจะอุ้มเด็กหญิงขึ้นสูงๆ เด็กหญิงหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ ลอเรนซ์วางเธอลงอย่างเบามือและลูบหัวอย่างเอ็นดู

     "เอาละจ๊ะทุกคน"ซิสเตอร์เทเรซ่าเอ่ย "เข้าไปทานอาหารกลางวันได้แล้วนะจ๊ะ ส่วนวันนี้เด็กคนไหนเป็นเวรไปเยี่ยมคนชราก็ไปกับลอเรนซ์นะจ๊ะ"

     เด็กชายหญิงห้าคนรีบเข้ามากอดลอเรนซ์อย่างดีใจที่ตนจะได้ไปด้วย ลอเรนซ์ยิ้มละไมก่อนจะเอ่ย "ดีมากทุกคน การแบ่งปันคือสิ่งที่พระเจ้าปราถนาให้ทุกคนได้กระทำ"

     "โห ได้ฟังนายเทศน์แล้วมันสยองยังไงไม่รู้ว่ะ"เคนเอ่ยอย่างขบขันก่อนจะกอดคอลอเรนซ์อย่างเคยชินอีกครั้ง

     "พูดมากน่า มาที่นี่ไม่เห็นช่วยอะไรเลย"ลอเรนซ์ว่า

     "ฉันช่วยนะ"เคนเอ่ย "ฉันอุตส่าห์ไปเตรียมข้าวให้พวกเด็กๆด้วยตัวเองเลยนะเนี่ย"

     "ให้มันจริงเถอะ"ลอเรนซ์เอ่ย ก่อนจะเดินนำขบวนเด็กๆออกจาโบถส์และเดินผ่านย่านการค้ามากมาย ทุกคนหยุดแลส่งยิ้มทักทายลอเรนซ์และเคนอย่างชื่นชม

     "เด็กๆ เกาะกลุ่มกันไว้นะ"ลอเรนซ์เอ่ยเตือนอย่างใจดี

     "ค่ะ/ครับ!"

     "คร้าบ~!"เคนเอ่ย ก่อนจะหัวเราะขบขัน ลอเรนซ์เบ้ปากมองอย่างไม่พอใจ "ก็นายมันดูตลกดีนิ"เคนเอ่ยยิ้มๆ

     ขณะที่นักบวชหนุ่ม เจ้าชายและเด็กๆกำลังเดินไปเรื่อยๆท่ามกลางบรรยากาศสนุกสนาน ชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำแอบมองคณะนั้นอย่างเงียบๆ ใบหน้าคมถูกปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง ตั้งแต่จมูกลงมา เห็นเพียงดวงตาสีดำสนิทเท่านั้น เบื้องหลังร่างสูงเป็นกลุ่มคนในชุดคลุมสีดำแต่งกายแบบเดียวกันเช่นกัน

     "นั่นน่ะเหรอเป้าหมาย"หนึ่งในเบื้องหลังกล่าว

     "ผมทอง ใช่"ร่างสูงผู้เป็นหัวหน้ากล่าวเรียบๆ "แค่คนเดียวก็เรียกค่าไถ่ได้มากพอถมเถ"

     "แต่รู้หรอกน่าว่าที่จริงอยากได้อะไร"

     "หึหึหึ"ร่างสูงหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ "พวกแกนี่รู้ใจฉันจริงๆ แต่ก็นะเขายังมีความสำคัญอีกอย่างหนึ่ง"

     "พิธีกรรมน่ะเหรอ"

     "ใช่"ร่างสูงพยักหน้า "เลือดนักบวชของเขาศักดิ์สิทธิ์เพราะต้นตระกูลเป็นถึงนักบวชศักดิ์สิทธิ์แห่งเอเดน เลือดของเขาก็เป็นอีกสิ่งที่ฉันต้องการ"

     "จะลงมือเมื่อไหร่ละ"

     "อืม.....แล้วแต่อารมณ์"ร่างสูงตอบยียวน

หลังจากเยี่ยมคนชราไร้ญาติตามบ้านต่างๆแล้ว ลอเรนซ์ก็ให้เคนพาเด็กๆกลับโบถส์ไปก่อน ส่วนตนต้องซื้อของที่แม่ชีสั่งเอาไว้

     "อืม.....แอปเปิ้ล  กล้อวย  เนื้อหมู  น้ำมัน แล้วอะไรอีกน้า??"ลอเรนซ์ลูบคางเรียว ทำท่านึกรายการที่แม่ชีเทเรซ่าสั่งเอาไว้ จนแม่ค้ายิ้มอย่างเอ็นดู

     "นึกออกหรือยังฝ่าบาท?"แม่ค้าแกล้งถามแหย่เล่น เพราะรู้ดีว่าร่างบางตรงหน้าไม่ถือสาอะไร

     "นั่นสิ ลืมอะไรน้า??"

     แต่แล้วสายตาสีอมเทิสต์ก็เหลือบไปเห็นสองหญิงสาวสภาพร่างกายทรุดโทรมและนเอตัวสกปรก ทำให้เขาลืมหน้าที่ของตนไปชั่วขณะเตรียมจะเดินไปช่วยเหลือเมื่อพบว่าหญิงสาวอุ้มลูกน้อยวัยทรกเอาไว้ด้วย แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อร่างของหญิงสาวล้มลงต่อหน้า

     "ไม่!!"ลอเรนซ์ร้องเสียงหลง หลายคนสะดุ้ง บ้างร้องตามลอเรนซ์เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น

     ร่างสูงในชุดดำที่กำลังเพลินกับการจิบน้ำชาต้องเหลียวไปดูอย่างสนใจ พบร่างบางในชุดเสื้อคลุมสีดำวิ่งไปทางหญิงสาวขอทานและกับลูกน้อยวัยทารกที่ร้องไห้จ้า

     "โอ้! น้ำใจงามสมเป็นนักบวชแท้ๆ"เสียงเอ่ยดังขึ้นข้างกายร่างสูง

     "นี่ล่ะ ลอเรนซ์ ดอร์น"ร่างสูงเอ่ย

     ร่างบางเข้าไปประคองหญิงขอทานอย่างรวดเร็วโดยไม่รังเกียจอย่างใด ก่อนจะมองทารกที่ไม่ได้รับการกระทบกระเทือนใดๆ แต่ดูจากสองแม่ลูกนี้แล้วน่าเป็นห่วงนัก เพราะทั้งคู่ดูผอมมาก ผู้เป็นแม่มีบาดแผลเต็มตัว ตัวก็ร้อนจี๋ หอบหายใจรวยระริน ทารกน้องก็ร้องจ้า น้ำตาไหลไม่หยุด ผ้าอ้อมสกปรก ลอเรนซ์มองไปรอบๆก่อนจะหันมาเอ่ยกับหญิงสาว

     "ทำใจไว้ก่อน เราจะช่วยเจ้าเอง"

     หญิงสาวยกมือผอมขึ้นจับใบหน้างาม น้ำตาไหลอย่างซาบซึ้งบุญคุณ "ขะ...ขอบคุณ...ทะ...ท่านคือ...เทวดา....สินะ....งดงาม....ฮึก....ขอบคุณ"

     "อย่าห่วงเลย"ลอเรนซ์เอ่ยอย่างอ่อนโยน ก่อนจะหันไปตะโกนกับคนอื่นๆที่มุงดูอยู่ "ช่วยเราด้วยสิ อุ้มเธอหน่อย ลูกของเธอก็ได้!!"

     "หา!! อุ้มยัยโสโครกนี้น่ะหรือท่าน!!"พ่อค้าคนหนึ่งร้อง มองแม่ลูกขอทานอย่างรังเกียจ ลอเรนซ์มองพ่อค้าอย่างไม่พอใจ ก่อนจะมองคนอื่นๆที่ดูทำท่าจะรังเกียจเช่นกัน มีบางคนจะเข้ามาช่วยแต่ถูกพรรคพวกรั้งเอาไว้ ลอเรนซ์กัดฟัน

     "ไม่ช่วยก็อย่ามายุ่งอีก!!"เขาเอ่ยอย่างไม่พอใจเสียงดังให้คนพวกนั้นได้สำนึก เขาเตรียมจะช้อนร่างสองแม่ลูกขึ้น แต่แล้ววงแขนใหญ่ของใครบางคนก็อุ้มร่างผอมของสาวขอทานขึ้นไปสเยก่อน ลอเรนซ์เงยหน้ามองผู้ช่วยเหลืออย่างแปลกใจ

     "ให้ข้าช่วยเถอะ"ร่างสูงในชุดดำเอ่ย

     ลอเรนซ์มองบุรุษร่างสูงในชุดดำ ปิดหน้าเหมือนพวกชาวอาหรับอย่งนั้นแหละ แต่เขาก็พยักหน้า เอ่ยอย่างซาบซึ้ง "ขอบคุณ" ลอเรนซ์อุ้มทารกไว้ในอ้อมแขนอย่างห่วงใย "ท่านตามเรามาเถิด ข้าต้องรักษานางและลูกน้อยของนาง"

     "นำทางไปเลยท่านนักบวช"ร่างสูงเอ่ย

     ลอเรนซ์พยักหน้าก่อนจะวิ่งนำไปทางโบถส์ โดยมีร่างสูงตามไปด้วยอย่างรวดเร็ว




     "ท่านแม่ชี!"ลอเรนซ์ร้องเรียก "เร็วเข้า!!"

     แม่ชีเทเรซ่าและเคนวิ่งออกมาจากโบถส์ ก่อนจะมองร่างของหญิงขอทานอย่างตกใจ

     "เร็วเข้า! ทางนี้"แม่ชีเทเรซ่าเดินนำอย่างรวดเร็วไปบ้านหลังเล็กข้างโบถส์ที่ใช้รักษาและให้ที่พักพิงแก่คนจรมากมาย ลอเรนซ์เดินตามไปอย่างรวดเร็ว ตามด้วยเคนและร่างสูงในชุดคลุมสีดำ

     ร่างสูงวางหญิงขอทานลงบนเตียงนุ่มสีขาว แม่ชีรีบเข้ามาตรวจอาการทันที ก่อนจะเบิกตาโตและส่ายหน้าเมื่อจับที่เส้นชีพจร

     "สายไปแล้ว....."แม่ชีเอ่ยอย่างเศร้าสร้อย ลอเรนซ์เบิกตากว้างก่อนจะก้มลงมองทารกน้อยในอ้อมแขนที่ร้องไห้จ้าราวกับรับรู้เรื่องที่เกิดขึ้น

     "ไม่จริงใช่มั๊ยครับ"ลอเรนซ์ถามย้ำอย่างไม่อยากเชื่อ รู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหล ใบหน้าร้อนผ่าว อะไรบางอย่างจุกอยู่ที่คอ "ไม่จริฝใช่มั๊ยครับซิสเตอร์.....แล้วเด็กคนนี้....."

     "ลอเรนซ์"เคนจับบ่าร่างบางอย่างปลอบโยน

     "พี่เคน"ลอเรนซ์หันมามองเคนอย่างเศร้าใจ

     "เธอช่วยเหลือหญิงคนนี้เต็มที่แล้วลอเรนซ์"ซิสเตอร์เทเรซ่าเอ่ย กุมมือลอเรนซ์อย่างอ่อนโยน ส่งยิ้มเอ็นดูให้ "เธอได้มอบสิ่งหญิงคนนี้ควรจะได้แล้ว......นั่นคือความห่วงใยและความรักในเพื่อนมนุษย์.....เธอทำได้ดี"

     "แต่เด็กคนนี้....."

     "ไม่เป็นไร.....เราจะดูแลเด็กคนนี้เอง"ซิสเตอร์รับเด็กทารกไปอุ้มไว้แนบอก ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง

     ลอเรนซ์มองหญิงสาวขอทานที่สิ้นใจจากไปอย่างสงบ น้ำใสไหลอาบแก้มนวลสีขาว วงแขนแกร่งอบอุ่นโอบไหล่ลอเรนซ์เอาไว้ ร่างบางมองเคนอย่างเศร้าสร้อย เคนยิ้มให้อย่างอ่อนโยน

     "อย่าร้องไห้นะ"เคนเอ่ย ปาดน้ำตาออกจากแก้มใสและขอบตางาม แทให้ลอเรนซ์นึกถึงตอนเขาเด็กๆ ตอนนั้น.....เขาหกล้มและร้องไห้ ก็เคนนี่แหละที่มาคอยปลอบโยนเขา

     "ขอบคุณ.....พี่เคน"ลอเรนซ์เอ่ยสเยงสะอื้น

     "ชู่ว์...ฉันอยู่นี่แล้ว อย่าร้องนะ"เคนกอดร่างบางไว้อย่างปลอบประโลม ลอเรนซ์สะอื้นอยู่ในอ้อมกอดของร่างสูงทันที

     "ทั้งๆที่ฉันเป็นนักบวชแท้ๆ......แต่กลับ ฮึก ไม่ชินกับการเห็นคนตายสักที....ขนาดในสงคราม ฮึก....ฉันยังร้องไห้เลย.....ฮึก"

     "นั่นเพราะนายเป็นนักบวขไงละลอเรนซ์.....นักบวชที่เสียใจกับทุกชีวิตที่จากไป นายร้องไห้เพื่อพวกเขาเพราะรักในเพื่อนมนุษย์"

     "ฮึก....ฮือๆ....."ลอเรนซ์กอดพี่ชายแน่น พลางสะอื้นไห้

     ร่างสูงในชุดคลุมสีดำมองภาพตรงหน้า มือกำหมัดแน่นก่อนจะเดินออกไปอย่างขัดใจ ดวงตาสีดำสนิทวาวโรจน์เมื่ออกมาจากเขตโบถส์ เพราะในอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ เขาไม่สามารถเผยพลังได้มากนัก

     ร่างสูงเดินห่างจากโบถส์ ก่อนจะเดินเข้าไปในตรอกเล็กๆที่มืดจนเกือบมองไม่เห็น มือกำแน่น ถอดผ้าปิดปากออกเผยให้เห็นใบหน้าคมที่ตอนนี้กำลังโกรธเคือง กดัฟันกรอด

     "ทีฉันละหน้าบึ้งตลอด! พอกับมัน!! ฮึ้ย!!!"ลูคัสต่อยกำแพงอย่างเดือดดาล "คอยก่อนเถอะ......คืนนนี้แหละ ฉันจะพาตัวนายออกมา!!"

     ร่างสูงเอ่ยอย่างมาดหมาย ก่อนจะเดินลึกเข้าไปในตรอกมืดมากขึ้น และหายเข้าไปในเงาดำของอุโมงค์ที่ซอนอยู่ในเงามืดนั้น.....

ราตรีกาลมาเยือนอย่างเชื่องช้าอ่อนละมุน สายลมเย็นพัดผ่านผ้าม่านผืนบางสีขาวให้พลิ้วไหวน้อยๆดูละมุนละไม ยิ่งแสงจันทราที่สาดส่องเข้ามาแล้ว ยิ่งเพิ่มความงดงามยามค่ำคืนให้มากขึ้น แต่แล้วจันทราก็กลับหม่นไปถนัดตาเมื่อร่างบางผิวสีงาช้างย่างกรายออกมายืนอยู่ริมระเบียง ก่อนเหม่อออกไปไกล เห็นเมืองยังคงครึกครื้นไปด้วยแสงไฟ สงสัยพวกใช้ชีวิตราตรีกำลังเริ่มต้นชีวิตของตน ลอเรยซ์เบ้ปาก ก่อนจะมองดวงจันทร์บนฟ้า ใบหน้าผ่อนคลายดูอ่อนโยน งดงามราวพระเจ้ารักใคร่ให้คนๆนี้เกิดมาพร้อมความงดงามที่มิอาจถอนสายตา

     ดวงตาสีอเมทิสส่องประกายวาววับเหมือนดวงดาว ผิวงาช้างต้องแสงจันทราให้ดูอ่อนละไม ผมสีทองที่ยาวคอเคลียต้นคอยิ้มเพิ่มความงามให้มากขึ้นอีก ผนวกกับใบหน้าติดหวานงดงามราวเทพธิดามาโปรด หากใครพบเห็นร่างบางยามนี้คงมิอาจขยับเขยื้อนหรือแม้แต่ถอนสายตาได้ เพราะความงดงามที่มากจนแทบลืมหายใจ

     ร่างบางพ่นลมออกจากปากใส่ฝ่ามือเรียว ก่อนจถูไปมา เพราะสายลมเย็นพัดพาความหนาวมาด้วย

     "ถ้าหนาวก็ควรจะเข้าห้องสิ"

     ร่างบางยังไม่ทันเหลียวหลังไปมองก็รู้สึกถึงความหนักของเสื้อคลุมหนา ไออุ่นและกลิ่นกายที่คุ้นเคย

     "พี่เคน....."ลอเรนซ์หันไปยิ้มละไมให้พี่ชาย

     เจ้าชายร่างสูงสง่ายิ้มก่อนจะเดินมายืนเคียงข้าง ลอเรนซ์กระชับผ้าคลุมไหล่แน่นอย่างหนาวเหน็บ เคนเขยิบเข้ามาใกล้ร่างบางมากขึ้น ก่อนจะจับมือร่างบาง

     "หืม??"ลอเรนซ์มองเคนอย่างแปลกใจ

     "หนาวไม่ใช่เหรอไง?"เคนถามอย่างอ่อนโยน

     ลอเรนซ์หน้าแดงอยู่สักครู่ก่อนจะทำหน้ามุ่ยดึงมืออกอย่างอายๆ "มะ ไม่ขนาดนั้นหรอกน่า"

     "ฮ่าฮ่า"เคนหัวเราะเบๆอย่างขบขัน

     ลอเรนซ์เบ้ปากก่อนจะค้อนใส่วงโต

     "โธ่~ ล้อเล่นหน่อยเดียวเอง"เคนเริ่มง้อ

     ลอเรนซ์เบ้ปาก แต่ไม่พูดอะไร

     เคนหัวเราะน้อยๆ ก่อนจะเฝ้ามองร่างบางทีกฃ่กำลังสนใจแสงไฟจากเมืองอยู่เบื้องหน้า เจ้าชายหนุ่มใจเต้นระรัว จนห้ามใจไม่ไหว ประคองใบหน้าร่างบางให้หันมามองตน ลอเรนซ์มองเคนอย่างแปลกใจก่อนจะเบิกตาโตเมื่อร่างสูงยื่นหน้าเข้ามาใกล้

     "เฮ้ย! เดี๋ยวก่อน!"ลอเรนซ์ดันตัวออกห่างอย่างๆหวาดๆ "พี่จะทำอะไร?"

     "ลอเรนซ์"เคนเอ่ยเสียงกระซิบ ก่อนจะจ้องตาเข้าไปในดวงตาสีอเมทิสจนลอเรนซ์หน้าร้อนผ่าว ใจเต้นด้วยความตกใจและหวั่นๆ

     "ยะ อย่านะพี่...."ลอเรนซ์ห้ามอย่างหวาดๆ

     "ลอเรนซ์......"เคนดึงร่างบางเข้ามาในอ้อมกอด ลอเรนซ์ผวาอย่างตกใจ ก่อนจะดิ้นรนพยายามออกห่างจากร่างสูง

     "ไม่ได้นะพี่เคน! เฮ้ย! ปล่อยสิ!!"ลอเรนซ์เตรียมจะหยิบมีดสั้นขึ้นมา แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินคำพูดของร่างสูง

     "ลืมเขา....."

     ร่างบางเงยหน้ามองร่างสูงอย่างตกใจ

     เคนมองร่างบางอย่างปวดร้าว "ฉันรู้นะ ว่านายรู้ว่าฉันคิดยังไง"

     ลอเรนซ์นิ่งเงียบ แต่พยักหน้า พลางเบือนหน้าหนีหลับตา ไม่อยากมองหน้าพี่ชาย

     "และฉันก็รู้.....ว่านายมีคนที่รักอยู่แล้ว.....ผู้ชายคนนั้น"

     "อย่าพูด"ลอเรนซ์เอ่ยเสียงรวดร้าว "ขอร้อง ปล่อยเถอะ แล้วอย่างพูดถึงมันอีกเลย"

     "ฉันก็ขอร้องลอเรนซ์....."เคนมองร่างบางอย่างเจ็บปวด "ฉันรักนาย"

     ลอเรนซ์เบิกตากว้าง มองพี่ชายอย่างตกใจ

      "ได้โปรด มองฉันบ้างเถอะ ลืมผู้ชายคนนั้นซะแล้วมองฉันบ้าง.....ลอเรนซ์"

     ร่างบางเม้มปาก ก่อนจะรีบตอบ "ไม่ได้....ขอร้องละพี่เคน.....ไม่ได้ ไม่ว่าจะเรื่องของ 'เขา' หรือเรื่องของพี่ ฉัน....ทำไม่ได้"

     "ทำไมละ"ร่างสูงเอ่ยอย่างรวดร้าว "ขอร้องละ งั้นไม่ต้องลืมเขาทันที แต่ได้โปรด มองฉันบ้างเถอะ!"

      ว่าแล้วก็ดึงร่างบางมากอดแน่น ลอเรนซ์พยายามขัดขืน แต่ร่างสูงกลับไม่ยอมปล่อย

      "ไม่! ขอร้องละ ปล่อยเราเถอะ!! อย่ายุ่งกับเราอีก.....ฮึก.....ขอร้อง.....อย่าให้ฉันต้องมีบาปไปมากกว่านี้.....ฮึก....."ร่างบางหยุดดิ้นก่อนจะสะอื้นไห้อย่างปวดร้าวใจ

     "ลอเรนซ์"ร่างสูงกอดร่างบาง ก่อนจะดันออกอย่างช้าๆ ประคองดวงหน้างามให้สบตาตน.....ใบหน้างามที่เปื้อนน้ำตา ยิ่งเพิ่มความงามให้มากขึ้นอีก แต่ร่างสูงก็คิดว่ายังไงร่างบางก็ไม่เหมาะกับความเศร้าโศก นอกจากความสุข เขาปาดน้ำตาออก ก่อนจะโน้มใบหน้าใกล้ลงไป

     "ได้โปรดลอเรนซ์.....ไม่ต้องลืมทันที แต่โปรดมองฉัน....นายควรจะได้เริ่มชีวิตใหม่"

     ร่างบางนิ่งฟัง.....นั่นสินะ.....ตั้งหลายปีแล้วที่คนๆนั้นจากไปโดยไม่ติดต่อมาเลย.....นั่นก็พอเป็นเครื่องพิสูจน์ได้แล้วไม่ใช่เหรอ.....ว่าคนๆนั้นลืมเขาแล้ว.....

     ร่างบางตัดสินใจว่าจะลืมอย่างแน่วแน่......มันควรจะถึงเวลาที่เขาจะเริ้มต้นใหม่เสียที.....

     แต่ก่อนที่ร่างบางจะรู้ตัว ริมฝีปากของร่างสูงก็ประกบกับริมสีปากอิ่มสีชมพูระเรื่อ ร่างบางเบิกตาโตตกใจ นิ่งอึ้งก่อนจะตกใจกว่าเดิมเมื่อลิ้นร้อนเข้ามาในโพรงปาก

     "อืม!"

     ร่างบางผลักร่างสูงออก ก่อนจะมองร่างสูงอย่างตกใจ

     เคนที่เพิ่มได้สิต มอง่างบางอย่างอึ้งๆ "ขะ ขอโทษที"

     ร่างบางหน้าแดงระเรื่อ ร่างสูงเกาหัวแรกอย่างเขินๆ "ปะ ไปนะ"

     ร่างสูงรีบเดินจากไป เมื่อประตูห้องปิดลง ลอเรนซ์จับแก้มตัวเองก่อนจะพบว่ามันร้องผ่าว

     "ให้ตายเถอะ!"ร่างบางสบถ ใบหน้ายังคงแดงระเรื่อก่อนจะรีบเดินเข้าห้องทันที




     ในเงามืด ดวงตาสีนิลจับจ้องเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ ตอนแรกก็ดีใจที่เก็นร่างบาง แต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นโกรธเคืองเมื่อเจ้าชายบ้านั่นมันจูบลอเรนซ์ต่อหน้าต่อตาเขา!!

     "กรอด~!!"

     "ไอหยา อย่าปล่อยรังสีอำมหิตตอนนี้ได้มั๊ยลูกพี่!!"ร่างในเงามืดเบื้องหลังเอ่ยอย่างหวาดๆ

     ร่างสูงพยายามสงบสติ ก่อนจะเอยน้ำเสียงเหี้ยมโหด "เตรียมตัวให้พร้อม! อีกสามสิบนาที!!"

     "ครับ!!"




     ทหารยามที่ได้รับการฝึกผนมาอย่างดีที่สุด ยืนนิ่งอย่างสงบ ประสาทหูรอรับฟังเสียงต่างๆที่จะแหวกเข้ามาในความเงียบงัน ดวงตาแน่วแน่ในความมืด มือกำอาวุธน่นเตรียมพร้อมเสมอ แต่แล้ว.....

     "อ๊ะ!.....อ่อก....."

     ก่อนที่ร่างของทหารในชุดเกราะจะล้มลงกระแทกพื้น ร่างในเงามือก็โผล่มารับไว้และค่อยๆวางร่างของทหารยามอย่างเบามือที่สุด แสงจันทร์สะท้อนให้เห็นเข็มเล็กที่ปักอยู่ที่ต้นคอของทหารยาม

     "เรียบร้อย"ร่างในเงามือกระซิบ และก็ปรากฎร่างชุดดำอีกมากมายนับสิบ ร่างสูงหัวหน้ากลุ่มยิ้มกริ่มก่อนจะเอ่ยสั่งกำชับ

      "ดีมาก.....จัดการซะ! แล้วจำเอาไว้ พวกเรามันตีนแมว....."



     ร่างบางบนเตียงใหญ่สีขาวผลิกตัวนอนไปอีกข้าง ก่อนจะหลับตาอย่างไม่กังวลสิ่งใดๆ ร่างสูงในชุดดำกำหมัดแน่นเมื่อเห็นว่าร่างบางยังใส่เสื้อคลุมของเจ้าชายอยู่เลย แต่ที่จริงแล้ว ร่อากาศคืนนี้ก็หนาวกว่าทุกวัน ร่างบางก็เลยคิดว่าใส่ไว้ก็ไม่เสียหายกันหนาวเสียอีกด้วย

     แต่ร่างสูงไม่คิดเช่นนั้น เขากัดฟันกรอด กำมือแน่นก่อนจะใช้ผ้าสีดำปกปิดใบหน้าครึ่งหนึ่ง ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ร่างบางที่กำลังหลับพริ้ม แต่ขณะที่ร่างสูงกำลังเอื้อมมือออกไป หมายจะจับร่างบาง ทันใดนั้นเอง! คมมีดสั้นสะท้อนแสงจันทร์เข้าดวงตาสีดำ แต่ไม่ทันการที่จะหลบเลี่ยง ร่างบางบนเตียงก็ตวัดตัวขึ้นทับร่างสูงอย่างรวดเร็วและชำนาญ สมเป็นศิษย์ป้อมอัศวิน คมสีสั้นจ่ออยู่ที่คอของร่างสูง ดวงตาสีอเมทิสงดงามจ้องผู้บุกรุกยามวิกาลเขม็ง

     "เจ้าเป็นใคร!"ร่างบางถามเสียงเข้ม

     ร่างสูงไม่ตอบ นอกจากจ้องมองร่างบางเท่านั้น

     ลอเรนซ์ถามซ้ำ "ตอบมา! เจ้าเป็นใคร ต้องการอะไร!!?"

     "หึหึหึ"ร่างสูงหัวเราะ ก่อนจะตอบเสียงทุ้มคุ้นหู "ดูไปดูมาอยู่ท่านี้ก็ได้อารมณ์ดีนะ"

     ลอเรนซ์อึ้งไปชั่วขณะก่อนจะกัดฟันกรอด กดคมมีดเข้าใกล้คอร่างสูงมากขึ้น "สามหาว!!"

     "หึหึหึ"

     "ตอบมาเดี๋ยวนี้ เจ้าเป็นใคร!!"

     "ท่านก็รู้จักข้าดีอยู่แล้วนิ"

     "อะไรนะ??"

     แต่แล้วเสียงโครมครามตะโกนโหวกเหวกก็ดังมาจากหน้าห้อง ลอเรนซ์เงยหน้ามอง เป็นช่องโหว่ให้ร่างสูงจังหวะปัดคมมีดออกก่อนจะจับร่างบางเปลี่ยนตำแหน่ง ร่างบางร้องเสียงหลง ก่อนจะพบว่าตนเป็นฝ่ายเสียเปรียบเสียแล้ว

     "หึหึหึ"ร่างสูงหัวเราะในลำคอ

     "เจ้า!!"ลอเรนซ์กัดฟัน

     "ลอเรนซ์!!"เสียงของเคนดังเข้ามาข้างใน ก่อนจะตามด้วยเสียงกระแทกประตู

     "พี่เคน!!ลอเรนซ์ร้องเรียกคนข้างนอก ร่างสูงได้ยินแล้วไม่สบอารมณ์เอ่ยออกมาอย่างอัดอั้น

     "รู้สึกจะรักกันจริงนะ......ก็ได้"ร่างสูงหยิบผ้าผืนเล็กสีดำออกจากกระเป๋าและมัดแขนของลอเรนซ์เอาไว้

     "ปล่อยเดี๋ยวนี้นะเว้ย!"

     ร่างสูงไม่สนใจรัดแขนร่างบางแน่นจนลอเรนซ์ร้องอย่างเจ็บปวด ก่อนจะตามด้วยปิดดวงตาของเขาเอาไว้ด้วยผ้าสีดำ ร่างบางพยายามขัดขืนแต่ไม่สำเร็จ ก่อนจะรู้สึกตัวลอยเพราะร่างสูงอุ้มตนขึ้น

     "ปล่อย!! จะทำอะไรน่ะ ปล่อยสิ!!"ร่างบางดิ้นขลุกขลัก เวลาเดียวกับที่ประตูไม้พังเข้ามา

     เคนมองไปรอบๆห้อง ก่อนจะพบร่างสูงที่กำลังอุ้มร่างบางสีงาช้างที่กำลังดิ้นรนพาไปที่ระเบียง เคนรีบวิ่งตรงหมายจะเข้าไปห้าม แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อร่างสูงในชุดสีดำขึ้นไปยืนบนระเบียง

     "ปล่อยลอเรนซ์เดี๋ยวนี้!!"เคนร้องอย่างโกรธแค้น

     "พี่เคน!"ร่างบางได้ยินเสียงที่คุ้นเคยก็หยุดดิ้นทันที

     "ถ้าอยากได้คืน"ร่างในชุดดำเอ่ยเรียบๆ "ก็ตามให้เจอก็แล้วกัน"

     แล้วทันใดนั้น เสียงร้องแหลมของเยี่ยวห็ดังขึ้น

     "ขอละนะ"ร่างสูงในชุดดำเอ่ยอย่างท้าทาย แล้วทันใดนั้นพญาเยี่ยวยักษ์ก็โผล่ออกมาจากความมืด ร่างสูงกระโดดลงจากระเบียง

     "ลอเรนซ์!!"เคนร้อง ก้มมองเห็นพญาเยี่ยวบินโฉบมารองรับทั้งสองไว้ได้ทันเวลา ก่อนจะพุ่งทะยานขึ้นและบินหายลับไปในความมืดมิดยามราตรีกาล

กลุ่มคนในชุดดำมากมายกำลังรอคอยอยู่ในความมืดของพงไพร พวกเขาคือกลุ่มโจร และกำลังรอคอยหัวหน้ากลุ่มอย่างสงบและใจเย็น ข้างเกวียนใหญ่เป็นสมบัติที่ขโมยมาจากวังหลวง

     "มาแล้ว....."เสียงทุ้มเอ่ยให้ได้ยินกันทั่วถึง

     ทุกคนเงยหน้ามอง เห็นพญาเยี่ยวขนาดใหญ่กำลังร่อนลงมาแต่แล้วก็ต้องแปลกใจกันเป็นแถวๆเมื่อได้ยินเสียงร้องโวยวายมาจากพญาเยี่ยว

     "ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ ไอ้บ้า ไอ้เลว ไอ้คนไร้มารยาทไม่มีการศึกษา ไอ้สารเลวเอ๊ย! บอกให้ปล่อยยังไงเล่า!!"

     ทุกคนพยายามกลั้นหัวเราะอย่างโดยด่วน บางคนรีบกลับเข้าไปในเกวียนก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ แล้วพญาเยี่ยวก็ร่อนลงสู่พื้นดิน ร่างสูงลงจากหลังของวิหคยักษ์อย่างทุลักทุเลเพราะร่างบางในอ้อมแขนดิ้นไม่หยุด

     "บอกให้ปล่อยไง ถ้าฉันหลุดไปได้นะ ฉันจะสับแกเป็นร้อยๆชิ้น เสียบไม้เอามาย่างแล้วก็ให้หมากินเสียเลย!!"

     "เงียบเถอะน่า"ร่างสูงเอ่ยอย่างหน่ายๆ มองลูกน้องทั้งหลายที่พยายามกลั้นหัวเราะกันแทบตาย

     "งั้นก็ปล่อยสิโว้ย!!"ลอเรนซ์แหกปากร้องอย่างเหลืออด ก่อนจะพยายามเปิดตาออกจนสำเร็จ เขามองไปรอบๆพบกลุ่มโจรมากมายกำลังอมยิ้มกลั้นหัวเราะมองมาที่เขาและร่างสูง

     "ทีเงียบได้หรือยัง"ร่างสูงเอ่ย

     "ไม่!!"ลอเรนซ์เอ่ยเสียงแข็ง จ้องร่างสูงเขม็งและพยายามดิ้นให้หลุดจากพันธนาการ แต่ร่างสูงถอนหายใจอย่างเหลืออดจับร่างบางพาดบ่า "เฮ้ย!!"ลอเรนซ์ร้องเสียงหลงอย่างตกใจ

     ร่างสูงเดินดุ่มไปที่เกวียน ร่างเล็กโวยวายลั่น "บอกให้ปล่อยไงเล่า!!!"

     "อยู่นิ่งๆเถอะน่า"
      ร่างสูงเตรียมจะเดินต่อ แต่แล้วเสียงหัวเราะของเหล่าลูกน้องที่อดไม่ไหวก็ดังกระหึ่ม เขาหันไปจ้องอย่างดุดัน ทำให้เสียงเงียบลงได้ทันทีแต่ยังมีเล็ดลอดออกมาเล็กน้อย ลอเรนซ์ยังคงดิ้นไม่เลิก ร่างสูงหมดความอดทนทันที

     ป้าบ!



      เงียบกันไปนาน ร่างเล็กก็หยุดดิ้นโวยวายเพราะอึ้งและตกใจเมื่อร่างสูงฟาดมือลงบนแก้มบั้นท้ายเขาเสียงดัง....มันไม่เจ็บหรอก แต่มันน่าอายมาก!!!

     "เงียบสักที"ร่างสูงเปรยอย่างอารมณ์ดี

     "กะ กะ แก!!!!"ณ่างเล็กร้องลั่นป่า

     แล้วเสียงหัวเราะก็ดังกระหึ่มอีกครั้ง..........




     ลอเรนซ์จ้องร่างสูงเขม็ง ตอนนี้เขาถูกมัดมือ มัดขา และถูกปิดปาก เขารู้สึกได้ว่าเกวียนนั้นโคลงเคลงไปมา แสดงว่าพวกมันกำลังหนี แต่ดูแล้วเหมือนพวกมันจะไม่รีบร้อน เพราะเกวียนโคลงไปมาเบาเท่านั้น และเสียงฝีเท้าม้าข้างนอกก็แค่เหยาะ......อะไรทำให้พวกมันชะล่าใจแบบนี้นะ ถ้าช้าแบบนี้ทหารแอเรียสก็จะตามมาทัน แต่ทำไมพวกมันไม่รีบร้อนอะไรเลยละ?

     แต่ก่อนทีลอเรนซ์จะคิดจนได้คำตอบ ร่างสูงก็เคลื่อนตัวเข้ามาในเกวียน มองร่างบางอย่างมีชัย

     ถ้ามันเข้ามาแล้วใครจะขับเกวียวว่ะเนี่ย!? ลอเรนซ์คิด

     "อย่าห่วง ม้าของฉันฉลาดพอที่จะเดินทางได้เองโดยไม่มีคนคุม"เหมือนอ่านใจร่างเล็กได้ ร่างสงเอ่ยขึ้นมา

     ลอเรนซ์รู้สึกว่าน้ะเสียงนั้นคุ้นหู แต่นึกไม่ออกว่าเป็นของใคร.....

     "พูดจริงๆนะ ฉันไม่อยากมัดนายไว้อย่างนี้หรอก แต่ต้องการแน่ใจว่า.....นายจะไม่โวยวาย"

     ลอเรนซ์นิ่งคิด ก่อนจะพยักหน้า

     "ก็ดี"ร่างสูงเอ่ยก่อนจะเคลื่อนตัวมาใกล้ลอเรนซ์ ร่างบางระวังตัว แต่ร่างสูงก็ไม่ทำอะไรมากนอกจากแก้มัดเชือกให้ ร่างบางคอยอย่างใจเย็น

     "ไม่ค่อยเปลี่ยนไปเลยนะนายน่ะ"จู่ๆร่างสูงก็เอ่ยขึ้น

     ร่างบางมองอย่างไม่เข้าใจ

     ร่างสูงไม่เอ่ยอะไรอีกนอกจากแก้มัดเชือกต่อ จนเสร็จ ลอเรนซ์นวดข้อมืออย่างเจ็บปวด มองร่างสูงอย่างแค้นเคือง ร่างสูงเพียงยักไหล่ก่อนจะเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้มากขึ้น ดึงข้อมือของร่างบางมาดู ลอเรนซ์แปลกใจที่ทำไมร่างสูงถึงประคองมือของเขาอย่างทะนุถนอมขนาดนั้น แต่ที่แน่นๆ สมัผัสนั้นช่างน่าคุ้นเคยอย่างประหลาด อีกทั้งดวงตาสีดำที่แสนคุ้นตาอีกด้วย ร่างบางเริ่มอยากรู้ว่าเบื้องหลังผ้าปิดปากนั้นเป็นใคร

      แต่!!.....เขาไม่มีเวลาแล้ว.....

      ขณะที่ร่างสูงกำลังเผลอ ร่างบางก็หยิบมีดสั้นที่เหน็บที่เอวออกมาก่อนจะขว้างใส่ร่างสูงอย่างรวดเร็ว แต่แล้วสิ่งที่ทำให้ลอเรนซ์แปลกใจคือร่างสูงสามารถหลบคมมีดได้อย่างรวดเร็ว ทั้งๆนี่เป็นระยะประชิด! แถมท่าหลบก็คุ้นตาอีกต่างหาก แต่ร่างบางต้องรีบ ท่อนขาของเขาเตะเข้าที่ก้านคอร่างสูงจนร่างสูงล้มลง ร่างบางผลักร่างสูงให้ตกลงจากเกวียนทันที!!

     เหวอออ!!

     ตุบ!!

     เหล่าลูกโจรต่างตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นหัวหน้ากลุ่มของพวกมันกลิ้นลุนๆตกลงมาจากเกวียน ลูคัสกัดฟันกรอด ลุกขึ้นปัดเศษดินเศษหญ้าก่อนจะหันไปมองเห็นร่างบางขึ้นไปนั่งอยู่บนหลังม้า ลอเรนซ์ตัดสายเชอกที่เชื่อมกับเกวียนออก ก่อนจะเตะที่สีข้างของม้า สัตว์สีดำร้องเสียงหลัง ก่อนจะหันตัวควบออกจากกลุ่มคณะไป ทำให้คณะปั่นป่วนเล็กน้อย ร่างสูงกดัฟันกรอด เขาประมาทไป!!

     "เอาม้ามานี่!!"ลูคัสดึงลูกน้องที่อยู่ใกล้ที่สุดให้ลงมาจากม้า ก่อนจะตนจะขึ้นควบไปแทนและตะบึงห้อตามลอเรนซ์ไป

     ลอเรนซ์ควบม้าไปเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว เขาต้องกลับไปที่ปราสาท แต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียงควบตะบึงตามมา ร่างบางเหลียวหลังไปดู พบว่าร่างสูงในชุดดำกำลังควบม้าตามมาติดๆ ลอเรนซ์กัดฟัน ก่อนจะเร่งให้ม้าเร่งฝีเท้าให้เร็วกว่านี้ แต่เนื่องจากมันเป็นเพียงม้าเลวลากเกวียนเท่านั้น มันจึงเร่งฝีเท้าให้เร็วกกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว ร่างบางกัดฟันกรอด ทันใดนั้น ร่างสูงก็ควบตะบึงม้ามาเคียงข้างร่างบางได้ทัน

     ลอเรนซ์เบิกตาโตอย่างตกใจ ร่างสูงไม่รอช้ากระโดดรวบตัวล่างบางเอาไว้ในอ้อมแขน ทั้งคู่กลิ้งลุนๆตกจากม้าเข้าไปในโพรงหญ้านุ่มๆ ส่วนม้าทั้งสองตัวก็หยุดวิ่ง ร่างบางไม่รู้สึกเจ็บมากมาย เพราะร่างสูงกอดเขาเอาไว้แน่นและเป็นคนรองรับเขาไว้.....ทำไมละ?.....

     "ดื้อนักนะ!!"แต่แล้วร่างบางก็ต้องถึงกับหวั่นใจเมื่อร่างสูงตะคอกใส่เขา "ได้!! ไม้อ่อนไม่ชอบ งั้นไม้แข็งก็ได้"

     "อ๊ะ! จะทำอะไรน่ะ!!?"ร่างบางร้องอย่างผวาเมื่อร่างสูงดึงเขาเข้าไปใกล้จนใบหน้าของทั้งคู่ห่างกันแค่คืบ รับรู้ได้ถึงลมหายใจของกันและกัน

     "ทำให้นายหนีฉันไปไหนไม่ได้ไง!!"

     ว่าจบร่างสูงก็รั้งท้ายทอยร่างบางให้เข้ามาใกล้ตนและประกบริมฝีปากของเขาอย่างดุดัน ลอเรนซ์เบิกตาโตอย่างตกใจ ก่อนจะรีบตั้งสติพยายามดิ้นรนขัดขืนอย่างที่สุด แต่ร่างสูงไมสนใจ กลับกดท้ายทอยของร่างบางไม่ให้บ่ายหน้าหนีไปไหนก่อนจะส่งลิ้นร้อนเข้าไป ร่างบางดิ้นขลุกขลักเมื่อล้นร้อนตวัดเกี่ยวหาความหวานในโพรงปากของตน ลอเรนซ์พยายามดันร่างสูงออกแต่ไร้ผล แต่แล้วก็ต้องแปลกใจมากกว่าเดิมเมื่ออะไรบางอย่างไหลลงคอไป ร่างสูงถอดริมฝีปากออก ลอเรนซ์เริ่มรู้สึกมึนหัว ภาพตรงหน้าเริ่มพร่ามัว ก่อนจะหมดสติล้มลงในทันที

     ร่างสูงรับร่างบางไว้ได้ทัน ก่อนจะช้อนตัวร่างบางขึ้นอุ้มไว้ในอ้อมแขนอย่างทะนุถนอม ร่างสูงเดินออกมาจากพุ่มไม้ ส่งเสียงเรียกม้า มันวิ่งตรงมาหาเขา ร่างสูงตวัดขาขึ้นไปบนอาชาแกร่ง กระชับร่างบางในอ้อมแขนก่อนจะมุ่งตรงกลับสู่กองโจรของตน เมื่อกลับมารวมกลุ่มได้อีกครั้ง ก็สร้างเกราะเวทย์มนต์ให้หนาขึ้นกว่าเดิมเพื่อพรางตาและทำให้คนนอกเข้ามาไม่ได้ คนในก็ออกไปได้จนกว่าเขาจะถอนมนต์ออก.....นี่เองที่ทำให้พวกกองโจรไม่รีบ.....

     "เป็นไงบ้างลูกพี่!?"เสียงทุ้มเอ่ยถาม พลางควบม้ามาใกล้ เขาคือเจ้าของเสียงที่ติดตามลูคัสไปทุกที่นี่เอง

     "ไม่เป็นไรแล้ว"ลูคัสตอบ "เอาละ 'แซม' นายไปเอาม้าตัวหนึ่งมาและจัดการกับเกวียนซะ เราจะพักแรมกันที่นี่"

     "ได้ครับ!"

     ทุกคนหยุดขบวนก่อนจะลงจากหลังม้า บิดกายไปมาอย่างเมื่อล้าก่อนจะช่วยกันตั้งแคมป์ก่อไฟอย่างรวดเร็ว กระโจมของลูคัสจะมีคนจัดไว้ให้เสมอ เขาลงจากหลังม้า กระชับร่างบางในอ้อมกอด ทุกคนมองร่างบางในอ้อมกอดของร่างสูงอย่างสนใจ เพราะแสงจันทร์ยามราตรีสาดส่องเพิ่มความงดงามให้ร่างบางในอ้อมแขนร่างสูงมากขึ้นกว่าเดิม ร่างสูงส่งสายตาเหี้ยมใส่ทุกคนก่อนจะใช้ผ้าคลมปกปิดร่างบางเอาไว้ ก่อนจะเดินเข้ากระโจมไป ไม่วายสร้างเกราะป้องกันเอาไว้อีกด้วย ซึ่งเกราะนี้จะกันไม่ให้คนนอกเข้ามาได้และกันเสียงภายในเล็ดลอดออกไป

     ร่างสูงวางร่างบางลงบนเบาะนุ่มอย่างเบามือ ห่มผ้าห่มให้อย่างห่วงใย ก่อนจะก้มลงจุมพิตที่หน้าผากร่างบางอย่างอ่อนโยน

     "ฉันรู้ว่านายโกรธ"ลูคัสเอ่ย "แต่เชื่อเถอะ ไปกับฉัน....."
ร่างบางปรือตาขึ้นอย่างง่วงงุน ก่อนจะเบิกตาโพลงเมื่อนึกได้ว่าตนอยู่ที่ไหน ลอเรนซ์ลุกขึ้นพรวดอย่างรวดเร็วก่อนจะเซเล็กน้อยเพราะขยับตัวเร็วไปทำให้เลือดไปหล่อเลี้ยงที่หัวไม่ทัน

     "โอย....."ลอเรนซ์นวดตรงขมับเบาๆ

     พอดีกับที่ร่างสูงในชุดคลุมสีดำเดินเข้ามาพอดี เมื่อเห็นร่างบางนวดที่ขมับก็นึกว่าลอเรนซ์เป็นอะไรไปจึงรีบเข้าไปหาร่างบางอย่างรวดเร็ว

     "เป็นอะไรเหรอ?"

     "อ๊ะ!"ลอเรนซ์ร้องอย่างตกใจเมื่อร่างสูงปราดเข้ามาใกล้

     "ปวดหัวเหรอ? หรือไม่สบาย?"

     ลอเรนซ์มองร่างสูงอย่างแปลกใจที่อยู่ๆก็มาเป็นห่วงเป็นใยเขาซะอย่างนั้น แต่เมื่อร่างสูงทำท่าจะเอามือแตะที่หน้าผากของเขา ลอเรนซ์ก็เขยิบตัวหนีอย่างรวดเร็วด้วยความไม่ไว้ใจ จ้องร่างสูงเขม็ง

     "อย่ามาแตะต้องนะ!"

     ร่างสูงในชุดดำผงะไปสักครู่ ก่อนจะกำมือแน่นอย่างขุ่นเคือง มองร่างบางอย่างไม่พอใจ

     "หึ! ก็ดี.....ตื่นแล้วก็ดี เปลี่ยนเสื้อผ้าซะ!"

     ร่างสูงโยนเสื้อผ้าให้ลอเรนซ์ ร่างบางรับมาอย่างไม่พอใจ ก่อนจะมองชุดที่ได้รับ

     "นี่มันของผู้หญิง!!"

     "ใช่ นั่นแหละที่นายต้องใส่ เราจะออกจากแอเรียสกันวันนี้"

     "ฉันไม่มีทางใส่เด็ดขาด และจะไม่ไปไหนทั้งนั้น!"ร่างบางปาชุดใส่ร่างสูง

     ร่างสูงมองชุดที่ตกลงพื้น ก่อนจะมองร่างบางตรงหน้าอย่างหมดความอดทน "ดื้อจริงๆนะ ไม่เปลี่ยนไปเลย!!"

     ประโยคท้ายเรียกความแปลกใจให้ลอเรนซ์ได้อย่างดี แต่แล้วก็ต้องเปลี่ยนเป็นตกใจเมื่อร่างสูงกระชากร่างบางเข้าไปใกล้

     "จะ จะทำอะไรนะ!!??"

     "เปลี่ยนเสื้อผ้าไงละ ถ้าไม่อยากเปลี่ยนเอง ฉันก็จะเปลี่ยนให้เอง!!"

     "ยะ อย่านะ!! เฮ้ย! บอกว่าอย่า!"ร่างบางผลักไสร่างสูงอย่างไม่ยินยอม ทั้งคู่วุ่นวายกันอยู่นาน จนมือเรียวของลอเรนซ์จับผ้าปิดหน้าของร่างสูงออก เมื่อร่างบางได้เห็นใบหน้าของร่างสูงนั้นก็หยุดกึก มองร่างสูงตรงหน้าอย่างแปลกใจ

     "ละ ลูคัส! นาย ทำไม??"

     ลูคัสไม่ตอบอะไร แต่ใช้จังหวะที่ร่างบางเผลอจับร่างบางถอดเสื้อออกทันที

     "เฮ้ย!!"

     ลูคัสหยุดกึก มองคนตรงหน้าอย่างไม่ละสายตา ก่อนจะยิ้มกริ่ม.....ผิวพรรณละเอียดสีงาช้าง ยากที่จะทำให้ร่างสูงละสายตาจากไปได้ ไหล่มนคลอเคลียผมสีทอง ยอดกุหลาบน่ารัก เอวคอดกว่าที่เห็นจากภายนอก.....น่าลิ้มลองเสียจริงๆ.....

     "อย่ามองนะเว้ย!!"ลอเรนซ์กอดตัวเองแน่น หน้าแดงอย่างอับอาย

     "หึหึหึ ทำไมละ อายเหรอไง.....ลอรี่"

     "ไอ้ลูคัส!!"ลอเรนซ์ตะคอกเสียงเขียว แต่ปามีดไม่ได้อย่างที่เคย เพราะตนอยู่ในสภาพกึ่งเปลือยเช่นนี้ "แกทำไมต้องจับฉันมา บอกมาเดี๋ยวนี้นะ!!"

     ร่างสูงยักไหล่ก่อนจะเอ่ย "เรื่องมันยาว แต่ที่แน่ๆ.....นายควรจะเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว"

     "ไม่! ให้ตายยังไงฉันก็ไม่ยอมใส่เสื้อผ้าผู้หญิงเด็ดขาด!"

     "ก็ได้"ร่างสูงใช้ความเร็วเหลือเชื่อตวัดตัวขึ้นคร่อมร่างบางทันที ลอเรนซ์ตกใจมากก่อนจะดิ้นรนอย่างไม่ยอมแพ้

     "ปล่อยฉัน ปล่อยสิเว้ย!!"

     "เสียใจลอรี่ แต่เพราะนายไม่ยอมเปลี่ยนเสื้อผ้าเอง ฉันต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นายจริงๆ"ว่าจบก็เลื่อนมือลงไปที่กางเกงของร่างบาง ลอเรนซ์ร้องอย่างตกใจก่อนจะเอ่ยอย่างหมดท่า

     "ก็ได้ๆ!! ฉันจะเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ลงไปสักที!!"ลอเรนซ์หน้าแดงแปร๊ดอย่างอับอายขายขี้หน้า มองร่างสูงอย่างเคียดแค้น

     "หึหึหึ ดี"ร่างสูงลงจากเตียง ก่อนจะโยนเสื้อผ้าให้ลอเรนซ์ และยืนนิ่ง มองร่างบางอย่างรอคอย

     "ออกไปสิ!"ลอเรนซ์ไล่

     "นายก็เปลี่ยนเสื่อผ้าสิ"ลูคัสยิ้มกริ่ม

     "ถ้าแกดูอยู่แล้วฉันจะเปลี่ยนได้ยังไงเล่า!"

     "ไม่เห็นต้องอายนิ อยู่ด้วยกันมาตั้งเจ็ดปี อายทำไมละ หึหึหึ"

     "นั่นมันตอนเป็นนักเรียนเว้ย!"

     "ขี้เกียจเถียงแล้วนะ ถ้านายยังไม่ยอมเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉันจะเปิดกระโจมนี่ให้ลูกน้องของฉันมองดูนายเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียเลย"ลูคัสผู้หน้าตาเฉย

     "แก!!"

     "เลือกเอา"ลคัสยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และเป็นต่อ "จะเปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้าฉัน หรือต่อหน้ากลุ่มโจรทั้งคณะ.....ก็ไม่อยากจะบอกละนะ แต่พวกนั้นเห็นของสวยๆงามๆอย่างนายแล้ว จะชายหญิงพวกมันก็ไม่เกี่ยงหรอกนะ หึหึหึ"

     ร่างบางกัดฟันกรอด แต่ก็อดผวาตามที่ร่างสูงบอกไม่ได้ เขาจำใจเปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้าร่างสูง ในใจสาปแช่งด่าทอไปด้วยอย่างโกรธแค้น

     ร่างสูงเพียงยิ้ม มองร่างบางเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างพอใจ สายตาสีดำสำรวจร่างกายร่างบางอย่างพอใจ.....ผิวละเอียดสีงาช้าง เอวคอด รูปร่างบอบบาง แต่ก็มีความเป็นชายแฝงอยู่ แต่ยังไงเสีย ก็ยังดูคล้ายผู้หญิงอยู่ดี.....

     "เสร็จแล้ว!"ลอเรนซ์เอ่ย

     "ดี"ลูคัวยิ้มกริ่ม มองร่างบางในชุดกระโปรงยาวสีดำคลุมเท้าอย่างพอใจ....ใส่แล้วสวยเหมือนกันนิหว่า.....ลูคัสยิ้มกริ่ม

     "ไม่ตลกนะ!!"ลอเรนซ์แหวใส่

     "หึหึหึ เอานี่"ลูคัสโยนผ้าสีดำให้ลอเรนซ์ "คลุมหัวและปิดหน้าซะ"

     ร่างบางยิมทำตามแต่โดยดี เพราะยังหวั่นๆกับร่างสูงตรงหน้าอยู่ ลูคัสเดินเข้าไปใกล้ร่างบาง ลอเรนซ์ถอยห่างอย่างหวาดๆ ลูคัสเพียงยิ้ม ก่อนจะจับเส้นผมสีทองของร่างบางอย่างเบามือ มันทั้งนุ่มละเอียดเหมือนเส้นไหมชั้นดี

     "ผมยาวขึ้นนะ"ลูคัสเปรยเบาๆ ลอเรนซ์เงียบ ไม่ว่าอะไร "ไปเถอะ"ร่างสูงคว้าข้อมือของลอเรนซ์ให้เดินตามมา ซึ่งลอเรนซ์ตอนแรกก็ขัดขืน แต่ร่างสูงส่งสายตาดุดันมาให้จึงจำต้องยอมเดินออกนอกกระโจมตามไปแต่โดยดี




     เจ้าชายหนุ่มนั่งอยู่บนอาชาสง่าสีขาว ดวงตาสีเงินดุดันกวาดไปทั่วอย่างตั้งใจเพื่อตามหาใครบางคน.....

     "เป็นยังไงบ้าง?"เจ้าชายหนุ่มถามทหารที่ประจำอยู่ที่ประตูชายแดน

     "ไม่มีวี่แววของเจ้าชายลอเรนซ์เลยครับ"

     เคนถอนหายใจหนัก ก่อนจะสั่งให้ม้าเดินเหยาะไปเรื่อยๆเพื่อตรวจตราให้แน่ใจ ดวงตาสีน้ำเงินมองทุกเกวียนทุกกลุ่มคณะอย่างละเอียดที่สุด แต่ก็ยังคงไร้วี่แววร่างบาง

     "นายอยู่ไหนนะลอเรนซ์"เคนเอ่ยอย่างกังวล

     ขณะเดียวกัน คนที่ถูกตามหา.....

     ร่างบางถูกบังคับให้นั่งนิ่งๆบนหลังม้าในอ้อมแขนของลูคัสที่ตอนนี้สวมเสื้อผ้าสีเข้มแบบพ่อค้าเร่ทั่วไป ลอเรนซ์มองดูคณะกลุ่มโจรทั้งหลายที่แต่งตัวแบบพวกแรงงานคนและพ่อค้าเช่นกัน เขาเบ้ปากอย่างไม่พอใจ เมื่อเงยหน้ามองร่างสูงก็พบดวงตาสีราตรีจ้องมองอยู่

     "นั่งนิ่งๆจะได้มั๊ย"ร่างสูงกระซิบ

     "นั่นเป็นคำพูดที่ฉันควรจะพูดต่างหาก"ลอเรนซ์เอ่ยเสียงเขียว เพราะร่างสูงพยายามเบียดเขาให้ได้ ไม่วายโอบเอวเขาไว้ทำไมก็ไม่รู้

     "หึหึหึ อย่างส่งเสียงดังสิลอรี่ (ลอเรนซ์จ้องเขม็ง) ตอนนี้นายอยู่ในฐานะตัวประกันและก็.....ภรรยาของฉัน"

     "ไม่ใช่!"ลอเรนซ์เอ่ยอย่างไม่พอใจ

     "จุ๊ๆ อย่าส่งเสียงดังสิที่รัก หึหึ จะบอกให้ นายเห็นเจ้าชายคนนั้นมั๊ยเอ่ย?"

     ลอเรนซ์มองตามร่างสูงที่ชี้ให้เขาดู ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นเคนอยู่ไม่ไกลนี้เอง

     "พี่..."

     "อ๊ะๆ!!"ลูคัวขัด ยิ้มเจ้าเล่ห์ "ดูให้ดีๆสิ"

     ลอเรนซ์มองตามนิ้วร่างสูงอีกครั้งก่อนจะกัดฟันกรอดเมื่อเห็นมือธนูในชุดดำกำลังเล็งลูกธนูไปที่เคน.....เพียงแค่ลูคัสให้สัญญาณ เจ้าชายผู้งามสง่าก็จะสิ้นลมหายใจทันที แม้จะมีธนูป้องกันร่างกายกำยำ แต่ใบหน้าหรือลำคอนั้นไร้การปกป้องใดๆ ยิ่งครั้งเดียวตายได้ทันที.....ลอเรนซ์จ้องลูคัสเขม็ง

     "อย่าทำอะไรพี่เคนนะ!"

     ลูคัสรู้สึกไม่พอใจอย่างมากที่ร่างบางให้ความสำคัญกับเจ้าชายนั่นถึงขนาดนี้ เขาจึงกระชับเอวร่างบางให้เข้าใกล้เขามากขึ้น ก่อนจะเอ่ยอย่างข่มขู่และเจ้าเล่ห์ "ก็ได้ แต่อย่างที่บอก เพียงนายตุกติกนิดเดียว เจ้าชายนั่นตายสนิท แต่ถ้านายนั่งนิ่งๆอยู่ในอ้อมกอดเหมือนภรรยาทั่วไป ฉันจะปล่อยเขาไปทันที"

     "ฉันไม่ใช่ภรรยานาย!"

     "แต่ตอนนี้ใช่แล้ว"ลูคัสเอ่ย ยิ้มกริ่ม "เลือกเอาแล้วกัน"

     ลอเรนซ์กำหมัดแน่น มองเคนอย่างห่วงใย พยายามให้เจ้าชายรับรู้ว่าเขาอยู่ตรงนี้ รอให้ช่วย....พลันก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้.....ถ้าเขาได้รับการช่วยเหลือ และลูคัสถูกจับ ลูคัสก็ต้องโทษประหารแน่!.....แต่เขาก็ต้องกลับไปนะ.....แต่ลูคัสต้องตายหากเขากลับไปได้......ลอเรนซ์รู้สึกไม่ดีขึ้นมาทันที.....

     "ปิดหน้าซะที่รัก"ลูคัสเอ่ยน้ำเสียงอ่อนโยน ลอเรนซ์ไม่แน่ใจว่านั่นเป็นการเล่นละครหรือเปล่า แต่ฟังแล้วกลับใจเต้นตึกตักอย่างประหลาด และยิ่มเมื่อมือใหญ่จัดแจงผ้าคลุมหน้าให้เขา หัวใจก็ยิ่งแทบเต้นไม่เป็นจังหวะ ใบหน้าแดงก่ำอย่างช่วยไม่ได้

     "อย่าเรียกฉันแบบนั้นอีก!"ลอเรนซ์เอ่ยเสียงกระซิบอย่างไม่พอใจ

     "ทำไมละ.....ที่รัก"

     "ไอ้!"ลอเรนซ์ไม่รู้จะว่าคนตรงหน้าว่ายังไงแล้ว จึงได้แต่กระฟัดกระเฟียดเท่านั้น

   
 
     เจ้าชายเคนกวาดสายตามองกองคาราวาน (ปลอม) อย่างถีถ้วน ก่อนจะมองพ่อค้าหัวหน้ากองคาราวานที่กำลังพูดคุยกับทหารคุมด่าน แล้วพลันสายตาเหลือบไปเห็นร่างเล็กที่นั่งอยู่ภายในอ้อมแขนของพ่อค้าคนนั้น ดวงตาสีอเทมิสต์นั้นสะดุดตาเขาอย่างมาก เคนสั่งให้ม้เดินไปทางพ่อค้าท่านนั้นอย่างรวดเร็ว

     ลอเรนซ์มองเคนที่เดินเข้ามาใกล้ ก็อดดีใจไม่ได้ บางทีเขาอาจรอดก็ได้ แต่เมื่อเหลือบไปเห็นนักลอบสังหารของลูคัสก็ต้องกำมือแน่น.....เขาทำไม่ได้.....เขาจะให้เคนได้รับอันตรายไม่ได้

     "ท่านพ่อค้า"เจ้าชายเคนเอ่ย

     ลูคัสหันมามองเจ้าชายหนุ่มแสร้งทำแปลกใจก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มกว่าเดิมลอดผ้าปิดหน้าออกมา

     "โอ้! เจ้าชายเคน"ลูคัสก้มหัวน้อยๆ ลอเรนซ์ทำตามน้ำโดยการก้มหัวตามแต่ไม่ได้พูดอะไร

     "ท่านพ่อค้า หญิง....หญิงผู้นั้นเป็นใคร?"เคนเอ่ยถาม

     "อ้อ! นางเป็นภรรยาของข้าเององค์ชาย"

     "ภรรยาหรือ?"เคนมองร่างบางในอ้อมแขนของลูกคัส ร่างบางพยักหน้าเป็นการยืนยัน

     "ท่านมีอะไรหรือองค์ชาย?"ลูคัสแสร้งทำเป็นสงสัย

     "เอ่อ.....เฮ้อ~! เราขอโทษที ภรรยาเจ้าดูจะงดงามมาก เจ้าโชคดีจริงๆที่มีภรรยาเช่นนี้ และขอโทษที่ทำให้ท่านล่าช้า"

     "โอ้ ไม่หรอกท่าน"

     "ขอให้โชคดี"

     "เช่นกัน"

     ลอเรนซ์รู้สึกกอดเจ้าของวงแขนกว้างขึ้นมา ขณะที่ร่างสูงนี้กำลังพาเขาให้ออกห่างจากเคน ออกห่างจากทางรอดทางเดียว เขาโกรธที่ร่างสูงเปลี่ยนไปขนาดนี้ โกรธที่ร่างสูงใช้วิธีบีบคั้น

     "หึหึหึ"ลูคัสหัวเราะอย่างพอใจในแผนการ

     "แกมัน!"ลอเรนซ์กัดฟันพูดอย่างโกรธเคือง

     "หึหึหึหึ นายไปไหนไม่ได้แล้วลอเรนซ์ นายไม่มีทางไหนอีกแล้ว"

     "ฉันเกลียดแกที่สุด!!"

เมื่อกองคาราวานเดินทางออกมาไกลห่างจากท่าด่านได้ไกลพอควร เข้าสู่ทางป่าทึบที่สามารถเป็นที่ซ่อนตัวได้อย่างดีแก่เหล่ากองโจร ลูคัสกางเขตเวทย์ลวงตาและเขตป้องกัน ทำให้ผู้ที่มองจากข้างนอกจะไม่เห็นพวกเขาและเข้ามาไม่ได้

     ลอเรนซ์ต้อจำใจนอนกระโจมเดียวกับลูคัสเพราะร่างสูงนั้นบังคับ หากเขาไม่ยอม ก็จะปล่อยให้เขาไปนอนกับพวกลูกน้องขุนโจรที่นอนกระโจมใหญ่กว่าและเป็นกระโจมที่ใช้นอนรวม

     "เปลี่ยนเสื้อผ้าซะ"ลูคัสโยนเสื้อผ้าผู้ชายมาให้ลอเรนซ์ "แล้วอย่าออกไปไหนเด็ดขาด.....ฉันขอเตือน"

     "นายไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉัน"ลอเรนซ์เอ่ยอย่างไม่พอใจ

     "หึหึหึ....."ลูคัสยิ้มเจ้าเล่ห์ "ขอบอกไว้อีกอย่าง.....กฎของที่นี่คือ ฉันคนเดียวเท่านั้นที่เป็นใหญ่ ใครก็ขัดไม่ได้ ใครขัดขืนคำสั่งของฉัน.....คนๆนั้นจะได้รับรู้ความทรมานที่ไม่เคยรับรู้มาก่อน"

     ลอเรนซ์หวาดกับคำขู่นั้น แต่เขาพยายามใจดีสู้เสือ เชิดหน้าขึ้นเยี่ยงเจ้าชายและเอ่ยด้วยน้ำเสียงอย่างไม่เกรงกลัวว่า "กลัวตายละ กะอีแค่พวกโจรอย่างนาย แค่นี้ไม่ครนามือฉันหรอก"

     "งั้นถ้าเป็นแบบนี้ละ"ลูคัสเดินตรงเข้าไปดึงลอเรนซ์เข้ามาใกล้ และก้มลงประทับจุมพิตรุนแรงทันทีโดยที่ร่างบางไม่ทันตั้งตัว ลอเรนซ์เบิกตากว้าง ก่อนจะพยายามผลักไสร่างสูง แต่แล้วก็ต้องรู้สึกแลปกไป เมื่ออะไรบางอย่างกำลังออกไปจากร่างกายของเขา ผ่านทางลำคอ เข้าสู่ช่องปากของร่างสูง

     "ไม่....."ลอเรนซ์เปิดการ้องอย่างอ่อนแรง ลูคัสได้ทีตวัดลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากนุ่ม ก่อนจะควานหาความหวานล้ำเลิศที่โหยหามานานอย่างพอใจ "ไม่.....อืม....อา.....ไม่...."

     ร่างสูงถอนริมฝีปากออก มองดูร่างบางในอ้อมแขนที่หอบหายใจถี่ ใบหน้าหวานนั้นแดงกำด้วยความอาย แต่ดวงตาสีอเมทิสนั้นกลับจ้องมองเขาอย่างโกรธแค้น

     "หึหึหึ.....ไม่พลังเวทย์ ก็เรียกมีดออกมาไม่ได้ ใช้มนต์ไม่ได้ แล้วทีนี้นายก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้อีกแล้ว"

     "แกมัน!!!"

     "จะเอาอีกรอบเรอะ"

     ลอเรนซ์กัดฟันกรอด ก่อนจะสะบัดตัวออกห่างจากลูคัสอย่างรังเกียจ ลูคัสเพียงยิ้มกริ่มก่อนจะเดินออกไปจากกระโจม ร่างบางทรุดตัวนั่งลงบนที่นอน ก่อนจะซบหน้าลงกับฝ่ามือปาดน้ำตาแห่งความอ่อนล้าและเศร้าโศกออก

     "ไม่ได้.....ฉันจะต้องหนี....."




     ลอเรนซ์มองซ้ายมองขวาอย่างระแวดระวัง เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครสนใจเขาเลย ก็กระชับผ้าคลุมหน้าสีดำก่อนจะวิ่งออกไปจากกระโจม ก่อนจะหยุดอยู่หลังเกวียนเล่มหนึ่ง เขาแอบมองไปที่กลุ่มคณะโจรทั้งหมด ไปรวมตัวกันที่กองไฟใหญ่ ท่ามกลางเหล่าขุนโจร มีเพียงร่างสูงร่างเดียวเท่านั้นที่เด่นสง่าที่สุด.....ลูคัส.....ผู้กำลังเอ่ยอะไรบางอย่างที่ทำให้เหล่าลูกน้องต้องขบขัน และบางครั้งก็ต้องร้องออกมาอย่างตื่นเต้น

     ลอเรนซ์มองไปรอบๆอีกครั้ง.....ไม่มีใคร.....

     "ทางสะดวก"ลอเรนซ์พึมพำ ก่อนจะเดินไปทางกระโจมคอกม้าให้เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้

     ลอเรนซ์แหวกผ้าม่านกระโจมออก ก่อนจะมองดูฝูงม้าแข็งแรกกำลังสนใจแต่กองฟางและน้ำในราง ร่างบางหันไปมองข้างหลังอีกครั้ง ยังคงไม่มีใครสนใจเขา.....

     ร่างบางยิ้มอย่างได้ใจ เขาเดินไปที่ม้าตัวหนึ่งที่ท่าทางแข็งแรง มันเป็นม้าสีน้ำตาลเข้ม นัยตาดำขลับของมันมองลอเรนซ์อย่างสนใจ ร่างบางเอื้อมมือไปแตะที่หน้ามันเบาๆ ก่อนจะค่อยๆลูบมันอย่างอ่อนโยน เจ้าม้าเพศผู้รับรู้ในความอ่อนนุ่มนั้น ก็ยิมให้ร่างบางเข้าใกล้แต่โดยดี

     "เด็กดีๆ....."ลอเรนซ์เอ่ยยิ้มน้อยๆ "เด็กดีนะ.....ช่วยพาฉันออกไปจากที่นี่ทีจะได้มั๊ย"

     อาชาส่งส่งเสียงร้องเบาๆเหมือนรับรู้ ลอเรนซ์ยิ้มก่อนจะเริ่มมองหาอานม้า แต่แล้ว.....

     "เฮ้นาย!"

     "เหวอ!!!"




     ลูคัสหยุดเล่าเรื่องการพจญภัยของเขากระทันหัน ก่อนจะมองไปที่กระโจมคอกม้าที่มาของเสียงร้องนั่น.....ขุนโจรทุกคนมองตามผู้เป็นนายอย่างอยากรู้เช่นกัน

     และแล้ว ร่างสองร่างก็ออกมาจากกระโจมม้า โดยมีร่างเล็กที่ดิ้นรนขัดขืนและร่างสูงของรองหัวหน้ากองโจรล็อคแขนของลอเรนซ์ไว้แน่น จนร่างบางต้องร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ลูคัสมองร่างบางเขม็งก่อนจะเดินฝ่าฝูงลูกน้องตรงไปยังร่างบางที่หน้ากระโจมคอกม้าทันที

     "เกิดอะไรขึ้นแซม"ลูคัสถามเสียงเรียบ

     "แหม.....รู้สึกว่าเด็กคนที่ยี่สิบสองของนายจะหนีอีกแล้ว"แซมตอบยิ้มน้อยๆ

     "ปล่อยฉันสิ!"ลอเรนซ์ว่า พลางพยายามสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของแซม

     "ปล่อยเขาแซม"ลูคัสสั่ง แซมยอมปล่อยแต่โดยดี ลอเรนซ์สะบัดตัวออกห่าง ก่อนจะนวดแขนตัวเองอย่างเจ็บปวด

     "ล่ามโซ่ดีกว่ามั้ง"แซมหันไปเสนอกับลูคัส ลอเรนซ์มองแซมตาขวางทันที "หรือไม่ก็ให้ไปนอนรวมกับไอ้พวกนั้น"แซมชี้ไปที่ขุนโจรที่ยังคงมองเหตุการณ์ต่างๆมาจากกองไฟ "เจ้าพวกนั้นไม่ได้ลิ้มชิมรสเนื้อสดมานานแล้วซะด้วยสิ" แซมหันมามองลอเรนซ์อย่างเจ้าเล่ห์

     "อะไรนะ!!"ลอเรนซ์กัดฟันกรอด

     "ฉันจะทำอะไรกับ 'ของ' ของฉันเองแซม"ลูคัสเอ่ยเสียงเรียบ

     ลอเรนซ์สะอึกกึกกับคำพูดของลูคัส ร่างบางมองร่างสูงอย่างตกตะลึง แต่ร่างสูงไม่เห็นเพราะความมืด ลอเรนซ์รู้สึกว่าหัวใจเจ็บแปลบ ขอบตาและใบหน้าร้อนผ่าว ก่อนที่น้ำตาจะเริ่มปริ่มขอบตา ร่างบางก็ออกวิ่งกลับไปที่กระโจม เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถนี้ไปไหนได้แล้ว.....

     ลอเรนซ์ปิดกระโจมและดับไฟตะเกียงจนภายในกระโจมนั้นมือสลัว ร่างบางโยนผ้าคลุมกายออก ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงนุ่ม กอดเข่าทั้งสองข้างและซบหน้าลงกับหัวเข่า ร่างบางสะอื้นไห้อย่างห้ามไม่อยู่.....

     'ของ'.....เขาเป็นเพียงสิ่งของ.....

     ทำไมถึงเป็นแบบนี้.....ทำไมลูคัสถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้.....

     เจ็บเหลือเกิน......สุดท้ายเขาเพียงมีค่าแค่สิ่งของ.....

     "บ้าที่สุด...ฮึก..."

     ร่างสูงเดินเข้ามาในกระโจมก่อนจะมองดูร่างบางที่กำลังสะอิ้นไห้อยู่บนเตียงในความสลัวเลือนลาง

     "เป็นอะไรไป หนีไม่ได้เลยเสียใจขนาดนั้นเลยหรือไงลอเรนซ์"ร่างสูงจับใบหน้างามให้เงยหน้าขึ้นมองตนอย่างไม่ปราณี ดวงตาสีดำคุกกรุ่นไปด้วยไฟแห่งความโกรธา

     "ฮึก.....ใช่"ลอเรนซ์เอ่ยเสียงสั่น ไม่ใช่กลัว แต่เพราะสะอื้น

     "ทำไม ทำไมนายถึงต้องหนีฉันไปด้วย!?"ร่างสูงมองร่างบางอย่างไม่พอใจ

     "เพราะว่า.....ฉันเกลียดนาย.....เกลียด เกลียด เกลียดที่สุด!! นายมันน่ารังเกียจ น่าสมเพช!"

     "ฮึ้ย!!"ร่างสูงนัยตาลุกวาว มือใหญ่บีบคอร่างบางทันที ลอเรนซ์ผวาอย่างตกใจก่อนจะจับข้อมือร่างสูงที่บีบคอเขาแน่น "นายคงไม่ได้มีเหตุผลแค่นั้นสินะ!" ลูคัสเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาจนน่ากลัว นัยตามองลึกเข้าไปในดวงตาสีอเมทิส "บอกฉันมาซิลอเรนซ์....."ร่างสูงโน้มตัวลงไปกระซิบข้างหูร่างบางที่กำลังทรมานเพราะเริ่มขาดอากาศหายใจ ".....เหตุผลที่นายอยากจะหนี เพราะไอ้เจ้าชายนั่นด้วยใช่มั๊ย.....นายต้องการกลับไปหามันใช่มั๊ย.....บอกฉันมาซิ!"

     ลอเรนซ์มองร่างสูงอย่างตัดพ้อและไม่พอใจ ก่อนจะตอบอย่างยากลำบาก "ใช่".....ไม่ใช่.....แต่เพราะนายต่างหากลูคัส.....เพราะนาย.....ฉันถึงกลายเป็นแบบนี้.....เพราะนายไม่เห็นคุณค่าของฉัน แล้วฉันจะอยู่กับนายไปทำไม!!

     ร่างสูงมองร่างบางในอุ้งมืออย่างโกรธเคือง.....ทำไม.....ทำไมต้องเป็นไอ้เจ้าชายนั่น!!

     "ดี....."ลูคัสคลายมืออกจากลำคอขาวผ่องที่กลายเป็นรอยแดงรอบคอ แต่ร่างสูงไม่อาจเห็นได้ในความสลัวว่ามันแดงขนาดไหน ร่างบางไอค่อกไอแค่กอย่างทรมาน พยายามสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆอย่างรวดเร็ว ร่างสูงมองร่างบางอย่างเย็นชาก่อนจะเอ่ยอีกครั้ง "ดี.....ถ้าอย่างนั้น ฉันจะทำให้นายลืมมัน!!"

     "ไม่นะ!!"

     ร่างสูงผลักร่างบางให้ล้มกระแทกเตียงนุ่ม ก่อนที่ลูคัสจะขึ้นคร่อมร่างบางและใช้เข็มขัดของเขารัดข้อมือของลอเรนซ์เอาไว้แน่น ก่อนจะถอดเสื้อผ้าของร่างบางออกอย่างรวดเร็ว

     "ไม่! อย่านะ!! ไอลูคัส อย่า!!"

     "หุบปาก! นายเป็นแค่ตัวประกันของฉัน ไม่มีสิทธิ์มาเถียง!"

     ลอเรนซ์รู้สึกเจ็บปวดใจในคำพูดของร่างสูง เขาพยามขัดขืนอย่างมาก แต่ร่างสูงกลับแข็งแรงกว่า.....จนตอนนี้ร่างบางนั้นเปลือยเปล่า มีเพียงเสื้อสีขาวบางเท่านั้น ลูคัสยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ลอเรนซ์อับอายอย่างมาก เบือนหน้าหนีและหลับตาแน่น ไม่อยากจะเผชิญความเป็นจริงเลย

     "หึหึหึ งดงาม.....งดงามมากลอเรนซ์.....นี่สิ 'ของ' ของฉัน.....ทุกสิ่งของฉันต้องล้ำค่าและงดงามแบบนี้แหละ"

     "หุบปากของแกซะ!"ลอเรนซ์ว่าเสียงดัง พยายามหลับตาแน่น

     "หึหึหึ นายเป็นของฉันลอเรนซ์"ร่างสูงโน้มใบหน้าลงใกล้ซอกคอของร่างบาง ลอเรนซ์ใจเต้นระส่ำเพราะลมหายใจร้อนของลูคัส "นายเป็นของฉัน ขอฉันคนเดียว.....ฉันจะทำให้นายลืมมันซะ....."

     "ไม่มีวัน....."ลอเรนซ์เอ่ยเสียงแผ่ว

     "หึหึหึ งั้นดูสิ.....ถ้านายกลับไปสภาพที่เรียกว่า.....มี 'ตราบาป' มันจะยังรักนายอยู่มั๊ย.....มันจะยอมรับนายมั๊ยเมื่อมันรับรู้ว่านายเป็นของฉัน เมื่อมันรู้ว่าฉันเข้าไปในตัวนาย......"

      "ไม่!!"

     "ฉันจะทำให้นายอยู่กับฉันตลอดไป!"

     "ไม่! อย่า!!!"

     "อา~!"

     ร่างบางครางเสียงสั่นอย่างเผลอไผลในรสกิเลสวาบหวามที่ร่างสูงมอบให้ ร่างกายบิดเร้าอย่างเสียงซ่านเมื่อลิ้นร้อนของร่างสูงโลมเลียกระตุ้นอารมณ์ไปตามผิวกายขาวเนียน และมือใหญ่ที่ทำตามหน้าที่ของมันอย่างดี เคล้นคลึงที่สะโพกของร่างบาง ก่อนจะขึ้นไปเล่นอย่างหยอกล้อที่ปุ่มกุหลาบชมพู

     "อืม!....พอที....อ๊า....หยุดได้แล้ว....."ลอเรนซ์วิงวอนเสียงพร่า ก่อนจะคู้ตัวอย่างหวาดเสียวซ่าน เมื่อร่างสูงใช้นิ้วยาวลูบที่แก่นกายเล่น "อ๊า~"

     "หึหึหึ แต่ดูท่านายจะไม่อยากหยุดแล้วนะ"ลูคัสยิ้มเจ้าเล่ห์

     "ไม่.....อา......หยุด.....อืม....."

     "ไม่มีทาง"ลูคัสเอ่ยตัดบท ก่อนจะก้มลงประทับจูบเร่าร้อนและรุนแรงด้วยราคะอย่างไม่รอช้า ร่างบางพยายามบ่ายหน้าหนีด้วยสิตที่ยังพอมี แต่ร่างสูงจับคางมนให้หันกลับมา ลอเรนซ์จะผลักไสร่างสูงก็ลำบาก เพราะแขนทั้งสองข้างถูกมัดยึดติดไว้กับหัวเตียงเสียแล้ว

     "อืม....."

     ริมฝีปากทั้งคู่ประกบแน่น กระแทกกระทั้นด้วยความปราถนาอย่างเร่าร้อนจนร่างบางผู้เป็นฝ่ายรับนั้นถึงกับเลือดซิบที่ริมฝีปาก แต่ร่างสูงเพียงเลียเลือดนั้นและส่งลิ้นร้อนเข้าไปควานหาความหวานที่ล้ำลึกเข้าไปอีกอย่างพอใจ ลิ้นร้อนของทั้งคู่ตวัดพันเกี่ยวกันอย่างไม่หยุดหย่อน จนร่างบางหายใจไม่ออก ต้องร้องประท้วง ร่างสูงผละออกอย่างอ้อยอิ่ง ลิ้นร้อนนั้นถอนออกช้าจนน้ำใสหวานจากโพรงปากของร่างบางและร่างสูงนั้นยิดติดกันไว้ครู่ก่อนจะหายไป ร่างบางหอบหายใจหนัก หน้าแดง

     "ไม่จบแค่นี้หรอกนะ.....ฉันยังไม่ได้ประทับตราบาปเลยด้วยซ้ำ"

     "อย่า...."

     "ช้าไปแล้ว.....ที่รัก หึหึหึ"

     ร่างสูงประทับตราความเป็นเจ้าของที่ซอกคอของร่างบางอยู่นาน ก่อนจะเลื่อนลงมาขบยอดกุหลาบเบาๆ จนร่างบางครางเสียงหลง และแอ่นกายรับสัมผัสหวิวนี้อย่างช่วยไม่ได้

     "เอาจริงละนะ"

     ร่างสูงจับขาร่างบางแยกออก ลอเรนซ์ผวา พยายามฝืนหุบขาและร่างสูงแรงเยอะกว่า เขาจับขาของร่างบางแยกออกจากกันได้อย่างง่ายดาย ก่อนจะก้มลงประทับรอยจูบที่ท้องน้อยและเลื่อนลงมาที่แก่นกลาง

     "อย่า!....."ลอเรนซ์ร้องขอ

     "นายแค่ปลดปล่อยออกมาก็พอแล้ว"ลูคัสเอ่ยอย่างหิวกระหายก่อนจะใช้ลิ้นร้อนโลมเลียโคนแก่นอย่างปราถนา เพลิงราคะถาโถมใส่ร่างบางอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากอิ่มร้องครางเสียงหลงจนฟังไม่ได้ศัพท์ น้ำในจากโพรงปากไหลไปตามข้างแก้มนวล ร่างกายสีงาช้างแอ่บรับสัมผัสอย่างห้ามไม่ได้ น่าเสียดายในความคิดของร่างสูงที่แสงจันทร์มิอาจเข้ามาถึงในกระโจมได้นอกจากแสงสลัว แต่ก็ดี.....ในแสงสลัวแบบนี้ลอเรนซ์ช่างน่าค้นหาเหมือนกันสำหรับลูคัส......นางฟ้าตัวน้อย.....เขาจะหักปีกของนางฟ้าองค์นี้ซะ! ไม่มีทางให้บินหนีไปไหนอีกแล้ว.....ไม่มีวัน.....

     ร่างสูงกลืนแก่นกลางนั่นเข้าไปอย่างง่ายดาย ก่อนจะใช้ลิ้นร้อนตวัดสร้างความเสียงซ่าน กระสันกายให้ลอเรนซ์อย่างมาก

     "อ๊า~!! อา...อืม....อ๊า....."

     มือเรียวกำแน่น ข้อมือเริ่มแดงจ้ำและเลือดสีสดเริ่มไหลเพราะการเสียดสีกับเชือกนั่นเอง

     "อ๊า~~!!"

     ปรี๊ด!!



     "แฮ่กๆ...แฮ่กๆ..."

     "ดีมาก"ร่างสูงใช้นิ้วป้ายน้ำขุ่นหวานนั่นขึ้นมาเชยชม ก่อนจะเลียอย่างพอใจ ร่างบางหอบหายใจหนัก บ่ายหน้าหนีร่างสูงอย่างอับอาย

     "แต่ยังไม่จบเลยนะ"

     "อะไรนะ!"ร่างบางเบิกตาโตอย่างตกใจ แล้วก็ต้องครางอีกครั้งเมื่อร่างสูงใช้นิ้วที่เปื้อนน้ำชุ่นนั้นจับที่ช่องทางแคบสีชมพู

     "อืม.....ดีใจมั๊ยที่ฉันเป็นคนแรกที่เข้าไปในตัวนาย"ร่างสูงก้มลงกระซิบข้างหูร่างบาง

     "อย่านะ.....อา....."

     "หึหึหึ ทีนี้ ร้องออกมาดังๆละ ฉันอยากจะได้ยินเสียงของนายตลอดทั้งคืน"

     ร่างสูงกลับมาสนใจช่องทางแคบอีกครั้งก่อนจะใช้นิ้วกลางสอดใส่เข้าไปทันที

     "อ๊ะ! อ๊า!!! เจ็บนะ! อา..."ลอเรนซ์รู้สึกขอบตาร้อนผ่าวและร่างกายก็สะท้านเจ็บปวดไปหมด

     "หึหึหึ"ลูคัวยิ้มอย่างพอใจก่อนจะสอดใส่นิ้วให้เข้าไปลึกกว่านี้ ร่างบางดิ้นพล่านอย่างเจ็บปวด ลูคัสเพิ่มเข้าไปอีกนิ้วอย่างไม่ปราณี อีกนิ้วและอีกนิ้ว.....

     "พอที! อ๊า!!!.....อา!!....."

     "เพิ่งเริ่มเองนะ"ร่างสูงเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

     "ไม่! อ๊ะ!....เจ็บ....."น้ำใสไหลออกจากดวงตาคู่งามอย่างเจ็บปวด

     "ยังหรอก"

     นิ้วของร่างสูงถูกดึงเข้าดึงออกอย่างรวดเร็วเพื่อเปิดช่องทาง มันเสียดสีกับทางแคบที่ไม่เคยถูกรุกราน ทำให้เกิดเลือดสีแดงไหลออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ร่างสูงมองผลงานตัวเองอย่างพอใจ ร่างบางที่ตอนนี้ครางอย่างทรมาน ขอร้องร่างสูงด้วยน้ำเสียงพร่าที่ฟังไม่ได้ศัพท์ เมื่อลูคัสแน่ใจว่าทางกว้าพอก็ถอนนิ้วออก รอให้ร่างบางให้หายใจสักครู่โดยการแกะผ้าที่พันธนาการร่างบางเอาไว้ออก เขามองดูข้อมือที่ซึมไปด้วยเลือดสีแดงสด ร่างบางนอนกลั้นสะอื้น ตัวสั่นเทาด้วยความหวาดผวา

     ร่างสูงรู้สึกผิดขึ้นมาชั่วครู่ แต่เมื่อนึกถึงภาพที่เจ้าชายนั่นจูบลอเรนซ์ ความรู้สึกผิดก็หายไป แทนที่ด้วยอารมณ์โกรธ.....เขาไม่ยอมยกนางฟ้าของเขาให้ใคร ลอเรนซ์เป็น 'ของ' ของเขา ของเขาคนเดียว!!.....เขาเองจะเป็นคนตัดสินว่านางฟ้าองค์นี้จะโบยบินหรือจะต้องถูกจองจำ เขาคนเดียวเท่านั้น! และเขาตัดสินใจแล้ว.....เขาต้องหักปีกน้องฟ้าคนนี้ซะ!!!

     ร่างสูงก้มลงกระซิบข้างหูร่างบางอีกครั้ง "รับฉันนะ.....นางฟ้าของฉัน"

     สวบ!

     "เฮือก!!! อ๊า!!!!!!" ร่าบางร้องเสียงหลง ผวากอดคอร่างสูงแน่น เล็บจิกลงบนแผ่นหลังกว้างจนเลือดซึม

     ร่างสูงรอสักครู่ก่อนจะเริ่มกระแทกตัวอย่างช้าๆเพื่อให้ร่างบางได้ปรับตัว

     "อาๆ...อ๊า...อะ....เจ็บ!....อา....."

     "อย่าเกร็ง ปล่อยตามสบาย"

     "อา....."

     ร่างสูงเริ่มเร่งจังหวะเพิ่มขึ้น.....เพิ่มขึ้น.....เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยไฟแห่งกิเลสที่แผดเผา ร่างกายของทั้งคู่เต็มไปด้วยเหงื่อซึม ร่างบางที่เริ่มคุ้นชินตอนนี้สติกระเจิง ไม่เหลือแล้ว ร้องครางเสียงกระเส่ายั่วยวนอย่างร้อนแรง ยิ่งเพิ่มไฟแห่งราคะให้ร่างสูงมากขึ้น ลูคัสกระทแกเข้าไปในร่างของลอเรนซ์ถี่ขึ้นจนเตียวสั่นสะท้าน

     "อ๊าๆๆ อา....อะๆ....อาๆๆ...."

     "อา ซี๊ด~! อาๆ..."

     ร่างทั้งสองอสดประสานกันท่ามกลางความร้อนแรงของกิเลสตัณหา ดวงตาหยาดเยิ้มของร่างบางพร่ามัวไปด้วยม่านน้ำตาแห่งความเจ็บปวดแต่สุขสมในหัวใจและร่างกายก็ดูจะอิ่มเอมในรสราคะนี้ ริมฝีปากอิ่มก็พร่ำเรียกชื่อร่างสูงไม่ขาดปาก ร่างสูงผู้มองตราบาปนี้ก็เพิ่มรสราคะเข้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง ยิ่งเสียงเรียกของร่างบางแล้วยิ่งเพิ่มไฟแห่งความบาปนี้ให้มากขึ้น ดึงร่างบางลงสู่ห้วงนรกแห่งความสุขสมของตัณหา แต่มันช่างเป็นนรกที่สุขมสมเหลื่อเกินสำหรับทั้งสอง มันเป็นดั่งสถานที่ดุจสรวงสวรรค์ในคราวเดียวกัน.....

     "อาๆๆ อ๊าๆๆ อะๆๆ"

     "ซี๊ด! อา!"

     "ลูคัส! อา.....อ๊า!!!!"

     "อา!!!"

     ปรี๊ด!!

     น้ำขาวขุ่นอุ่นๆไหลเข้าสู่ร่างกายของร่างบาง ร่างสูงถอดกายออกอย่างช้าๆ และทั้งสองก็หอบหายใจถี่กระชั้น สูดอากาศเข้าปอด ก่อนที่ร่างสูงจะทิ้งตัวลงนอนข้างร่างบาง ลอเรนซ์ปรือตาลงหลับอย่างช้าๆด้วยความเหนื่อล้า ร่างสูงเห็นดังนั้นก็ดึงร่างบางเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน

     "ไว้นายชินแล้วฉันจะไม่จบแค่รอบเดียวหรอกนะ"

     "ฟี้~ ฟี้~"

     ร่างสูงจุมพิตหน้าผากมนก่อนจะกอดกระชับร่างบางในอ้อมแขนแน่นและค่อยๆหลับตาลงอย่างช้าๆ

ร่างสูงตื่นขึ้นในตอนเช้ามืด เขาเสยผมที่ปรกลงมาปิดหน้าอย่างลวกๆ ก่อนจะรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่หน้าอก ลูคัสยิ้มอ่อนโยนเมื่อเห็นร่างบางยังคงหลับไหลอยู่ข้างๆ ดวงหน้างานอ่อนล้าหลับพริ้ม ลูคัสพลิกตัวข้าง ก่อนจะมองดูนางฟ้าของเขากำลังอยู่ในห้วงนิทรา

     "ลูคัส!"

     เสียงตะโกนดังออกมาจากด้านนอกของกระโจม ร่างสูงละสายตาจากลอเรนซ์ไปที่เจ้าของเสียงด้านนอกที่ยืนรออยู่

     "ว่ามาแซม!!"

     " 'พวกนั้น' มาหานาย"

     ใบหน้าคมเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที "รอก่อน!!"

     "จะไปบอกให้"แซมเอ่ย ลูคัสได้ยินเสียงใของแซมเดินออกห่างจากกระโจมไป

     ร่างสูงลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะเริ่มแต่งตัวอย่างลวกๆ เมื่อสวมผ้าคลุมสีดำเรียบร้อยแล้ว ก็หันไปหาร่างบางที่ยังคงหลับไหลอยู่ใต้ผ้าห่มสีขาว ลูคัสก้มลงประทับจุมพิตอ่อนโยนที่ริมฝีปากอิ่มของลอเรนซ์ ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นคราบน้ำตาใกล้ๆ สีหน้าร่างสูงเปลี่ยนเป็นรู้สึกผิดทันที มือใหญ่ลูบแก้มนวลและเอ่ยเบาๆ

     "ขอโทษนะ....."

     แล้วร่างสูงก็เดินออกไปจากกระโจมอย่างรวดเร็ว.....ร่างบางลืมตาขึ้นช้าๆ มือเรียวกำผ้าปูที่นอนแน่น ดวงตาสีอเมทิสไหววูบอย่างเศร้าโศก

     "ถ้านายรู้สึกผิด......แล้วทำไมถึงทำกับฉันแบบนี้"

     หยาดน้ำใสไหลรินออกจากอเมทิสคู่งามอย่างช้าๆ.....


     ลูคัสไม่ลืมที่จะร่ายมนต์ป้องกันกระโจมเอาไว้ เผื่อใครก็ตามที่ลอบจะเข้าไปภายในกระโจมจะถกไฟ้แรงสูงช็อต มากพอที่จะทำให้ตายได้

     ดวงตาสีดำจ้องมองผู้มาเยือนยามเช้าตรู่ในชุดผ้าคลุมสีดำสนิท ปกปิดใบหน้าด้วยผ้าผืนบาง ผู้มาเยือนมีสามคน และคนที่อยู่ตรงกลางนั้นเด่นชัดกว่าคนอื่น เพราะผ้าคลุมสีดำของคนกลางขลิบด้วยสีทอง

     "ท่านลูคัส"ผู้มาเยือนโค้งตัวให้ลูคัสน้อยๆ

     "ยินดีที่ได้พบท่าน"ลูคัสเอ่ยเรียบๆ โค้งตัวให้เช่นกัน "เหตุใดเจ้าหญิงแห่งอาณาจักรมนตราอย่างท่านถึงมาด้วยตัวเองได้"

     "เราอยากจะทราบเรื่องของเราเอง"เสียงหวานเอ่ยมาจากผู้มาเยือนในชุดดำขลิบทอง

     "อย่าห่วง.....ข้อตกลงจะไม่เปลี่ยนแปลงท่านจะได้เลือดของนักบวชศักดิ์สิทธิ์แน่ๆ"

     "ดีแล้ว ข้าเองก็หวังจะได้ยินเช่นนั้น"เจ้าหญิงในผ้าคลุสสีดำเอ่ยอย่างสุขุม "หวังว่าเลือดนั่นจะบริสุทธิ์"

     "ท่านได้เลือดแน่ๆ"ร่างสูงยืนยัน

     "มีอีกอย่าง"

     "อะไร??"

     "นอกจากเลือดแล้ว เราต้องการอีกสิ่งจากนักบวชผู้นั้น"

     ร่างสูงจ้องมองผู้มาเยือนอย่างไม่ค่อยพอใจ

     "เราต้องการ.....วิญญาณของนักบวชนั่น"

     "อะไรนะ!!"

     "อย่าที่บอก ตอนนี้เลือดของนักบวชผู้บริสุทธิ์ไม่เพียงพอที่จะเพิ่มพลังให้กับข้าอีกแล้ว หากต้องการจะจัดการราชาเอวิเดสแห่งเดมอส นอกจากเลือด ก็คือวิญญาณบริสุทธิ์ด้วย และวิญญาณของนักบวชคนนั้นก็ดีที่สุด เพราะสายเลือดและร่างกายบริสุทธิ์ จะทำให้ข้ามีพลังมากยิ่งกว่าราชาเอวิเดสเสียอีก"

     "แต่มันไม่ได้อยู่ในข้อตกลง!!"

     "ตอนนี้อยู่แล้ว"

     ลูคัสกำหมัดแน่น

     "ก่อนดวงจันทร์จะมืดดับ ท่านต้องพาเขามาหาข้า ทีใจกลางป่าต้องห้าม เหนือขึ้นไปของเมืองหลวงเดมอส ที่นั่นพวกข้ารอท่านอยู่.....หวังว่าท่านคงจะไม่หักหลังข้า"

     ร่างสูงหลับตา ครุ่นคิดหนัก.....เขาถอนหายใจก่อนจะเอ่ย "ได้.....ข้าจะไปถึงก่อนที่ดวงจันทร์จะดับ"

     "ดี....เราจะรอ พร้อมกองทัพ เสร็จจากพิธีในวันนั้น เราจะบุกเดมอส โดยมีท่านเป็นแม่ทัพหน้า"

     "แหม ตำแหน่งสูงเชียว"ลูคัสเอ่ยประชด

     "ขอลา"

     "เช่นกัน"

     แล้วร่างของผู้มาเยือนทั้งสามก็สลายกลายเป็นหมกควันสีดำทมิฬและลอยหายไปในฟากฟ้ายามเช้าตรู่

     "ร่างเงาเหรอ"ลูคัสพึมพำ

     "นี่มันชักจะใหญ่โตแล้วนะเนี่ย ถึงกับทำสงครามเชียว"แซมบ่น

     "ช่าย.....ไม่นึกว่ายัยเจ้าหญิงนั่นมักใหญ่ใฝ่สูงขนาดนั้น"

     "แล้วนายจะเอาไง"แซมถามลูคัสพลางกอดอก

     "หมายถึงอะไรละ"

     "เรื่องสงครามแล้วก็.....นางฟ้าน้อยๆของนายไง หึหึหึ"

     ลูคัสมองแซมอย่างดุดัน แซมยกมือขึ้นทำท่ายอมแพ้ "เรื่องสงครามก็ปล่อยไป ฉันไม่เกี่ยวอยู่แล้ว เดมอสกับอาณาจักรมนตราขะสู้กันก็ปล่อยไป"

     "แต่แบบนั้นมันคงสะเทือนถึงเอเดนพอควรนะ ยัยนั่นคงไม่หวังแค่เดมอสอย่างเดียวแน่"แซมคาดเดา

     "ก็จริง.....แต่ใช่ว่าฉันจะสนซะที่ไหน"ลูคัสยักไหล่ "ส่วนเรื่องลอเรนซ์.....ก็เขาขอมา ก็ให้ไป"

     "นายยอมเห็นนักบวชนั่นถูกฆ่าหรือ??"แซมมองลูคัสอย่างงงงวย

     "หึหึหึ"ลูคัสเพียงหัวเราะในลำคอ ก่อนจะเดินจากไป




     ลอเรนซ์แต่งตัวเสร็จแล้ว เขาล้มตัวลงนอนบนเตียงอีกครั้ง รู้สึกอ่อนล้าและเจ็บที่สะโพกมาก.....

     "ตื่นแล้วเหรอ"ร่างสูงเดินเข้ามาพร้อมถาดอาหาร "กินอะไรสักหน่อยสิ"

     ลอเรนซ์พยุงตัวลุกขึ้นนั่งอย่างช้าๆ ก่อนจะมองดูร่างสูงที่นั่งลงบนเตียง ห่างกันพอควร ส่งถ้วยใส่ซุปร้อนๆมาให้ ลอเรนซ์ลังเล

     "ไม่ต้องห่วง ไม่มียาพิษแน่ๆ"ลูคัสเอ่ยติดตลก ลอเรนซ์มองร่างสูงข้างๆที่ดูเหมือนจะกลับมาเป็นคนเดิมที่เขารู้จักอยู่ชั่วครู่

     ลอเรนซ์รับมาถือไว้ในมือ ก่อนจะตักขึ้นมากินอย่างว่าง่าย

     "เป็นยังไงบ้าง"ร่างสูงถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย

     "ปวดไปหมด"ลอเรนซ์ตอบเสียงเรียบๆ ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ

     ร่างสูงรู้สึกไม่ดีที่ได้ยินน้ำเสียงแบบนั้น

     ลูคัสรอจนลอเรนซ์กินอิ่ม ก็ส่งแก้วน้ำใส่น้ำยาสมุนไพรให้

     "กินซะ.....จะช่วยให้นายดีขึ้น"

     ลอเรนซ์รับมาดื่มอย่างว่าง่าย ร่างสูงรออีกครั้ง จนเมื่อลอเรนซ์ส่งแก้วคืนให้

     "ขอบใจ"ลอเรนซ์เอ่ยเบาๆ

     ร่างสูงวางแก้วน้ำและถาดอาหารไว้บนโต๊ะในกระโจม ก่อนจะกลับมานั่งข้างร่างบางอีกครั้งครั้งนี้ใกล้มากขึ้น ลอเรนซ์มองร่างสูงอย่างระแวดระวัง

     "โกรธเหรอ"ร่างสูงเอ่ย

     "คิดว่าไงละ"ลอเรนซ์ตอบกลับ

     ลูคัสถอนหายใจก่อนจะเอ่ย "ก็ช่วยไม่ได้นะ.....นายอยากจะดื้อเองทำไม"

     "หนอย!!"ลอเรนซ์กัดฟันกรอด ก่อนจะปาหมอนใส่ร่างสูงและเริ่มโวยวาย "ยังจะมีหน้ามาพูดีอีกไอ้บ้าเอ๊ย!! เพราะแก เพราะแกแท้!!"

     "เฮ้ยๆ เดี๋ยวสิ!!"

     ร่างบางหยิบอะไรได้ก็ขว้างปาใส่ร่างสูงไม่ยั้ง

     "เพราะแก!! แกมันบ้า แกมัน มัน....โอ๊ย!! ฉันเกลียดที่สุด ฉันเกลียดแกที่สุด!!"

     ร่างบางทรุดตัวนั่งกับพื้นอย่างอ่อนล้า ก่อนจะเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น "เพราะนาย.....ฮึก....."

     "ลอเรนซ์....."ลูคัสปราดเข้ามาใกล้ ก่อนจะเชยคางมนขึ้นมาสบตา และร่างบางสะบัดหน้าหนี

     "อย่ามายุ่ง!!"ว่าแล้วก็ผลักร่างสูงให้ออกห่าง "ฉันเกลียดนายที่สุด เกลียด เกลียด! เกลียด!! เกลียดนายที่สุด!!!! ได้ยินมั๊ย ฉันเกลียดนาย!!!"

     "พอที!!"ร่างสูงที่เริ่มทนไม่ไหว ตะคอกกลับ ก่อนจะฉวยข้อมือร่างบางและดึงเข้ามาใกล้ "เลิกแหกปากสักทีจะได้มั๊ย!!"

     "ไม่!!"ลอเรนซ์พยายามดิ้นรนหนี

     "หยุด! ฉันบอกให้หยุด!!"

     "ปล่อยฉัน!!"

     "ปัดโธ่เว้ย!"

     ร่างสูงผลักลอเรนซ์ให้ล้มลงบนเตียง ร่างบางผวาเมือร่างสูงขึ้นคร่อมเขาทันที และตรึงข้อมือทั้งสองข้างไว้แน่น

     "ยะ อย่า!! อย่านะ!!"

     ร่างสูงก้มลงประทับจูบรุนแรงอีกครั้ง ร่างบางพยายามประท้วงและผลักไส แต่เมื่อลิ้นร้อนสอดใส่เข้าไปในโพรงปาก ควานหาความหวานล้ำ ร่างบางก็ถึงกับอ่อนระทวย ครางรับอย่างเผลอไผล จูบนั้นเนิ่นนาน ราวกับชั่วนิรันดร์ ร่างบางเริมหายใจไม่ออกส่งเสียงประท้วง ลูคัสยอมผละจากแต่โดยดี ลอเรนซ์หอบหายใจหนัก ใบหน้าแดงด้วยความอาย

     "ทีนี้เงียบได้หรือยัง.....ไม่งั้นมีมากกว่านี้แน่"ลูคัสขู่สำทับ ลอเรนซ์ส่งสายตาไม่พอใจให้ แต่ก็ยอมเงียบแต่โดยดี

     "ดีมาก"ลูคัสเอ่ย "ออกเดินทางต่อได้แล้ว"

     และขบวนขุนโจรก็เริ่มออกเดินทางอีกครั้ง ลอเรนซ์จำต้องใส่เสื้อคลุใหนาสีดไ ปกปิดหน้าตาอย่างเลี่ยงไม่ได้ และต้องอยู่แต่ในเกวียนเท่านั้น แต่เขารู้สึกได้ว่าการเดินทางครั้งนี้เร่งรีบอย่างมาก และแทบจะไม่ได้หยุดพักเลย

หลังจากวันนั้น ลูคัสก็ไม่ได้ทำอะไรลอเรนซ์อีกเลย ทุกคืนจะมีเพียงแค่การกอดเท่านั้น ไม่มีอะไรมากกว่านี้ ซึ่งลอเรนซ์ก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่เขาก็พอใจที่จะเป็นเช่นนั้น เขา...ไม่อยากจะถลำลึกลงไปมากกว่านี้ แค่เพียงคืนเดียว ก็น่าหวาดหวั่นพอยู่แล้วสำหรับเขา...เขาเป็นนักบวช แค่นั้นก็บาปพอแล้ว

     การเดินทางเริ่มจะเร่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ บางทีไม่ก็ไม่หยุพักเลย ลอเรนซ์แปลกใจที่ทำไมลูคัสถึงต้องเร่งการเดินทางขนาดนี้.....

     "ทำไมนายถึงเร่งการเดินทางละ?"ลอเรนซ์ถามขึ้นขณะที่ลูคัสกำลังมองดูแผนที่บนโต๊ะอย่างเคร่งเครียด แถมดูปฏิทินอีกหลายรอบ พร้อมกับทั้งเดินออกไปข้างนอกและเดินกลับเข้ามาเครียดกับแผนที่ต่อ

     "เวลามีน้อยน่ะ"ลูคัสตอบเรียบๆ

     "เวลาอะไร??"ลอเรนซ์แปลกใจ

     "เดี๋ยวก็รู้เอง"ลูคัสหันมายิ้มให้น้อยๆ ก่อนจะ นั่งลงเขียนอะไรบางอย่างอย่างรวดเร็ว ลอเรนซ์เดินเข้ามาใกล้หวังจะอ่านสิ่งที่ลูคัสเขียน แต่เหมือนร่างสูงรู้ทัน ลูคัสรีบเขียนจนเสร็จและรีบพับเก็บใส่ซองอย่างรวดเร็ว ลอเรนซ์เบ้ปากก่อนจะกลับไปนั่งที่เตียงตามเดิม

     ลูคัสเพียงหัวเราะน้อยๆก่อนจะเดินออกไปนอกเต๊นท์ ลอเรนซ์มองตามอย่างสงสัย แต่ก็ไม่กล้าออกไป เพราะคำขู่ของลูคัสเมื่อหลายวันที่ผ่านมาและสายตาหื่นกระหายของเหลล่าขุนโจรอื่นๆที่มักมองเขาบ่อยๆจนลอเรนซ์รู้สึกสยอง

     ลูคัสพึมพำเบาๆขณะเดียวกันมือก็ถือซองจดหมายเอาไว้ และแล้วด้วยมนตราจดหมายก็แยกออกเป็นอีกซอง ลูคัสยิ้มอย่างพอใจก่อนจะเรียกเหยี่ยวคู่ใจออกมา มันร่อนลงเกาะลงบนแขนของลูคัส ลูคัสผูกซองจดมหายบนขามันก่อนจะเอ่ย

     "เหมือนเดิมนะ"

     เหยี่ยวคู่ใจรับทราบทันทีก่อนจะโผบินขึ้นสู่ท้องฟ้ายามราตรี

     "ส่งข่าวอีกแล้วเหรอ"แซมเดินเข้ามาถาม พลางมองเหยี่ยวที่หายไปในความมืด

     "อืม...แซม ฉันมีเรื่องอยากจะบอกนาย"

     "อะไร??"

     "จบเรื่องนี้ นายรับช่วงต่อที"ลูคัสเอ่ยเสียงเรียบๆ

     "นายจะให้ลอเรนซ์กับฉันเหรอ!!"แซมเอ่ยยิ้มร่าชี้มาที่ตัวเอง

     โป๊ก!

     ลูคัสใส่มะเหงกให้เพื่อนทันทีที่มันพูดจบ แซมร้องก่อนจะลูบหัวอย่างเจ็บปวด มองลูคัสอย่างไม่พอใจ

     "ล้อเล่นนิดเดียวเองนะเว้ย"

     "ตูไม่เล่นเว้ย!!"ลูคัสเอ่ยเสียงเข้ม

     "โอเคๆ ฟังแล้วครับนายท่าน"

     ลูคัสมองแซมอย่างตำหนิก่อนจะเอ่ยเข้าเรื่องต่อ "ฉันอยากจะมอบตำแหน่งหัวหน้าโจรนี่ให้นาย"

     "เฮ้ย! ไหงของสูงขนาดนั้นอ่ะ"

     "ฉันคิดว่าจบเรื่องนี้แล้ว ฉันจะไปใช้ชีวิตส่วนตัวสักที"

     "หมายถึงชีวิตนักปราชญ์ประจำราชสำนักแห่งเดมอสน่ะเหรอ?"

     "อันนั้นต้องคิดอีกที แต่รายได้ดีอาจจะรับ"

     "โห งกว่ะ"แซมพึมพำ

     "ได้ยินนะเว้ย"ลูคัสแยกเขี้ยวใส่

     "แหะๆ ขอโทษคร้าบ"

     "นายก็รับตำแหน่งนี้ไปแล้วกัน ฉันเบื่อแล้ว"

     "แหม.....โอเคเลย! รับก็ได้"

     "เออ แต่ก่อนที่แกจะกลายเป็นหัวหน้าก็นู่น~ ไปตรวจดูขบวนดีๆละ ไอ้รองหัวหน้า"

     "โหย อีกและ"แซมบ่นอุบแต่ก็ทำตามแต่โดยดี

     ลูคัสเงยหน้ามองจันทรายามราตรีอย่างครุ่นคิด แสงจันทร์นวลเริ่มใลอนลางเพราะตัวจันทราเองก็เริ่มเลือนหายไปในความมืดทุกค่ำคืน แสงดาราก็เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ลูคัสถอนหายใจก่อนจะกลับเข้าไปในเต๊นท์อีกครั้ง

     ร่างบางกำลังหลับไหลในนิทราอย่างไร้กังวล อาจจะเพราะความเคยชินก็ได้ ร่างสูงนั่งลงข้างเตียงก่อนจะเฝ้ามองดูร่างบาง

     มือใหญ่เอื้อมออกไปสมัผัสพวงแก้มนุ่มเนียนของลอเรนซ์ ร่างบางส่งเสียงในลำคอก่อนจะค่อยๆปรือตาขึ้นมาช้าๆ มองดูร่างสูงอย่างสงสัย

     "ขอโทษที"ลูคัสเอ่ยเบาๆ

     ลอเรนซ์ยันตัวลุกขึ้นนั่ง หลายวันมานี้เขาเริ่มคุ้นชินกับลูคัสมากขึ้นเหมือนครั้งวันวานในวัยเรียนกลับมาอีกครั้ง และลอเรนซ์ก็พอใจที่ร่างสูงไม่คิดจะทำอะไรเขาอีกแล้ว...เพราะเขาไม่ชอบลูคัสแบบนั้นเลย

     "ทำไมนายไม่นอนอีก"ลอเรนซ์เอ่ยพลางหาวน้อยๆ

     "ก็แค่ยังไม่ง่วงน่ะ"ร่างสูงตอบ มือใหญ่ยังคงเล่นผมสีทอง

     "นายดูเครียดๆนะเดี๋ยวนี้"ร่างบางเอ่ยอย่างห่วงใย

     "หึหึหึ เป็นห่วงฉันขนาดนั้นเชียวเหรอ"ร่างสูงยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะเอาหน้าผากทาบกับหน้าผากของร่างบาง

     "เปล่าซะหน่อย! เอาหน้าออกไปไกลๆเลยไอ้บ้า"ลอเรนซ์ผลักหน้าของลูคัสออกห่างๆ แต่ร่างสูงจับมือของร่างบางแล้ว ก่อนจะก้มลงประทับจุมพิตอ่อนโยน ลอเรนซ์หน้าแดงก่อนจะรีบชักมือกลับ ลูคัสยิ้มกริ่มเมื่อเห็นท่าทางเช่นนั้น

     "หึหึหึ"

     "ไม่ตลกเลยนะไอ้บ้า"

     "คงงั้น"ลูคัสจับมือของร่างบางอย่างอ่อนโยน ก่อนจะดึงลอเรนซ์เข้ามาในอ้อมแขนและกระชับกอดไว้แน่น ลอเรนซ์เบิกตาโตอย่างตกใจ กลัวว่าร่างสูงจะทำอะไรกับเขาอีกเหมือนครั้งก่อนนั้น.....ร่างบางดิ้นรน พยายามดันตัวเองให้ออกห่างจากร่างสูง แต่ร่างสูงไม่ยอมปล่อย กลับกอดรัดร่างบางให้แน่นขึ้น

     "อยู่นิ่งๆ...ฉันไม่ทำอะไรหรอก"ลูคัสเอ่ยเสียงนุ่ม ลอเรนซ์หยุดดิ้นแต่ก็ยังหวั่นๆอยู่

     "ทะ ทำไม??"

     "ฉันไม่ทำอะไรนายแน่นอน...จนกว่าฉันจะแน่ใจ"

     "อะไร?? นายหมายถึงอะไร??"ลอเรนซ์ถามอย่างไม่เข้าใจ

     "ฉัน.....ฉันรักนายนะลอเรนซ์"ลูคัสเอ่ย

     ลอเรนซ์เบิกตาโตอย่างตกใจ ก่อนจะกัดริมฝีปากแน่น ดวงตาอเมทิสต์ไหววูบทันที....เป็นไปได้ยังไง....

     "โกหก...."

     ร่างสูงดันตัวลอเรนซ์อกห่างเบาๆ ก่อนจะจ้งเข้าไปในนัยตาสีงาม

     "นายโกหก..."ลอเรนซ์เอ่ยย้ำเสียงเครือ "อย่ามาล้อเล่นแบบนี้นะ!!"

     "เปล่า...ฉันไม่ได้ล้อเล่น"ลูคัสืนยัน "ฉันระ..."

     "อย่าพูด!! หยุด!!"ลอเรนซ์ตะโกนลั่นตัดบท ยกมือขึ้นปิดหู.....เขากำลังสับสน... "อย่าพูดแบบนั้น!! อย่าพูด อย่าพูด!! มันเป็นไปไม่ได้!!"

     "ได้สิ!"ร่างสูงเอ่ยอย่างไม่ค่อยพอใจนัก "ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ละ!! ฉันรักนาย และหากนายรักฉัน เราก็อยู่ด้วยกันได้"

     "ไม่!! ฉะ ฉัน...."ลอเรนซ์มองร่างสูงอย่างสับสนและเศร้าใจ.... "ฉันเป็นนักบวช...ฉันเป็นผู้ชาย...ไม่ได้! ยังไงก็เป็นไปไม่ได้!!"

     "นายไม่ได้เป็นนักบวช!! นายเป็นเจ้าชาย! เข้าใจมั๊ย! เจ้าชายนักบวช!! นั่นไม่ได้หมายความนายเป็นนักบวชโดยสมบูรณ์ นายไม่ได้สีตราของศาสนจักร! นายไม่ได้เข้าสังกัดโบถส์ไหน นายไม่ได้ทำงานแบบนักบวช ฉะนั้นนายถึงไม่ได้เป็นนักบวช นายเป็นแค่ในนาม!!"

     "ไม่ใช่!! นายไม่เข้าใจ ฉันเป็นนักบวช!! ฉันปฏิญาณตนว่าจะรับใช้พระเจ้า!! ฉัน....ฉะ ฉัน...ไม่ได้.....เป็นไปไม่ได้เลย"

     ร่างสูงมองร่างบางที่เริ่มตัวสั่นและส่งเสียงสะอื้นไห้ เขากำหมัดแน่น ก่อนจะกอดร่างบางอีกครั้ง ลูบหัวอย่างปลอบประโลม

     "ไม่ว่ายังไง...ฉันก็จะรักนาย"

     "ไม่ได้....ฮึก....ไม่ได้....."

     "ฉันจะรอนะลอเรนซ์"ลูคัสเอ่ยกระซิบ "แต่หลังจากนี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าโกรธฉัน....และฉันก็ขอโทษด้วย"

     ว่าจบร่างสูงก็เดินออกไปจากเต๊นท์ ทิ้งให้ร่างบางสะอื้นไห้อย่างโดดเดี่ยวบนเตียงนุ่ม ลอเรนซ์ปาดน้ำตาออก ก่อนจะล้มตัวลงนอน ดวงตาอมเทิสต์ไหววูบและเรียกน้ำใสไหลอาบแก้มอีกครั้งไม่ขาดสาย

     "ไม่ได้หรอก.....ฉันทำไม่ได้...ฮึก...ลูคัส....."

     ร่างสูงทิ้งตัวลงข้างกองไฟข้างเต๊นท์ของเขาเอง ก่อนจะซบหน้าลงกับฝ่ามืออย่างหนักใจ

     "อะไรของแกว่ะ เดี๋ยวเดินเข้าเดินออก"แซมเดินมานั่งข้างๆพลางบ่นอย่างระอา

     "แกไม่ไกลๆเลยไป"ลูคัสเอ่ยเสียงลอดไรฟันอย่างรำคาญ

     "เอาน่าๆ เหล้ามั๊ย"แซมยื่นถุงหนังใส่เหล้าองุ่นให้ร่างสูง ลูคัสคว้ามาดื่มทันที "มีปัญหาเหรอไง"

     "ประมาณนั้นว่ะ"ลูคัสตอบ

     "เฮ้อ! ก็แกละน้า มันพวกชอบทำอะไรยุ่งยาก"

     "หุบปากดีกว่าแกน่ะ อารมณ์เสียเว้ย!"

     "คร้าบๆ หัวหน้า"


     เช้าวันต่อมา ลอเรนซ์และลูคัสไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลย แต่ร่างสูงยงัคงปฏิบัติตัวเหมือนเดิม ห่วงใย ดูแล เพียงแต่ไม่พูดไม่จา ร่างบางก็เพียงตอบรับความห่วงใยนั้น ขณะเดียวกันก็ครุ่นคิดอย่างเคร่งเครียดอยู่ภายใน

     นักบวช.....เมื่อปฏิญาณแล้ว.....ย่อมไม่คืนคำ.....

     หากเลือกที่จะรับใช้...ก็ต้องรับใช้ต่อไป...หากเลือกพระเจ้า ก็ต้องไม่หันหน้าหนีไปไหน.....

     ห่างไกลกอเลส เดินทางสายกลาง.....

     มอบความรัก แต่จงอย่ามีความรัก.....รักเดียวที่เจ้าควรให้ คือพระเจ้า.....

     ลอเรนซ์จำคำสนอนั้นได้ดี..........

ในที่สุด หลังจากการเดินทางอันยาวนาน ก็มาถึงจุดหมายปลายทางเสียที.....

     ลอเรนซ์เงยหน้ามองดูท้องฟ้าสีหม่นหมองเบื้องบน....

     "ที่นี่อากาศไม่ดีเลยแฮะ"ลอเรนซ์พึมพำ ก่อนจะกระชับเสื้อคลุมสีดำตัวใหญ่ของตน ก่อนจะเดินตามลูคัสไป

     มีเพียงลูคัส ลอเรนซ์และแซมเท่านั้นที่จะเข้าไปในป่าทึบเบื้องหน้า ลอเรนซ์มองไปรอบๆป่าทึบข้างตัวอย่างไม่ไว้ใจ บรรยากาศเย็นเยียบของที่นี่ทำให้เขารู้สึกไม่ดีเอาเลย ยิ่งความมืดของป่าทึบและหมอกหนารอบๆตัวก็ยิ่งแล้วใหญ่

     "บรึ๋ย~ ที่นี่ยิ่งกว่าป่าช้าอีกนะเนี่ย"แซมเอ่ยอย่างหวาดๆ

     "อาณาจักรมนตราก็อย่างเนี่ยแหละ"ลูคัสบอก "ดินแดนที่ไม่มีใครเข้าใจ"

     "ก็เจ้าบ้านทำตัวไม่ให้เข้าใจเองนี่หว่า"แซมบ่นอุบ "ฉันละเกลียดจริงๆไอ้บรรยากาศชวนสยองแบบนี้"

     ทั้งสามเดินต่อไปเรื่อยๆโดยการนำทางของลูคัส แต่เมื่อเสียงร้องของเหยี่ยวดังขึ้นบนฟากฟ้าหม่น ทุกคนเงยหน้าขึ้นมองทันที เหยี่ยวเวทย์ของลูคัสร่อนลงเกาะบนบ่าของลูคัสทันที มันคาบซองจดหมายเอาไว้ ลูคัสรับมาเปิดอ่านทันที ดวงตาสีดำไล่ไปตามบรรทัดอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยิ้มน้อยๆและเก็บใส่กระเป๋าเอาไว้

     "อะไรเหรอ??"ลอเรนซ์ถาม

     "เปล่า..."ลูคัสตอบเรียบๆ "ไปต่อเถอะ"

     ลอเรนซ์ไม่พอใจที่ตนไม่ได้คำตอบที่ดีกว่านี้ แต่ก็เดินตามไปอย่างว่าง่าย

     ไม่นานนัก ทั้งสามก็เดินมาถึงลานกว้างโล่งที่น่าจะเกิดจากฝีมือมนุษย์มากกว่าฝีมือของธรรมชาติ ตรงกลางของลานกว้างนั้น มีแท่นหินขนาดใหญ่ตั้งอยู่ และล้อมรอบด้วยคบเพลิงสูงตั้งปักอยู่กับพื้น เว้นช่วงเว้นช่วงให้คนเดินเข้าไปได้ ลอเรนซ์เริ่มรู้สึกไม่ดี ก่อนจะเหลือบมองลูคัสที่เดินนำไปใกล้แท่นหินนั้น

     "มากันแล้วเรอะ"เสียงปริศนาเอ่ย

     แล้วทันใดนั้น ร่างปริศนาในเสื้อคลุมสีดำมากมายก็โผล่ออกมาจากป่าทึบรอบลานกว้าง ล้อมรอบทั้งสามผู้มาเยือนและแท่นหินเอาไว้ ลอเรนซ์มองไปรอบๆ เหล่าบุคคลในชุดเสื้อคลุมดำที่มีมากถึงร้อยถึงร้อยคน อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ.....

     "ข้ามาตามที่ตกลงกันไว้"ลูคัสเอ่ย

     แล้วร่างในชุดคลุมสีดำขลิบเงินก็โผล่ออกมาจากกลุ่มควันสีดำ บุคคลตรงหน้าเปิดผ้าคลุมหน้าออก เผยให้เห็นใบหน้าขาวซีด ดวงตาดุดันสีทอง เรือนผมยาวระดับเอวสีดำสนิท ดวงหน้ายาวเรียว ริมฝีปากแดงชานนั้นยิ้มเหี้ยม

     "ดีมาก"เธอคือเจ้าของเสียงปริศนานั่นเอง ดวงตาสีทองของเธอมองมาที่ลอเรนซ์ทันที ลอเรนซ์มองเธออย่างไม่เข้าใจ

     "ยินดีที่ได้พบท่านอีกครั้ง เจ้าหญิงเนอา"

     "ยินดีเช่นกัน"นางเอ่ยรับคำแต่ไม่ได้ละสายตาไปจากลอเรนซ์เลย

     "ข้าพาเขามาตามที่ตกลงกันไว้แล้ว"ลูคัสดึงลอเรนซ์ออกมาข้างหน้า

     "อะไรนะ!?"ลอเรนซ์ร้องอย่างแปลกใจ ก่อนจะมองร่างสูงอย่างตกตะลึง

     "ท่านจะได้เลือดของเขาตามที่ท่านต้องการ"ลูคัสเอ่ยเรียบๆ ไม่สนใจร่างบางข้างกาย

     "ดีมาก ไปที่แท่นพิธีเลย"เจ้าหญิงแห่งอาณาจักรมนตราออกคำสั่ง ลูคัสพยักหน้าก่อนจะลากลอเรนซ์ไปที่แท่นหินใหญ่ทันที

     "เดี๋ยว!! เฮ้ย!! นี่มันอะไรกันเนี่ย!!"ลอเรนซ์ประท้วงอย่างไม่พอใจ

     "จัดการปิดปากมันด้วยก็ดี"เจ้าหญิงเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะหันไปทางกลุ่มเหล่าเสื้อคลุมชุดดำทั้งหลาย เธอยกแขนทั้งสองข้างขึ้นสูงและประกาศก้อง

     "ทหารกล้าแห่งข้าทั้งหลาย บัดนี้!! เทพแห่งชัยชนะอยู่กับเราแล้ว!!"

     เฮ!!!!

     "เลือดของนักบวชแห่งสกุลดอร์น จะทำให้เรามีชัยเหนือเดมอส เหนือเอวิเดสและเหนือเอเดน!!!"

     เฮ!!!!

     "พี่น้องทั้งหลายของข้า!! หลายร้อยปีที่เราตกอยู่ในคำสาปของเอวิเดส คำสาปที่ทำให้เมืองเราต้องกลายเป็นเมืองแห่งความวิปโยค!! คำสาปที่ทำให้พวกเราต้องทนทุกข์ทรมาน บัดนี้!! คำสาปนั้นจะถูกทำลายในไม่ใช้ เพียงอึดใจเดียวเท่านั้น เราจะกลายเป็นผู้ชนะ!!!"

     ชัยชนะ!! ชัยชนะ!!

     "ด้วยเกียรติแห่งบรรพบุรุษ!!"

     บรรพบุรุษหนุนนำเรา!!

     "ด้วยเกียรติแห่งมนตรา!!"

     มนตราไม่เคยทรยศ!!

     "และด้วยเกียรติแห่งศาสตรา!! เราจะมีชัย!!"

     เราจะมีชัย!! เราจะมีชัย!! เทพแห่งมนตราจะช่วยเรา!! เฮ!!!!

     ลอเรนซ์รู้สึกตัวชาไปทั้งตัว เบิกตามองเหตุการณ์เบื้องหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ เหมือนถูกตบหน้า.....เขาถูกทรยศ!!

     "นาย....."ลอเรนซ์หันขวับมามองร่างสูงอย่างเคืองแค้น "นายขายฉัน!!"

     "จะคิดยังไงก็ช่าง"ลูคัสเอ่ยยิ้มน้อยๆ

     "นายทรยศหักหลังฉัน!!"ลอเรนซ์พยายามดิ้นรนจากพันธนาการของร่างสูง แต่ลูคัสจับแขนลอเรนซ์ล็อกไว้ข้างหลังแน่นอย่างไม่ปราณี "โอ๊ย!"

     "อยู่นิ่งๆจะดีกว่า"

     "แก!!"

     เจ้าหญิงถอดเสื้อคลุมสีดำออก เผยให้เห็นชุดเกราะขนาดพอดีตัวของเธอสีเงิน ตรงกลางเป็นตราสัญลักษณ์ของราชวงศ์แห่งมนตรา เธอเดินขึ้นไปยังแท่นพิธี มองลอเรนซ์อย่างพอใจก่อนจะเอ่ยกับลูคัส

     "ทำพิธี...หลั่งเลือดของมันลงบนศิลานี่"

     ลอเรนซ์เพิ่งจะสังเกตเห็นอักษรสลักโบราณบนแท่นหินนี้ มันภาษาที่เขาไม่เข้าใจและไม่คิดจะเข้าใจด้วย เขาจะไม่ยอมตายแน่ๆ!!

     "ได้"ลูคัสรับคำ ลอเรนซ์เบิกตากว้าง พยายามดิ้นรนหนี แต่ไม่ว่ายังไงก็ไม่ได้ ลูคัสหยิบมีดเล่มเล็กออกมาก่อนจะเงื้อแขนขึ้น ลอเรนซ์หลับตาแน่น รู้สึกโกรธแค้นลูคัสที่ทำกับเขาแบบนี้!!

     "โอ๊ย!!"ลอเรนซ์ร้องเมื่อรู้สึกถึงความเย็นของมีดสั้นกรีดแผ่นเนื้อที่ข้อแขน เขาลืมตามองหยดเลือดสีแดงสดไหลรินลงสู่แท่นหินและรู้สึกว่าลูคัสปล่ยอเขาแล้ว ลอเรนซ์หันไปมองลูคัสอย่างแปลกใจ

     "เจ้าทำอะไรของเจ้า!!"เจ้าหญิงในชุดเกราะร้องอย่างตกใจ

     "ก็ตามที่ตกลงกันไง.....เลือดของนักบวช ก็นี่ไงเลือดของนักบวช"ลูคัสปรายตาไปทางเลือดของลอเรนซ์บนแท่นหิน "ตามที่ตกลง ท่านแค่ต้องการเลือด แต่ไม่ได้ระบุว่าจะเอาขนาดไหนนิหน่า หึหึหึ"

     ลอเรนซ์มองร่างสูงอย่างแปลกใจ ลูคัสหันมายิ้มให้เขา

     "จะ เจ้าทรยศข้า!!!"

     "หึหึหึ เปล่าซักหน่อย ก็เราตกลงกันอย่างนี้ไม่ใช่เหรอไง หึหึหึ"

     "แก๊!!! เจ้าคนปลิ้นปล้อน!!"

     "หมดธุระแล้ว เราต้องต้องไปแล้ว"ลูคัสคว้าแขนของลอเรนซ์ให้เดินลงมาจากแท่นพิธี

     "นี่มันอะไรกัน??"ลอเรนซ์ถามลูคัสอย่างไม่เข้าใจ

     "ฉันแค่ทำตามข้อตกลง"ลูคัสเอ่ยยิ้มๆ

     "กรี้ด!!!!!!!"เจ้าหญิงเนอากรีดเสียงร้องแหลมเล็กดังไปทั่วบริเวณจนต้องยกมือขึ้นปิดหู ทันใดนั้นเสียงฟ้าร้องคำรามดังก้อง สายลมอ่อนๆเมื่อครู่โบกพัดอย่างรุนแรง ก่อนจะตามด้วยเสียงฟ้าผ่าดังกึกก้อง "กรี้ด!!!!!!!!!!!!"

     "โว้ย!!! หนวกหูจริงโว้ย!!!"ลอเรนซ์ได้ยินเสียงแซมร้องอย่างรำคาญ

     "จับมัน!!!"เจ้าหญิงสั่ง จากน้ำเสียงเมื่อครู่กลายเป็นน้ำเสียงทุ้มกึกก้อง ดวงตาสีทองวาวแสงสีทอง ร่างกายของเธอส่องแสงสีทองออกมา เส้นผมสีดำลอยคว้างไปรอบๆตัว ไม่ได้สะบัดไปตามแรงลมแต่อย่างใด เธอจ้องมองลอเรนซ์และลูคัสอย่างอาฆาตแค้น

     "จัดการมัน เอาเลือดของนักบวชมาชโลมศิลาและเอาเลือดของเจ้าคนทรยศมาชโลมแผ่นดินเรา!!"

     แล้กลุ่มเสื้อคลุมสีดำก็ทำตามบัญชาทันที ลูคัสรีบพาลอเรนซ์วิ่งหนีลงมาจากแท่นพิธี สมทบกับแซมที่รออยู่พร้อมดาบสองเล่มในมือ

     "เอาไง!!??"แซมถามลูคัส

     "รอจนกว่ากองทัพจะมา"ลูคัสเอ่ย ก่อนจะชักดาบข้างตัวออกมา

     "เดี๋ยวสิ!"ลอเรนซ์ดึงแขนเสื้อลูคัสเอาไว้ "นี่มันอะไรกัน?? กองทัพอะไร??"

     "ฉันยังไม่ได้คืนเวทย์มนต์ให้นายสินะ"ลูคัสไม่ตอบ

     "ตอบฉันมาก่อน!!"

     แต่ร่างสูงไม่สนใจ เขาดึงลอเรนซ์เข้ามาใกล้และก้มลงจุมพิตริมฝีปากอิ่มทันที    ลอเรนซ์เบิกตาโต แซมมองทั้งคู่ก่อนจะกรอกตาอย่างระอา

     ลอเรนซ์รู้สึกอะไรบางอย่างไหลลงไปที่คอ ร่างสูงผละออกจากร่างบางก่อนจะยิ้ม "หวานนะ ลอรี่"

     "อะ ไอ้บ้าเอ๊ย!!"ลอเรนซ์ปามีดใส่ลูคัสทันที ลูคัสหลบได้อย่างหวุดหวิด แต่มีดสั้นพุ่งตรงเข้าปักที่กลางหน้าผากของบุคคลในเสื้อคลุมสีดำคนหนึ่ง มันล้มลงเสียงดัง

     "ไอหยา"แซมเอ่ย

     แล้วทันใดนั้นกลุ่มคนเสื้อคลุมดำก็พุ่งตรงเข้าหาทั้งสามทันที ทั้งสามหลังชนกันก่อนจะเริ่มปะทะกับกลุ่มทหารของอาณาจักรมนตราอย่างสุดกำลัง

     "ทำอะไรสักอย่างสิ!!"ลอเรนซ์ตะโกน ก่อนจะกระโดดหลบคมดาบของฝ่ายศัตรูและปามีดเข้าปักกลางอกมันทันที

     "รอต่อไป!!"ลูคัสตอบเสียงดังก่อนจะฟันฉับจนหัวของศัตรูกลิ้งหล่นลงพื้น

     "จะไม่ไหวอยู่แล้วโว้ย!!!"ลอเรนซ์และแซมตะโกนพร้อมกันอย่างเหลืออด

     แล้วทันใดนั้น สายฟ้าก็ฟาดลงมาที่พื้น ทำให้เหล่าทหราในชุดดำกรีดร้องอย่างเจ็บปวดและล้มลง

     "มาแล้ว!!"ลูคัสประกาศ

     ทุกอย่างหยุดการเคลื่อนไหว เงยหน้ามองท้องฟ้า.....

     "เอวิเดส!!"เจ้าหญิงเนอากรีดร้อง

     ขบวนกองทัพสีดำเคลื่อนตัวลงมาจากฟากฟ้าสีหม่นหมอง นำทัพโดยราชาปีศาจเอวิเดสทรงม้าดำสง่าซึ่งกางปีกสีดำร่อนถลาลงตรงหนาเจ้าหญิงแห่งอาณาจักรมนตรา ดาบใหญ่ในมือทาบลงบนลำคอขาว

     "เจ้าหญิงเนอา  เมจิก ไนท์แมร์ ซีนีตรา แห่งอาณาจักรมนตรา!!"เอวิเดสแผดเสียงก้อง ดวงงามสีดำจ้องมองเจ้าหญิงในชุดเกราะตรงหน้าอย่างโกรธเคือง

     "อะ เอวิเดส"เจ้าหญิงตัวสั่นด้วยความกลัว เมื่อจับกระแสสังหารได้จากผู้เกรียงไกรตรงหน้า

     "บรรพบุรุษเจ้าคิดก่อสงครามให้ทั่วพิภพเป็นไฟแห่งนรกภูมิ นั่นคือความคิด และการลงโทษที่ข้ามอบให้คือคำสาปที่พวกเจ้าควรได้รับและเพื่อให้พวกเจ้าได้มีโอกาสสำนึก!! แต่บัดนี้เจ้าคิดก่อการตามบรรพบุรุษผู้โง่เขลาของเจ้า!! บทลงโทษเจ้ามีเพียงสถานเดียว....."ดวงตาสีดำมองเจ้าหญิงอย่างโหดเหี้ยม ".....จงสิ้นราชวงศ์และอาณาจักรของเจ้าซะ!!"

     "ไม่นะ!! ม่าย!!!!!!!!!!"

     คมดาบฟันฉับเดียว.....ศีรษะของเจ้าหญิงกลิ้งร่วงหล่นลงพื้นพร้อมสายเลือดสีแดงฉานไหลอาบทั่วพื้นหิน



     หลังจากนั้น ลอเรนซ์ก็ได้รับรู้ว่า เจ้าหญิงเนอาคิดโค่นล้มอำนาจของเอวิเดส จึงว่าจ้างลูคัสให้ลักพาตัวเขา ลูคัสที่ปลอมตัวเป็นขุนโจรเพื่อเข้าไปสืบเรื่องของเจ้าหญิงเนอาคนนี้ก็เข้าแผน รับงานและคอยส่งข่าวให้เอวิเดสและทางเอเดนอยู่เรื่อยๆ

     และส่วนที่ทำไมทางแอเรียสไม่ได้ส่งคนมาตามหาลอเรนซ์เลยก็เพราะรู้กับทางเดมอสว่าเป็นแผน ทางริดชาร์ดจึงไม่ได้สั่งให้ออกตามหาแต่อย่างใด

     หลังจากสงครามครั้งนั้น อาณาจักรมนตราล่มสลาย และลอเรนซ์ก็ถูกส่งกลับแอเรียส ส่วนลูคัสเข้ารับตำแหน่งนักปราชญ์ประจำราชสำนักของเดมอสต่อไป ทั้งสองไม่ได้เจอกันอีกเลย.....



     "ลอเรนซ์"ร่างบางหันไปตามเสียงเรียก พบเคนกำลังส่งยิ้มมาให้

     "อ้าว พี่เคน"ลอเรนซ์เอ่ยยิ้มน้อยๆ

     หลังจากสงครามนั้น เคนสารภาพรักกับลอเรนซ์ แต่ลอเรนซ์ปฏิเสธและขอเป็นเพียงพี่น้องดังเดิม ซึ่งเคนก็ยอมรับแต่โดยดี

     "มีคนมาหาแน่ะ"

     "หืม??"

     "มาเถอะน่า"เคนรีบดึงลอเรนซ์ให้วิ่งออกจากห้องสมุดไปตามทางเดินยาวเหยียด

     "ดะ เดี๋ยวสิพี่เคน!!"

     ลอเรนซ์ถูกลากให้มาหยุดอยู่ในห้องโถงเล็ก

     "อะไรกันเนี่ย??"ลอเรนซ์หันมาถามเคนอย่างไม่พอใจ

     "นี่ไง"เคนชี้ไปทางชุดโต๊ะ ลอเรนซ์มองตาม ก่อนจะเบิกตาโต.....ลูคัสส่งยิ้มมาให้เขาบนโซฟา

     "ลูคัส....."ลอเรนซ์พึมพำ

     "ฉันไปก่อนนะ"เคนเอ่ย เดินออกไปจากห้องโดยไม่ลืมปิดประตูให้ด้วย

     ลอเรนซ์มองลูคัสที่อยู่ในชุดแบบพวกนักเดินทางอีกครั้ง ลูคัสยิ้มก่อนจะลุกขึ้นยืน

     "ไงลอเรนซ์"

     "งะ ไง....."ลอเรนซ์เอ่ยเสียงแผ่ว รู้สึกมาอะไรมากจุกอยู่ที่คอ.....

     "ฉันมารับนาย"ลูคัสยิ้มอ่อนโยน พลางยื่นมือให้ลอเรนซ์ "นายพร้อมหรือยัง"

     ลอเรนซ์มองมือของร่างสูง

     "เธอไม่ใช่นักบวชโดยสมบูรณ์ลอเรนซ์" แม่ชีเทเรซ่าเอ่ยยิ้มอ่อนโยน "ต่อให้ท่านใช้ฉายานักบวช ยังไงก็ไม่ใช่"

     "แต่ผมเป็นนักบวช ผมรับใช้พระเจ้า"ลอเรนซ์ค้าน

     "ในนาม.....เธอเป็นนักบวชแค่ในนามลอเรนซ์ ถ้าเธอเป็นนักบวช เธอต้องมีสัญลักษณ์ของทางศาสนจักร แต่เธอไม่ น่นก็เป็นหลักฐานมากพอแล้ว"

     "แต่ผมปฏิญาณตัวแล้ว"

     "เธอสามารถรับใช้พระเจ้าได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องปฏิญาณ.....หรือไม่จำเป็นต้องเป็นนักบวช" แม่ชียิ้มละไม "พระเจ้าไม่ปราถนาให้มนุษย์ต้องถูกบังคับในนามพระองค์ แต่พระเจ้าตจ้องการผู้รับใช้ที่เป็นอิสระจากนามพระองค์ เข้าใจมั๊ยลอเรนซ์"



     นัยตางามหลั่งไหลหยาดน้ำใสออกมาอาบแก้มนวล ลอเรนซ์มองลูคัสอย่างมีความหมาย ลูคัสเข้าใจ เขายิ้ม

     "ว่าไงละ?"

     ลอเรนซ์ก้มหน้าอยู่นาน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นและส่งยิ้มอ่อนโยนให้ร่างสูง.....

     "ไม่....."



     เคนรออยู่นาน ก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูห้องโถงเล็กอย่างกระวนกระวาย

     "ไม่....."เคนิ่งฟัง ".....ไม่ปฏิเสธ"

     เคนเบิกตาโต ก่อนจะรีบเปิดประตูเข้าไป.....เขาพบเพียงความว่างเปล่า.....หน้าต่างที่ห้องโถงใหญ่เปิดอ้ากว้าง สายลมยามบ่ายพัดผ่านผ้าม่านสีขาวให้พลิ้วไหวเข้ามาอย่างอ่อนโยน เคนรีบเดินไปที่ริมหน้าต่างมองลงไปข้างล่าง.....ไม่พบใคร.....

     "ลอเรนซ์"เคนเอ่ยเสียงแผ่ว ก่อนจะเหลือบไปเห็นซองจดหมายบนพื้นข้างหน้าต่าง เขาหยิบขึ้นมาอ่าน

     'ขอบคุณสำหรับทุกสิ่ง.....แต่ผมเลือกทางของผมแล้ว.....ลอเรนซ์"

     เคนยิ้มก่อนจะหัวเราะเบาๆ แสงแดดยามบ่ายสาดแสงอ่อนกระทบใบหน้าเข้มของเจ้าชายที่กำลังมองออกไปนอกหน้าต่าง เอ่ยปากอวยพรคู่รักที่อยู่ห่างไกล

     "ขอให้มีความสุข.....ชั่วนิรันด์"



No comments:

Post a Comment