TITLE:
เด็กไทยวิจิตรศิลป์ VS เด็กเซนต์คาเบรียล
PAIRING: KAI x KRIS
Rate: PG - 15 คำหยาบกระจายเต็มจอ เสื่อมฟุดฟุด
AUTHOR: @myri
NOTE: โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เราไม่มีเจตจาร้ายกับเด็กไทยวิจิตร
เราแค่เอามาเป็นปมเรื่องให้ฟิคมันสนุกสนานเฉยๆนะ โปรดแยกแยะด้วยค่ะ . คำเตือนฟิคนี้โคตรไร้แก่นสารและอย่าขาดหวังกับมัน
PAIRING: KAI x KRIS
Rate: PG - 15 คำหยาบกระจายเต็มจอ เสื่อมฟุดฟุด
AUTHOR: @myri
NOTE: โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เราไม่มีเจตจาร้ายกับเด็กไทยวิจิตร
เราแค่เอามาเป็นปมเรื่องให้ฟิคมันสนุกสนานเฉยๆนะ โปรดแยกแยะด้วยค่ะ . คำเตือนฟิคนี้โคตรไร้แก่นสารและอย่าขาดหวังกับมัน
“นั่นไง คนที่กูบอกมึง” ไอ้หงิมเซฮุนสะกิดผมที่กำลังนั่งซดเบียร์กระป๋องยิกๆอยู่หันไปมองตามที่มันชี้ ผมหันหน้าไปตามที่มันชี้ ไอ้เราก็นึกว่าแม่งจะชี้สาวๆสวยๆเอ็กซ์ๆให้กูดู ที่ไหนได้ แม่งชี้ผู้ชายให้ดู - _ -
“ใครวะ?”
“เอ้า!” เอ้าพ่อง ก็กูไม่รู้จัก
“ก็นี่ไงมึง คริส ดาวโรงเรียนเซนต์คาเบรียล” เออ...กูก็ไม่รู้จักอยู่ดี - - แต่เดี๋ยวนะ...ตำแหน่งดาว...
นั่นมันตำแหน่งผู้หญิงไม่ใช่เหรอวะ?!?!?!
:
“มันไปตบตีแย่งตำแหน่งดาวกับผู้หญิงมาเรอะ”
“เอ้า มึงโง่หรือโง่ เซนต์คาเบรียลมันชายล้วน มันมีหญิงให้มาเป็นดาวมั้ยละ”
“-

ผมหันไปสนใจกับพ่อดาวโรงเรียนต่อ ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นดาวมันก็ต้องยอดหล่อยอดชาย แต่ทำไมผมพิจารณาร่างกายมันตั้งแต่หัวจรดตีนแล้ว...
ไมแม่งออกไปแนวเคะวะ...
ไอหน้ามันหล่อก็จริงอยู่ แต่จะมองให้มันดูน่ารักมันก็เข้าเค้าอยู่ว่ะ สีผมก็น้ำตาลอ่อนออกทองๆ ถึงมันจะสูงแต่แม่งจะเพรียวไปไหน ผิวมันก็ขาวเนียนไปนะ นั่งซดเบียร์ห่างจากมันสิบเมตรยังดูออกเลยว่าแม่งผิวเนียนม้าก สงสัยมันจะลูกคุณหนู แต่ก็อย่างงว่าละวะ เซนต์คาเบรียลไม่เก่งไม่รวยเรียนไม่ได้หรอก
นั่งอยู่ดีๆ จู่ๆสมองอันชาญฉลาดของผมก็นึกอะไรสนุกๆขึ้นมาได้...
“กูมีไรสนุกๆให้พวกมึงทำฆ่าเวลาว่ะ” ผมพูดขึ้นทั้งๆที่สายตาผมยังจ้องไอ้คริสอะไรนั่นอยู่ เห็นท่าทางเหมือนจะเป็นคนเย็นขาปนโหดๆแล้วมันก็อดนึกสนุกไม่ได้ เพื่อนผม 3-4 คนรวมถึงเซฮุนด้วยทำหน้างงก่อนที่ผมจะกระดิกนิ้วพวกมันเป็นเชิงสุมหัว แค่นั้นแหละ...ไอ้พวกนี้แม่งยิ้มร้ายขึ้นมาทันที...
.
.
.
ผมเกลียดที่จะเดินผ่านทางนี้เป็นบ้า - _ - ทำไมน่ะเหรอ ก็แม่งมีแต่พวกเด็กช่างกลไง!!! แถมทางที้แม่งก็คนเดินผ่านน้อยชิบหาย ผมซวยเองแหละที่บ้านอยู่ในซอยที่แม่งมีทางออกทางเดียวคือทางนี้... ผมล่ะอยากจะกราบเท้าผู้ปกครองให้ย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่นจริงๆ...
แต่ก็ใช่ว่าผมจะเดินผ่านทุกวันหรอกนะ บางวันก็มีคนไปส่งที่โรงเรียน แต่วันนี้คงเป็นวันดวงตกของผมเลยต้องมาเดินไปเอง - -
ผมกำลังเดินผ่านพวกกลุ่มแก๊งค์ช่างกล สายตาของผมแอบเหล่ไปมองกลุ่มมันเล็กน้อย เห็นกระป๋องเบียร์กลิ้งอยู่ข้างๆ 3-4 กระป๋อง อายุแม่งเท่าไหร่เองวะ มาแดกเบียร์กันอีก โว้ = = จากสายตาของผมประมวลได้ว่า...ทั้งกลุ่มมันแม่งกำลังมองผมอยู่...เฮ้ย!! มองกูทำไมหน้ากูเหมือนอริมึงเรอะ! หน้ามึงกูก็ไม่ได้มอง (แค่เหล่)
“คนสวยจ๋า เดินดีๆระวังตก ‘หลุมรัก’ ของพี่นะคร้าบ” หลุมรักป้อมึงอ่ะ!! ผมตวัดสายตาไปมองกลุ่มมันด้วยสายตาที่พร้อมจะฉีกแม่งเป็นชิ้นๆ แม่งขำกันอย่างสะใจกันทั้งกลุ่ม แต่ไอ้คนที่แม่งดำๆ ปากบึนๆ หน้าเหมือนคนเมากัญชายี่สิบห้าชั่วโมงเนี่ยแม่งหัวเราะหนักสุด ไอ้ห่านี่แน่ที่แม่งแซวผม!!
ผมพยายามหายใจเข้าลึกๆแล้วเร่งขาให้เดินเร็วกว่าเดิม ให้ไปแม่งพ้นจากตรงนี้สักที ถึงผมจะโมโหแต่ผมก็ไม่แน่ขนาดไปชกเด็กช่างกลหรอกนะครับ - _ - อนาคตอู๋อี้ฟานยังอีกยาวไกล
“คนสวย! ฝากไปบอกพ่อคนสวยหน่อยสิว่ากูอยากเป็นลูกเขยยย” ตึง!! ความอดทนผมขาดผึง โอเค กูไม่ทนละ!! ช่างกลก็ช่างกลเหอะมึง!!!
ผมที่กำลังเดินผ่านกลุ่มมันอยู่ละจำต้องยูเทิรน์กลับ ขายาวผมรีบเดินไปที่กลุ่มมันทันที รอบนี้ใครแซวกูไม่รู้ กูเอารอบแรกก่อนเลย ไอ้ห่าดำ ผมเดินเข้าไปกระชากคอเสื้อมันให้ลุกขึ้น แทนที่มันจะทำหน้าเกรงกลัวสักนิดนึงไม่มี กลับทำหน้ากวนตีนใส่ผมอีก!!
กลัวหน่อยดิ กูเริ่มหวั่นละนะ...._.
“มองหน้าทำไม? หน้ากูมีคำว่ารักแปะอยู่หรอ?” อื้มหืม ไอ้จังไร...เสี่ยวมาก
“มึงว่างมากดิ้ แซวกูอยู่นั่นแหละ เอาเวลาไปเรียนไป!!” ผมตะคอกใส่หน้ามัน แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเท่าไหร่ บรรดาสมุนไพร่มันที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ยาวทำเสียงแซวกันใหญ่
“โอะโอว แม่งโหดด้วยว่ะ” ผมหันไปมองไอ้หัวหยอยนิ่งๆ มันยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผมก่อนจะหันไปซุกผู้ชายที่หน้าเหมือนลูกหมานั่งอยู่ข้างๆมัน โอ้โห่ แม่งมาเรียนหรือมาเดินแคทวอร์ควะ อายไลนเนอร์หนาชิบ...
“มึง...ดูท้องฟ้าดิ้” ไอ้ดำพูดขึ้น โถ่ ใครหันตามแม่งก็โง่ละ
“ไหน” โอเค กูยอมรับโง่ - _ - แต่พอมองไปก็ไม่มีอะไรนี่หว่า ท้องฟ้าแม่งก็เหมือนเดิม ไม่ได้มีสี่ขาห้าจมูกสามตา - -
“มึงว่าท้องฟ้ามันกว้างพอที่จะเขียนว่ากูรักมึงม่ะ?”
“ฮิ้ววววววว” โว้ยยยยยยยยยยยยยยย!!!!
ผมผลักไอ้ดำออกก่อนจะเดินออกจากพื้นที่ตรงนี้ทันที แม่ง! กูไม่น่าไปหาเรื่องแม่งเลยจริงๆ เหมือนยิ่งต่อความยาวสาวความยืด คุยกับอีพวกนี้ให้กูไปขัดตัวให้ราหูยังง่ายกว่าอีก ควายเอ้ย!! อย่าให้กูเจอะเจอพวกมึงอีกเลย สาธุ!! เผลอๆไอ้เวลาที่ผมสละไปให้มันแซวจะทำผมเข้าเรียนสายอีก! โธ่ถังชีวิตอู๋อี้ฟาน...
.
.
.
“เป็นห่าไรวะ ทำหน้าเหมือนโดนอีแต๋นทับหน้า” ลูฮานเพื่อนสนิทของผมเดินเข้ามาทักที่โต๊ะเมื่อเห็นผมนั่งฟุบหน้าลงกับโต๊ะ แต่...ขอโทษเถอะ นั่นมึงถามกูด้วยความห่วงใยใช่มั้ย - -
“ก็ตอนกูมาโรงเรียนอ่ะ ไอ้พวกช่างกลที่สุมหัวอยู่หน้าซอยกูแม่งแซวกู” ไม่ได้แซวแค่กูนะครับ แซวยันพ่อกูเลย - _ -
“อ๋อ คงจะเป็นพวกเซฮุนล่ะมั้ง”
“เซฮุนไหนวะ”
“เซฮุนแฟนกูไง ที่มันอยู่ไทยวิจิตอ่ะ” โห เหยดเข้ เจริญละ เพื่อนกูมีแฟนอยู่ช่างกล...คือมันก็เคยบอกผมนะว่ามันมีแฟนชื่อเซฮุน แต่ใครจะไปรู้ว่าแม่งอยู่ไทยวิจิต นึกว่าแม่งจะอยู่กรุงเทพคริสเตียน สวนกุหลาบ เตรียมอุดมไรงี้ กูมโนไกลไปจริงๆ...ยังไงก็ช่าง แฟนเพื่อนผมก็ไม่สน หมายหัวไว้ละ (ใครอยู่ในกลุ่มที่แซวกูเมื่อวานกูหมายหัวหมด)
“มีผัวทั้งทีมึงช่วยเลือกหน่อยได้มั้ย?”
“เซฮุนออกจะหล่อมึง คนในโรงเรียนเราแม่งชอบมันเยอะจะตาย นี่ถือว่ากูเลือกละนะ” โลกแม่งอยู่ยากขึ้นทุกวัน กรี๊ดใครไม่กรี๊ดเสือกกรี๊ดเด็กช่างกล...
“ทำหน้างั้นไม่เชื่อกูไง้ เด็กไทยวิจิตคนหล่อแม่งเยอะจะตาย มึงไม่รู้อะไร มึงช่วยแหกตาของมึงดูมั่งเถอะ” ลูฮานสาธยายคุณศัพท์พวกช่างกลต่อ เพราะเห็นผมทำหน้าเหมือนยี้เต็มที ด้วยสัตย์จริงว่า...เมื่อวานกูโมโหจนไม่ทันมองหน้ามันชัดๆ - _ - อารมณ์มันบังตา
“คนหล่อๆมาจีบมึงเยอะแยะเสือกไม่เอา ไปเอาเด็กช่างกลเนี่ยนะ”
“มึงดูอคติกะช่างกลจังนะ ไอ้ส่วนดีมันก็มี ไอ้ส่วนที่มันไม่ดีก็มี อย่าไปเหมารวมเด้...ว่าแต่...คนไหนวะที่แซวมึง เซฮุนเหรอ? ถ้าเซฮุนแซวมึงกูจะได้ลับมีดรอ” อุ้ยไอ้นี่โหด = . =
“ดำๆ ปากบึนๆ หน้าเหมือนเมากัญชา”
“ใครวะ - _ - จงอินรึเปล่า?”
“ถามกูกูจะรู้มั้ยละ กูไม่ผูกมิตรกะพวกแม่งหรอก”
“ถ้าใช่จงอิน มึงควรจะดีใจที่โดนแซวนะ เพื่อนเราตั้งหลายคนแม่งไปตามกรี๊ดมัน” อื้มหืม กูควรจะปิดซอยเลี้ยงโต๊ะจีนใช่มั้ยที่กูโดนมันแซว แล้วไอ้ที่บอกเพื่อนเราหลายคน กูมีเพื่อนหลายคนเหรอ ? - - ได้ข่าวกูมีแค่สองคนคือมึงกับคยองซูอีกคน...
“เรื่องของพวกมัน กูขอเอาหน้าไปถูกับคอนกรีตดีกว่าถ้าแลกกับให้มันแซวกู” คำเตือน อ่านคอนกรีตนะครับไม่ใช่คอ-นก-รีต
(#แซะเอาฮานะคะ ._. writer)
.
.
.
ผมยืนหลบอยู่หลังเสาหน้าซอยก่อนซอยบ้านผม น่าจะรู้จุดประสงค์ของผมดีนะว่าทำไมผมต้องมายืนหลบอยู่หลังเสาเยี่ยงโจรแบบนี้ คลุมโม่งนี่กูใช่เลยอ่ะ โจรมาเอง - _ - ไอ้พวกเซฮุนหรือไอ้พวกช่างกลนั่นแหละมันแซวจนผมหลอนไม่กล้าเดินผ่านเลย ชักหนักละกู = =
เมื่อเห็นว่าทางสะดวกผมก็รีบวิ่งแจ้นเข้าซอยตัวเองทันที แต่ก็แปลกใจทำไมวันนี้ไม่มาสุมหัวกันวะ เห็นลูฮานบอกตรงนี้แหละแหล่งมั่วสุมของพวกมัน แต่ผมไม่ยักกะเคยเห็นลูฮานมาสุมหัวแถวนี้กับเซฮุนแฮะ แต่ก็ดีละ ผมยังไม่พร้อมให้เพื่อนผมผันตัวเป็นสก๊อยเกิร์ล - _ -
ขายาวของผมเดินมาเรื่อยๆจนถึงบ้าน แต่สายตาผมไปสะดุดกับบ้านหลังใหญ่ข้างๆซะก่อน เออจะว่าไปบ้านนี้หลังแม่งก็ใหญ่ แต่ทำไมไม่ค่อยเห็นออกมาป้วนเปี้ยนเลยวะ ทั้งๆที่คิดว่าบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ต้องมีคนอยู่เยอะแท้ๆ บ้านผมอยู่กันตั้งสี่คน (ย้ำว่าตั้งสี่คน) มีพ่อแม่ผมแล้วก็ไอ้เทาน้องผมอีกคน แต่น่าแปลกใจวันนี้บ้านหลังที่ผมพูดถึงมันเปิดไฟ ปกติแม่งปิดไฟตลอด สงสัยกลัวแสงสว่าง - -
เอะ แล้วกูจะไปเสือกเรื่องของเขาทำไม - __________ -
ผมเปิดประตูเดินเข้ามาในบ้าน ไอ้ตัวผมเนี่ยกะไว้ว่าพอเข้าบ้านจะขึ้นไปข้างบนห้องเลย ไม่ใช่ไร จะเล่นฮอน = _ = แต่ไอ้คนที่แม่งตัวขาวเหมือนตกถังแป้งโกกิที่นั่งอยู่ข้างๆน้องชายผมทำให้ผมหยุดกึกซะก่อน
ใครวะ - _ -
“มองเมียกูทำไมครับเฮีย” อ่อ เมียมัน
“เปล่า กูเห็นเมียมึงปกติดี ไม่น่าหลวมตัวมาคบกับมึงได้”
“ไอ้เหี้ย กูน้องมึงนะ พูดดีๆ” มึงให้ความเคารพกูมากเลยดิ้
“ทีมึงอ่ะ ด่ากูเหมือนกูไม่เป็นพี่เลยเนอะ กูพี่มึงนะ พูดดีๆกับกูหน่อย”
“ก็ได้...ไอ้เหี้ยครับ กูน้องมึงนะครับ พูดดีๆกับกูหน่อยครับ” เยี่ยม!! ไอ้ห่า กวนตีนกูแต่เย็นเลย ผมชูนิ้วกลางใส่มันก่อนจะรีบเดินขึ้นบันไดทันที ไม่ได้กลัวนะ เปล่าเล้ยย จะรีบขึ้นมาเล่นฮอน
พอถึงห้องปุ๊บผมตรงไปเปิดคอมทันที ระหว่างรอเครื่องเปิดก็ขอไปสูดอากาศที่ระเบียงห้องหน่อยละกัน อยู่ข้างล่างแม่งมีแต่กลิ่นบุหรี่ของไอ้เทา กูจะเพลีย - _ - ไม่ใช่ว่าผมไม่สูบนะ มันก็ต้องมีบ้าง จริงมั้ย แต่ผมยับยั้งตัวเองได้ไม่ติดเหมือนมันหรอก ผมเนี่ยสูบอาทิตย์ละมวน แต่มันอ่ะอาทิตย์ล่ะห่อ...
ผมถึงได้บอกไงว่าคนขาวๆน่ารักๆดูผู้ดีขนาดนั้นแม่งหลงมาเป็นเมียน้องกูได้ยังไง...
แต่ก็เอาเถอะ อะไรๆก็เป็นไปได้ ขนาดลูฮานมันยังไปได้กับเด็กช่างกลเลย - _ -
ขณะที่ผมกำลังสูดอากาศอยู่ตรงระเบียง สายตาผมเหลือบไปเห็นผ้าสีแดงๆ ขอบอกว่าแม่งแดงมาก แดงแปร๊ดอะ ผมเลยคว้ามันมาดูชัดๆ...เหี้ย!!!!! บ๊อกซ์เซอร์นี่หว่า บ๊อกซ์เซอร์ใครวะเหยดแม่ ช่วงเวลาที่ผมกำลังรรนรานหาเจ้าของมันอยู่ก็มีคนเรียกผมซะก่อน
“คริส!!” ใครเรียกกูวะ - * - ผมหันไปตามต้นตอเสียงแทบจะช๊อคน้ำลายฟูมปาก ไอ้ดำนี่หว่า!!!!!!! เสือกรู้ชื่อกูด้วย! แถมแม่งยืนอยู่ที่ระเบียงของบ้านที่อยู่ข้างๆบ้านผม มันไปยืนอยู่ตรงนั้นได้ไงวะ แล้วสภาพแม่งเหมือนพึ่งตื่นมาก ท่อบนไม่ได้ใส่เสื้อ โถ กะจะโชว์ซิกแพคล่ะสิมึง กูก็มี มาทำเป็นอวด ส่วนท่อนล่าง...อย่าพึ่งมโนไปไกลครับ จะบอกว่าท่อนล่างมันใส่กางเกงขายาวสีดำ - -
ประเด็นคือแม่งไปโผล่ตรงนั้นได้ไง จะบอกว่ามันอยู่บ้านหลังนั้นเหรอ ป๊าด กูอยากจะขำให้เงิงยุบ
หน้าอย่างมันเรอะจะอยู่บ้านใหญ่ขนาดนี้ ถ้าเป็นจริงผมสาบานเลยจะยอมตกเป็นเมียมัน - _ -
“ไปยืนทำเหี้ยอะไรตรงนั้นวะ?”
“ทำไมกูจะยืนไม่ได้ ก็นี่มันบ้านกู” เอิ่ม...เมื่อกี้กูสาบานอะไรออกไปนะเมื่อกี้จำไม่ยักได้...
“นั่นบ้านมึงเหรอ?!?!?!?!”
“เออ เสียงดังไม ทำไม มึงอยากมาอยู่กับกูเหรอ?” มันว่าแล้วยักคิ้ว ถุยชีวิตครับ บ้านกูก็มี - _ - มันอยู่บ้านหลังเบ้อเริ่มด้วย ไม่น่าเชื่อ...ประเด็นมันอยู่ที่บ้านแม่งอยู่ใกล้ผมอะ!!!!! OTL ก็ว่าไมแม่งไม่นั่งมั่วสุมหน้าซอย มันหลบมาอยู่นี่นี่เอง
“คริสครับ กูขอของที่อยู่ในมือมึงคืนด้วยครับ” ไอ้ดำมันพูดหน้าตายก่อนจะยื่นมือมาตรงหน้าผม คือผมกับมันห่างกันไม่ถึงเมตรอ่ะ ระเบียงมันกะผมนี่ใกล้กันจนผมข้ามไปหามันได้ แต่คงไม่มีวันนั้น - _ -
“บ๊อกซ์เซอร์มึงเหรอ?” ผมชูขึ้นแล้วถามมัน
“เออ จะเก็บไว้ดมเล่นไง้”
“ถุย เอาไปเลยสัด” ผมทำหน้าอี๋ก่อนจะโยนให้มัน ผลเป็นไงรู้มั้ยครับ บ๊อกซ์เซอร์ที่ผมโยนไปลอยไปแปะหน้ามัน อยากจะหัวเราะเป็นภาษาอาบูดาบี ดำก็ดำเสือกใส่บ๊อกซ์เซอร์สีแดง อีกาคาบพริกดีๆนี่เองล่ะเมิง - - ผมหมุนตัวตั้งท่าจะเดินเข้าห้อง ไม่ไหวละ อยากเล่นฮอนจนกูเงี่ยนละครับ แต่ไอ้ดำมันดันรั้งคอเสื้อผมไว้ก่อน
“โอ้ยไอ้ห่า รั้งคอเสื้อกูขนาดนี้มึงเอาเชือกมาผูกคอกูเลยเหอะ” แม่งดึงแรงจนผมหายใจไม่ออกอ่ะ - -
“กูมีงานให้มึงทำ”
“กูไม่ทำ” ผมปฏิเสธแบบไร้เยื่อใยมาก แบบไม่มีถามกลับว่างานเหี้ยอะไร
“มึงต้องทำ ไม่งั้นกูจะส่งภาพนี้ไปให้ฝ่ายปกครองโรงเรียนมึง” มันว่าก่อนจะหยิบไอโฟนห้าออกมาจากกระเป๋ากางเกง เหยดเข้ ไอโฟนห้ากูยังใช้สี่เอสอยู่เลยนะ = = มันกดอะไรสักอย่างบนหน้าจอก่อนจะชูมาตรงหน้าผม ไอ้เหี้ย!!!!!!!! นั่นมันรูปที่ผมถือบ๊อกซ์เซอร์มันนี่หว่า!!
แต่เดี๋ยว...แค่ถือ กูไม่ได้ดมด้วยความใคร่นี่หว่า...จะไปกลัวทำไมล่ะเออะ
“แล้วไง กูแค่ถือ กูไม่ได้ฟัดบ๊อกซ์เซอร์ตัวแปร๊ดของมึงนิ่”
“แค่มึงถือคนเขาก็ตีความได้หลายอย่างแล้ว กูจะไปบอกฝ่ายปกครองโรงเรียนมึงว่า...เนี่ย...มึงอ่ะชอบกูมาก คลั่งไคล้กูเว่อร์วีว่าจนต้องขโมยบ๊อกซ์เซอร์กูไปลูบๆคลำเล่นๆ” โหยไอ้จังไร!!!!! ชาติที่แล้วผมไปเผาบ้านมันรึไง ทำไมมันทำกะกูแบบนี้...OTL
“จะให้กูทำอะไร” สุดท้ายผมก็ยอมเป็นเบ๊มันจนได้...
“มึงข้ามมาฝั่งกูก่อนแล้วจะบอก”
“จะทำอะไรกู” ผมถาม มีการบอกให้กูข้ามไปก่อน ไม่ใช่ว่ามันแค้นผมแล้วจะฆ่าหั่นศพผมคาบ้านมันหรอกนะ - . –
“โอ้ยกูไม่ข่มขืนมึงหรอกนะ กูชอบตัวเล็กพกพาง่ายไม่ใช่ยาวสูงชะลูดเหมือนมึง” มันว่าก่อนจะกวักมือยิกๆ แหมะ ไอ้หล่อไอ้ขาวโอโม่ กูละหมั่นไส้ ถึงในใจผมจะด่ามันแต่ผมก็ข้ามไปอย่างโดยดี ข้ามระเบียงจากบ้านผมมาบ้านมันง่ายกว่าปอกกล้วยอีกว่ะเฮ้ย แต่เพราะความสูงของผมด้วยล่ะมั้ง
“ว่าไง มีไรให้กูทำ” ผมยืนกอดอกถามมัน มันลากผมเข้ามาในห้องมันปิดประตูระเบียงเรียบร้อย ผมมองไปรอบๆห้องที่แม่งโสโครกพอที่มันจะอยู่ร่วมกับแมลงสาบได้ เก้าอี้นั่งบัดนี้แม่งได้กลายเป็นราวตากผ้าไปแล้ว ยังไม่รับถุงเท้าที่มันถอดทิ้งบนเตียงอีกนะ - - รอบห้องมันมีภาพวาดเต็มไปหมด บางอันก็ลงสีบางอันก็สเก็ตช์มือ เออแม่งมีฝีมือจริงว่ะ - _ - ไอ้ดำมันเดินไปหยิบดินสอประมาณ 5-6 แท่งบนโต๊ะเขียนแบบของมันก่อนจะยื่นให้ผมพร้อมกับคัตเตอร์ ผมเลิกคิ้วใส่มันเป็นเชิงถามว่าให้กูทำอะไร?
“เหลาดินสอให้กูหน่อย”
“มึงเรียกกูมาเพราะ...ให้กูเหลาดินสอเนี่ยนะ...”
“เออดิ หรืออยากให้กูทำอย่างอื่น?” มันถามผมกลับก่อนจะทำหน้าเจ้าเล่ห์แถมเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ดีนะผมเอาตีนยันมันไว้ก่อน - -
“มึงเหลาเป็นใช่มั้ยดินสอสำหรับสเก็ตช์ภาพนะ” ผมพยักหน้าเนือยๆก่อนจะรูดคัตเตอร์เตรียมตัวเหลาพร้อมกับตีนที่กำลังทำงานเขี่ยถังขยะมารอง เหลาดินสอแม่งง่ายจะตาย ผมเหลาให้ไอ้เทามันแทบทุกวัน มันก็เรียนออกแนวศิลปะๆเหมือนไอ้ดำนี่แหละ แต่มันไม่ได้เรียนเป็นสายอาชีพหลักแค่นั้นเอง
“มึงไม่ต้องเหลาให้คมมากนะ เพราะหน้าตามึงก็คมพอจะบาดใจกูละ” พรืด! เหี้ย เกือบไปแล้วมั้ยละกู มุขเสี่ยวมันทำมือผมลื่นจนแม่งแทบจะขาดนิ้วผมอยู่ละ - -
“เสี่ยวสัด...” ผมหันไปพูดกับมัน มันหัวเราะชอบใจก่อนจะลงมือลบงานบนกระดาษสเก็ตช์ภาพของมัน
“เฮ้ยยางลบตกวะ เก็บให้หน่อย” มันบอกผมเมื่อยางลบของมันกลิ้งมาตกอยู่ข้างๆผม ผมเอื้อมกำลังตั้งท่าจะเก็บให้มัน แต่ก็แทบจะคะมำเพราะมันดันเล่นห่าอะไรไม่รู้ใส่ผม...
“อย่าลืมเก็บหัวใจกูที่ตกข้างๆยางลบนะ” โอ้ยไอ้ห่า กูขนลุก!!! กูว่าคนโรงเรียนกูแม่งประสาทละล่ะที่อยากให้มันเล่นมุขเสี่ยวให้ฟัง แม่งแต่ละมุข สมัยอิเหนาจีบสังคามาระตารึไงวะเหยดเข้!
“โหย กูล้อเล่น อย่าทำหน้าเหมือนแองกรี้เบิร์ดขี้ไม่ออกดิ้” มันว่าหลังจากที่ผมมองมันอย่างเอือมๆ แม่งเล่นมุกใส่กูจนกูจะอ้วกละ
“เฮ้ยกูจะซีเรียสละนะ กูแม่ง...ไม่ชอบพระเยซูเลยว่ะ” เห็นมันทำหน้าเครียดบวกกับน้ำเสียงที่แม่งจริงจังผมเลยหยุดกิจกรรมที่ผมทำอยู่ก่อนจะหันไปตั้งใจฟังมัน
“ทำไมวะ?”
“เพราะพระเยซูอ่ะ แม่งสอนให้รักทุกคนช้ะ แต่กูอะ...รักมึงได้คนเดียว” กูไม่น่าโง่ฟังมันเลย - _ -
“ไอ้ดักดาน มึงช่วยหยุดเสี่ยวสักห้านาทีได้มั้ย ไม่อย่างงั้นคัตเตอร์ในมือกูอาจจะพลั้งไปปักหัวมึง”
“กูล้อเล่นน่า ไม่อยากให้มึงเครียด” ท่าทางกูเหมือนคนเครียดมากเลย - _ - ผมส่ายหัวอย่างเอือมๆก่อจะลงมือเหลาดินสอต่อ เหลาไปเหลามาหูของผมก็ไปได้ยินเสียงอะไรไม่รู้ ที่แม่งแบบ...ชวนสะหยิวกิ้วชิบหาย ผมคิดว่าผมหูฝาดเลยปล่อยผ่านไป แต่พอนานเข้า...
“อ๊ะ!...อา อื้อออ~”
“อ๊า! อืม...”
ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่อึกนึงก่อนจะหันไปมองหน้าไอ้ดำ มันทำหน้ากวนตีนเหมือนทุกครั้ง เฮ้ยย!! มึงไม่สงสัยมั่งเรอะว่าเสียงอะไร เผลอๆอาจจะผีบ้านผีเรือน ไม่ก็โจรที่แอบบุกเข้ามาบ้านมันอยากพักสำเร็จความใคร่ก็ได้นะโว้ย!!!
“เสียงชานยอลกับแบคฮยอนน่ะ เพื่อนกูเอง ตั้งแต่บ่ายละแม่งยังไม่เสร็จกันเลย” มันว่าพลางทำนิ้วโป้งชี้ไปที่กำแพงเหมือนจะสื่อว่าไอ้สองคนนั้นแม่งบะบะโอ้บะกันอยู่ห้องถัดไป
“มึงทำงานได้ไงวะ มีเสียงพวกนี้ดังตลอดเวลา” ผมถาม นี่จริงจังเลยนะเสียงแม่งสะหยิวชิบหาย เป็นผมผมไม่ทนตั้งแต่พวกนั้นครางห้านาทีแรกละ
“เออน่า เกรงใจมันหน่อย มันเจ้าของบ้าน” อ้าว ไหนบอกนี่บ้านมึง
“อ้าว นี่ไม่ใช่บ้านมึงอ่อ”
“ใช่”
“เอ้า กวนตีนกูนิ่”
“คือไอ้ชานยอลกับแบคฮยอนมันเช่ามาอยู่ด้วยกัน บ้านมันไกลโรงเรียน ขี้เกียจตื่นเช้า”
“อ่อ แล้วมึงอยู่ไหนอ่ะ”
“อยู่บ้านดิ แต่อยู่ซอยนู่น”
“ซอยนู่นอะไรซอยอะไร?”
“ซอยยิกๆ…” ควายยยยยยยยยยยยยยยยยย!!! กูไม่คุยกับแม่งละ - _ - ผมหันหน้าม้าเหลาดินสอต่อ จะได้รีบๆกลับ เงี่ยนฮอนจะตายห่าละกู ดินสอที่แม่งให้เหลาก็เยอะเหลือเกิน
“คริส มึงเห็นจุดมะ?” ผมหันไปหามัน ไอ้ดำมันกำลังชูกระดาษที่มีจุดอยู่ตรงกลาง
“เห็น” ผมตอบไปตาที่เห็น แล้วเชื่อมั้ย...เดี๋ยวแม่งจะเล่นมุขเสี่ยว
“นั่นแหละ มันคือจุดเริ่มต้นของความรักกูกับมึง” นั่นไงกูว่าละ ขอโทษครับไอ้ฟราย มุขนี้กูเคยใช้กับสาว เดี๋ยวมึงเจอกูสวน เดี๋ยวๆ...
“ทำไมกูเห็นแต่จุดจบวะ” ผมสวนกลับ มันเหวอเลยครับ ว้าก สะใจ -..- เป็นไงล่ะมึง เจอกูสวน รู้จักกูน้อยไปละ
“ไอ้ห่า มึงสวนกูอ่อ”
“มึงเสี่ยวใส่กูทำไมกูจะสวนใส่มึงมั่งไม่ได้? ถามจริง...ทำไมมึงเสี่ยวจังวะ” ผมเหลาดินสอแท่งสุดท้ายเสร็จพอดี ผมวางดินสอไว้ข้างๆตัวก่อนจะหันไปถามมันอย่างจริงจัง คือถ้าเสี่ยวละมึงดูดีกูจะไม่ว่าเลย โอเค...คนอื่นอาจจะมองมันเสี่ยวละหล่อ แต่ทำไมกูมองว่าแม่งเสี่ยวละสถุลจัง = _ =
"กูไม่ได้เสี่ยวนะเว้ย!” มันลุกขึ้นก่อนจะมองมาที่ผมด้วยสายตาแววหาเรื่อง เฮ้ย มันโกรธกูจริงเรอะ - _ - “กูแค่อยากเฟี้ยวให้มึงรัก...”
“...” เงียบ...เมื่อมันเห็นผมเงียบมันเลยเริ่มกระสับกระส่าย
“เฮ้ย มึงอย่าเงียบดิ กูแป้กนะเนี่ย”
“เชี่ย...”
“เอ้า ด่ากูไม”
“เชี่ยนะนอบ...” ถ้าฉลาดก็จงผวนคำซะนะครับ...
“เหยดเข้ อู๋อี้ฟาน มาให้กูฟัดที!!!”
end.
No comments:
Post a Comment