Wednesday, September 17, 2014

Special All x Eunhyuk 1

ในบ้านพักหลังใหญ่ที่รวมนักแสดง และนักร้องชื่อดังไว้มากมายทั้งหมด 17 คน แต่ละคนล้วนแต่มีชื่อเสียงทั้งนั้นและที่สำคัญพวกเขาสนิทกันมากอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะว่าพวกเขากำลังเป็นเด็กนักเรียนนี่สิทำให้สนิทกันเร็วกว่าเดิมและโรงเรียนก็มีกิจกรรมให้ทำร่วมกันอยู่บ่อยๆ ในบ้านพักมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันมีห้องนอนเพียงพอแก่ทุกคนแถมยังมีมากเกินจำนวนคนด้วยซ้ำไป
ชองยุนโฮ คิมแจจุง ชเวกังชางมิน ปาร์คยูชอน เซียจุนซู เป็นศิลปินกลุ่มชื่อดังในนามวงดงบังชินกิ
ลีดงเฮ ฮันกยอง ชเวซีวอน คิมเรียออุค โจวคยูฮยอน เป็นศิลปินชื่อดังเช่นกันเป็นที่รู้จักในชื่อ SJM
อีทึกกับคังอิน เป็นพิธีกรวัยรุ่นชื่อดัง
คิมคิบอมและคิมฮีชอล เป็นนักแสดงที่กำลังมีผลงานฉายอยู่มากมายขณะนั้น
ชินดง เป็นนักเต้นที่มีความสามารถมากจนใครๆก็ต้องการตัว
คิมเยซองและลีซองมิน นักร้องคู่น้ำเสียงคุณภาพที่จับพลัดจับผลูเข้ามาอยู่ในบ้านนี้ด้วยเพราะต้นสังกัดสั่งลงมา

ตอนนี้หนุ่มๆทั้งสิบเจ็ดคนกำลังตาค้างเมื่อได้รับฟังว่า จะมีผู้ชายคนนึงมาอยู่ด้วยวันนี้เนื่องจากเขาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนในโครงการของเอสเอม
อะไรนะพี่ มาอยู่กับเราเหรอ อีทึกถามซึงฮวานทันที
ใช่
ทำไม ไม่ให้เขาไปอยู่กับพวกศิลปินอื่นล่ะ ฮีชอลแย้งบ้าง
มันเป็นความต้องการของท่านประธาน ยังคงตอบหน้านิ่งๆ
ความต้องการของหมอนั่นรึเปล่า ดงเฮพูดขึ้นก่อนจะเบ้ปากไม่พอใจเพราะพวกเขาก็เป็นที่ชื่นชอบอย่างมากในหมู่ผู้ชายเช่นเดียวกันโดยเฉพาะพวกเคะ!!!
ไม่ใช่หรอกน่า ผู้จัดการตอบ
ผมว่าหมอนั่นต้องการจะมาอ่อยเราแน่ๆเลย ยุนโฮที่ฟังอยู่นานแล้วเอ่ยขึ้นเรียบๆ พร้อมกับแรงสนับสนุนจากลูกทีม ไม่นานนักการสนทนาก็ยุติลงเพราะประธานบริษัทเอสเอมเดินเข้ามา ทุกคนยืนต้อนรับก่อนจะมองร่างบางที่ยืนอยู่ด้านหลังประธานบริษัทอย่างอยากรู้อยากเห็น
นี่นักเรียนแลกเปลี่ยน ฝากทุกคนด้วยนะ เสียงมีอำนาจเอื้อนเอ่ยขึ้นก่อนที่จะดึงคนตัวเล็กด้านหลังออกมา ใบหน้าเรียว ตากลมโตสวย รับกับริมฝีปากอิ่ม หนุ่มๆตะลึงในความน่ารักแบบใสๆนั้นก่อนจะเปลี่ยนกิริยาเป็นหยิ่งและเย็นชา เหมือนเดิม
ลีฮยอกแจ ครับฝากตัวด้วยนะครับ เสียงหวานเอ่ยออกมา ก่อนจะก้มหัวน้อยๆ
                ยุนโฮ พาน้องไปที่ห้อง ท่านประธานสั่งขึ้น ทำให้ร่างสูงเดินนำไปอย่างช่วยไม่ได้ แม่บ้านจางทำท่าจะยกกระเป๋าให้แต่ว่าร่างบางห้ามไว้ก่อนจะถือมันไปเอง
                “นี่ห้องนายเสียงแสนเฉยชาถูกส่งมาให้ คนฟังยิ้มรับก่อนจะก้มหัวขอบคุณแล้วเดินเข้าห้องไป ชั้นบนนี้มีห้องนอนทั้งหมด 18 ห้องห้องของฮยอกแจออกจะอยู่ตรงกลางด้วยซ้ำ
พ่อนะพ่อ ร่างบางบ่นพลางมองรอบๆห้องอย่างเหนื่อยใจ จะใครซะอีกล่ะก็ประธานบริษัทนั่นแหละพ่อของเขา อยากให้เขาเข้ามาดูนิสัยของซุปเปอร์สตาร์ในค่ายเลยต้องส่งมาเพราะมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาด้านความรักแน่นอน

ป้าครับทำไมมันมี 18 จานล่ะพวกเรามี 17 คนนะ เยซองถามขึ้นก่อนจะทำหน้าหงุดหงิดอยู่ที่โต๊ะอาหารตอนเช้า
เอ่อ ของคุณฮยอกแจไงคะ ป้าจางตอบ
ทำไมให้เขามาร่วมโต๊ะกับพวกเราล่ะครับ คิบอมที่เพิ่มแต่งตัวเสร็จถามด้วยความเย็นชาทันที ซึ่งทุกคนในวงรู้กันดีว่าคิบอมไม่พอใจ
เอ่อ ป้าจางอึกอักเมื่อคุณชายของเธอออกอาการหัวเสียแต่เช้า
เอาไปเก็บเถอะฮะป้า เดี๋ยวผมไปกินในครัว ร่างบางที่ออกจากห้องมาได้ยินทุกการสนทนาเอ่ยขัดขึ้นก่อนจะเดินหายเข้าไปในครัว
หึ ก็แค่นั้น ฮันกยองพูดก่อนจะลงนั่งเป็นคนแรก ซองมินและชางมินหันมามองสบตากันก่อนจะมองตามร่างเล็กๆนั่นไป
อย่าให้ฉันเดือดมากกว่านี้นะ แมร่งจะจับปลดออกจากค่ายให้หมดเลย โมโหโว้ยยยยยยยยย ฮยอกแจโวยวายลั่นเมื่อพ้นอาณาบริเวณนั้นมาแล้ว
คุณหนูต้องอดทนนะคะ ป้าจางซึ่งความจริงแล้วก่อนฮยอกแจไปเรียนต่อเมืองนอกเธอมีหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเอ่ยปลอบใจก่อนจะลูบหัวคนตัวเล็กอย่างอ่อนโยน
ดูสิฮะ ย็อกเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนนะฮะ มาทำเหมือนย็อกมาเกาะพวกนั้นกิน ร่างบางกระเง้ากระงอดก่อนจะกินข้าวลวกๆ แล้วลุกเตรียมตัวออกไปเรียน
คุณชายคะ คุณฮยอกแจต้องไปมินิบัสกับพวกคุณชายนะคะท่านสั่งมา ป้าจางที่เดินตามออกมาบอกพวกซุปเปอสตาร์ทั้งสิบเจ็ดคน ทำให้ทุกคนหันมามองอย่างไม่ค่อยพอใจ
ถ้าให้ผู้ชายคนนี้ไปรถเรา แล้วแฟนคลับคนอื่นๆล่ะครับ ยุนโฮถามขึ้น ฮยอกแจเพียงแต่ก้มหน้าไว้ มือนิ่มกำแน่นอย่างพยายามจะระงับอารมณ์เต็มที่ ในใจก็ก็แอบเคืองคนเป็นพ่อไป
แต่ท่านสั่งไว้ ป้าจางเริ่มเสียงแข็ง
ผมไม่ชอบเดินทางร่วมกับคนอื่นนี่ครับ คยูฮยอนพูดขึ้นปรายตามองร่างบางเป็นครั้งแรกของวัน ทำให้สังเกตเห็นว่ายูนิฟอร์มหน้าร้อนที่ใส่นี่มันช่างเหมาะกับคนตรงหน้าเสียจริงๆ ถึงแม้จะเป็นผู้ชายแต่ใบหน้าหวานนั้นก็ไม่ได้ทำให้เจ้าตัวเหมือนผู้ชายมากขึ้นเท่าไหร่
ใช่ครับ ไปแค่สิบเจ็ดคนก็แน่นจะแย่แล้ว ดงเฮเสริม
แต่คุณฮยอกแจเรียนห้องเดียวกับคุณคยูฮยอนนี่คะ ป้าจางพูดขึ้นคยูฮยอนทำท่านึกได้
อ่อ แล้วไงครับ คยูฮยอนตอบกลับมา ร่างบางน้ำตาเริ่มคลอ นี่เห็นเขาเป็นตัวอะไร ทำไมคนที่ภายนอกดูสดใสน่ารักถึงหลายเป็นแบบนี้ไปหมด
นั่นน่ะดิครับ งั้นเจ้าคยูไม่ต้องให้เพื่อนร่วมชั้นไปเรียนพร้อมกันหมดเลยเหรอ ฮีชอลออกโรงปกป้องน้อง ฮยอกแจกำมือแน่นแต่น้ำตาเจ้ากรรมก็เอ่อท้นขอบตาสวยซะแล้ว
ไม่เป็นไรฮะ ผมไปรถเมล์เองได้ ร่างบางพูดขึ้นก่อนจะเดินก้มหน้าออกไปจากตรงนั้นทันที ยังไม่ทันพ้นเขตประตูบ้านน้ำตาหยดใสก็ไหลอาบแก้มซะแล้ว ซองมินเป็นคนเห็นถึงกับหน้าชา นี่พวกเราทำกันถูกแล้วเหรอ
มินมิน ซองมินเรียกเพื่อนสนิทที่ตอนนี้นั่งเงียบผิดปกติก่อนจะลงนั่งข้างๆบนมินิบัส แม้จะไม่ได้ทำงานด้วยกันบ่อยนักแต่ด้วยความที่เรียนห้องเดียวกันตลอดทำให้สนิทกันอย่างรวดเร็ว
เห็นใช่ไหมมินนี่ ชางมินถามกลับภาพที่คนตัวเล็กพยายามก้มหน้าซ่อนน้ำตาเดินออกจากบ้าน ทำไมเขาจะไม่เห็นล่ะ และก็มั่นใจว่าซองมินต้องเห็นเหมือนกัน
อืม ซองมินตอบ
ฉันสงสารเค้า ชางมินพูดออกมาเสียงเบาหลังจากคิดทบทวนถี่ถ้วน
นายว่า ฮยอกแจจะมาอ่อยพวกเราจริงเหรอ ไม่เห็นมีท่าทีแบบนั้นเลยนะ ซองมินพูดขึ้น ก่อนจะมองออกไปนอกหน้าต่างรถที่ตอนนี้ร่างบางของใครบางคนกำลังยืนรอรถเมล์อยู่ ฮยอกแจเพียงชายตามองว่าเป็นมินิบัสของคนร่วมชายคาบ้านเท่านั้นแล้วก็ไม่ได้สนใจอีก
นั่นน่ะสิ คนพวกนั้นคงต้องมองตามรถเราไม่วางตาแล้วหล่ะ ชางมินพูดขึ้น แต่คำพูดนั้นทำให้คยูฮยอนที่นั่งอยู่ด้านหลังได้ยินเข้าไปเต็มๆก่อนจะมองออกไปนอกหน้าต่างบ้าง ที่ที่รถวิ่งเลยมาไกลพอสมควรก็ทำให้เห็นได้ว่าร่างบางยังไม่ได้ไปไหน ทั้งๆที่รถเมล์ที่ไปโรงเรียนก็วิ่งผ่านหน้าไปแล้ว
ฮยอกแจต้องไม่รู้สายรถเมล์แน่ๆเลย ซองมินเอ่ยอย่างเป็นกังวล
อื้อ อีกคนตอบเท่านั้นก่อนจะเงียบไป ในหัวมีแต่เรื่องของคนตัวเล็กเต็มไปหมด ซองมินเมื่อเห็นเพื่อนเงียบไปก็เลยนั่งนิ่งๆ คิดถึงเรื่องของคนที่มาอยู่ใหม่ไปตามประสาก่อนที่รถจะหยุดลงหน้าโรงเรียน เสียงกรี๊ดดังขึ้นทั่วบริเวณก่อนจะมีการ์ดมาคอยกันให้เป็นปกติ ไม่ว่าจะเป็นคนในโรงเรียนหรือต่างโรงเรียนต่างมารุมล้อมเป็นปกติทุกเช้า แต่วันนี้ชางมินและซองมินกลับเดินเงียบๆไม่ยิ้มแย้มทักทายแฟนคลับเช่นทุกที จนเพื่อนร่วมชายคาอดสงสัยไม่ได้
เป็นอะไรอ่ะชางมิน คังอินถามขึ้นก่อนจะโอบบ่ารุ่นน้องอย่างสนิทสนม คำถามของคังอินทำให้แจจุงหันมามองด้วยความสนใจทันที
ป่าวครับ ชางมินตอบก่อนจะเดินเลี่ยงไปเพื่อขึ้นห้องเรียนของตัวเอง อยากจะช่วยแต่ก็ขัดคนอื่นๆไม่ได้
ซองมินแล้วนายเป็นอะไรอ่ะ ดงเฮเข้ามาถามเพื่อนอย่างเป็นห่วงบ้างก็เจ้าสองคนนี้เล่นเงียบตั้งแต่กินข้าวน่ะสิ ปกติที่ไหน
แพ้น้ำตา ซองมินตอบก่อนจะยิ้มให้ดงเฮแล้วเดินตามชางมินไปห้องเรียน
พวกมันแปลกๆนะพี่ ดงเฮหันมาถามความเห็นรุ่นพี่
นั่นน่ะดิ แจจุงบอกออกมา
แล้วนี่อีกคน ไม่มีปากกะเค้าด้วยเหรอไง ชินดงแซวเล็กก่อนที่คนอื่นๆจะหันมามองอย่างสนใจ
มีครับพี่ ผมไปเรียนก่อนนะ คยูฮยอนตอบแววตาสลดลงเล็กน้อยก่อนจะเดินไปอีกคน ที่เหลือหันมามองหน้ากันก่อนจะยักไหล่แล้วแยกย้ายไปเรียน
โอ๊ย ถึงซักที ฮยอกแจบ่นกระปอดกระแปดก่อนจะก้าวเข้าโรงเรียนมาก่อนประตูปิดนิดเดียวเท่านั้น เข้ามาได้ก็เอามือปิดปากวิ่งไปหาห้องน้ำทันที ร่างบางนั่งรถเมล์ไม่ค่อยได้เพราะเมารถมากน่ะสิ ไปถึงห้องน้ำอาหารเช้าก็ออกจากท้องไปจนหมด มือเล็กเกาะอ่างล้างหน้าอย่างอ่อนแรงก่อนจะมีใครบางคนเดินเข้ามา
อ้าว นายใช่นักเรียนใหม่รึเปล่า เสียงทุ้มเอ่ยถาม ฮยอกแจเงยหน้าขึ้นมองคนหล่อตรงหน้าก่อนจะยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
ใช่ ฉันฮยอกแจยินดีที่ได้รู้จักนะ กล่าวแนะนำตัว
อ่า เราชื่อฮยอนจุงนะ ยินดีที่ได้รู้จักนายอยู่ห้องเดียวกับเราด้วยรอเราเข้าห้องน้ำแปปนึงนะเดี๋ยวไปด้วยกัน ฮยอนจุงแนะนำตัวก่อนจะผลุบหายเข้าห้องน้ำไป เอาน่ายังไงวันนี้ก็คงมีเรื่องดีๆบ้างแหละ
อาจารย์จะแจกชีสต์ให้นะเก็บไว้ให้เพื่อนที่ไม่มาด้วยล่ะ เออใช่วันนี้เรามีนักเรียนใหม่นี่นายังไม่มาอีกเหรอ อาจารย์สาวสวยถามพลางมองไปรอบๆห้อง
สงสัยคงจะยังไม่ชิน ใครก็ได้เก็บไว้ให้เพื่อนทีนะ เธอสรุปเองเสร็จสรรพก่อนจะเอาชีสต์ไปวางไว้ที่นักเรียนคนนึงแล้วเดินออกจากห้องไป เพื่อนๆในห้องคุยกันอย่างออกรสออกชาติก็วันนี้มันวันเปิดเทอมวันแรกน่ะสิ คยูฮยอนนั่งเซนต์แผ่นซีดีของเพื่อนๆไป ก่อนจะมองเก้าอี้ด้านข้างที่ยังคงว่างเปล่าไปด้วย ไปอยู่ไหนของเค้ากันนะ
มาแล้วๆๆๆ  เราพาเพื่อนใหม่มาแนะนำ ฮยอนจุงพูดขึ้นทำให้ทุกคนหยุดกิจกรรมของตัวเองก่อนจะมองร่างบางที่ฮยอนจุงจูงมือเข้ามา พอเห็นหน้าชัดๆเจ้าพวกผู้ชายในห้องก็เป่าปากกันอย่างสนุกสนาน ส่วนพวกผู้หญิงก็ได้แต่หันไปนินทากันเองด้วยความอิจฉากับความน่ารักนั้นที่มากเกินผู้หญิงด้วยซ้ำ
น่ารักจังเลย
มีแฟนยังครับ
นั่งกับผมไหมครับ
ขอเบอร์หน่อยครับ
พักที่ไหนครับเนี่ย แต่ละคนถามอย่างออกนอกหน้าจนจองอา หัวหน้าห้องคนสวยต้องเตือน
แนะนำตัวสิ จองอาพูดแล้วยิ้มให้เพื่อนใหม่อย่างเป็นมิตร
ฮยอกแจฮะ มาจากอังกฤษ ยินดีที่ได้รู้จักนะ เสียงหวานพูดขึ้นก่อนจะโค้งหัวและยิ้มน้อยๆ ใบหน้าใสเมื่อเช้าตอนนี้กลับซีดเซียวจนคยูฮยอนอดสงสัยไม่ได้
ฮยอกแจไปนั่งข้าง คยูฮยอนไปที่มันว่างตรงนั้นน่ะ จองอาจัดการเองเสร็จสรรพก่อนจะพาร่างบางมานั่ง ฮยอกแจมองคยูฮยอนเหมือนจะขออนุญาตก็เพราะรู้ดีว่าพวกซุปเปอร์สตาร์แอนตี้กันขนาดไหน เมื่อเห็นฮยอกแจไม่นั่งซักที จองอาเลยจับให้นั่งลงไปแทน
ไม่ต้องกลัวมันกัดหรอกน่า เสียงคนอื่นๆแอบแซว
อยากให้ฮยอกแจคนสวยมานั่งด้วยอ่ะ อีกคนโวยวายไม่จริงจังนัก พอนั่งไปซักพักห้องเรียนที่ไม่มีการเรียนการสอนทำไมมันถึงได้รู้สึกอึดอัดแบบนี้นะ อาจจะเป็นเพราะคนข้างๆก็เป็นได้
อ่ะ อยู่ดีๆร่างสูงก็ยื่นกระดาษมาให้แผ่นนึง ทำให้ร่างบางสะดุ้งทันทีก่อนจะรับมาดูงงๆ
อาจารย์แจกน่ะ พอดีฉันหยิบติดมาสองแผ่น คยูฮยอนตอบก่อนจะฟังเพลงต่อ แต่ก็แอบมองคนด้านข้างไปด้วย
ขอบใจนะ เอ่ยเสียงเบาคิดว่าอีกคนคงไม่ได้ยิน แต่เปล่าเลยคยูฮยอนได้ยินมันเต็มๆ ร่างสูงยิ้มน้อยๆที่มุมปาก ใครว่าเค้าหยิบติดมือล่ะ เค้าตั้งใจหยิบมาสองแผ่นเลยตะหาก ไม่นานนักก็มีเพื่อนคนๆอื่นเดินเข้ามาคุย ลากไปนู่นบ้างนี่บ้าง ร่างบางก็ยอมแต่โดยดี หัวเราะไปกับเพื่อนใหม่อย่างไม่ขัดเขิน ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง คยูฮยอนมองภาพนั้นจนเพลินตา ไปถึงตอนโรงเรียนเลิก ร่างบางเก็บของลงกระเป๋าก่อนจะลุกขึ้นยืน เอ่ยลาเพื่อนๆในห้อง
จะไปไหนน่ะ คยูฮยอนที่ไม่รู้ว่าตัวเองตามออกมาเมื่อไหร่ รู้สึกตัวอีกทีก็ถามคนตรงหน้าไปแล้ว
กลับบ้าน ตอบก่อนจะเอียงคอมองอย่างสงสัย คยูฮยอนมองคนตรงหน้านิ่งๆยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรออกมาคิบอมกับดงเฮที่เรียนห้องติดๆกันก็เดินออกมาซะก่อน
ไปกลับบ้านกัน คิบอมตบบ่ารุ่นน้องก่อนจะมองฮยอกแจอย่างไม่พอใจ มาอ้อนอะไรน้องชายฉันอีก
ครับ คยูฮยอนตอบก่อนจะเดินเลยร่างบางไป
อย่าคิดว่าจะอ้อนน้องฉันสำเร็จล่ะ ดงเฮที่ปล่อยให้คิบอมลากคยูฮยอนออกไปก้มมากระซิบร่างบาง
ฉันไม่ได้อ้อน เสียงใสเถียง
หึหึ ก็เห็นๆกันอยู่ ดงเฮยิ้มเหยียด
เห็นเหรอ เห็นเพราะว่านายมองให้เป็นแบบนั้นยังไงล่ะ ตอบก่อนจะเดินจากมา ดงเฮอึ้งไปกับคำตอบนั้น ก่อนจะมองตามแผ่นหลังบางไป
นี่ไอ้กี้ หมอนั่นมาอ่อยแกเหรอไง คิบอมถามรุ่นน้องทันทีที่ขึ้นมาอยู่บนรถ คำว่าหมอนั่นของคิบอมทำให้ทุกคนหันมาสนใจทันที
ป่าวครับ คยูฮยอนตอบ
เล่าความจริงมาเถอะน่า ฮีชอลพูดก่อนจะตบบ่าน้องชาย
ผมเข้าไปทักเขาเองครับ ผมก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันรู้สึกตัวอีกทีผมก็ถามไปแล้วว่าจะไปไหน คยูฮยอนตอบตามความจริง ทำเอาเพื่อนร่วมวงงงเป็นไก่ตาแตก
แกใจอ่อนเหรอ อีทึกถามบ้าง
ผมไม่แน่ใจ ว่าที่ผมทนทำมันถูกรึเปล่า น้องเล็กของวงตอบ
เฮ้อ แกมันเด็ก คิบอมบอกก่อนจะตบหัวน้องชายไปทีนึง
แต่ ซองมินจะพูดบ้าง แต่ชางมินขัดไว้ก่อนจะส่ายหน้าเป็นการห้าม พูดไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์
คุณหนูคะ จะรีบออกไปทำไมแต่เช้าคะทานข้าวก่อนสิ ป้าจางเรียกร่างบางเอาไว้ก่อนที่ขาเรียวจะพาเจ้าตัวออกจากบ้าน
ไม่ได้หรอกฮะ เมื่อวานก็เกือบสายไปทีแล้ว ไก่น้อยตอบกลับก่อนจะส่งยิ้มให้น้อยๆแล้วรีบวิ่งออกไป แม่บ้านจางได้แต่มองตามคุณหนูของตัวเองไปด้วยความไม่สบายใจ ถ้าท่านประธานมาถามจะบอกไปว่าอะไรดีล่ะเนี่ย
ตึกๆๆๆๆๆๆ
ทั้ง 17 คนวิ่งลงมาพร้อมกันจนบันไดแทบพังก่อนจะนั่งประจำที่ กินข้าวของใครของมันอย่างรวดเร็ว เหมือนกับแข่งกินยังไงยังงั้น พอนึกขึ้นได้ว่าฮยอกแจไม่ได้กินข้าวเช้าก็เดินหายเข้าไปทำแซนวิชเพื่อฝากใครซักคนเอาไปให้
เรียว เร็วๆสิ แจจุงเร่งรุ่นน้องที่ตอนนี้กระดกน้ำเข้าไปอึกใหญ่ ชินดงที่กำลังรีบกินข้าวจานที่สองกำลังสวาปามต่ออย่างไม่ใส่ใจแต่ก็รีบร้อนน่าดูเพราะไม่อยากให้ทุกคนต้องรอ
พี่แจอย่าเร่งสิ เรียวอุคเงยหน้ามาว่าก่อนจะหันไปหยิบขนมปังใส่ปากอีกชิ้น
เสร็จรึยัง รถมารอแล้วนะทำไมพวกนายตื่นสายล่ะเนี่ย ยุนโฮพูดขึ้นหลังจากที่อิ่มเป็นคนแรก แต่ก็ไม่มีใครจะตอบคำถามนั้นซักคนเพราะเนื้อที่ในปากของแต่ละคนมันคับแน่นไปด้วยอาหาร
อิ่มแล้ว!!!” ที่เหลือพูดออกมาพร้อมกัน ป้าจางรีบวิ่งเอากล่องอาหารกล่องเล็กออกมา
คุณคยูฮยอนคะ ฝากนี่ไปให้คุณหนูที แม่บ้านพูดขึ้นก่อนจะยิ้มอย่างอ้อนวอน หมาป่าหนุ่มเลิกคิ้วน้อยๆด้วยความสงสัยแต่ก็เอื้อมมือไปรับมาไว้อัตโนมัติ
ดีจังเลยนะฮะ มีข้าวกลางวันส่งไปให้ด้วย ดงเฮแขวะทันทีแล้วเบะปากไม่พอใจ
เอ่อ…”
หึหึ มาอยู่ได้วันเดียวใช้คนของเราซะคุ้มเชียวนะ อีทึกพูดขึ้นบ้างโดยที่แม่บ้านจางยังไม่ทันอธิบายด้วยซ้ำ
คงจะลืมตัวคิดว่าตัวเองเป็นคุณหนูของบ้านนี้ซะล่ะมั้ง จุนซูพูดเรียบๆ
ก็แค่เด็กแลกเปลี่ยนจะเอาอะไรมากมายนักหนา ยูชอนเสริมต่อทันที
นั่นสินะ เด็กแลกเปลี่ยนหาโฮสต์อื่นให้อยู่ก็ได้มั้ง คังอินเห็นด้วยทันที
งั้นเราไปหาบ้านให้เด็กนั่นอยู่ดีมะ จะได้ย้ายๆออกไปซักที ฮีชอลสนับสนุนทันที
ก็ดีนะพี่ คิบอมพูดสั้นๆ แต่ซองมินกับชางมินหันไปมองหน้ากันเองอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ชินดงที่กินขนมปังแผ่นสุดท้ายก็สังเกตเห็นน้องสองคนทำหน้าลำบากใจ
งั้นเราก็ไปหากันเย็นนี้เลย เยซองสรุปออกมา
ไม่ต้องหรอกครับ ผมให้คนที่บ้านหาให้ก็ได้ ซีวอนขัดขึ้นยิ้มกริ่ม รู้สึกดีที่บ้านจะกลับมาเป็นส่วนตัวอีกครั้ง
งั้นก็ดี พวกเราจะได้ไปทำงานกันแบบไม่ต้องรีบร้อน ฮันกยองพยักหน้าก่อนที่ยุนโฮ จะกระตุ้นรุ่นน้องให้เดินออกไป ป้าจางได้แต่ส่ายหน้าเหนื่อยใจ ไหงกลายเป็นบทสทนาที่มีหัวข้อเป็นคุณหนูของเธอไปได้นะ

อ่ะ ป้าจางฝากมา พอไปถึงห้องเรียน คยูฮยอนก็แทบจะโยนกล่องข้าวนั่นไปให้ แล้วเดินเลยไปนั่งเก้าอี้ด้านข้าง มือเล็กหยิบกล่องข้าวมาถือไว้น้ำตาซึมซึ้งใจที่แม่นมของตัวเองยังใส่ใจในเรื่องเล็กๆน้อยๆ นิ้วเรียวเปิดฝากล่องออกมาพบแซนด์วิชหน้าตาน่ากินมากมายเรียงรายอัดแน่นเต็มกล่องข้าว
โห น่ากินจังเลย ฮยอนจุงที่เดินมาหาพอดีเห็นแล้วทักขึ้น
กินสิ ไก่น้อยยิ้มรับแล้วยื่นกล่องไปตรงหน้าร่างสูง
จะดีเหรอ ย็อกน่าจะกินด้วยกันนะ
ดีสิ นี่ไงเรากินแล้ว อ้ำ ร่างบางตอบกลับก่อนจะหยิบออกมาหนึ่งชิ้นแล้วกินให้ดู ฮยอนจุงเลยหยิบไปกินบ้างหน้าตายิ้มแย้ม
กินอะไรกันสองคนน่ะ กินมั่งสิ จองอากระโดดโลดเต้นเข้ามา ฮยอกแจยื่นกล่องไปให้แทนคำตอบ ไม่นานนักเพื่อนก็หยิบกันไปคนละชิ้นสองชิ้นจนแซนด์วิชที่มาเต็มกล่องใกล้จะหมดทั้งๆที่เจ้าของกินได้แค่ชิ้นเดียวเท่านั้น
นี่พวกนาย ให้ฮยอกแจได้กินบ้าง คยูฮยอนที่นั่งมองมานานห้ามขึ้นมาทันที ที่เพื่อนอีกคนจะหยิบเป็นชิ้นที่สอง ก่อนที่ร่างสูงจะคว้ากล่องคืนมา
ไม่เป็นไรหระอุ๊บ ร่างบางพูดไม่ทันจบ คยูฮยอนก็ยัดแซนด์วิชที่ถือมาเข้าปากเล็กซะก่อน ตากลมกระพริบปริบๆก่อนที่ปากจะทำหน้าที่เคี้ยวอย่างว่าง่าย พอหมดปากอีกคนก็ป้อนต่อทันที
ที่แท้ แกก็อยากป้อนฮยอกแจของเรานี่เอง เพื่อนที่นั่งหน้าห้องหันมาแซว
เงียบไปเลย อย่าได้คิดแบบนั้นเชียวนะ คยูฮยอนเถียงกลับเสียงเรียบแล้วหยิบชิ้นสุดท้ายมายัดปากคนข้างๆไปจนได้ ร่างบางเลยไม่มีสิทธิ์แม้จะพูดว่าอิ่มแล้วออกมาซักที  ร่างสูงเบือนหน้าออกไปอีกทางก่อนจะกระตุกยิ้มน้อยๆที่มุมปาก
ออด
เสียงออดพักกลางวันดังขึ้นก่อนที่ลูกลิงในห้องจะพากันส่งเสียงเจื้อยแจ้ว
ย็อก ไปกินข้าวกัน ฮยอนจุงกับซึงกิเดินเข้ามาชวนเพราะเมื่อวานก็มาดึงคนน่ารักไปกินข้าวกลางวันมาด้วยแล้ว ไก่น้อยอมยิ้มน้อยๆแล้วเดินตามแรงดึงของเพื่อนสองคนออกไป
คนเยอะชะมัด ไม่รู้มายืนรออะไรกัน ซึงกิบ่นเซงๆ ก็เข้าใจว่าโรงเรียนมีแต่คนดังเรียนแต่ทำไมอาจารย์ชอบปล่อยคนนอกเข้ามาเรื่อยเลยก็ไม่รู้
นั่นไงมาแล้ว เสียงของใครบางคนดังขึ้นก่อนที่ทุกสายตาจะจับจ้องไปที่ร่างบอบบางของฮยอกแจ
คนนี้น่ะเหรอ นักเรียนกแลกเปลี่ยน
ไหนเขาบอกว่าผู้ชาย
เออ นั่นสิไหนข่าวบอกว่าผู้ชายอุตส่าห์มา
เขาเป็นผู้ชายนี่ดูเครื่องแบบสิ
ไม่น่าเชื่อ เสียงพูดคุยดังเซ็งแซ่ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันเสียงดัง ฮยอนจุงกับซึงกิเลยจับมือนิ่มคนละข้างฝ่าฝูงชนเข้ามาในโรงอาหารติดแอร์หรูของโรงเรียนจนได้
ฮยอกแจ นายนี่ดังจริง ฮยอนจุงแซวยิ้มๆก่อนจะดันไหล่บางให้ลงนั่ง ตั้งแต่ฮยอกแจก้าวเข้ามาเพื่อนร่วมชายคาบ้านทั้ง 17 คนก็หันไปมองพร้อมกันแต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกไปนอกจากส่งสายตาเคืองๆมาให้เท่านั้นเอง ซึ่งร่างบางก็สังเกตเห็นเลยเลือกที่จะก้มหน้าอยู่กับโต๊ะ
เดี๋ยวเราไปซื้อมาให้นะ ตัวเล็กแค่นี้คงเบียดไม่ไหวหรอก ฮยอนจุงพูดขึ้นก่อนจะวิ่งหายไปในฝูงชนกับซึงกิ
นี่นายอ่ะ เสียงแหลมสูงของใครบางคนดังขึ้น ทำให้ใบหน้าหวานเงยขึ้นมามองอย่างสงสัย ผู้มาเยือนเป็นหญิงสาวหน้าน่ารัก หุ่นดีแถมยังอึ๋มอีกต่างหาก กำลังเท้าโต๊ะมองฮยอกแจด้วยสีหน้าเอาเรื่องสุด
เรียกฉัน มีอะไรล่ะ ฮยอกแจถามออกไปอย่างไม่ใส่ใจ เป็นใครถึงกล้ามาเท้าโต๊ะมองหน้าแบบนี้
นี่นาย!!” พอเห็นการกระทำนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็เปลี่ยนจากเท้าโต๊ะมาชี้หน้าแทน
เรียกอยู่นั่นแหละ มีอะไรก็พูดมาสิ ร่างบางมองตอบอย่างไม่พอใจ
ได้ข่าวว่านายได้นั่งข้างคยูฮยอนของเรา คนที่มาด้วยกันพูดขึ้นจากด้านหลัง ตากลมเหล่มองเล็กน้อยแต่ก็ไม่ตอบคำถามไร้สาระนั่น
นี่ฉันถามน่ะ ทำไมไม่บอก
นั่นคือคำถามเหรอไง ร่างบางตอบกลับด้วยความงง
ใช่ นายนั่งกับคยูฮยอนของเราใช่ไหม
ใช่
บังอาจมากเลยนะ รู้ไหมว่าคนที่นั่งข้างคยูฮยอนเราจะทำยังไง คนที่อยู่ด้านหลังวี๊ดลั่น จนฮยอกแจต้องยกนิ้วเรียวมาอุดหู พวกซุปเปอร์สตาร์ที่นั่งกินข้าวในที่นั่งพิเศษก็มองมาตรงจุดนั้นด้วยความสนใจทันที
ฉันจะไปรู้ได้ยังไงเพิ่งย้ายมา ตอบกลับเรียบๆจนคนฟังกระตุกมือ อยากจะตบคนน่ารักตรงหน้านี่เสียจริงๆ ผู้หญิงร่างใหญ่ที่สุดก้าวออกมายืนอยู่ด้านหน้าแล้วมองจิกร่างบางที่นั่งทำหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาว
ก็เจอแบบนี้ไง ยัยฮิปโปพูดจบก็เงื้อแขนช้างขึ้นมา  ซองมินกับชางมินที่นั่งมองอยู่ตาโตตกใจก่อนจะลุกพรวดวิ่งมาตรงจุดเกิดเหตุทันที
หยุดนะ!!!” สองมินตะโกนห้ามพร้อมกันแล้วปราดมาขวางหน้าฮยอกแจไว้ พวกซุปเปอร์สตาร์อีกหลายคนลุกขึ้นยืนมองการกระทำของรุ่นน้องอย่างตกใจ
พะพี่ซองมิน พี่ชางมิน ยัยฮิปโปยักษ์ พูดเสียงสั่นก่อนจะถอยออกมาอย่างเกรงใจ ก็ใครจะกล้าสบตาที่แข็งกระด้างแบบไม่เคยเห็นมาก่อนของซองมินกับชางมินแบบนั้นได้ล่ะ
ทำไมต้องทำร้ายคนอื่นแบบนี้ ชางมินถามเสียงเย็น ทั้งๆที่เขาไม่จำเป็นต้องเดือดร้อนเลยด้วยซ้ำ พวกที่เหลือที่โต๊ะลุกเดินเข้ามาหาอย่างพร้อมเพรียงพร้อมกับการแหวกกลุ่มแฟนคลับออกแต่กลับเพิ่มปริมาณคนมุงให้มากขึ้นไปอีก
แล้วทำไมพวกพี่ต้องปกป้องมันด้วยล่ะ ผู้หญิงคนแรกที่หุ่นดีถามขึ้น
แล้วพวกเธอจะทำร้ายคนอื่นด้วยเหตุผลอะไร ซองมินตอบกลับ
ก็มันได้นั่งข้างคยูฮยอนออปป้า
ฉันก็แค่นั่งข้างๆ ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น ไก่น้อยสวนกลับทันที ฮยอนจุงกับซึงกิรีบวิ่งเอาอาหารมาวางที่โต๊ะแล้วยืนกันร่างบางของเพื่อนไว้อีกชั้นต่อจากซองมินและชางมิน
คยู นายดูแลแฟนคลับมั่งสิ ดงเฮหันไปกระซิบกับรุ่นน้องหลังจากได้ฟัง
เออ นั่นน่ะดิ นิสัยไม่ดี แจจุงคนสวยตอบก่อนจะเบะปากเซงๆ
อ้าวพี่ ผมจะไปรู้ได้ยังไงเรื่องแบบนี้ หมาป่าเถียงอ่อยๆที่รู้ว่าต้นเหตุมาจากตัวเอง
แกนั่นแหละผิด อีทึกโยนความผิดมาให้ทันที
ถ้าเป็นคนอื่น ยัยพวกนั้นก็คลั่งแบบนี้แหละ เยซองบอกออกมา
ว่าแต่ซองมินกับชางมินมันไปยุ่งอะไรด้วยวะ ยูชอนถามออกไปงงๆ
สองคนนั้นขี้สงสาร จุนซูตอบออกไป
คงทนไม่ได้หรอก ที่จะเห็นคนเหมือนจะรู้จักกันถูกตบกลางโรงอาหาร วาจาเชือดเฉือนของฮีชอลพร้อมรอยยิ้มที่ใครๆก็ไม่อยากมอง
พวกพี่หลบไปดีกว่า ฮิปโปยักษ์พูดเสียงดังก่อนจะผลักซองมินและชางมินไปคนละทาง จนเพื่อนๆทนไม่ได้ต่างรุมกันเข้ามาไปที่พวกแฟนคลับขี้หาเรื่องนั้น
กลับไปดีๆจะดีกว่านะ เรียวอุคพูดก่อนจะตวัดสายตามองไม่พอใจที่มาทำร้ายเพื่อนของตัวเอง
ไปสิ!!!” ยุนโฮตวาดลั่นด้วยตำแหน่งคิงของเจ้าตัวทำให้ไม่มีใครกล้าหือ
เอ่อ ขอโทษค่ะ ขอโทษพวกนั้นพูดรัวเร็วก่อนจะวิ่งหายออกไปคนละทาง พอพวกนั้นไปหมดแฟนคลับก็เริ่มสลายตัวไป พวกคนดังที่อยู่ในบริเวณนั้นก็หันไปจ้องฮยอกแจเป็นตาเดียว
ไม่ต้องคิดว่าพวกฉันปกป้องนายหรอกนะ ที่พวกเราทำไปเพราะซองมินกับชางมินเพื่อนของเราเท่านั้น คิบอมบอกเสียงเรียบไม่มองหน้าคนตัวเล็กที่นั่งกำมือแน่นอย่างระงับอารมณ์อยู่กับโต๊ะ แล้วเดินเลยไปพร้อมกับเพื่อนๆ
ซองมิน ชางมินขอบใจนะ เสียงหวานเอ่ยบอกออกไปก่อนจะยิ้มหวานไปให้สองคนตรงหน้า เมื่อมองรอยยิ้มหวานของฮยอกแจซองมินกับชางมินก็หน้าแดงขึ้นมา
เอ่อ ไม่เป็นไรหรอก ชางมินตอบตะกุกตะกักแล้วดึงมือเพื่อนออกไป  ต่างคนต่างจับหัวใจของตัวเองที่เต้นผิดจังหวะไปด้วย แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา
พวกนั้นตื่นรึยังฮะ ป้าจาง ไก่น้อยเดินเข้าไปถามแม่บ้านคนสนิทในครัว หลังจากที่ดูตารางงานแล้ววันนี้เพื่อนร่วมบ้านต้องไปออกรายการของสถานีดัง KBS กันหมดทุกคน
ยังเลยค่ะ เห็นว่าวันนี้มีงานด้วยกันนี่คะ แม่บ้านหันมาตอบก่อนจะหันกลับไปสั่งสาวใช้คนอื่นๆต่อ
แต่ต้องไปถึงสถานีตอนเจ็ดโมงเช้านี่ฮะ นี่ก็จะหกโมงแล้วด้วย คนสวยพูดอย่างเป็นกังวลเพราะกลัวว่าพวกศิลปินดังจะทำเรื่องขายหน้าให้กับบริษัท(งกแทนพ่ออ่ะ)
อ่า เอาไงดีทางนี้ก็ยังไม่เสร็จ แม่บ้านจางห่วงขึ้นมาอีกคน
เดี๋ยวย็อกไปปลุกเองฮะ ร่างบางขันอาสาก่อนจะวิ่งหายออกไป
                ก๊อกๆๆ
มือเล็กเคาะประตูห้องที่อยู่ด้านในสุดอย่างกล้าๆกลัว เพราะป้ายที่แขวนอยู่หน้าห้อง ชองยุนโฮเมื่อไม่มีเสียงตอบรับมือเล็กเลยเอื้อมไปบิดประตูห้องก่อนจะค่อยๆเปิดเข้าไปอย่างเงียบเชียบแล้วก็พบลีดเดอร์ของวงดงบังชินกิที่นอนหลับสนิทอยู่ใต้ผ้าห่มผืนใหญ่
ยุนโฮ ฮยอกแจเรียกพร้อมกับเขย่าแขนไปด้วยแต่ก็ไม่มีท่าทีว่าคนที่นอนหลับสนิทจะตื่นขึ้นมา คนสวยได้แต่ยืนลูบคางอย่างใช้ความคิดก่อนจะเริ่มเขย่าตัวให้แรงขึ้นอีกครั้ง
ยุนโฮ!!!” เสียงใสตะโกนลั่น จนคนที่นอนอยู่สะดุ้งตื่นขึ้นมาทันทีด้วยความตกใจ พร้อมๆกับที่ฮยอกแจหัวเราะคิกคักกับอาการเหวอนั้น
เข้ามาทำไม พอตั้งสติก็ถามบุคคลภายนอกทันที
ไปอาบน้ำซะ วันนี้นายมีงานตอนเจ็ดโมง ร่างบางไม่ตอบแต่กลับสั่งอีกคนเสียอีกก่อนจะยิ้มให้อย่างน่ารักจนคนที่กำลังจะอ้าปากว่าได้แต่อ้าปากค้างก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำอย่างว่าง่ายพอประตูห้องน้ำปิดลงร่างสูงก็จับใบหน้าของตัวเองที่ร้อนผ่าวเพียงแค่เห็นรอยยิ้มนั้น
คิมแจจุง
อ๊า! จะตื่นรึยังเนี่ย เสียงใสบ่นกับตัวเองก่อนจะค่อยๆแง้มประตูเข้าไป ซึ่งก็เป็นไปตามคาดแจจุงยังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง พอเดินเข้าไปใกล้แก้มใสก็อมลมจนกลมแล้วยื่นมือจิ้มใบหน้าใสของอีกคน
จึกๆๆ
จึกๆๆ
แจจุงทำเพียงแค่ปัดออกอย่างรำคาญเท่านั้นแต่ก็ไม่ยอมตื่น
จึกๆๆ
หมับ
คราวนี้แจจุงจับมือนิ่มเอาไว้ก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นมามองคนที่รบกวนเวลานอนหลับอย่างมีความสุขของตัวเอง แล้วค่อยๆลุกขึ้นนั่งแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยมือผู้บุกรุกอยู่ดี
เข้ามาทำไม คำถามเดิมอีกแล้วสั้นๆห้วนๆ
มาปลุก นายมีงานตอนเจ็ดโมงนะ เสียงหวานบอกออกไปก่อนจะมองคนที่เพิ่งตื่นตาแป๋ว ร่างสูงลุกขึ้นยืนก่อนจะปล่อยมือนิ่มที่ตัวเองจับอยู่อย่างแอบเสียดายแล้วเดินหายเข้าห้องน้ำไป คำพูดที่เตรียมว่าคนตัวเล็กถูกกลืนหายตั้งแต่สบตาแป๋วที่ไร้เดียงสานั่นแล้ว แล้วแจจุงก็ต้องสะบัดหัวไล่ความคิดไร้สาระออกไป
ชางมิน
โชคดีจัง ซองมินกับเรียวอุคก็อยู่นี่ เสียงใสพูดกับตัวเองเมื่อย่องเข้ามาแล้วพบสามคนนอนอยู่ด้วยกันบนเตียงเดียว ประหยัดแรงไปสองห้อง
ชางมิน ซองมิน เรียวอุค ฮยอกแจเรียกทีละคนก่อนจะเขย่าตัวไปพร้อมกัน แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีนักเพราะซองมินหันไปกอดกับเรียวอุค ชางมินเอาหมอนปิดหน้าแล้วหลับต่อ
ตื่นได้แล้วนะ!!!” เสียงใสโวยลั่นหลังจากเพียรพยายามปลุกด้วยความใจเย็นมานานพอดูข้อมือเล็กถูกยกขึ้นมาดูเวลาที่บ่งบอกว่า 6.15 แล้วก็ตีหน้าเครียดพวกนี้ไม่มีนาฬิกาปลุกหรือไงกัน พอได้ยินเสียงโวยทั้งสามคนก็สะดุ้งเฮือกมานั่งทันที คนตัวเล็กกอดอกมองหน้านิ่ว
นายเข้ามาทำไมอ่ะ ชางมินถามเสียงอ่อนโยน คำถามเดียวกับยุนโฮและแจจุงแต่น้ำเสียงไม่ได้บ่งบอกถึงความไม่พอใจเอาไว้เลย
พวกนายไปอาบน้ำซะ! มีงานตอนเจ็ดโมง คนสวยสั่งทันทีแล้วคลี่ยิ้มบางให้กับหน้าตาของคนที่เพิ่งตื่นนอนสามคน หัวฟูๆนั่นดูตลกจังเลย พวกแฟนคลับมาเห็นจะทำหน้ายังไงล่ะทีนี้
เออจริงด้วย เรียวอุคร้องลั่น
ก็ฉันบอกให้นายตั้งนาฬิกาปลุกนี่ ซองมินหันไปว่าเพื่อนทันที
ก็เมื่อวานกลับดึกมาถึงพวกนั้นก็อัดรวมกันห้องของพี่ฮัน ฉันเลยกระเด็นมานอนกับนายขี้เกียจเดินกลับห้องตัวเองมันไกล เรียวอุคเถียงกลับ ร่างบางเลยเดินไปดึงมือชางมินให้ลุกขึ้นไปอาบน้ำ ชางมินก็เดินเข้าไปอย่างว่าง่าย ก่อนที่จะหันมาดันเรียวอุคกับซองมินให้ออกไปเพื่อกลับห้องของตัวเอง ซึ่งแต่ละคนก็เดินไปอย่างว่าง่ายก่อนจะแยกจากกันยังหันมามองรอยยิ้มของฮยอกแจแล้วผลุบหายเข้าไป
ฮันกยอง
ห้องนี้นอนสี่คนนี่นา หลังจากคิดทบทวนสิ่งที่เรียวอุคพูด ฮยอกแจก็มีกำลังใจขึ้นมานิดหน่อยประหยัดแรงเพิ่มไปอีก พอก้าวขาเข้าไปถึงก็ต้องนิ่วหน้าเพราะเห็นสภาพของแต่ละคน ซีวอนกับดงเฮ นอนอยู่กับพื้นเตียงคนละข้าง สงสัยคงจะหล่นจากขอบเตียงไปเมื่อคืน ฮันกยองกับคยูฮยอนนอนหันหัวไปคนละทางขาป่ายหน้าของอีกคน
คิกๆๆๆ แล้วก็หลุดขำออกมา ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งยองๆปลุกดงเฮที่พื้นเตียงเป็นคนแรก ปลาน้อยกุมมือนิ่มไว้ทั้งสองข้างก่อนจะจับไว้นิ่งแล้วซุกใบหน้าหล่อกับมือนิ่มแทน
อ๊ะ!” เสียงหวานร้องอย่างตกใจหลังจากที่เขย่าตัวของดงเฮแต่กลับถูกจับมือไว้แทน ดงเฮปรือตาขึ้นมามองเล็กน้อยก่อนจะหลับตาพร้อมกับเสียงงึมงำ
นางฟ้า
ดงเฮ ตื่นนะปล่อยมือด้วย ไก่น้อยร้องลั่นก่อนจะพยายามกระตุกมือออกแต่ไม่เป็นผล พอโดนกวนมากๆคนที่จะตื่นกลับไม่ใช่ดงเฮแต่เป็นคุณชายชเวที่อยู่อีกฝั่งแทน ร่างสูงลุกขึ้นมานั่งงัวเงียแล้วเดินเลยมานั่งมองสงครามย่อมๆ บนเตียงข้างคยูฮยอนแล้วปลุกเพื่อนร่วมวงอีกสองคน ฮันกยองกับคยูฮยอนก็ตื่นขึ้นมามองปากหาวหวอดๆ แต่ดงเฮก็ยังหลับลึกอยู่
ดงเฮ ตื่นได้แล้ว ฮันกยองปลุกน้องอีกคนหลังจากเห็นใบหน้าหวานเริ่มเบะปากอย่างไม่พอใจ
แปปนะฮะพี่ ปลาน้อยงึมงำตอบก่อนจะดึงคนตัวเล็กที่ตัวเองจับมืออยู่ลงไปกอด คยูฮยอนตาค้างตกใจก่อนที่ซีวอนจะไปดึงฮยอกแจออกมาเอง
ยังไงก็ฝากปลุกด้วยนะ พวกนายมีงานตอนเจ็ดโมง ร่างบางว่ารวดเร็วหน้าขึ้นสีจนเห็นได้ชัดก่อนจะวิ่งหายออกจากห้องไป หนุ่มๆที่เหลือได้แต่มองตามไปก่อนจะเผลอยิ้มออกมาพอหันไปเจอกันเองก็หุบยิ้มฉับก่อนที่ซีวอนจะแก้เก้อด้วยการเดินไปดึงดงเฮออกจากห้องของฮันกยอง
คังอิน
อ้าวตื่นแล้วเหรอ พอเปิดเข้าไปในห้องกลับว่างเปล่า เลยยิ้มกับตัวเองน้อยๆแล้วเดินต่อไปอีกห้อง
อีทึก
อ้าวยังไม่ตื่นนี่หว่า เข้าไปก็เกาหัวด้วยความงงที่เห็นคังอิน เยซอง ชินดงมากระจุกตัวรวมกันอยู่ห้องอีทึกแล้วเจ้าของห้องไปไหนหว่า มือเล็กเอื้อมไปเขย่าตัวของคนทั้งสามอย่างแรงเพราะเวลาใกล้เข้ามาทุกที
ชินดง ป้าจางทำขนมเยอะแยะเลยอยู่ข้างล่าง เสียงใสบอกคนตัวอ้วนที่นอนน้ำลายยืดอยู่บนเตียงแต่มันกลับปลุกอีกสองคนที่เห็นแก่กินไม่แพ้กันขึ้นมาด้วย
ไหนๆ
อ้าวนาย คังอินกับเยซองชี้หน้าฮยอกแจงงๆที่เห็นมายืนทำหน้ายิ้มแย้มอยู่ในห้องแต่ชินดงจอมตะกละวิ่งหายออกไปแล้ว
ไปอาบน้ำที่ห้องพวกนายได้แล้ว สายแล้วนะ เสียงหวานบอกเรียบๆก่อนจะเดินหายออกไปปล่อยให้สองหนุ่มมองตามอ้าปากค้างยังไม่ทันได้พูดอะไรไก่น้อยน่ารักก็หายไปซะแล้วทิ้งไว้แต่ความงุนงงกับใบหน้าน่ารักที่ติดตาตรึงใจ
ฮีชอล
ไฟต์ติ้ง ร่างบางให้กำลังใจกับตัวเองก่อนจะเดินเข้าห้องไป
ฮีชอลๆ เสียงใสเรียกเบาๆพร้อมกับยื่นมือเล็กออกไปปลุกอีกคนด้วย แต่กลับถูกดึงลงไปบนเตียงก่อนจะถูกฮีชอลขึ้นคร่อมแล้วจ้องมองร่างบางนิ่ง
ใครอนุญาต ให้นายเข้ามา
ก็ห้องนายไม่ได้ล๊อค แล้วนายก็ตื่นสายด้วย เสียงใสบอกเสียงอ่อยก่อนจะเบือนหน้าหนีไปอีกทางไม่กล้าสบตาคมตรงๆ
ฉันตั้งนาฬิกาปลุกแล้ว ทีหลังไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับฉันอีก ฮีชอลว่า
แต่นี่มันหกโมงครึ่งแล้วนะ นายมีงานเจ็ดโมงนายตั้งปลุกหกโมงห้าสิบเหรอไง ใบหน้าหวานมองคนพูดตรงๆตาแป๋วๆนั้นทำให้ใจของฮีชอลไหววูบ ใบหน้าหล่อโน้มลงมาจนลมหายใจเป่ารดแก้มเนียนของคนด้านล่าง
เอ่อ ฉันแค่จะเข้ามาปลุกนาย ก่อนที่ริมฝีปากจะจรดกันอีทึกก็เดินเข้ามาพูดซะก่อน ทำให้สติที่หลุดออกไปของฮีชอลกลับมาอย่างรวดเร็วแล้วผละลุกขึ้นยืนเดินลูบหน้าตัวเองหายเข้าห้องน้ำไป ฮยอกแจก็ลุกขึ้นนั่งกุมหัวใจของตัวเองที่เต้นระรัวมาตั้งแต่เช้า อีทึกหยิบนาฬิกาปลุกของฮีชอลมาดูก่อนจะบ่นอยู่คนเดียวแต่คนที่กำลังเดินออกจากห้องกลับได้ยินชัดเจน
ทำไมฮีชอลถึงปล่อยให้นาฬิกาปลุกถ่านหมดนะ
คนที่อยู่ในห้องน้ำก็ยังคงใจเต้นไม่หาย
นี่ฉันจะทำอะไรเนี่ย ฮีชอลบ่นหัวเสียกับตัวเอง
คิบอม
ขาเรียวก้าวเข้าห้องไปก่อนจะพบคิบอมกับยูชอนนั่งหลับคาโต๊ะญี่ปุ่นกลางห้อง จุนซูก็หลับคาคอมพิวเตอร์ ฮยอกแจเดินเข้าไปดูทีละคนก่อนจะเอารายงานที่สามคนทำออกมารวมไว้เป็นเล่มหลังจากยืนเรียงอยู่นานสองนาน
จุนซู ตื่น เสียงใสก้มลงกระซิบชิดใบหูคนที่นอนอยู่คาคอมพิวเตอร์ จุนซูงัวเงียขึ้นมาตาปรือแต่ก่อนที่จะฟุบลงไปใหม่มือเล็กก็ดึงคอเสื้อเอาไว้ก่อน
อะไรของนาย จุนซูถามอย่างไม่พอใจก่อนจะลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจไปมา
ตอนนี้หกโมงสามสิบห้า นายมีเวลาอาบน้ำแต่งตัวห้านาทีปฏิบัติ ไก่น้อยพูดออกไปก่อนจะดันหลังจุนซูให้ออกไปจากห้อง พอนึกขึ้นได้ว่ามีงานจุนซูเลยรีบเดินออกไปไม่ต่อล้อต่อเถียงกับคนตัวเล็กอีก
ยูชอน คิบอมตื่นได้แล้วนะ คนสวยเริ่มปลุกอีกสองคน ก่อนที่ยูชอนจะขยี้ตาขึ้นมามองแต่ฮยอกแจก้มลงไปใกล้ซะจนยูชอนสะดุ้งตกใจ
ทำไมต้องมาใกล้ๆด้วยเนี่ย ยูชอนว่าหน้าแดงก่อนจะตั้งสติวิ่งหายออกไปอีกคน
คิบอม!”
ตื่นแล้ว ร่างสูงว่าก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วหายเข้าไปในห้องน้ำ พอเห็นว่าตื่นกันครบทุกคนแล้วฮยอกแจเลยรีบจัดการรายงานที่ถือไว้วิ่งเอาลงไปให้คนใช้เข้าเล่มให้อย่างรวดเร็วก่อนจะวิ่งเอามาวางคืนไว้ที่เดิมแล้วหายออกไปคลาดกับคิบอมเพียงนิดเดียว มือแกร่งหยิบรายงานเล่มนั้นขึ้นมาดู
ยูชอนกับจุนซู ทำงานเร็วจริง
พอลงไปรวมตัวกันด้านล่างภายในเวลา 6.45 ก็มองหน้ากันเองก่อนจะยิ้มน้อยๆระหว่างยืนรอรถมารับ
นายยิ้มอะไรน่ะยุนโฮ อีทึกถามขึ้น
อ่าวทำไมถามแต่ฉันล่ะ พวกนายยิ้มอะไร แล้วก็ไม่ยอมตอบเลยโยนให้คนอื่นแทน
ผมฝันเห็นนางฟ้า ดงเฮตอบออกมาก่อนที่พวกฮันกยองจะหัวเราะพรืด ที่ดงเฮยังคิดว่าเป็นความฝันอยู่ทั้งๆที่ดึงฮยอกแจคนที่บอกว่าเป็นอริเข้าไปกอดหน้าตาเฉย
มองหาอะไรกันเหรอคะ แม่บ้านจางถามขึ้นเพราะเห็นคุณชายแต่ละคนหันมองซ้ายขวาไม่ได้หยุด
เอ่อ ป่าวหรอกฮะ ซองมินตอบอ้อมแอ้มก่อนจะเดินนำคนอื่นไปบนรถมินิบัส แต่ก็ไม่วายเหลียวหลังมามองอีกทีแต่ก็ไม่พบคนที่อยากจะเจอ ทุกคนเลยส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจตัวเองสลัดความคิดฟุ้งซ่านก่อนจะเดินทางออกไปทำงานด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกัน
ฮัลโหล ถึงบ้านแล้วนะ ไก่น้อยคุยโทรศัพท์กับปลายสายอย่างอารมณ์ดีหลังจากออกไปเที่ยวเล่นกับฮยอนจุงและซึงกิมาเมื่อเช้า โดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่าพวกเจ้าของบ้านนั่งรวมกันอยู่ในห้องนั่งเล่นหน้าตาบอกบุญไม่รับกันทุกคน
อื้อ ฮยอนจุงถึงบ้านแล้วใช่ไหม ซึงกิมาส่งเราถึงบ้านแล้ว เสียงใสยังคงคุยต่อไปไม่รู้สึกถึงรังสิอำมหิตที่แผ่มาแม้แต่น้อย
เห็นที่นี่เป็นร้านสะดวกซื้อหรือไง ฮีชอลพูดกระทบขึ้นมาเป็นคนแรก
เอ๋ ร่างบางหันไปมองงงๆแต่ก็ยังไม่ได้วางโทรศัพท์ที่กำลังคุยกับฮยอนจุง
คิดว่าจะเข้า ออกกี่โมงก็ได้งั้นสิ ฮันกยองถามย้ำอีกครั้ง ยิ่งทำให้คนตัวเล็กงงเข้าไปอีก
แค่นี้ก่อนนะฮยอนจุง พรุ่งนี้เจอกัน จ๊ะบ๊ายบาย เสียงหวานบอกลาคนปลายสายแล้วเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกง
กลับดึกขนาดนี้ ไม่นอนนอกบ้านไปเลยล่ะ ซีวอนพูดเสียงเรียบแต่ก็ทำให้ฮยอกแจเข้าใจว่าทุกคนกำลังหมายถึงตัวเองอยู่ ใบหน้าหวานเหลือบมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังบ้านด้วยความงงว่าสองทุ่มมันดึกยังไงกัน
หรือจะย้ายออกไปเลยก็ได้นะ จุนซูพูดตามก่อนจะยิ้มเย็นส่งมาให้ แต่คำพูดนั้นทำให้คนฟังถึงกับหน้าชา โหดร้ายอะไรกันขนาดนี้นะ
ไม่มีปากตอบรึไง!” ยุนโฮตะคอกขึ้นมา จนร่างบางสะดุ้งน้อยๆน้ำตาหยดใสเอ่อท้นที่ขอบตาสวย
ฉันไม่เข้าใจว่าพวกนายกำลังโมโหฉันเพราะฉันกลับดึกหรือเพราะอะไร แต่ก็ขอโทษด้วยแล้วกันที่ทำให้โมโหขนาดนี้ ร่างบางว่าเรียบๆก่อนจะก้มหัวลงอย่างสุภาพ
หึ รำคาญหน้าจริงๆว่ะ ดงเฮพูดก่อนจะเดินปึงปังหายออกไปก่อนที่จะใจอ่อนเพราะเห็นน้ำตาหยดใสๆนั้น ชินดงเลยเดินหายไปอีกคนแต่มุ่งหน้าไปทางห้องครัว ชางมิน ซองมินและเรียวอุคนั่งมองนิ่งไม่ได้พูดตอกย้ำใดๆทั้งสิ้นเพราะเมื่อคืนพวกเขาสามคนคุยกันแล้ว
เอะอะ อะไรก็บีบน้ำตาเบื่อโว้ย!”  ยูชอนแผดเสียงขึ้นมาบ้างแล้วหายออกไปอีกคน แม้จะพูดจารุนแรงแต่ก่อนไปก็ยังเหลือบมองอีกคนที่ร้องไห้หนักกว่าเดิม
มองหน้าแล้วหงุดหงิดว่ะ แจจุงอีกคนพูดจบก็เดินหายไปยุนโฮหันมามองด้วยหางตาเท่านั้นก่อนจะเดินตามเพื่อนร่วมวงขึ้นไปด้วย ที่เหลือก็ค่อยๆทยอยหายไปจนหมดพร้อมคำพูดเสียดสีต่างๆนานาที่กลบความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองเอาไว้
ร่านจังนะ มาได้ไม่กี่วันก็ออกไปอ่อยผู้ชายซะแล้ว ฮีชอล
ไม่ต้องมาอ่อยพวกฉันหรอกน่า คยูฮยอน
พวกฉันไม่ตาต่ำขนาดนั้น ฮันกยอง
ร้องไห้เหรอ ระวังพรมที่บ้านฉันเปื้อนนะ ซีวอน
ระวังน้ำตาของนายจะหยดลงพื้นด้วยล่ะ คังอิน
พวกฉันไม่อยากเดินเหยียบสิ่งสกปรกน่ะนะ เยซอง
พวกฉันไม่ได้ขี้สงสารหรอกนะ จำไว้!!!” อีทึก
ถึงนายจะร้องไห้มากกว่านี้ พวกฉันก็ไม่รู้สึกหรอกนะ จุนซู
มันดูน่าสมเพช คิบอม
พอพูดกันจนหมดก็เดินหายเข้าห้องนอนของตัวเองไป ทั้งๆที่ภาพของคนตัวเล็กที่ยืนร้องไห้ยังติดตา ซองมิน ชางมินและเรียวอุคยังนั่งอยู่กับที่ไม่ไปไหน รู้สึกสงสารคนตรงหน้าขึ้นมาจับใจแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากนั่งเฉยๆ
เหลือพวกนายสามคน ฮยอกแจเงยหน้าขึ้นมามองสามคนที่เหลือน้ำตาไหลอาบแก้ม
“….”
ด่าฉันสิ!!” ฮยอกแจตะโกนลั่นอย่างอัดอั้นแล้วทรุดลงนั่งกับพื้นมือเล็กยกขึ้นมาปิดหน้าร้องไห้อย่างหนัก
ฮยอกแจ ชางมินเรียกเสียงอ่อน
ชางมิน ซองมิน เรียวอุคขึ้นห้อง อีทึกเดินกลับมาเรียกน้องอีกสามคนทำให้ชางมินยังไม่ทันพูดอะไรต่อก็ต้องเดินตามพี่ใหญ่ของบ้านขึ้นไป ก่อนไปทั้งสามคนก็หันมามองหน้ากันอย่างลังเล
ขึ้นมาเดี๋ยวนี้!!!” ฮีชอลตะโกนลงมาอีกคนเลยทำให้น้องๆก้มหน้าเดินขึ้นไปไม่มองภาพที่น่าสงสารนั้นอีกเลยจนแม่บ้านจางที่ได้ยินเสียงวิ่งออกมาจากห้องนอนชั้นล่างแล้วถลาเข้าไปกอดคุณหนูของตัวเองไว้แน่น
คุณหนูคะ อย่าร้องไห้นะอดทนหน่อย แม่บ้านจางลูบหลังเล็กปลอบโยนแต่เสียงที่ได้ยินก็มีเพียงสียงสะอื้นของคนตัวเล็กเท่านั้น ก่อนที่จะประคองฮยอกแจไปส่งที่ห้องนอน
ป้าจางฮะ ก่อนที่แม่บ้านคนสนิทจะเดินออกจากห้องก็ถูกเรียกไว้ก่อนที่ฮยอกแจจะก้มลงไปค้นอะไรบางอย่างออกจากกระเป๋าสะพายแล้วส่งให้
เมื่อเช้าผมปลุกฮีชอลแล้วเห็นนาฬิกาปลุกห้องเขาถ่านหมด วันนี้เขาคงไม่มีเวลาไปซื้อผมเลยซื้อมาให้เอาไปให้เขาทีสิฮะ เสียงใสร่ายยาว แม่บ้านยิ้มให้อย่างเอ็นดู คุณหนูฮยอกแจของเธอยังเป็นคนที่ใส่ใจคนอื่นเสมอ
ป้าไปนะคะ อย่าร้องไห้นะ เสียงอ่อนโยนส่งมาก่อนจะปิดประตูออกไป
ก๊อกๆๆ
ครับ?” ฮีชอลเปิดประตูมามองแม่บ้านด้วยความสงสัย
ถ่านค่ะ เอาไปใส่นาฬิกาปลุกนะคะ ป้าจางยื่นออกไปให้
ครับขอบคุณครับป้า ฮีชอลยิ้มรับร่าเริงก่อนจะผลุบหายเข้าไป
ถ้าป้าบอกว่าคุณหนูฮยอกแจซื้อมา คุณฮีชอลจะใช้ไหมคะเนี่ย แล้วก็บ่นงึมงำคนเดียวก่อนจะเดินจากมา
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป
ป้าจาง ฮยอกแจไปก่อนอีกแล้วเหรอฮะ ซองมินถามขึ้นเพราะวันนี้ลงทุนตื่นแต่เช้าเพื่อมาดักพบแต่ก็ไม่เจอตามเคยหรือเขาจะตื่นสายเกินไป
วันนี้ยังไม่ลงมาเลยค่ะ เห็นแต่คุณชินดง คุณคังอิน คุณเยซองที่ออกไปทำงานตั้งแต่เช้ามืดน่ะค่ะร่างท้วมหันมาตอบอย่างใจดี
แล้วเขาไปไหนล่ะครับ ชางมินที่วิ่งตามเพื่อนลงมาถามขึ้น
วันนี้อาจจะตื่นสายมั้งคะ เมื่อวานก็ตากฝนกลับมา
งั้นเดี๋ยวเราไปดูดีกว่า ซองมินพูดขึ้นก่อนจะเดินหายออกไปพร้อมกับชางมิน
อ้าว สองมินทำไมวันนี้ตื่นเร็วจัง อีทึกทักน้องขึ้นมาทันทีที่เห็น
ก็ผมไม่อยากตื่นสาย กระต่ายน้อยตอบเลี่ยงๆ
แล้วนั่นจะไปไหนกันน่ะ แจจุงอีกคนที่โผล่มาถาม
ไป เอ่อ
จะไปไหนก็ไปเหอะ ฉันไปอาบน้ำก่อน ถามแล้วก็ไม่สนใจชางมินเลยแอบถอนหายใจโล่งอกแล้วมุ่งตรงไปยังห้องของฮยอกแจทันที พอเปิดประตูเข้าไปก็คนร่างบางนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง
ฮยอกแจ ชางมินลองเรียกเสียงเบา แต่ก็ทำให้ไก่น้อยรู้สึกตัวตื่น ก่อนที่จะพยายามลืมเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้นมามอง
นายไม่ไปโรงเรียนเหรอ ซองมินถามต่อ
อ่า ไปสิ เสียงหวานตอบกลับมา ประคองตัวเองลุกขึ้นนั่งทั้งๆที่สายตายังมองภาพคนที่เข้ามาในห้องได้ไม่ชัดเท่าไหร่นักแต่ก็พอจะรู้ว่าเป็นสองมิน
ซองมิน ชางมินกินข้าว ฮีชอลตะโกนเรียกทำให้สองมินสะดุ้งโหยงก่อนจะมองหน้ากันเพื่อปรึกษา โดยที่ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนเตียงยกมือขึ้นมาทุบหัวเบาๆเพื่อไล่ความปวดออกไป
งั้นเราไปก่อนนะ สองมินหันมามองแล้วยิ้มให้น้อยๆก่อนจะแอบย่องออกมาจากห้องแต่ก็ต้องโชคร้ายที่เจอฮันกยองกับซีวอน
พวกนายเข้าไปทำอะไรน่ะ ฮันกยองถามเสียงดังลั่น เลยทำให้คนที่ลงไปรออยู่ข้างล่างวิ่งกลับขึ้นมาอีกรอบโดยพร้อมเพรียงกัน
ผมก็เข้าไปปลุกฮยอกแจ เห็นว่าวันนี้เขาตื่นสาย ซองมินบอกความจริง
แพ้ลูกอ้อนอีกคนเหรอไง คิบอมพูดเรียบๆ
ไหนขอไปดูหน้าคนหน้าด้านหน่อยสิ แจจุงพูดขึ้นก่อนจะผลักประตูเข้าไปอย่างแรง ฮยอกแจที่กำลังหยิบผ้าขนหนูจะเดินไปเข้าห้องน้ำหันไปมองทางประตูห้องด้วยความสงสัยทั้งๆที่แรงที่จะยืนก็แทบจะไม่มี
ร้องไห้ออดอ้อนน้องฉันอีกแล้วสินะ ยุนโฮที่ตามเข้ามาพูดเป็นคนแรก
ฉันเปล่า ร่างบางเถียงเสียงเบาก่อนที่มือเล็กจะจับขอบตู้เอาไว้เพื่อประคองตัวเอง
ไม่งั้นพวกนี้จะมาในนี้ทำไม ยูชอนถามขึ้นคนอื่นๆได้แต่กอดอกมองนิ่ง ซองมินกับชางมินรู้สึกผิดขึ้นมาทันทีที่ทำให้ฮยอกแจโดนดุอีกแล้ว
ฉันไม่รู้
ความผิดมันอยู่ที่นายเต็มๆ อีทึกเข้าไปกระชากแขนบางอย่างแรง แล้วก็ต้องนิ่วหน้าเพราะแขนบอบบางนั้นกำลังร้อนจัด ใบหน้าขาวแดงก่ำเพราะพิษไข้
ขอโทษแล้วกัน ปล่อยเถอะ ฮยอกแจอ้อนวอนเพราะแรงจะยืนกำลังจะหมดลง
มันไม่ง่ายขนาดนั้นมั้ง จุนซูพูดขึ้น
ฉันถามว่านายอ่อยพวกนี้ทำไม แล้วก็เป็นดงเฮอีกคนที่เข้ามากระชากแขนอีกข้าง แต่ก็ต้องสะดุ้งตกใจจนปล่อยมือจากความร้อนนั้น เรียวอุคที่เดินตามมาทีหลังมองเหตุการณ์ในห้องฮยอกแจงงๆก่อนจะหันไปหาสองมินแล้วก็ได้รับการตอบเป็นการกระซิบบอก
ฉันไม่ได้อ่อยใคร ร่างบางตอบอย่างอ่อนแรง อยากจะเดินหายเข้าห้องน้ำให้พ้นคนพวกนี้ซักที
โกหก!!” ฮีชอลตวาดเสียงดังลั่น
ฟึ่บ
สิ่งที่รับรู้สุดท้ายของฮยอกแจคือเสียงตวาดของฮีชอลก่อนที่ร่างบางจะทรุดลงหมดสติไป แต่ดงเฮคว้าเอวบางเอาไว้ทันก่อนจะฟาดพื้น ริมฝีปากอิ่มสีแดงสดบัดนี้กลับซีดเผือด จนดงเฮยังตกใจก่อนจะช้อนร่างบางไว้ในอ้อมแขนแล้วพาอุ้มไปวางบนเตียงอย่างเบามือ
คงจะเล่นละครอีกสิท่า คิบอมว่าก่อนจะเดินเข้าไปใกล้เตียงมากขึ้นแล้วยกมือหนาทาบทับหน้าผากมนทันที ก่อนจะสะดุ้งน้อยๆกับอุณหภูมิที่สัมผัสได้
ไม่สบายเหรอ ยูชอนถามขึ้น
อืม ดงเฮตอบเรียบๆก่อนจะมองใบหน้าใสนั้นอีกครั้ง หรือเราจะทำเกินไป
ก็ปล่อยให้นอนตายอยู่นี่แหละ ซีวอนพูดเรียบๆ
พวกนายใจร้ายที่สุดเลย เรียวอุคตะโกนขึ้นมาก่อนจะวิ่งหายไป
ใช่พวกนายมันคนไม่มีหัวใจ ซองมินก็เป็นไปด้วยก่อนจะเดินตามเรียวอุคไปพร้อมชางมิน
อย่าไปสนใจเลย พวกนั้นก็ขี้สงสารแบบนี้มาตั้งนานแล้ว แจจุงตัดปัญหาก่อนจะเดินออกไป ฮันกยองเดินเข้าไปจับมือนิ่มเพื่อพิสูจน์อีกคนก่อนจะสะดุ้งน้อยๆแล้วเดินหายไป
ไปเรียนเถอะ ยุนโฮบอกน้องๆที่เหลือก่อนจะทยอยกันออกไป คยูฮยอนยังคงยืนนิ่งมองเพื่อนร่วมห้องเรียนแล้วตัดสินใจหยิบการบ้านที่ต้องส่งวันนี้ออกจากกระเป๋าของฮยอกแจแล้วเป็นคนเอาไปส่งให้ ก่อนไปพวกซองมินก็ไปฝากฝังฮยอกแจไว้กับแม่บ้านจาง แล้วเดินงอนเพื่อนๆร่วมบ้านไปนั่งกันเงียบๆสามคนบนรถด้วยเหตุผลที่ไม่อยากคุยกับคนใจร้าย

ป้าจาง ฮยอกแจลงมาข้างล่างบ้างป่ะฮะ เรียวอุควิ่งนำเข้ามาคนแรกหลังจากลงรถ คนอื่นๆค่อยๆทยอยเดินตามมาแต่จะขาดพวกดงบังชินกิที่ติดถ่ายแบบกลับช้าครึ่งชั่วโมง
ยังเลยค่ะ เอาข้าวขึ้นไปวางให้คุณหนูก็ไม่กิน เมื่อกี้เองค่ะ แม่บ้านจางพูดอย่างอ่อนใจ ก็คุณหนูของเธอดื้อน่ะเป็นที่หนึ่งเลย พอได้ฟังซองมินก็หันไปมองหน้าเรียวอุค ก่อนจะค่อยๆแอบย่องขึ้นไปบนห้องของไก่น้อย
อะแฮ่ม!!! จะไปไหน ฮันกยองส่งเสียงขัดขึ้นมาซะก่อนเลยเรียกความสนใจจากคนอื่นๆให้หันมามองเรียวอุคกับซองมินเป็นตาเดียว
ขึ้นห้องไปทำการบ้านฮะ งานเยอะ กระต่ายน้อยตอบทันที
แต่วันนี้ห้องพวกนายไม่มีเรียนนะ มีแต่กิจกรรมชมรม คิบอมแย้งทันทีเพราะจำได้
เอ่อ ก็งานของวันอื่นไงเราดองไว้น่ะ เรียวอุครีบแก้ทันทีแต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีใครเชื่อเลย
ให้พี่ช่วยไหม ลีทึกถามขึ้นก่อนจะจ้องหน้าน้องสองคนนิ่งรอคำตอบ
ไม่เป็นไรฮะ ซองมินอ้อมแอ้มตอบก่อนที่คยูฮยอนจะก้าวเดินนำขึ้นไปบนบันไดหลังจากยืนชั่งใจมาเป็นเวลานาน
แกจะไปไหนน่ะไอ้กี้ ฮีชอลถามขึ้นเสียงเย็น
ไปหาฮยอกแจ รุ่นน้องตอบกลับแค่นั้นก่อนจะเดินมุ่งตรงไปยังห้องของเพื่อนร่วมชั้นเรียนทันที คนที่ได้ฟังถึงกับอ้าปากค้าง
ไปด้วยพอตั้งสติได้เรียวอุคกับซองมินก็ตะโกนขึ้นมาพร้อมกันแล้ววิ่งตามคยูฮยอนไป ฮีชอลกับลีทึกหันไปมองหน้ากันก่อนจะตัดสินใจก้าวตามไป ด้วยความอยากรู้ฮันกยองเลยดึงดงเฮไปด้วย ซีวอนกับคิบอมหันมามองหน้ากันแล้วก็ไม่พ้นจะต้องตามไปอีก
ฮยอกแจ นายเป็นไงมั่งน่ะ พอไปถึงเรียวอุคก็ถามอย่างกระตือรือร้น ร่างบางปรือตาที่หนักอึ้งขึ้นมามองก่อนจะส่ายหน้าเพื่อบอกว่าไม่เป็นไร ริมฝีปากอิ่มแห้งผากจนน่าตกใจ
ฮยอกแจฉันเอาการบ้านกลับมาให้ แล้วนี่ก็สมุดฉันนายก็เอาไปจดแล้วกัน คยูฮยอนพูดเสียงเรียบ
ขอบใจนะ เสียงใสแหบพร่าก่อนที่เจ้าตัวจะหลับตาลงอีกครั้ง
สำออย!” ฮีชอลที่เดินตามมาพูดทันทีที่เห็นอีกคนทำท่าอ่อนแรง ร่างบางพยายามลืมตามองผู้มาเยือนให้ได้มากที่สุด ข้าวต้มที่แม่บ้านวางไว้ยังคงตั้งอยู่ที่เดิมแต่ก็เย็นชืดจนไม่น่ากินเสียแล้ว
ทำมาเป็นลืมตาไม่ขึ้น ลีทึกสำทับมาอีกที ตากลมเลยเปิดขึ้นมาอย่างยากลำบากในขณะที่เจ้าตัวพยายามยันกายลุกขึ้นนั่ง ซองมินรีบเข้าไปช่วยทันที พอตั้งสติได้ฮยอกแจก็มองไปรอบห้องที่มีแต่ซุปเปอร์สตาร์ยืนอยู่ด้วยความไม่เข้าใจว่า ไม่ชอบแล้วจะเข้ามาทำไมกัน
ป่วยแบบนี้จะอ้อนใครเป็นพิเศษรึเปล่า หึหึ ซีวอนถามแบบไม่ต้องการคำตอบ
เปล่า ฮยอกแจตอบเสียงเรียบ มือเล็กกำแน่นใต้ผ้านวมผืนนุ่มพยายามไม่แสดงออกว่ากำลังทรมานกับอาการป่วยของตัวเองแค่ไหน
ใจเสาะจังนะ แค่เป็นไข้ก็นอนซมซะแล้วดงเฮถากถางทันที ตาสวยวาววับไปด้วยน้ำตาแต่ก็ไม่ได้บ่งบอกว่าเจ้าของกำลังอ่อนแอ
ข้าวต้มนี่มันเงินพวกฉันนะ ให้ทำมาทิ้งเหรอไง ฮันกยองพูดขึ้นลอยๆหลังจากชายตามองแล้วเห็นว่าข้าวต้มยังเต็มชาม
เดี๋ยวฉันจะเอาเงินคืนให้แล้วกัน ร่างบางตอบอย่างขอไปที ภาวนาให้คนพวกนี้ออกจากห้องไปเร็วๆ
ง่ายไปมั้ง คิบอมพูดสั้นๆอย่างไม่พอใจ ฮีชอลมองคนปากดีตรงหน้าก่อนจะหยิบชามข้าวต้มมาถือไว้แล้วเดินเข้าไปใกล้กับร่างบางก่อนจะแสยะยิ้ม
พี่จะทำอะไรน่ะ เรียวอุคกับซองมินถามขึ้นมาทันทีอย่างร้อนรนแต่ก็ไม่ได้ทำให้ฮีชอลคิดจะหยุดทำในสิ่งที่ต้องการจะทำได้
พี่ซิน คยูฮยอนเรียกไว้อีกคนแต่ฮีชอลก็ยังมุ่งมั่น
ข้าวต้มนี่ทำมาให้นาย นายก็ต้องรับผิดชอบไม่ใช่แค่ใช้เงิน
ฟึ่บ!!!
พูดจบก็ยกชามข้าวต้มเทรดหัวของคนป่วยทันที ท่ามกลางความตกใจของทุกคนแต่โชคดีที่ข้าวต้มไม่ร้อนแล้วไม่งั้นคงจะแย่กว่านี้ ร่างบางไม่ว่าอะไรกลับสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างระงับอารมณ์ทั้งน้ำทั้งผักละเลงเละอยู่บนหัวก่อนที่แขนเล็กจะพยายามประคองตัวเองออกจากเตียงให้เตียงเปื้อนน้อยที่สุด
ฉันทำอะไรให้พวกนายนักหนา! ถึงได้ทำกับฉันขนาดนี้!! ฮึก เสียงใสตะโกนขึ้นมาอย่างอัดอั้นก่อนจะพยายามบังตับน้ำตาที่เอ่อคลอไม่ให้ไหล ทำให้ซองมินกับเรียวอุคได้สติขึ้นมา
เราช่วย เรียวอุคกับซองมินเข้าไปพยุงแขนคนละข้างก่อนจะประคองหายเข้าไปในห้องน้ำ
มาทำอะไรกันที่นี่น่ะ แจจุงที่เพิ่งกลับมาโผล่หน้าเข้ามาถาม คนอื่นๆยังยืนชอคกับการกระทำของฮีชอลอยู่มีเพียงคนทำเท่านั้นที่แสยะยิ้มอย่างชอบใจ
มาดูคนสำออย ฮีชอลตอบกลับก่อนจะเดินหัวเราะอารมณ์ดีออกไป พอก้าวออกจากห้องปุ๊บรอยยิ้มที่มีก็หายไปเหลือเพียงใบหน้าเรียบเฉยกับภาพของใบหน้าหวานที่น้ำตาคลอ
อะไรของมัน ยุนโฮพูดตามหลังไปงงๆ
เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า ทำไมยืนค้างกันแบบนั้น ยูชอนถามขึ้นมาเพราะแต่ละคนได้แต่ยืนนิ่งอึ้ง
อ่ะ เอ่อ ไม่มีอะไร คิบอมตั้งสติได้คนแรกตอบออกมาก่อนจะเดินหายออกไปอีกคน คยูฮยอนกับดงเฮก็ได้แต่เงียบและเงียบก่อนจะก้าวออกไปเหลือเพียงซีวอนกับฮันกยอง
ฮัน พวกนั้นเป็นอะไรน่ะ แล้วก็หันไปถามคนที่เหลืออยู่
นั่นสินะ ฮันกยองพึมพำอะไรออกมาคนเดียวก่อนจะเดินไปอีกคนยิ่งทำให้พวกดงบังชินกิที่เพิ่งกลับมางงเข้าไปใหญ่
อ้าววันนี้จะรู้เรื่องไหมเนี่ย จุนซูเปรยขึ้นมาหลังจากที่ซีวอนงึมงำๆอยู่คนเดียวแล้วก็เดินออกไป ก่อนจะหันไปมองหน้ากันเอง แล้วชางมินก็ปลีกตัวเดินไปหาพวกเรียวอุคที่อยู่ในห้องน้ำ ที่เหลือเลยแยกย้ายกันกลับห้องไปทั้งๆที่อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ฮยอกแจ อย่าร้องไห้สิ ซองมินปลอบร่างบางที่สะอื้นฮักๆ ตาเล็กบวมเป่งจนซองมินต้องเอานิ้วไล้รอบขอบตาช้ำนั่น
เกิดอะไรขึ้นน่ะ ชางมินโผล่เข้ามาถาม แต่พอมองสภาพของร่างบางที่ทรุดนั่งอยู่กับพื้นตอนนี้ก็ไม่ต้องการคำตอบใดๆแล้ว
มินมิน หยิบผ้าขนหนูมาให้ทีสิ เรียวอุคพูดขึ้นก่อนจะหยิบฝักบัวมาเปิดเพื่อล้างเศษข้าวต้มออกจากหัวกลมๆ
นายไม่ถอดเสื้อผ้าจะดีเหรอ เรียวอุคถามขึ้น
อื้อ ไก่น้อยตอบรับก่อนจะปล่อยให้น้ำไหลลงเปียกเสื้อผ้าหมดทั้งชุด
พวกนาย…” อยู่ๆฮยอกแจก็พูดขึ้นพร้อมๆกับที่ชางมินเดินเข้ามาอีกคน
หืม ว่าไง ซองมินรับเสียงก่อนจะหยิบแชมพูมาส่งให้เรียวอุค
ทำไมดีกับฉัน…” ไก่น้อยพูดต่อ เล่นเอาหนุ่มอีกสามคนหันมามองหน้ากันก่อนที่ชางมินจะโดนยัดเยียดให้เป็นคนตอบคำถามโลกแตกนั้น
ก็เพราะไม่มีเหตุที่จะทำร้ายนายนี่นา ชางมินตอบออกมา ตากลมมองอีกฝ่ายนิ่งก่อนจะคลี่ยิ้มบางๆออกมาแต่ก็ทำให้หัวใจของใครในห้องนั้นไหววูบขึ้นมา
ขอบใจนะ ฮยอกแจพูดออกมาก่อนจะเอนหัวตัวเองไปพิงไว้กับอกของเรียวอุคที่นั่งอยู่ด้านหลังอย่างหมดแรง เรียวอุคเลยเรียกให้ซองมินมาดึงหัวฮยอกแจออกเพราะจะล้างผมที่เต็มไปด้วยแชมพู แม้เสื้อตัวเองจะเปียกเรียวอุคก็ยังยิ้ม
มินมิน ไปเอาเสื้อมาทีเปียกหมดแล้ว เรียวอุคพูดขึ้นหลังจากล้างผมสะอาดเรียบร้อยแล้ว และดูเหมือนว่าฮยอกแจจะหลับไปแล้วเหมือนกันเพราะฤทธิ์ยาที่กินเข้าไป
สั่งใหญ่เชียวนะแก ชางมินบ่นออกมาแต่ก็ยอมลุกไปหยิบให้โดยดี ซองมินกับเรียวอุคเลยช่วยกันถอดเสื้อผ้าที่เปียกนั่นออก
เอ่อ ให้ป้าจางมาเปลี่ยนให้ดีไหม ซองมินพูดขึ้นมา หยุดมือที่จะถอดกางเกงผ้ายืดพร้อมกับมองผิวขาวเนียนน่าสัมผัสที่ไม่มีเสื้อบดบังไปแล้ว
นะนั่นน่ะสิ เรียวอุคตอบเสียงสั่นพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก น่ากด
ขาวจัง กระต่ายน้อยพูดออกมาเพ้อๆ ชางมินที่หยิบเสื้อผ้าเดินเข้ามาถึงกับหน้าแดงกับร่างบอบบางที่เห็น
มินนี่ อ่ะ ชางมินเรียกเพื่อนแล้วส่งเสื้อผ้าให้ ตายังคงจ้องมองผิวกายขาวของคนป่วยไม่วางตา
ไปตามป้าจางเหอะ เรียวอุคสรุปออกมาก่อนที่คนป่วยจะโดนพวกเขากดขึ้นมาจริงๆ
แกไปสิ มินมิน ซองมินหันไปบอก
แกแหละ ชางมินโยนกลับ
พวกนายทำอะไรกันน่ะ จุนซูกับยูชอนที่เดินมาตามทั้งสามคนให้ไปกินข้าวโผล่พรวดเข้ามาในห้องน้ำ ทำให้ชางมิน ซองมิน เรียวอุคโอบฮยอกแจเข้าหาตัวแล้วบดบังเรือนร่างนั้นเต็มที่ แต่ก็ไม่ทันซะแล้วเพราะจุนซูกับยูชอนยืนหน้าแดงกันไปแล้ว
ยูชอน นายไปตามป้าจางมาทีสิ เรียวอุคบอกกับคนที่ยังยืนตาค้างอยู่หน้าประตู
เอ่อ ได้ๆ ยูชอนรับคำก่อนจะลากจุนซูที่ยังยืนนิ่งออกไปด้วย
เฮ้อ เกือบไปแล้ว ทั้งสามคนถอนหายใจอย่างโล่งอก ไม่นานนักป้าจางก็ขึ้นมาเลยทยอยกันออกไป ทั้งๆที่ใจเต้นระรัวไม่ยอมหยุดซักที
ครืดครืด
โทรศัพท์เครื่องหรูของฮยอกแจสั่นอยู่บนโต๊ะหัวเตียง ทำให้ร่างบางงัวเงียตื่นขึ้นมาก่อนจะคว้าสะเปะสะปะไปจนเจอแล้วหยิบมากดรับ
ยอบอเซโย
ฮยอกแจ ทำไมเสียงเป็นแบบนี้ล่ะไม่สบายมากเลยเหรอ ฮยอนจุงนั่นเองที่โทรมาปลุกแต่เช้า
อ่อ ไม่มากหรอกเราเพิ่งตื่นน่ะ เสียงใสตอบกลับมาน้ำเสียงดูดีกว่าประโยคแรกเล็กน้อย
วันนี้นายจะมาโรงเรียนรึเปล่า ฮยอนจุงถามต่อด้วยความเป็นห่วง
ไปสิ งั้นเราไปอาบน้ำก่อนนะ ไก่น้อยตอบกลับ
เดี๋ยวเราไปรับนะ เดี๋ยวเจอกัน พูดจบก็วางสายไปเลยไม่รอฟังคำคัดค้านจากเพื่อนแม้แต่น้อย
ร่างบางพาร่างกายที่อ่อนแอหายเข้าห้องน้ำไป ไม่นานนักก็ออกมาจากห้องน้ำแล้วเจอ ชางมิน ซองมิน เรียวอุคนั่งยิ้มให้เขินๆอยู่บนเตียงของตัวเอง
นายเป็นไงมั่ง เรียวอุคถาม
ก็ดีขึ้นนะ พวกนายไม่ลงไปกินข้าวล่ะ เสียงใสตอบกลับมาก่อนจะถามกลับ
อ่อ เราอิ่มแล้วเห็นนายยังไม่ลงไปเลยขึ้นมาตาม ซองมินเป็นคนตอบก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดผมนุ่มให้อย่างอ่อนโยน
ขอบใจนะที่เป็นห่วง ตอบกลับพร้อมยิ้มน้อยๆ
วันนี้ไปด้วยกันไหม ชางมินถามต่อ
ไม่เป็นไรหรอก พวกนายไปเถอะเดี๋ยวสายนะ ร่างบางพูดก่อนจะยิ้มไปให้อย่างขอบคุณในความหวังดี
ผลัวะ
ประตูห้องถูกเปิดออกอย่างแรง ก่อนที่แจจุงกับฮีชอลจะเดินเข้ามา
มีผู้ชายมาหา แจจุงพูดเสียงแข็งเน้นหนักที่คำว่าผู้ชาย
ขอบคุณครับ ร่างบางตอบแค่นั้นก่อนจะหันไปหวีผมของตัวเองอย่างเฉยชา เจ็บเหลือเกินกับการกระทำที่ดูเหมือนเขาเป็นคนไร้ค่าของแต่ละคน
ฮยอกแจจ๋า เสียงทุ้มของฮยอนจุงถูกส่งเข้ามาก่อนที่ร่างสูงจะพุ่งพรวดไปกอดเอวบางของฮยอกแจไว้แน่น ภาพนั้นทำให้คนมองรู้สึกแปลกๆไปด้วยและฮีชอลก็เป็นคนไปกระชากตัวฮยอนจุงออกมา
อะไรกันฮะ พี่ซิน ร่างสูงหันไปมองด้วยความสงสัยรุ่นพี่ในชมรม
อย่ามาพลอดรักกันแถวนี้ ฮีชอลตอบเสียงเรียบ ทั้งๆที่ก็ไม่เข้าใจตัวเองอยู่เหมือนกัน
อ้าว ก็คนรักกันนี่เนอะ ฮยอนจุงตอบกลับก่อนจะหันไปขอความเห็นจากคนที่นั่งอยู่ ใบหน้าหวานพยักหน้าน้อยๆก่อนจะคว้ามือของฮยอนจุงมากุมไว้เพราะเริ่มจะไม่มีแรงเนื่องจากพิษไข้ที่ยังไม่หายดี
ซองมิน ชางมิน เรียวอุคเราไปก่อนนะ ขอตัวนะครับ หันไปบอกสามคนอย่างน่ารักและก้มหัวให้อีกสองคนอย่างสุภาพก่อนจะยึดมือของฮยอนจุงเป็นหลักแล้วเดินออกมา เหมือนฮยอนจุงจะรู้ว่าเพื่อนไม่มีแรงเลยประคองเอวบางเอาไว้ด้วย
ป่วย เพื่ออ้อนให้ผู้ชายมารับเนี่ยนะ เสียงของฮันกยองลอยมากระทบโสตประสาททั้งๆที่ยังไม่ทันก้าวพ้นบันไดขั้นสุดท้ายด้วยซ้ำ
เขาไม่ได้อ้อนผมนะครับพี่ ฮยอนจุงเถียงแทน
มีคนออกรับแทนด้วยเหรอเนี่ย ดงเฮที่นั่งไขว่ห้างรอเพื่อนคนอื่นๆถามด้วยความกวนประสาทและไม่พอใจที่เห็นคนอื่นมาจับต้องตัวของฮยอกแจ
พี่ด็องพูดอะไรน่ะ ฮยอนจุงหันไปถามด้วยความสงสัย ฮยอกแจไม่แปลกใจเลยที่ฮยอนจุงรู้จักทุกคนในบ้านหลังนี้ก็เพราะพวกนี้อยู่ชมรมเดียวกันเลยรู้จักกันหมด
ก็พูดตามที่เห็น ดงเฮพูดเรียบๆแล้วก้มลงอ่านนิตยสารในมือต่อแต่ทว่ามือกลับกำแน่นจนหนังสือยับไปหมด
ที่นี่ไม่ใช่บ้านนาย เวลาจะพาใครมาก็หัดขออนุญาตเจ้าของบ้านบ้างสิ ซีวอนพูดขึ้นปรายตามองหนุ่มรุ่นน้องอย่างไม่พอใจ ฮยอกแจได้แต่ถอนหายใจเพราะรู้อยู่แล้วว่าจะเป็นแบบนี้เลยจะห้ามแต่ก็ไม่ทัน
ขอโทษฮะ ร่างบางพูดพร้อมก้มหัวให้และรีบดึงมือฮยอนจุงให้ออกเดินแต่คิบอมกับยูชอนมาขวางเอาไว้
ฉันอยากจะรู้นักว่านายมีอะไรดี ถึงทำให้พวกชางมินใจอ่อน ไหนจะน้องในชมรมฉันอีก คิบอมพูดเรียบๆตาคมมองคนตรงหนาตั้งแต่หัวจรดเท้า
หรือว่าลีลาบนเตียงจะเด็ดนะ คำพูดดูถูกจากยูชอนทำให้สติของฮยอกแจขาดผึง
เพียะ
มือเล็กตบไปเต็มแรงที่ใบหน้าหล่อเหลาของยูชอน
เลิกเอาความคิดต่ำๆแบบนี้มาใช้กับฉันซักที เสียงใสตวาดลั่น น้ำตาใสไหลอาบแก้มเนียน และดูเหมือนว่ายูชอนจะชอคไปเหมือนกันที่ถูกตบ อีทึกที่เดินมาเห็นพอดีเข้าไปกระชากฮยอกแจจนร่างบางล้มลงไปกับพื้น ฮยอนจุงรีบเข้าไปประคองเพื่อนไว้ทันทีก่อนจะมองรุ่นพี่ในชมรมตัวเองด้วยความงงสุดขีด ทั้งๆที่อยู่ในชมรมทุกคนดูใจดีน่ารักจะตาย แล้วนี่คืออะไร
เกิดอะไรขึ้นน่ะ ยุนโฮที่เพิ่งเดินลงมาถามด้วยความสงสัย
ก็เด็กที่มาเกาะเราไปตบหน้ายูชอนน่ะสิ อีทึกพูดกับเพื่อนทันทีด้วยใบหน้ากราดเกรี้ยว
กล้ามากเลยนะ ที่ทำกับเพื่อนฉันแบบนี้ ยุนโฮเดินหน้าตาถมึงทึงเข้ามาหา แต่ก็ไม่ได้ทำให้ฮยอกแจกลัวซักนิดกลับเชิดหน้าอย่างท้าทายอีกด้วย
ฉันจะทำมากกว่านี้ ถ้าพวกนายยังไม่เลิกใช้กิริยาต่ำๆกับฉัน!!” เสียงใสกร้าวขึ้นอย่างหมดความอดทน คนอย่างฉันไม่ใช่คนที่ต้องก้มหัวให้พวกนาย พวกนายต่างหากที่ต้องก้มหัวให้ฉัน
ปากดีนี่ คังอินที่นั่งดูอยู่นานพูดเรียบๆ
จะปากดีไปได้ตลอดรึเปล่า หึหึเยซองพูดพลางหัวในลำคอ
คนอย่างนายจะทำอะไรพวกเราได้ จุนซูดูถูกอีกคน
ซักวันนึงพวกนายจะรู้สึก ฮยอกแจพูดเสียงเรียบ ก่อนจะดึงมือฮยอนจุงให้เดินออกไป แต่ยุนโฮที่โมโหมากกระชากตัวคนอวดดีกลับเข้าไปหา โดยที่ฮยอนจุงรั้งไว้ไม่ทัน และไม่ทันที่จะพูดอะไรยุนโฮก็ก้มลงบดขยี้ริมฝีปากอิ่มอย่างรุนแรงด้วยปากของตัวเอง มือแกร่งบีบคางมนจนแน่นทำให้ปากเล็กเผยอออกก่อนที่ลิ้นร้อนจะถูกสอดเข้าไปรุกราน ฮยอกแจดิ้นสุดแรงแต่ก็ไม่สามารถหลุดออกจากพันธนาการที่แข็งแกร่งนั้นได้ ฮยอนจุงอยากช่วยเพื่อนใจแทบขาดแต่ก็ต้องยืนนิ่งเพราะตำแหน่งคิงของยุนโฮมันค้ำคออยู่  ยูชอนที่ยืนอยู่ใกล้ๆดึงร่างบางออกมาจากรุ่นพี่ของตัวเอง ใบหน้าหวานปะทะกับอกแร่งของคนที่เพิ่งถูกตบไปอย่างหมดแรง น้ำตาใสไหลเป็นสายกับการกระทำป่าเถื่อนนั้น ยูชอนยกมือขึ้นลูบผมนุ่มอย่างสับสนทั้งๆที่เกลียดขนาดนี้แต่ก็ไม่อยากให้ถูกทำร้าย
พี่ยุนทำอะไรน่ะ ซองมินตะโกนลงมาหลังจากยืนอึ้งไปนาน
“…” ยุนโฮไม่ตอบกลับเดินไปหยิบกุญแจรถคันหรูของตัวเองแล้วเดินออกไปอย่างโมโห
ฮยอกแจ ชางมินกับเรียวอุคถลาเข้ามาหาร่างบางที่ถูกยูชอนกอดไว้ก่อนจะดึงมากอดซะเอง
ฮึก มีแต่เสียงสะอื้นเท่านั้น สมาชิกที่เหลือในบ้านต่างเงียบกริบ ยูชอนก็เดินตามออกไปอีกคนพร้อมกุญแจรถของตัวเอง ฮยอนจุงได้แต่ลูบหลังบางเพื่อปลอบโยน
ฮยอกแจนายร้องไห้ทำไมน่ะ คยูฮยอนเดินเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วงอย่างลืมตัวเพราะเจ้าตัวก็เพิ่งลงมา ชินดงที่กินขนมอยู่ในครัวก็โผล่หน้ามามองด้วยความสงสัยเช่นกัน
ฮือๆๆ ร่างบางไม่ตอบกลับซุกหน้าเข้ากับอกของชางมินร้องไห้ต่อ
เกิดอะไรขึ้นนะครับ คยูฮยอนหันไปถามคนอื่นๆที่ยังยืนนิ่งอยู่
ไม่มีอะไรหรอก ไปเรียนเถอะอีทึกที่เพิ่งหาเสียงของตัวเองเจอตอบรุ่นน้องก่อนจะเดินนำไปขึ้นมินิบัสที่มาจอดรออยู่แล้ว
ฮยอนจุงแกบอกฉันได้ไหม ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วก็หันไปถามเพื่อนร่วมห้อง
พี่ยุนจูบย็อก ฮยอนจุงหันไปตอบเพื่อน แต่คำตอบนั้นทำให้คยูฮยอนยืนอึ้งไปไม่ต่างกับคนอื่นๆที่เห็นเหตุการณ์เลย
ไปเถอะ คยูฮยอนหันไปดึงมือเล็กของฮยอกแจก่อนจะพาเดินออกไป ฮยอนจุงเลยเดินตามออกไปติดๆ คนอื่นๆได้แต่มองตามไปไม่มีคำด่าทอใดๆเหมือนทุกวัน

คยูนายเอาย็อกไปนั่งข้างหลังกับนายแล้วกันร้องไห้ไม่หยุดเลย พอฮยอนจุงเดินไปถึงรถคันหรูของตัวเองก็บอกเพื่อนร่วมห้องเพราะเห็นฮยอกแจเอาแต่ก้มหน้าร้องไห้ คยูฮยอนพยักหน้ารับก่อนจะประคองร่างบางขึ้นไป
อยู่ดีๆ พี่ยุนจะเอ่อ จะทำยังงั้นทำไม พอขึ้นรถไปก็ถามคนขับเสียงเรียบ
โมโหที่ย็อกไปตบหน้าพี่ยูชอน คนขับตอบกลับอย่างที่คิด แต่คยูฮยอนขมวดคิ้วมุ่น โมโหเลยต้องจูบคนที่เกลียดเนี่ยนะ ไม่มีทาง
ย็อก อย่าร้องไห้สิ ฮยอนจุงมองกระจกหลังแล้วพูดขึ้นอย่างเป็นห่วงที่เห็นฮยอกแจเอาแต่นั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างปล่อยน้ำตาให้ไหลโดยไม่คิดจะเช็ดเลยซักนิด คยูฮยอนมองตามไปก่อนจะดึงร่างบางให้มาซบกับอกของตัวเองแล้วกอดปลอบไปด้วยจนฮยอกแจผล็อยหลับไปอย่างอ่อนล้า

คยู ดูนายก็ไม่ได้เกลียดอะไรย็อกนี่ คนขับเปรยขึ้น

No comments:

Post a Comment