Wednesday, September 17, 2014

Confession of a friend 1

            “มึง!” เสียงทุ้มฟังดูทรงอำนาจดังขึ้นกลบเสียงอื้ออึงของคนจำนวนมาก จากที่โวกเวกโวยวายเมื่อครู่ ตอนนี้กลับเงียบกริบจนแยกเสียงหายใจได้ว่าเป็นของใคร หญิงชายทุกคนหันมามองตามตนเสียงนั้นทันที จะลองดีกับกูเหรอไง?”
                นิ้วเรียวยาวชี้ตรงมาที่นักเรียนชายผู้เป็นเป้าหมายของวันนี้ ใบหน้าดุดันอย่างเอาเรื่อง
                สมน้ำหน้า!” เสียงแหลมเล็กของคนตัวบางข้างๆ ดังขึ้นทำลายความเงียบที่ร่างสูงก่อไว้ ทำหน้าตาโอหังใส่ชายหนุ่มผู้โชคร้าย
            “กูไม่ได้ทำมั่งเหอะ!”
            “แต่สายกูบอกว่าเป็นมึงว่ะคยูฮยอน
            “ดงเฮ สายมึงโดนดักควายแล้วว่ะ
                ร่างสูงปล่อยมือที่ชี้อยู่ลง ก่อนจะเก็บเข้ากระเป๋ากางเกงด้วยความเคยชิน ตาคมหรี่มองคู่สนทนาด้วยสายตาชั่งใจ แต่ก็ถูกคนตัวเล็กข้างๆ รบกวนสมาธิขึ้นมา
                มันด่ากูอ่ะดงเฮ มันด่ากูโง่อ่ะดงเฮ!!”
                แล้วมึงโง่จริงรึเปล่าล่ะฮยอกแจ?”
                เปล่าว่ะ! กูเห็นจริงๆ ในลานจอดรถมีมันคนเดียวเว้ย
                ฮยอกแจพูดออกมาตามความจริงแบบไม่มีใส่ไข่ วันนั้นที่รถของดงเฮโดนกรีด มีคยูฮยอนอยู่ในลานจอดรถจริงๆ ! .. เชื่อกูนะ กูเห็นกับตาอ้ะ!
            “แน่ใจหรอว่ามีไอ้คยูฮยอนคนเดียว?” เสียงที่สามดังขึ้น ก่อนจะมีร่างสูงของชายอีกคนที่นั่งอยู่ค่อยๆ ลุกขึ้นยืนเคียงข้างคนที่ชื่อคยูฮยอน
                มึงหมายความว่าไง
                กูกรีดรถมึงไงล่ะครับร่างสูงโปร่งเอ่ยออกมายิ้มๆ ก่อนจะหยิบแก้วใสที่บรรจุน้ำสีอำพันขึ้นมากระดกอย่างสบายใจ โดยที่คนได้ฟังถึงกับนิ่งไปทันที
                มึงจะไม่เลิกจริงๆ ใช่ไหมคิบอม?
            “ไม่เลิก
            “ไอ้หน้าด้าน!” ร่างบางตวาดออกมาแทนเพื่อนรักซะเสียงดังทันที
                ไอ้เหี้ยนี่ดงเฮเอ่ยขึ้นเรียบๆ ขณะที่สาวเท้าเดินเข้าไปหาคู่กรณี ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ตัวข้างๆ คิบอมที่ว่างอยู่
                ฮ่าๆๆๆๆคิบอมว่ายิ้มๆ พลางนั่งลงที่เดิม หันไปชงหล้าใส่แก้วก่อนจะส่งให้ร่างโปร่ง กูเกลียดมึงจริงๆ เลย เหี้ยนี่แดกเปลือง
            “งกนักนะมึงดงเฮหันไปค้อนเล็กๆ ก่อนจะหันไปทางเพื่อนตัวเล็กที่ยืนหน้าบึ้งอยู่ตรงทางเข้า งอนอีกล่ะสิ มานั่งนี่มาฮยอกแจ
            “ไม่!” คนตัวบางตอบอย่างรวดเร็วทันควัน ก่อนจะเดินบิดไปจูงคยูฮยอนที่ยืนเอ๋ออยู่ใกล้ๆ กันไปอีกฟากนึงของร้าน .. ร้านอาหารที่ไม่ได้ใสสะอาดนัก ในวันศุกร์แบบนี้ นักศึกษามหาวิทยาลัยใกล้ๆ นี้มักจะมานั่งสุมหัวสุมเหากันคลายเครียดเสมอๆ
                แม่งงง งอนกูอีกแล้วดูดิ่ .. ไอ้โจ! อย่าให้มันกินเหล้านะมึง!!” ดงเฮบ่นกับตัวเองเล็กน้อยก่อนจะตะโกนตามหลังไป คยูฮยอนหันมาพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ
                กูจะแดก!” แต่อีกคนที่กำลังเดินสะบัดตูดไปก็หันมาขัดทันที ..
                ฮ่าๆๆๆ  ฮยอกแจแม่งไม่เลิกซะทีว่ะคิบอมหัวเราะร่าออกมาอย่างอารมณ์หลังจากซดแก้วเหล้าเข้าปาก มองเหตุการกบฏจูเนียร์นั่นอย่างขำๆ
                ก็งี้แหละ .. เห็นหน้ามึงทีไรอารมณ์แม่งเสียตลอด มึงก็ชอบไปแหย่มันอีกดงเฮว่าไปพลางส่ายหัวอย่างหน่ายๆ ก่อนจะกระดกน้ำเมาต่อด้วยท่าทีเรียบๆ แล้วก็ .. มึงมากรีดลูกกูทำไม?”
                ก็เบื่อๆ อ่ะตอนนั้น มึงก็ทำเป็นซีเรียสไป .. เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ถอยป้ายแดงของพี่มึงมาใช้
            “ไม่ว่ะ คันนี้กูรักยิ่งพ่อ
            “แหมๆๆ  ฮยอกแจเลือกให้เซอร์ไพรส์วันเกิดแล้วทำเป็นหวงหรอร่างสูงยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์เรื่องล้อไอ้เหี้ยนี่ขอให้บอกคิบอมเถอะ .. จุดอ่อนอย่างเดียวของแม่งเลย
                ลี ฮยอกแจ
                ไม่เกี่ยวกับฮยอกแจดงเฮไม่สนใจกับคนพูดของเพื่อนรัก หน้ายังคงนิ่งอยู่เหมือนเดิม ขณะเดียวกันก็กระดกเหล้าเข้าปากไปเป็นระยะๆ
                แอบชอบเค้าแต่ทำเป็นเก๊ก .. หมาคาบไปแดกแล้วจะเสียใจคิบอมจิกเพื่อนไปทีหนึ่งก่อนจะหันมาสนใจกับแก้วในมือต่อ

            จริงๆ แล้วมันไม่มีหรอก หมาตัวไหนจะกล้าเข้าใกล้ฮยอกแจ
                คงมีแต่หมาไม่เจียมอย่างกูสินะ .. เจ็บไม่จำสักที
                ใช่ .. คิบอมรักฮยอกแจ รัก .. มาก .. รักชิบหาย
               
                โดนคนที่ตัวเองแอบรักอยู่เกลียดเข้าไส้ยังไม่พอ .. อกแทบจะระเบิด
                พอรู้ว่าเพื่อนสนิทของตัวเอง ก็ดันไปรักไอ้ห่านั่นเหมือนกัน
                ก็ใช่อีก .. ดงเฮรักฮยอกแจ รัก .. มาก .. รักชิบหาย

                แต่รู้ไหม อะไรๆ มันคงจะดีกว่านี้ ..
                ถ้าเขาทั้งสามคน ไม่ใช่เพื่อนรักกัน







                ไอ้คยูฮยอนนนนนนนนนนน!! เอามาแดกกกกเสียงยานๆ บ่งบอกได้ว่าคนพูดน่ะสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว คยูฮยอนนั่งกลุ้มใจอยู่ข้างๆ ไม่รู้จะห้ามไอ้เหี้ยนนี่ไม่ให้กินต่อยังไงดี
                ไอ้ดงเฮมาเห็น กูไม่โดนเตะอัดข้างฝาหรือไง?
                มึงน่ะพอแล้ว กูมีพ่อมีแม่ รักตัวกลัวตายเหมือนกันนะเว้ย
                รักตัวกลัวตาย แล้วมึงกล้าปล่อยกระดูกของดงเฮให้แช่เหล้าย่างงี้ได้ไง?” เสียงทุ้มดังขึ้นด้านหลัง คยูฮยอนหันไปมองทันที แต่ก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อคนที่พูดเมื่อกี้เป็นคิบอม
                ทำไงดีเนี่ย? ไม่รู้เว้ยๆ กูกลับบ้านแล้ว มึงอ่ะดูมันต่อเลยร่างโปร่งลุกขึ้นวิ่งแจ้นออกจากร้านไปทันที ทิ้งคิบอมให้ยืนส่ายหัวอยู่อย่างหน่ายๆ 
                มึงงงง ครายว้ะ? เอาเหล้ามาแทกปากดิ๊!” ฮยอกแจชี้หน้าของอีกคนด้วยอาการกึ่มๆ อย่างเห็นได้ชัด ร่างสูงถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้ามาพยุงตัวร่างเล็กให้ลุกขึ้น
                กูคิบอมครับ พ่อมึงโดนพระเจ้าตาเรียกตัวกลับบ้านด่วน ฝากมาขอโทษที่ลากมึงไปส่งหอไม่ได้คิบอมกำลังงุ่นง่านอยู่ว่าจะลากแม่งขึ้นรถไปในสภาพไหน จนในที่สุดก็ตัดสินใจแบกไว้ข้างหลัง .. ทันทีที่อยู่ในท่าพร้อมเคลื่อนตัว ร่างเล็กบนหลังกว้างก็คอหักลงซบกับบ่าแกร่งของเพื่อนทันที
                อีกแล้วนะมึงน่ะ .. ทำกูใจสั่นอีกแล้ว
            เหี้ยเอ้ย .. นอนหอเดียวกันทุกคืน กูต้องไปทำหมันเลยใช่ไหม? คืนนี้มึงไม่ได้สติมานั่งด่ากูก่อนเข้านอน จะนอนหลับมั้ยวะ?
               






                ปากบอกว่าเกลียดเขานักหนา .. เหอะ! มันไม่จริงหรอก ฮยอกแจน่ะปากร้ายใจ .. ใจก็ร้ายด้วย! แต่มันเกลียดเพื่อนที่คบกันมาเกือบสิบปีไม่ลงหรอก แม้เขาจะชอบแหย่มัน ชอบแกล้งมัน แต่ใจจริงแล้วก็แค่อยากเล่นด้วย แต่บางทีเล่นแรงไปหน่อยจนโดนด่าแรงไปนิด คิบอมก็แอบเจ็บกระดองใจลึกๆ เหมือนกันนะ ..
                ดงเฮมันไม่เคยรู้หรอกว่าเขาเองก็รักฮยอกแจเหมือนกัน .. คนดีๆ อย่างมันถ้ารู้เรื่องเหี้ยๆ แบบนี้ มันต้องทำตัวเป็นพระเอกขี่ม้าขาวจากไปแน่นอน แม้เขาจะรักฮยอกแจมากแค่ไหน การสูญเสียเพื่อนไปเพราะความรักน่ะมันเลวร้ายเกินไป คิบอมไม่ต้องการอย่างนั้นแน่ๆ
                แต่ก็ยังหาทางออกไม่เจอ .. ได้แต่ปล่อยให้ทุกอย่างยังดำเนินต่อไปแบบนี้
                ฮยอกแจ ตื่นๆๆ  กูแบกมึงไม่ไหวหรอกนะ คิบอมเรียกคนเมาแอ๋ไม่รู้เรื่องรู้ราวที่นอนคอหักอยู่บนเบาะหนังในรถคันหรู  .. เรียกมาตั้งนานแล้วนะ ไอ้ห่านี่ไม่มีท่าทีจะตื่น
                “..” เงียบบบ ...
                ไอ่เหี้ยยย ตื่นๆๆๆ  กูไม่แบกมึงขึ้นหอหรอกนะ ร่างสูงออกแรงเขย่าเพื่อนตัวบางแรงขึ้นจากเดิม แต่การตอบสนองของเพื่อนรักก็เป็นเช่นเคย
                “..” เงียบบบ ...
                เฮ้อออ .. ถ้ากูเมามั่งมึงต้องแบกกูนะสัสเอ้ย คิบอมถอนหายใจออกมาอย่างปลงกับชีวิตก่อนจะช้อนตัวเพื่อนรักขึ้นมา และเดินขึ้นหอไป  .. ตีสอง? ห่าเอ้ยตีสองแล้วหรอว้ะ โชคดีที่พรุ่งนี้วันเสาร์ ไม่งั้นมีอันได้โดดคาบเช้าอีกแน่
                แล้วใครจะอาบน้ำให้มึงล่ะคราวนี้ คิบอมบ่นกับตัวเองขึ้นมาทันทีที่วางร่างบางลงบนเตียงนุ่ม คนบนเตียงยังคงสลบเหมือด ใบหน้าขาวๆ กลับกลายเป็นสีแดงด้วยฤทธิ์แอกอร์ฮอล์
                คิบอมมองภาพตรงหน้า ก่อนจะคิดย้อนกลับไปถึงเมื่อศุกร์ที่แล้ว บรรยากาศแบบนี้เป๊ะ! ไอ้เหี้ยนี่เมาแอ๋เหมือนเดิม หน้าแดงอย่างกับมะเขือเทศ หากแต่ว่าครั้งนั้นมีดงเฮที่อาสามาค้างคืนเพื่ออยู่ดูแลแม่ง .. ดงเฮอาสามาอยู่ดูแล?
                ไม่จริ๊งงง! อย่ามาหลอกคนอ่านเลยคิบอม ไปอ้อนวอนดงเฮมาอยู่เป็นเพื่อน กลัวห้ามใจตัวเองไม่ได้ .. ดงเฮน่ะไว้ใจให้เพื่อนรักอย่างเขาดูแลฮยอกแจอยู่แล้ว เพราะเขาเองก็เป็นเพื่อนแม่งเหมือนกัน .. ดงเฮคงไม่คิด ว่าเขาก็คิดแบบที่มันคิด
                คืนนี้ไม่มีดงเฮมาอาบน้ำให้มึงนะฮยอกแจ ..
                ร่างสูงจัดแจงแบกคนเมาเข้าห้องน้ำ ก่อนจะวางลงในอ่างที่ดูก็ไม่ได้หรูหราอะไร เขากับ
ฮยอกแจหารกันเช่าห้องอยู่ใกล้ๆ มหาลัย เพราะต่างก็บ้านอยู่ไกลกันทั้งคู่ หอนอกธรรมดาๆ ที่คนธรรมดาๆ อย่างเขาทั้งสองจะพอมีกะตังค์อาศัย ไม่เหมือนดงเฮ พ่อทำงานเหี้ยอะไรไม่รู้ที่จีน ค้ายามั้ง? หลอกๆๆ  บ้านแม่งรวยชิบหาย เคยให้มันขอแม่มาอยู่หอเดียวกัน แม่มันร้องไห้ฟูมฟาย ขาดลูกชายไม่ได้ .... อย่างงี้แหละ ไอ้พวกเศรษฐีเอ้ยย
                กลับมาสนใจคิบอมหน่อย ทุบักทุเลเหลือเกินกับการถอดเสื้อผ้าให้เพื่อนรัก ปกติเขาสามคนก็อาบน้ำเล่นด้วยกันอยู่บ่อยๆ  แก้ผ้าแก้ผ่อนใส่แต่บ็อกฯ ไม่เห็นอายอะไร .. แต่แบบว่า กรณีนี้ไม่ค่อยเหมือนกันเท่าไหร่
                ห่าเอ้ย .. กูจะไม่ให้มึงแดกเหล้าอีกแล้ว กระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบางค่อยๆ ถูกปลดออกทีละเม็ด จนกระทั่งหลุดออกทั้งหมด คิบอมค่อยๆ ยกตัวเพื่อนตัวเล็กขึ้นเพื่อถอดเสื้อออก ก่อนจะเลื่อนมือมาจัดการกับเข็มขัดนักศึกษา และ ......... ซิบกางเกง
                ไม่ดีกว่าคิบอมตัดสินใจละมือออกมาจากกางเกงขายาวสีดำของคนในอ่างอาบน้ำ ล้มเลิกความคิดที่จะชำระร่างกายให้เพื่อนรัก ขืนเป็นแบบนี้ตบะกูแตกแน่ๆ ว่ะ
                ร่างสูงช้อนตัวคนตัวบางขึ้นเดินออกจากห้องน้ำไป ก่อนจะวางลงที่เตียงเดี่ยวสำหรับนอนคนเดียวของฮยอกแจ คืนนี้อากาศไม่หนาว คงไม่ต้องห่มผ้าให้แม่งหรอกมั้ง ตัวเหนียวๆ ยิ่งห่มผ้าห่มผ่อนจะไม่สบายตัว ตื่นมาอารมณ์เสียจะพาลมาถีบเขาที่นอนอยู่เตียงข้างๆ ก็เป็นได้
                เพื่อนความเท่าเทียม คิบอมก็จะไม่อาบน้ำเหมือนกัน เอาจริงๆ คือขี้เกียจมากกว่ามั้ง .. ร่างสูงถอดเสื้อของตัวเองออกบ้างก่อนจะล้มตัวลงบนเตียของตัวเอง นอนตะแคงหันไปหาร่างเล็กที่หลับตาพริ้ม ร่างกายท่อนบ่นไร้สิ่งใดๆ มาปิดบัง ที่ไม่ใส่เสื้อให้ไม่ใช่เพราะคิดอะไรอกุศลนะเว้ย ก็แค่หวังดีไม่อยากให้เหนาะหนะตัว ก็เท่านั้น
                แต่สันดานของผู้ชายอ่านะ .. สายตาคมทอดมองไปทั่วลำตัวบาง ผิวขาวผ่องดูมีสกุลกระทบกับแสงสีส้มของโคมไฟที่หัวนอน คิบอมนึกย้อนไปถึงวันแรกที่เขาและฮยอกแจย้ายเข้ามาพักที่นี่ ก่อนจะยิ้มออกมาน้อยๆ ให้กับภาพในวันนั้น

                กูไม่ให้เปิด อยากเปิดมึงก็ไปนอนที่อื่นดิ่
            “กูก็ไม่ได้อยากนอนห้องเดียวกับมึงนักหรอก แต่กูจะเปิด
            “ไอ่ลูกแหง่! ตัองนอนเปิดไฟ กลัวผีหรอมึง ฮ่าๆๆ
            “กลัวไม่กลัวก็เรื่องของกู ไม่เปิดไฟนอนกูนอนไม่หลับ
            “หรอ? อืมๆ กูเข้าใจ เปิดก็ได้
            “เออ ก็แค่นั้น ไอ่ห่า ..
            “จะให้โทรเรียกแม่มึงมานอนตบตูดเข้านอนป้ะว้ะ? เดี๋ยวนอนไม่หลับนะ
                ไอ้เหี้ยยยยยยยยยย
               
                เกิดมายังไม่เคยนอนเปิดไฟเลยจริงๆ  แต่พอต้องมาร่วมห้องกับไอ้ห่านี่เลยต้องทำใจ จนถึงตอนนี้ก็ชินเสียแล้วกับการที่มีแสงสีส้มๆ มาแยงตาตอนนอน ..
                อืมม..ร่างเล็กครางเบาๆ ออกมาก่อนจะพลิกตัวตะแคงหันมาทางอีกคนบนเตียงข้างๆ  คิบอมเพิ่งจะสังเกตุได้ว่าใบหน้าจืดๆ ซีดๆ ดูดีขึ้นจากสมัยมอต้นมาก ร่างแห้งๆ เหมือนคนเป็นโรคดูมีน้ำมีนวล ...... อะไรว้ะ?  อีกไม่กี่ปีเรียนจบแล้ว เพิ่งโตเป็นหนุ่ม
                ฮยอกแจมันตัวเล็ก โดนแกล้งบ่อยตั้งแต่เด็กๆ  ภาระก็มักจะมาตกอยู่ที่ดงเฮ บอดี้การ์ดสุดหล่อพ่อรวยขี้เก๊ก มักจะออกไปเอาเรื่องให้เพื่อนรักแทนเสมอๆ  โดยมีคิบอมห้อยไปด้วย .. แต่ไอ้เตี้ยก็มักจะหาว่าเขาเสือกตลอด ฮยอกแจแม่งลำเอียงว่ะ เขาก็พอมีฝีมือฝีตีนอยู่บ้าง ขอโชว์พาวฯ หน่อยจะเป็นไรไป?
                อยู่ด้วยกันทุกวันๆ  แต่คำทักทายของฮยอกแจที่ใช้กับเขาก็มักจะเป็น ว่าไงไอ้เหี้ยและคำขอบคุณสำหรับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เขาทำเผื่อก็มักจะเป็น ทีหลังไม่ต้องเสือก.. ไม่รู้เคยไปเหยียบหางพ่อมันตอนไหนหรือเปล่า แม่งถึงได้เกลียดขี้หน้ากันขนาดนี้ เฮ้ออ ...
                แต่ที่บอกว่าเกลียดๆ อ่ะ  แล้วเมื่อวานซืนหมาตัวไหนมันกระโจนกอดเขาตอนไฟดับวะ?
                หรือมันจะญาติดีด้วยตอนที่อะดรีนาลีนหลั่งเท่านั้น?  .... โรคจิตแล้วสัส
               







                แสงจากดวงอาทิตย์ลอดผ่านผนังด้านหนึ่งที่เป็นกระจกทั้งหมดเข้ามาทันทีที่ม่านถูกเปิดออก คนบนเตียงถึงกับหยีตาทันที มือเล็กปิดหน้าตัวเองไว้ป้องกันแสงแดดแยงตา
                ไอ้เหี้ยยยย ปิดเลยนะมึง!” นั่นไง .. ตื่นมาก็เป็นต้องด่ากันทักทาย
                เที่ยงครึ่งแล้วเว้ย! ตื่นมาแดกข้าวก่อน
                คิบอม กูจะนอนร่างเล็กพลิกตัวไปอีกทางเพื่อหลบสิ่งรบกวนการนอน นั่นก็คือเสียงของเพื่อนรักและแสงแดดเหี้ยๆ ในตอนเที่ยงแบบนี้
                กูไม่ให้นอน ลุกขึ้นมาเร็วๆ เลย .. ร่างสูงปีนขึ้นไปยืนบนเตียงนุ่มที่ฮยอกแจนอนอยู่ เตะขาอ่อนของคนตัวเล็กเบาๆ เป็นมาตรการปลุกขั้นที่สอง
                ...
            “ไม่ตื่นกูปล้ำนะ
            “...
            “เห้ยย ไม่ได้ยินรึไงว้ะ กูบอกว่าไม่ตื่นกูจะปล้ำมึงนะ!!” คิบอมก้มลงแหกปากใส่หูของอีกคนดังลั่น ... แต่ก็ดูจะไร้ประโยชน์ เปลือกตาบางไม่มีทีท่าจะเปิดขึ้นเลยแม่แต่น้อย
                ...
            “เฮ้ออ ..ร่างสูงถอนหายใจออกมายาวๆ ก่อนจะนั่งลงบนเตียง มือกว้างเริ่มไต่ไปมาบนช่วงเอวคอด สองนิ้วจิ้มๆ บนหน้าท้องแบนราบ คิบอมหลบตาไปทางอื่น พยายามไม่มองร่างกายท่อนบนที่เปลือยเปล่าของเพื่อนตัวเล็ก .. นี่แหละมั้ง ที่เรียกว่าปล้ำ
                ไอ้เหี้ยคิบอม หยุดดดดด! ฮ่าๆๆๆฮยอกแจสะดุ้งขึ้นทันที ร่างทั้งร่างเดิ้นพล่านไปมา หัวเราะร่าออกมาเสียงดัง มันจั๊กจี้ ฮ่าๆๆๆๆๆ
            “หึหึ กูเตือนมึงแล้วนะไอ่เตี้ยคิบอมขึ้นคร่อมร่างของเพื่อนรัก กระหน่ำจิ้มไปทั่วตัวของอีกฝ่ายอย่างสนุกสนาน โดยที่ร่างเล็กก็หัวเราะลั่นพลางพยายามขัดขืนเช่นกัน
                หยุดๆๆ ฮ่าๆๆ  กูตื่นแล้วๆ!!” คิบอมหยุดมือไว้ก่อนอีกคนจะขากรรไกรค้าง แต่ก็คิดผิดอย่างมหันต์เมื่อโดนหมาลอบกัดมันฟาดหมอนใส่กบาลอย่างแรง
                เห้ยยยย!”
            “สมน้ำหน้า! ฮ่าๆๆๆฮยอกแจอาศัยตอนที่คิบอมเสียหลักล้มนอนคว่ำลงไปขึ้นไปนั่งทับบนหลังกว้างทันที มือนึงรวบสองแขนของคนโชคร้ายพ่ายไว้ข้างหลัง ก่อนจะกระหน่ำหมอนลงไปไม่ยั้งมือ
                เห้ยยย พอๆๆคิบอมไม่สามารถยันตัวขึ้นมาแก้แค้นได้เลย เพราะมีหมาบางตัวมันนั่งทับอยู่ ได้แต่ร้องบอกให้หยุด .. แต่ก็เท่านั้น ไอ้ห่านี้เคยฟังเขาบ้างที่ไหนล่ะ?
                เมื่อกี้กูบอกให้หยุดมึงหยุดมั้ย?”
            “ก็ไม่ดะ .. เห้ย! จิ้งจก!” คิบอมทำท่าจะเถียง แต่จู่ๆ ก็ตะโกนขึ้น นั่นทำให้ฮยอกแจหยุดการฆาตรกรรมเขาทันที ก่อนจะหันขึ้นไปมองเพดาน
                เห้ยย ไหนๆ ? ... ไอ่เหี้ยยยย! ปล่อยกูเลยนะ!!” นั่นไง .. อย่างงี้เค้าเรียกแพ้ภัยตัวเอง คิบอมดิ้นจนหลุดจากพันธนาการหลวมๆ นั่นก่อนจะเป็นฝ่ายพลิกคนตัวเล็กให้ลงไปนอนหงายยู่บนเตียง แล้วจัดการรวบข้อมือบางทั้งสองขึ้นไว้เหนือหัว
                จิ้งจกโดนทับ แบนแต๊ดแต๋
            “จิ้งจกพ่อมึงสิ! ปล่อยกูเลยนะฮยอกแจก่นด่าคนตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัวอะไร ทั้งๆ ที่ตอนนี้คิบอมถือไพ่เหนือกว่าตนแล้วด้วยซ้ำ .. ก็แม่งเล่นสกปรกอ่ะ ตัวเบ้อเริ่มเทิ่ม คร่อมมาทีนี่ไร้ทางออกเลย
                แล้วเมื่อกี้กูบอกให้ปล่อย มึงปล่อยกูมั้ย?” คิบอมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ก่อนรอยยิ้มกวนๆ ตามแบบฉบับจะปรากฎขึ้นที่มุมปากด้ายซ้าย ปะโยคนี้คุ้นๆ มั้ย?
                ก้อปกู!!” ฮยอกแจตวาดใส่ไปก่อนจะแลบลิ้นออกมาซะยาวแทนคำด่าทอ แต่ก็ต้องรีบหดเข้าไปทันทีที่คิบอมยื่นหน้าเข้ามาทำท่ากัด(?) หากแต่ความเร็วของร่างบางรึจะสู้อีกคนได้
                ไอเอี้ยย อ่อยอู!!” ฮยอกแจไม่กล้าขยับลิ้นมากนัก กลัวมันจะขาดเอา -  -“
            “ฮ่าๆๆๆคิบอมหัวเราะร่าออกมาทันทีที่ปล่อยลิ้นคนข่างล่างให้เป็นอิสระ
                มากัดกูทำไม!”
            “กูหมั่นไส้ ... โอ้ย! ไอ้เหี้ย ปล่อย!!” ร่างสูงถึงกับแหกปากขึ้นมาดังลั่นเมื่อจู่ๆ ฟันคมซี่เล็กก็จัดการงับจมูกเขาไว้แน่น ฮยอกแจเอียงใบหน้าเพื่อจะกัดตามด้านขวาง แม้มือและตีนจะใช้ไม่ได้ แต่คนอย่างฮยอกแจมีรึจะเป็นฝ่ายยอม
                กูเจ็บบบบ ปล่อยกูนะฮยอกแจ!” มองดวงตาที่ฉายแววสะใจนั่นก่อนด้วยความเจ็บใจ อันที่จริงปากของเขาก็ยังว่าง .. แถมยังจ่ออยู่ที่คางเล็กๆ นั่นเสียพอดิบพอดี เพราะงั้น ......
                โอ้ยยยย!” ฮยอกแจละปากออกมาทันทีที่คางมนโดนของมีคมงับเข้าให้จนเป็นรอยฟัน คิบอมหัวเราะเยาะอย่างสะใจในผลงานของตัวเอง ก่อนจะยื่นหน้าตามไปโขกหน้าผากของอีกฝ่ายเบาๆ
                สมน้ำหน้าคิบอมเอ่ยออกมาลอยๆ ก่อนจะยกยิ้มให้หน้าตาบูดบึ้งของเพื่อนรัก คิดดูแล้วกัน แค่การปลุกตอนเช้ายังยุ่งยากจนาดนี้ ไม่ต้องพูดถึงว่าตลอดทั้งวันจะมีเรื่องให้คิบอมเหนื่อยขนาดไหน .. แต่เหมือนจะมีอะไรไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นแถวนี้นะ
                ใบหน้าของทั้งคู่ห่างกันเพียงสองเซ็นต์ครึ่ง!!
                คิบอมจำไม่ได้ว่าปล่อยมือที่รวบข้อมือบางไปตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แต่ว่าสองมือเล็กๆ นั่นก็ยังคงอยู่ที่เดิม เหมือนจะลืมไปเหมือนกันว่าโดนปล่อยแล้ว จากใบหน้าไม่พอใจเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นโหมดนิ่งเฉย หากแต่แววตากลับสั่นไหวระริก คิบอมจ้องเข้าไปในนั้นราวกับกำลังหาคำตอบที่คาอยู่ในตอนนี้
                ใบหน้าหล่อคมคายเอียงปรับองศาที่พอเหมือนก่อนจะค่อยๆ ก้มหน้าลงไป .. มือกว้างจับเข้าที่เอวคอดๆ ราวกับผู้หญิงตั้งแต่เมื่อไหร่คิบอมก็จำไม่ได้ รู้แค่ตอนนี้มันเริ่มลูบไล้ไปมา เหมือนติดใจในความนุ่มลื่นของผิวกายที่อ่อนนุ่มเหมือนเด็กก็เป็นได้
                จนกระทั่งจมูกโด่งเป็นสันแตะโดนกับจมูกเล็กของอีกคน ฮยอกแจไม่มีท่าทีขัดขืน นิ่งไปราวกับตกอยู่ในมนต์สะกด ปล่อยให้คิลอมทำอะไรต่อมิอะไรที่ไม่ถูกไม่ควร .. หากแต่ว่า ..
                ใกล้ไปแล้วคิบอม สติสตังค์ก็เริ่มกลับมา เมื่อคิดถึงอะไรบางอย่าง
                ร่างสูงที่เพิ่งจะรูสึกตัวเงยหน้าขึ้นทันที ปากกำลังทำท่าจะขยับหากแต่กลับไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมา อยากจพูดอะไรสักอย่างแต่ไม่รู้จพูดอะไรออกไป ฮยอกแจก็เช่นกัน ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ
                มือด้วย คิบอมละมืออกจากเอวของอีกคนทันที นึกตกใจที่เผลอตัวไปได้มากขนาดนี้ อยากจะพูดแก้ตัวอะไรสักอย่าง แต่จะให้พูดอะไร?
                ขอโทษ
                ฮยอกแจไม่พูดอะไรต่อ กลับจ้องหน้าคนข้างบนนิ่ง แววตารี่เล็กลงราวกับกำลังพิจาณาอะไรสักอย่าง จนคิบอมถึงกับต้องเสน้าไม่ทางอื่น กลัวคนตัวบางจะจับพิรุธได้
                ไอ้เหี้ย แกล้งกูแต่เช้าเลยนะ หากแต่จู่ๆ ก็โดนมือเล็กฟาดเข้าที่แก้มจนหน้าหันกลับมาที่เดิม แล้วสิ่งที่เจอก็ทำเอาร่างสูงยิ้มออกมาด้วยความโล่งอก .. ฮยอกแจยิ้มกว้างออกมาให้เขา
                ก็ดูเมื่อคืนดิ่ กูต้องแบกมึงขึ้นหอมาเนี่ย หนักคิบอมยันตัวขึ้น หลังจากอยู่ในท่าล่อแหลมอยู่นาน เอาหมอนข้างฟาดลำตัวบางๆ นั่นเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้
                แล้วก็ปล่อยกูนอนตัวเหม็นอยู่ทั้งคืน?”
                เออ พ่อมึงไม่อยู่ กูไม่บริการอาบน้ำตัดขนมึงขนาดนั้นหรอกนะ
                รีบพูดถึงเขาคนนั้นขึ้นมาก่อนที่จะได้ยินจากปากของฮยอกแจ .. คิบอมรับไม่ได้จริงๆ ที่ต้องได้ยินแม่งเรียกหาดงเฮ หลีกเลี่ยงมาโดยตลอดที่จะพบเจอกับคำถามว่า ดงเฮล่ะ?’
                แล้งน้ำใจ กูเกลียดมึงจังคิบอม พูดขึ้นลอยๆ เหมือนเป็นคำปกติที่ใช้พูดได้ไม่อายปาก ก่อนจะลุกขึ้นยืน ถอดกางเกงขาเดฟสีดำที่คนไม่เคารพกฎกติกาอย่างพวกเขามักจะใส่กันไปเรียน โดยไม่สนใจอีกคนที่อยู่ในห้อง เหลือเพียงบ็อกเซอร์สีฟ้าอ่อนสั้นๆ ตัวเดียว  ..... อายทำเหี้ยไรล่ะ ถอดกันต่อหน้าต่อตาแบบนี้ออกจะบ่อย
                มึงก็เงี้ยอ่ะ ซักวันไม่มีกูจะเสียใจคิบอมเถียงกลับไปก่อนจะแลบลิ้นออกมาเป็นของแถม
            “กูรอคอยวันนั้นมาถึงเลยล่ะครับฮยอกแจหันมาทำหน้าสะอิดสะเอียนใส่ หยิบผ้าขนหนู ก่อนจะเดินเข้าองน้ำไป แต่ก็มิวายหันกลับมาหาเพื่อนรัก มึงงงง .. มาอาบน้ำเป็นเพื่อนกูเลย
                กูจะตายกับความโง่ของมึงแล้วนะฮยอกแจ โตเป็นควายแล้วยังเปิดขวดสบู่ไม่ออก
                เรื่องของกูน่า ร่างบางเดินไปฉุดคนตัวโตกว่าให้เดินตามกันเข้ามาในห้องน้ำ คิบอมปลดเสื้อผ้าออกจนเหลือเท่าเทียมกันกับอีกคน ก่อนจะเดินตามเข้าไป
                ร่างบางหย่อนตัวลงในอ่างที่บรรจุน้ำอุ่นๆ อยู่เต็ม ตามด้วยคนตัวสูง .. ทั้งสองนั่งอยู่ในท่าเดิมที่ใช้เวลาอาบน้ำด้วยกัน หลังต่างขนาดทั้งสองพิงกันไว้ ชันเข่าขึ้น เพราะลำพังอ่างอาบน้ำเล็กๆ นี้คงจะยืดขาเต็มที่สองคนไม่ได้ .. ฮยอกแจมักจะอยู่ด้านที่มีก๊อกน้ำเสมอ เป็นแบบนี้ทุกครั้ง
                สบายว่ะ ไม่แต่แช่น้ำมานานแค่ไหนแล้วว้ะคิบอมถามออกมาทำลายความเงียบ
                นาน .. ถ้าไม่รวมที่ไปเล่นน้ำบ้านไอ้ดงเฮนะ
                ห่าเอ้ย กูยังไม่คิดบัญชีนะมึง ขังกูไว้ในห้องน้ำทั้งคืน
                ลืมๆ ไปเหอะ กูไม่ได้คิดคนเดียวซะหน่อย
                จบคำพูดของเพื่อนรัก คิบอมก็ต้องตกใจเล็กๆ เมื่อจู่ๆ หัวกลมๆ ก็ถูกปล่อยมาพิงบ่ากว้างของเขา ไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองคนที่พิงหลังอยู่ ไม่อยากเห็นอะไรทั้งนั้น .. แค่นี้ก็ดีใจ ที่อย่างน้อยเขาก็ได้รองรับความคิดที่อยู่ในสมอง สมองที่อยู่ในกบาลของแม่งไว้บนบ่า
                พูดง่ายนะสัส คิบอมพิงหัวของตัวเองลงบนบ่าเล็กๆ นั่นเช่นกัน นี่หัวเขาใหญ่เกินไปหรือไอ้ห่านี่ตัวเล็กว้ะ? ...  หนาวมั้ยฮยอกแจ
                ไม่ .. ค่อย สายตาคมของคนตัวใหญ่กว่าเหล่องไปยังใบหน้าของคนข้างหลังที่อยู่ใกล้ๆ กัน และก็พบว่าเปลือกตาบางๆ ทั้งคู่ปิดสนิท
                ในห้องน้ำมึงยังจะหลับหรอ” .. จิกไปแค่นั้นแหละ ลืมตาขึ้นมาด่ากันทันที
                เรื่องของกู ไอห่าแก้ม ร่างบอบบางด่าออกไปเสียงแข็ง ก่อนจะกระชับอ้อมแขของตัวเองที่กอดเข่าอยู่ให้แน่นยิ่งขึ้น อาจเพราะน้ำที่อณหภูมิลดลงเรื่อยๆ มึง ..
                อะไร?”
                กูตัวใหญ่ขึ้นบ้างป้ะว้ะ?” จบคำถามของร่างเล็ก คิบอมถึงกับหลุดขำออกมาเบาๆ ทันที จนโดนอีกคนโขกหัวเข้าให้ทีนึงด้วยความไม่พอใจ
                เอาจริงๆ หรือปลอบใจล่ะ
                ความจริง
                ไม่ทำไมแม่งชอบถามจังว้ะ? มันอยากตัวโตๆ รึไง ..
                เฮ้ออ~” ถอนหายใจออกมายาวๆ ให้กับคำตอบที่ได้รับ
                มึงอยากตัวเท่ากูหรอ?”
                ก็แค่ให้มันดูเป็นผู้ชายหน่อย
                ทำไมว้ะ มีปัญหาอะไรนักหนา
                พูดจบ คิบอมก็แทบจะหงายหลังลงไปเมื่ออยู่ดีๆ คนที่พิงหลังอยู่ก็เลื่อนตัวออก ร่างสูงพลิกตัวกลับมา เปลี่ยนท่าแช่ตามอีกคนตามสูตร .. ไม่มีอะไรมาก ก็แค่พิงอีกด้านของอ่าง ใช้ขาดันกันไว้เพื่อแบ่งอาณาเขตให้ชัดเจน
                มองหน้ากูดิ๊ ฮยอกแจใช้มือควักน้ำขึ้นลูบหน้า ก่อนจะจ้องหน้าคิบอมด้วยสีหน้าจริงจังในคำถามมาก กู .. เหมือนผู้หญิงมากไหมว้ะ?”
                แหม ถามมาได้นะไอห่า กูออยาจะบอกว่ามึงน่ารักกว่าดาวคณะกูซะอีก แต่เดี๋ยวจะได้ใจไป ถามอะไรไปไม่เคยดูตัวเองเลย กระจกในห้องน้ำบานเบ้อเริ่ม ส่องไปสิว้ะ
                ก็ .. เหมือน เหมือนมาก
                ทำไงให้ไม่เหมือนว้ะ      
            “ตายแล้วเกิดใหม่
                เหี้ยนี่ เดี๋ยวกูกดหัวจมน้ำตาย
                กูแค่พูดความจริง ฮ่าๆๆๆ .... มึงไม่ต้องไปคิดมากหรอก มีขี้ข้าหน้าตาดีอย่างไอ้ดงเฮอยู่ใกล้ตัวทั้งคน ไม่ต้องกลัวโดนฉุดไปปล้ำหรอกน่า คิดมาก
                ก็ .. ถ้าวันนึงแม่งไม่อยู่ล่ะว้ะ?”
                เหี้ย! มึงพูดอะไรไม่เห็นหัวกูเลยนะฮยอกแจ กูนั่งอยู่ตรงนี้ทั้งคน เคยคิดจะสนใจกูบ้างมั้ย?
                มันต้องอยู่ดิ่ ไม่ว่ายังไงมันก็ต้องอยู่กับมึงไปจนตาย
                แต่ถ้ามึงสังเกตดีๆ  ตอนนี้คนที่อยู่ข้างๆ มึงคือกู .. กู คิบอม
                มึงรู้ได้ไง?”
                ก็มัน .. .. รักมึงซะขนาดนั้น ต่อให้แลกด้วยชีวิต แม่งก็ไม่ยอมให้มึงเป็นอะไรไปหรอก
                คนเราไม่ได้เป็นอมตะนะเว้ย
                กลัวเหี้ยอะไรนักหนา ..” .. ไม่มีมัน ก็มีกูนี่ไงไอ้สัสเอ้ย!!
                กูคงคิดมากไปเอง คิดอะไรไม่เข้าเรื่อง กูเห็นหน้ามึงเลยนึกถึงเรื่องไม่ดีๆ เลยเห็นมั้ยไอ้เหี้ย เพราะมึงคนเดียวเลยใช่สิ๊! กูมันเชี่ย อะไรดีเท่าฮีโร่มึงหรอก “.. คิบอม
                ไร?”
                กู อยากนอน
                พ่อมึงงง ..
                พูดจริง เร็วๆ เลยกูง่วง ดวงตาคู่เล็กเริ่มปรือลง เกือบจะปิดเสียให้ได้ คิบอมส่ายหน้าอย่างอ่อนใจน้อยๆ ก่อนจะดึงตัวของเพื่อนมาทับร่างของตัวเอง เห็นกูเป็นที่นอนหรืออะไรก็ไม่อาจทราบได้ แต่แม่งนอนท่านี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้วล่ะ
                ถ้ามึงอ้วนกว่านี้อีกนิด กูจะไม่ให้มึงนอนแบบนี้แล้วนะเหมือนคิบอมจะบอกช้าไป ฮยอกแจหลับไปแล้ว หัวทุยๆ พิงอกกว้างของเขาไว้ มือสองข้างกอดตัวเองไว้สงสัยจะหนาว .. จนคิบอมอดไม่ได้ที่จะ ...
                โอบกอดร่างบางไว้แน่นๆ  ส่องมอบความอบอุ่นผ่านอ้อมกอด
                แม้จะรู้สึกลำบากใจ เวลาเนื้อแนบเนื้อแบบนี้ .. แต่โอกาสแบบนี้ไม่ใช่มีทุกวัน คงเป็นไปได้เวลาที่ดงเฮไม่อยู่เท่านั้น นึกแล้วสมเพชว่ะ คอยเป็นหมานั่งรอของเหลือ
                น้ำในอ่างเย็นลงเรื่อยๆ  แต่ก็ไม่ได้ทำให้ไออุ่นที่มีปะปนอยู่เต็มอ่างหดหายไปเลย .. อย่าเพิ่งตื่นมานะฮยอกแจ นอนแช่น้ำให้ตัวเปื่อยไปเลยก็ได้
                แต่ขอให้กูได้กอดมึงไว้แน่นๆ แบบนี้ .. สักพักก็พอ








                ดงเฮ .. นี่มันอะไร!” เสียงทุ้มใหญ่ฟัดูทรงอำนาจตวาดขึ้นดังลั่นห้องทำงาน หากแต่คนฟังก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาไม่พอใจอะไรแต่อย่างใด คนเป็นลูกชายยังคงยืนนิ่ง ไม่สทกสท้าน
                ผลสอบไง ..... ครับ
                ฉันรู้ว่าผลสอบ แต่แกช่วยแหกตาดูหน่อยเถอะว่ามันมี F อยู่กี่ตัว!!”
                จบปริญญาเอกมาจากเมืองนอกเมืองนา ผมนึกว่าพ่อจะนับถูก
            “ดงเฮ!!”
                ครับ?” ท่าทางกวนส้นตีนไม่ได้จางหายไปจากบุคลิกของชายหนุ่มร่างสูง แม้แต่กับพ่อผู้ให้กำเนิด .. แต่เดี๋ยวก่อน ควรเรียกว่าพ่อดีไหมนะ?       
            คนมีศักดิ์เป็นพ่อถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจพลางโยนผลการเรียนของลูกชายลงบนโต๊ะ มือใหญ่กุมหน้าผากตัวเอง ก่อนอีกมือหนึ่งจะยกขึ้นทำท่าไล่ๆ คนตรงหน้า
                ออกไปให้พ้นหน้าฉัน” ... หึ รอเวลานี้อยู่นาน
                ขายาวก้าวออกมาจากห้องทำงานของชายผู้เป็นพ่อ ก่อนจะเดินเข้าองตัวเอง เหวี่ยงปิดประตูบานใหญ่ซะเสียดัง .. ดงเฮกระโดดลงบนเตียงใหญ่ ฟุบหน้าลงกับหมอนแน่น
                เลวร้าย ครอบครัวของเขามันเลวร้าย .. ไม่อยากจะอาศัยอยู่หรอกในบ้านหลังเท่าควายแบบนี้ อยู่ไปไม่มีความสุข เมื่อไหร่จะได้ย้ายออกไปอยู่กับพวกไอ้คิบอมสักทีวะ!
            ค้างอยู่ในท่านั้นอยู่นาน ก่อนจะเงยหน้าลุกขึ้นนั่ง คว้าโทรศัพท์ที่หัวเตียงขึ้นมากดหาเบอร์ที่บันทึกไว้ แล้วยกข้นมาแนบหูรอฟังสัญญาณ ...

                ฮยอกแจ ตื่นๆ คิบอมที่ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงโทรศัพท์มือถือของตนที่ดังขึ้นนอกห้องน้ำ ค่อยๆ เรียกอีกคนที่นอนอยู่บนร่างกายของตัวเองให้ตื่นขึ้น
                อื้มมม .. รีบไปไหน เริ่มทนไม่ได้ที่ทำกับเขาเหมือนเป็นแค่หมอนข้าง นี่คงคิดว่านอนอยู่บนเตียงล่ะมั้งถึงได้กอดเขาแน่นขนาดนี้ .... แต่ทำเป็นพูดไป เขาเองก็รัดร่างเล็กซะแน่นเช่นกัน
                 ตื่นๆๆ  นอนนานไปแล้วมึงคิบอมเขย่าไหล่บางเบาๆ เพื่อให้รู้สึกตัว .. จนฮยอกแจงัวเงียตื่นขึ้นมา แม้น้ำในอ่างจะถูกระบายออกไปหมดแล้ว แต่ร่างกายก็ยังเปียกอยู่ดี
                อีกและ มึงนี่ชอบขัดความสุขกูจังนะไอ้ห่าพูดพลางยันตัวลุกขึ้นก้าวออกไปจากอ่างอาบน้ำ คิบอมหันหน้าหนีไปทางอื่นทันทีเมื่อเพื่อนตัวเล็กยืนเต็มความสูง บ็อกฯ แม่งสีอ่อนไปไหนว้ะ กูเห็นเข้าไปถึงกางเกงในมึงแล้วนะ แหมๆ มองใหญ่เลยนะ กูหุ่นดีล่ะสิ
                พ่อมึง~ ดีของมึงนี่คือขี้ก้างอย่างงี้หรอว้ะร่างสูงลุกขึ้นยืนบ้าง อวดหุ่นกำยำนิดๆ ที่ผู้ชายสมควรจะมีให้ไอ้ตัวผอมได้เห็น ต้องอย่างกูนี่ .. หุ่นดีเว้ย
                หลงตัวเอง พูดจบก็หยิบผ้าเช็ดตัวมาห่อหุ้มร่างกายท่อนล่างไว้ก่อนจะดึงบ็อกเซอร์ตัวเล็กและกางเกงชั้นในออกโยนใส่ตะกร้าผ้าใช้แล้ว แล้วเดินสะบัดตูดออกจากห้องน้ำไป
                “.. มึงนี่นะร่างสูงยกยิ้มน้อยๆ ก่อนจะส่ายหน้าออกาเบาๆ  แล้วทำแบบเดียวกันที่ฮยอกแจทำไปเมื่อครู่ เดินออกจากห้องน้ำตามเพื่อนรักไป
                เออๆ มันออกมาแล้ว คุยกับมันแล้วกัน ฮยอกแจที่อยู่ในชุดใส่สบาย เสื้อยืดคอกลมกับกางเกงขาสั้นที่แถมฟรีจากกระเป๋า ยื่นโทรศัพท์มือถือของคิบอมให้เจ้าของของมัน “.. ดงเฮ
                ว่าไงจ้ะเพื่อน?” รับมาก่อนจะยกขึ้นแนบหู กรอกคำทักทายกวนๆ ของตนลงไป
                อยู่หอป่ะว้ะ?”
                อยู่ ขี้เกียจออกไปไหนแล้ว ลูกรักมึงหลับทั้งวัน ... มาดิ่ร่างสูงพูดไปพลางเดินไปคุ้ยๆ หาเสื้อผ้าในตะกร้า เก็บมาทีไรก็ไม่เคยคิดจะแขวนใส่ตู้หรอก
                ไม่ต้องชวนหรอก กูวนหาที่จอดรถแล้วแหละ
                ทะเลาะกับพ่ออีกใช่มั้ยล่ะ?”
                อืม .. กูล่ะอยากให้เค้ามาเห็นผลสอบมึงกับไอ้ห่าเตี้ยจริงๆ เลย แล้วจะรู้ว่ากูน่ะเรียนเก่งมาก
                ดูถูกกันเกินไปแล้ว .. เห้ยๆ แค่นี้ก่อน กูจะใส่กางเกงพูดจบก็ปิดฝาพับโทรศัพท์ไปทันที หันไปวางที่หัวเตียงของตัวเองที่มีหมาบางตัวมันนอนแดกขนมอยู่ ได้ข่าวว่ากูซื้อมา ยังไม่ได้แกะ
                เดี๋ยวมึงก็ต้องแกะ อย่างกให้มาก ก่อนที่กูจะเกลียดมึงไปมากกว่านี้
                คิบอมจัดแจงสวมกางเกงบอลที่ชอบใส่ ก่อนจะเดินไปที่ประตูห้องเมื่อได้ยินเสียงเคาะ ... ดงเฮหิ้วถุงขนมพรุงพรัง ไม่ต้องเอ่ยขอแรงคนมาช่วยถือ ไอ้คนบนเตียงเมื่อกี้มันวิ่งมาคว้าไปเปิบทันที
                ตะกละคนซื้อมาพูดขึ้นลอยๆ ขณะเดินเข้ามาในห้อง นั่งลงบนเตียงเดียวกับคนที่เพิ่งโดนตัวเองด่าไป ขอให้มึงอ้วนๆๆๆ จนพุงแตกตาย
                แม่งเพิ่งตื่นอ่ะมึงเชื่อป่ะ?” คิบอมเดินไปเปิดตู้เย็น หยิบกระป๋องสีเขียวๆ ออกมาสามสี่กระป๋อง ก่อนจะโยนลงบนเตียงที่ไอ้ตัวกินเก่งทำธุระอยู่
                ห่า .. บ่ายสองกว่าแล้วนะมึง ดงเฮพูดไปก่อนจะกลิ้งไปที่เตียงของฮยอกแจที่ว่างอยู่ ก่อนจะทอดตัวนอนยาว กระป๋องเบียร์สีเขียวถูกโยนลงมาข้างตัวโดยเจ้าของเตียง ร่างโปร่งจัดการเปิดออกยกกระดกทันที
                พวกมึงนี่จะอะไรกับกูนักหนาว้ะ? กูเป็นลูกมึงตั้งแต่เมื่อไหร่
                ไม่รู้ คิบอมจัดแจงดันเตียงของตนที่ถูกร่างบางยึดครองให้เข้าไปชิดกับอีกเตียงที่ดงเฮนอนอยู่ ร้แค่เขยิบไป กูจะนอนแดกเบียร์
            “พวกมึงกะจะนอนทั้งวันเลยใช่มั้ย
            “กูก็นอนแบบนี้อยู่ทะ .... เฮ้ยๆๆ! กี่โมงแล้วว้ะเนี่ยๆๆ ?” ฮยอกแจตอบไปโดยไม่ได้หันไปมอง ก่อนจะตาลีตาเหลือก ลนลานหันซ้ายหันขวาหานาฬิกาทันที
                บ่ายสอง .. จะครึ่งแล้วคิบอมตอบเรียบๆ ก่อนจะยื่นรีโมตทีวีซึ่งอยู่ที่ปลายเตียงให้คนอยากรู้เวลา พอได้ของที่อยากได้ร่างบางก็จัดแจงกดไปที่ช่องที่ต้องการทันที
                ตกใจหมด นึกว่าดูไม่ทันซะแล้ว
            “หนังเรื่องไรของมึงร่างสูงของคิบอมยันตัวลุกขึ้นมานั่งดูหนังที่ฮยอกแจเพิ่งเปลี่ยนช่องมาดู กระดกเบียร์เข้าปาก ก่อนจะถามออกมาเสียงเรียบ
                กูก็จำไม่ได้ว่ะ ชื่อแม่งเป็นภาษาอังกฤษ รู้สึกจะ .. .. จะอะไรว้ะ? จำได้ว่าแม่งเคยจดไปท่องหลายรอบแล้วนะ พอเจอภาษาไฮโซเข้าหน่อยห่านี่ก็โง่จับใจ
            “A friend’s Confession แต่จู่ๆ  ร่างโปร่งของเพื่อนรักอีกคนก็ลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะพูดประโยคที่คนตัวเล็กกำลังนึกอยู่ออกมา คนทั้งคู่ที่เหลือหันไปมองตามเสียงของคนฉลาดทันที
                ......
                A friend’s Confession .. คำสารภาพจากเพื่อน
                ......
                คิบอมจ้องเพื่อนรักผ่านหน้าซีดๆ ของอีกคนไปนิ่ง แววตาของดงเฮจับจ้องไปทีจอสี่เหลี่ยมของทีวีที่ปลายเตียง แสร้งทำเหมือนว่ากำลังสนใจเนื้อเรื่องนั่น .. หากแต่เขาก็สามารถจับความหมายที่ถ่ายทอดออกมาผ่านคำพูดสั้นๆ นั่นได้ คำสารภาพ .... จากเพื่อน
                เย้ดเข้! เก่งนี่สัสส แต่ทว่า .. เป้าหมายของดงเฮที่เฝ้าอยากให้รู้ความหมายของคำพูดเมื่อครู่มานานแสนนานกลับทำท่าราวกับมันไม่มีความหมาย ฮยอกแจผลักไหล่ของเพื่อนเบาๆ ขณะที่ยิ้มแซวๆ ออกมาพร้อมกับความชื่นชม นี่ๆ มึงดู .. นางเอกแม่งโง่ชิบหายอ่ะ ไอ้เหี้ยหล่อนี่ก็แอบชอบเค้ามาร้อยพันปีเสือกปอด ไม่กล้าบอกชอบเขา นี่ถ้าเป็นกูนะ .. บอกไปนานล้ะ
                ฮยอกแจยังคงสนใจกับตัวละครในโทรทัศน์ ไม่สนใจเพื่อนายทั้งด้านซ้ายและขวา ที่ต่างก็จ้องมาที่ตัวเองเป็นตาเดียว .. คนหนึ่งจ้องมองเขาด้วยความรู้สึกอึดอัด ความรู้สึกแบบนี้ยิ่งเก็บไว้ข้างในมีแต่จะทำร้ายหัวใจให้เจ็บช้ำ .. และอีกคนหนึ่ง กำลังจ้องมองร่างเล็กเช่นกัน และด้วยความรู้สึกที่เหมือนกับคนแรก หากแต่คิบอมยังมองเลยไปถึงเพื่อนรักอีกคนที่เติบโตมาด้วยกัน แค่เห็นสีหน้าและแววตาของเพื่อนในตอนนี้ ทำไมจะไม่รู้ว่ามันรู้สึกยังไง
                แล้วคิบอมล่ะ? ... มีใครไหมสักคนจะมาเข้าใจหัวอกของคนกลางอย่างคิมคิบอม
                มึงพูดจริงเหรอ? ถ้าเป็นมึง มึงจะบอกเค้าไปจริงๆ หรอฮยอกแจ?” ดงเฮถามออกมาอย่างเลื่อนลอย ไม่ต้องบอกก็ฟังออกว่าหัวใจดวงน้อยในร่างกายที่แข็งแกร่งนั้นกำลังบอบช้ำมากเพียงใด
                จริงดิ่ กูไม่โง่ปล่อยให้หมาคาบไปแดกหรอก ร่างบางเอ่ยออกมาโดยที่ไม่ได้ละสายตาออกมามองอีกสองคนเช่นเคย เหมือนจะกำลังสนุกสนานกับเหตุการณ์ภายในเรื่อง
                ดงเฮสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะถอนออกมายาวๆ ราวกับต้องการการปลดเปล่อยภาระที่คั่งค้างภายในใจ ก่อนจะล้มตัวลงนอนไปบนเตียงนุ่ม เปลือกตาทั้งคู่ปิดลงอย่างยากลำบาก ... เขาทำแบบนี้ทุกครั้งที่ความรู้สึกมันรุนแรงแบบนี้ ในใจก็นึกกลัวอยู่เหมือนกันว่า ....
                สักวัน ถ้าปิดตาลงแล้วมีน้ำใสๆ ไหลออกมาให้ฮยอกแจเห็น จะทำอย่างไร   

                นั่นคือเรื่องของดงเฮ .. ฟังดูแล้วเจ็บปวดไหม?
                แต่ถ้าเทียบกับเรื่องของคิบอม .. ผู้ที่ก็มีความรู้สึกในแบบเดียวกัน

                หมาคาบไปแดก ... งั้นหรือ?
               
                เมื่อไหร่จะหยุดทำร้ายกันทางอ้อมแบบนี้สักที? ... ในขณะที่หัวใจของฮยอกแจก็มีดงเฮเฝ้าคอยรองรับทุกหยดน้ำตาที่ไหลลงมาเวลารู้สึกไม่ดี และดงเฮก็ยังมีเขาที่สามารถจะบอกเล่าและปรึกษาปัญหาใหญ่หลวงที่กำลังเกิดขึ้นกับตัวเอง ....... แล้วเขาล่ะ? คิมคิบอมคนนี้ล่ะ ?
            ยังไม่กล้านึกถึงภาพวันนั้น วันที่เขาจะสามารถตัดสินใจด้วยความกล้าและบ้าบิ่นเพื่อบอกความจริงในใจของเขาให้ดงเฮรู้ ว่าเขาเองก็อยู่ในกรณีที่ไม่ได้ต่างกันเลย
                แต่รู้อะไรไหม? .. นั่นจะเป็นหนทางสุดท้ายที่คิบอมจะตัดสินใจทำ
                ดงเฮเป็นคนดีเกินไป เกินกว่าจะได้รับรู้ถึงความอัปยศอดสูที่แฝงอยู่ในความรู้สึกของเขา ดงเฮจะไม่ปล่อยให้เขาทุกข์ทรมาณ คร่ำครวญหาแต่สิ่งที่อยู่เหนือกว่าแบบนี้ แน่นอน
                ขอปล่อยให้หัวใจมันเจ็บปวดจนตายไปเอง จะได้ด้านช้าต่อความรู้สึกนึกคิดทุกอย่าง
               
            เวลาค่อยๆ ล่วงดำเนินไป จนท้องฟ้าเริ่มกลายเป็นสีหม่น .. คิบอมมองเพื่อนทั้งสองคนด้วยความรู้สึกที่ต่างกัน .. ฮยอกแจยังคงสนใจเพียงตัวละครในทีวีเท่านั้น บรรยากาศน่าอึดอัดชวนอ้วกเช่นนี้ ไม่อยากจะทนนั่งอยู่แล้ว .... คิบอมลุกขึ้นสวมเสื้อยืดใส่สบายลงไปลวกๆ ก่อนจะเดินไปที่หน้าประตู หยิบรองเท้าออกมาใส่
                ไปไหนว้ะ ดงเฮลืมตาขึ้นมาถามคนที่กำลังจะเปิดประตูออกไปโดยไม่บอกกล่าวเพื่อนฝูง
                ซื้ออะไรนิดหน่อย เดี๋ยวมา ร่างสูงเอ่ยบอกเพื่อนรักด้วยคำพูดธรรมดา หากแต่แววตาที่ส่งไปกลับแฝงไปด้วยความนัยต่างๆ นานาที่มีเพียงดงเฮเท่านั้นจะสามารถรับรู้ คิบอมตัดสินใจแล้วที่จะให้เพื่อนรักและคนที่ตัวเองรักมีความสุข ดงเฮเป็นคนดีที่สามารถจะไว้ใจให้ดูแลฮยอกแจได้ ถ้าเป็นดงเฮแล้ว เขาคงไม่ต้องห่วงอะไรอีก .... ห่วงก็เพียงแต่หัวใจของตัวเอง ว่ามันจะมอดไหม้ลงเมื่อใด
                แกรก ...
                เสียงกลอนประตูที่ล็อคอัตโนมัติเวลาที่ประตูปิดลงดังขึ้น คิบอมออกไปแล้ว เหลือเพียงร่างทั้งสองในห้อง .. ดงเฮรู้และเข้าใจดีในความหมายของคิบอมที่สื่อให้เขาเมื่อครู่ และก็รู้ว่าจู่ๆ มันก็ออกไปทำไม
                คิบอมต้องการให้เขาบอกรักฮยอกแจสักที
                ฮยอกแจ..ดงเฮค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นนั่งข้างๆ เพื่อนรักตัวบางที่กำลังจับจ้องอยู่ที่จอโทรทัศน์ เจ้าของชื่อหันมาตามเสียงเรียกก่อนจะเลิกคิ้วสูงเป็นเชิงถาม
                อะไร

            มึง .. ชอบคิบอมใช่ไหม
           
            “..”      !!
                ร่างบางถึงกับสะอึกเมื่อจู่ๆ ก็ได้รับคำถามที่ร้ายแรงจนยากเกินจะตอบ ฮยอกแจพยายามขยับปากอยากจะหาข้ออ้างเถียงกลับไป .. ยังไม่พร้อมจะเปิดเผยให้ใครล่วงรู้ความลับนี้ทั้งนั้น
            “ไม่ต้องปฏิเสธอะไร ท่าทางของมึงมันฟ้องมานานแล้ว
            “ท่าทางอะไร! มึงอย่ามาพูดจาไร้สาระนะดงเฮ อย่างกูเนี่ยนะ? กูเนี่ยนะจะชอบคิบอม!?” ร่างบางปฏิเสธขึ้นเสียงสูงอย่างมีพิรุธจนคนฟังส่ายหน้าด้วยความระอา
                ใช่ มึงชอบคิบอม
            “เข้าใจอะไรผิดแล้วสัส กูเกลียดแม่งจะตายมึงก็เห็น!”
            “..ดงเฮไม่ได้ตอบอะไรไปในทันที หากแต่กลับเสมองไปอีกทาง ความรู้สึกข้างในมันแน่นจนจะทะลุเสื้อออกมา การที่ฮยอกแจมีทำแบบนี้มันยิ่งฟ้องว่ามันน่ะชอบคิบอมจริงๆ  ไม่ใช่ว่าเขาคิดไปเอง
                “..”
                กูล่ะฮยอกแจ? กูรักมึง กูรักมึงนะ ..
            ร่างโปร่งหันหน้ามาเผชิญกับคนข้างๆ อีกครั้ง และก็พบว่าในแก้วตาใสของคนตรงหน้าเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาที่พร้อมจะร่วงลงมาได้ทุกเมื่อ
                นั่นคือสิ่งที่กูยังไม่รู้ ทำไมมึงต้องพยายามตัดใจจากคิบอมโดยการแสร้งทำเป็นเกลียดมันด้วยเหตุผลไร้สาระต่างๆ นานา ... กูไม่เข้าใจ มึงบอกกูเองว่าถ้ามึงเป็นพระเอกในหนังเรื่องนั้นมึงจะสารภาพไปเองมะ ..
            ไอ้เหี้ย!” ร่างเล็กตวาดลั่นออกมาทันทีพร้อมธารน้ำตาที่รินไหลลงอาบแก้ม เสียงสะอื้นอันเจ็บปวดดังระงมไปทั่วห้อง ร่างสูงรวบเพื่อนรักเข้ามาในอ้อมแขนอย่างรวดเร็ว ฮยอกแจหอบสะอื้นตัวโยน คนข้างๆ อย่างดงเฮมีหรือจะไม่ปวดใจเมื่อได้เห็นภาพแบบนี้ คนที่เขารักกำลังเจ็บปวด ..
                ..
            “เพราะมึง! เพราะมึงไงดงเฮ เพราะมึงยังเป็นเพื่อนกู!! ฮึก ..เสียงอู้อี้ลอดผ่านออกมาปนกับเสียงสะอื้นอย่างยากลำบาก หากแต่คนฟังก็ยังได้ยินชัดทุกคำพูด คิ้วหนาขมวดเข้าหากันทันทีที่ได้ยิน ไม่เข้าใจว่าฮยอกแจมันพูดอะไรออกมา ..
                กู .. ?”
            “ทำไมกูจะไม่รู้ ดงเฮ ทำไมกูจะไม่รู้ .. ฮึก .. มึงกำลังจะบอกรักกู
                ไอ้เหี้ย! รู้มากนักนะมึง ..
                มึง .... รู้ดงเฮมีท่าทีเลิ่กลักทันที ฮยอกแจรู้ได้ไง? รู้เรื่องสารเลวแบบนี้ได้ยังไง?
                รู้ .. รู้ทุกอย่าง .. กูมองออกว่ามึงชอบกู แล้วก็ดูออก .. ฮึกก .. ว่า  ว่าคิบอมก็ชอบมึง
                ร่างสูงดึงตัวคนพูดจางี่เง่าออกมาจากอ้อมกอดจากรวดเร็ว สีหน้าของฮยอกแจที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาไม่มีท่าทีว่าจะล้อเล่นเลยสักนิด .. พูดอะไรออกมา ไอ้ควาย
                ควายเหอะ .. คิบอมไม่มีทางจะ  ..
            “มึงแหละควาย!”
            “มึงแหละควาย!! ฮยอกแจ มึงแหละควาย!ดงเฮตวาดออกมาเสียงดัง เรื่องนี้เรื่องเดียวที่เขากล้าเถียงได้เต็มปากเต็มคำ แม้เขากับคิบอมจะดูสนิทกันมาก แต่ความเป็นเพื่อนมันหนาแน่นจนเบียดเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ออกไป แทนที่ด้วยความไว้วางใจแบบชนิดที่ว่าหาจากเพื่อนคนไหนไม่ได้อีกแล้ว
                ..
            “มึงจะรู้อะไรมากูไม่สน แม้จะมาจากปากของไอ้เหี้ยนั่นก็ตาม! กูไม่มีทางเชื่อมึงเรื่องนี้ คิบอมไม่มีทางชอบกู และกูก็ไม่มีวันจะชอบแม่งแบบนั้นเหมือนกัน มึงเข้าใจไหม!!” เสียงตวาดทำเอาฮยอกแจก้มหน้าหลบสายตาดุดัน ตัวที่บางอยู่แล้วดูลีบเล็กลงด้วยความกลัว กูขอโทษ
            ดงเฮรั้งร่างนั้นเข้ามากอดอย่างอ่อนโยนอีกครั้ง มันเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบเวลาได้ยินเรื่องอะไรที่ดูจะดูถูกความเป็นเพื่อนของเขามากเกินไป ดงเฮยอมไม่ได้ ..
                เพราะแบบนี้ ถึงได้รู้สึกรังเกียจตัวเองเหลือเกิน ที่รู้สึกแบบนั้นกับฮยอกแจ
                ขอโทษ ... แต่กูคิดว่ามันเป็นแบบนั้น
                มันไม่ใช่แบบนั้น .. คิบอมรักใครชอบใครกูเองก็ยังไม่เคยดูออกเหมือนกัน
            “ดงเฮ .. กู .. ฮึกก กูขอโทษนะ กูขอโทษที่รู้สึกแบบนั้นกับมึงไม่ได้ .. ฮืออ
            กูรักมันไปแล้ว รักไอ้คนที่ดูไม่จริงจังกับใครอย่างเหี้ยแม่งนั่นน่ะ พยายามแสดงออกไปหลายต่อหลายครั้ง แต่ท่าทีเฉยเมยต่อการกระทำที่ลึกซึ้งก็ดูจะเป็นคำตอบสำหรับสิ่งเหล่านั้น ... คิบอมดูจะสนใจความรู้สึกของดงเฮมากกว่า เวลาที่ดงเฮส่งสายตาโหยหาและต้องการมาทางเขา เขาก็มักจะเห็นว่าแววตาของคิบอมน่ะแฝงไปด้วยความเศร้าสร้อย สายตาของคิบอมที่คอยแต่จะเฝ้ามองดงเฮอยู่ตลอดเวลา
                ไม่เป็นไร กูเข้าใจ .. ฮยอกแจ
            “กูรักคิบอม .. แม้จะรู้ว่ามันไม่เคยคิดที่จะชายตามามองกูเลยแม้แต่น้อย
            “มึงอย่าร้องไห้สิ .. อย่าร้องไห้นะร่างโปร่งพูดไปขณะที่อ้อมแขนอบอุ่นก็เอาแต่กระชับคนในนั้นให้แน่นๆ  ... ฮยอกแจ ร้องไห้  หยุดร้องได้ไหม มึงช่วยหยุดร้องได้ไหม??
                กูกำลังจะตายนะฮยอกแจ น้ำตาของมึงน่ะ ยาพิษชัดๆ ...
                ดีใจที่อย่างน้อยก็ยังเห็นหัวกัน ฮยอกแจเรื่องที่จะรักษามิตรภาพของเขาทั้งสามไว้ และพยายามที่จะทิ้งความรู้สึกที่มีต่อคิบอมใน .. ในขณะที่เขายังคงดื้อดึง ฝืนจะรักต่อไปโดยไม่เห็นหัวใคร
                มึงน่ะ เลวที่สุดแล้วดงเฮ.
                กูแย่มากไหม ที่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นสายตาของมึงที่มันพยายามบอกกูอยู่ตลอดเวลาร่างบอกบางค่อยๆ ดันตัวออกจาแผ่นอกกว้างของเพื่อนรัก ใบหน้าหวานราวกับผู้หญิงจ้องมองไปที่อีกคนตรงหน้า .. จ้องเข้าไปในดวงตาเศร้าๆ ของดงเฮที่เขามักจะพยายามหลีกเลี่ยง
                ร่างสูงฝืนยิ้มออกมาบางๆ เป็นเชิงให้กำลังใจ ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปประทับริมฝีปากไว้บนหน้าผากบนอย่างแผ่วเบา และอ่อนโยน ... เลื่อนลงมาจูบเบาๆ ยังเปลือกตาบางที่ปิดไว้ ก่อนจะเลื่อนไปพรมซับน้ำตาที่เปราะเต็มแก้มขาวด้วยริมฝีปาก .. และด้วยความรัก
                กูรักมึง ฮยอกแจ


               





                แกรก ..
                มือหนาค่อยๆ ปิดประตูลงโดยที่ไม่ทำให้คนในข้างได้ยิน ถุงพลาสติกที่บรรจุขนมถูกปล่อยลงพื้นไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ .. พิงหลังกว้างของตัวเองไว้กับบานประตูนั่นเพราะเริ่มรู้สึกว่าร่างกายเริ่มจะไร้เรี่ยวแรง มือทั้งสองสั่นเทา ไม่รู้เพราะอะไร ไม่รู้เพราะอารมณ์ไหน ไม่รู้ .. ไม่รู้อะไรอีกแล้ว
                ในที่สุดขาแข้งก็หมดแรงจะหยัดยืนฝืนทำเข้มแข็ง แผ่นหลังรูดลงกับประตูบานใหญ่ลงไป จนทรุดนั่งอยู่กับพื้น เข่าทั้งคู่ชันขึ้นก่อนจะใช้แขนทั้งสองโอบกอดมันไว้ น้ำตาลูกผู้ชายที่ยากนักจะได้เห็นสักหยด บัดนี้กลับรินไหลลงมาอย่างไม่อายใคร เสียงสะอื้นดังก้องไปทั่วบริเวณทางเดินที่เงียบงัน สมองดูราวกับจะหยุดสั่งการไปแล้ว หลังจากได้ประมวลผลจากภาพที่ได้เห็น
                ฮึก ..
            ทั้งๆ ที่เป็นคนตัดสินใจให้เรื่องทั้งหมดมันเป็นแบบนี้ .. แต่กลับมานั่งร้องไห้เสียใจเป็นผู้หญิงเสียเอง ..... ใคร? ใครมันโง่กว่าเขาอีก
                ใครจะโง่เท่า คิมคิบอม
                อวดเก่งทำเป็นบอกตัวเองว่าทำใจได้ .. แล้วไอ้เหี้ยที่ไหนมันมาร้องไห้อยู่แบบนี้วะ

ร่างสูงฝืนยิ้มออกมาบางๆ เป็นเชิงให้กำลังใจ ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปประทับริมฝีปากไว้บนหน้าผากบนอย่างแผ่วเบา และอ่อนโยน ... เลื่อนลงมาจูบเบาๆ ยังเปลือกตาบางที่ปิดไว้ ก่อนจะเลื่อนไปพรมซับน้ำตาที่เปราะเต็มแก้มขาวด้วยริมฝีปาก .. และด้วยความรัก
                กูรักมึง ฮยอกแจ

                รู้ได้สักทีนะ ... ดงเฮรักมึงมาก
                แต่รู้ไหมเพื่อนรัก?  ... กูก็รักมึงมาก เหมือนกัน

ก๊อก ก๊อก ก๊อก ...
                เสียงข้อนิ้วมือกระทบไม้ดังขึ้นที่หน้าประตู ปลุกให้คนในห้องค่อยๆ งัวเงียตื่นขึ้นมา .. จังหวะนี้ไม่อยากตื่นเลย ร่างบอบบางในอ้อมกอดของเขายังคงหลับปุ๋ยไม่รู้เรื่องรู้ราว ใบหน้าขาวซีดนั่นซบลงกับแผงอกกว้างของเพื่อนรัก .... ที่เพิ่งบอกรักตัวเองไปเมื่อคืน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ... เหี้ย เคาะอะไรนักหนาแต่เช้ามืดวะ
                ดงเฮค่อยๆ ประคองร่างเล็กนอนลงบนที่นอนในท่าสบายตัว ก่อนจะลุกขึ้นบิดขี้เกียจสองสามที เมื่อคืนกว่าจะกล่อมให้แม่งหลับได้ เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน ร้องไห้ไม่หยุดเลยห่านี่
                กว่าจะเปิดได้ ไอ่เหี้ยยยคำทักทายน่าฟังดังขึ้นทันทีที่ร่างโปร่งเปิดประตู ดงเฮตาสว่างทันทีพอได้เห็นคนที่อยู่หน้าประตู เรียกกูไปแดกเหล้าตั้งแต่สามทุ่ม ร้องห่มร้องไห้เรื่องไรไม่รู้
            “แล้วมึงก็ไม่ห้ามมันนะ เหี้ยเอ้ย ทำไมมันไม่ประมาณตัวเองเลยวะรีบสาวเท้าไปแบกร่างไร้สติของเพื่อนรักที่มีคยูฮยอนช่วยหิ้วปีกอยู่ก่อนแล้วอีกข้างทันที ก่อนจะพากันเดินเข้าห้องไป
                แหม! พูดง่ายครับสัส กูนี่จะโดนมันเตะเข้าให้ได้ถ้าเข้าไปใกล้แม่งนิดนึงคยูฮยอนพูดพลางวางคนตัวสูงลงบนเตียงนุ่มที่มีอีกคนนอนอยู่ก่อนแล้ว ฮยอกแจ มึงอ่ะลุกดิ๊!”
            “ฮยอกแจ ตื่นก่อนมึง คิบอมแม่งเรื้อนแล้วร่างเล็กค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นนั่ง และก็ต้องตาสว่างทันทีที่เห็นเพื่อนรักเมาแอ๋ขนาดนี้ .. ในวินาทีนั้นที่แววตาสั่นระริกด้วยความห่วงใย ดงเฮเหลือบมองไปด้วยความทรมาณ
                ห่า คยูฮยอนมึงปล่อยแม่งแดกขนาดนี้หรอ?”
                โถ ไอ่สัสส .. โทษกูเข้าไปเหอะคยูฮยอนผลักหัวร่างเล็กด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงที่มีคนสามคนนั่งอยู่ก่อนแล้ว กูไปดีกว่า ง่วงชิบหาย มึงจัดการกันเองนะ
            “เห้ย มึงซัดไปเยอะป้ะเนี่ย ขับรถไหวรึเปล่าร่างโปร่งของดงเฮเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
                ระดับไหนแล้ว .. กูแข็งกว่าพวกมึงเยอะคยูฮยอนพูดเป็นเชิงเล่นๆ  โบกมือลาดงแฮและฮยอกแจที่นั่งมองอยู่ ก่อนจะหันหลังเดินไปทางประตูที่เพิ่งเดินเข้ามา
                ไอ้คยูฮยอน!” แต่ก่อนที่จะได้บิดลูกบิดสีเงินนั่น เสียงเล็กๆ ก็ดังขึ้นเรียกเขาไว้เสียก่อน ร่างสูงยิ้มน้อยๆ ให้ตัวเองก่อนจะหันมาตีหน้าแสร้งทำเป็นสังสัย
                ทั้งๆ ที่เขาก็รู้แล้ว .. ว่าแม่งจะพูดอะไร
                เอ่อ .. ขอบใจฮยอกแจพูดขึ้นเบาๆ ก่อนจะหันหน้าหนีไปทางอื่น ไม่รู้เหมือนกันจะไปขอบคุณมันทำไม แต่ก็รู้สึกดีที่มันลากตัวไอ้เหี้ยนี่กลับมาได้ ไม่งั้นจะเป็นไงบ้างก็ไม่รู้
                มาขอบจงขอบใจอะไร กูมันหมาป่ายามราตรีเว้ย เรื่องกลางคืนขอให้บอกโจคยูฮยอน
                เออๆ  ไอ้คนเก่ง
            “อะฮะ กูมันเก่ง ไปแล้วเว้ย ง่วงร่างสูงพูดพร้อมเดินออกไปทันที มุมปากซ้ายยกยิ้มให้ตัวเองเมื่อคิดถึงคนสามคนในห้องหลังประตูบานนี้ สมเพชความคิดของพวกมัน เก๊กกันเข้าไป
                ใช่แล้วล่ะ คยูฮยอนรู้ทุกอย่าง รู้ทุกความรู้สึกของไอ้พยาธิสามตัวนี่ รู้ทั้งหมด ... ไม่อยากจะเข้าไปจัดการยุ่งย่ามเรื่องของแม่ง ปล่อยให้มันเป็นไปตามสัญชาติญาณ
                ขอให้เรื่องนี้ .. ไม่มีโชคร้าย









                สายตาแห่งความห่วงใยทอดไปยังใบหน้าขึ้นสีเพราะแอล์กอฮอล์ของเพื่อนรัก คิบอมไม่ใช่คนที่เอาแต่ดื่มจนไม่ได้สติแบบนี้ ในบรรดาเขาทั้งสามคน คิบอมคนเดียวที่ดูเหมือนจะคอแข็งและประมาณตัวเองได้ดีที่สุด ... หรือจะมีเรื่องอะไรไม่สบายใจจริงๆ ?
                ดงเฮ กูว่า ..
            “กูก็คิดเหมือนมึงยังไม่ทันที่จะพูดจบ ดงเฮก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน ขานั่งมองฮยอกแจมาตั้งนานแล้วทำไมจะไม่รู้ว่าในใจคิดอะไรอยู่บ้าง มันคงเครียดเรื่องอะไรสักอย่าง .. มั้ง
            “ก่อนออกไปก็ยังดีๆ อยู่เลย เป็นเหี้ยอะไรว้ะ
            “ไม่รู้แฮะ ...ดงเฮพูดไป ก่อนจะลุกขึ้นยืนข้างเตียง ยกข้อมือขึ้นมองหน้าปัดนาฬิกา .. หกโมงเช้าแล้วสินะ ฮยอกแจ เดี๋ยวตอนเช้ากูต้องเข้าบริษัทให้พ่อ มึงอยู่ดูแม่งได้ใช่ไหม
            “อืม
            “มึง .. อยู่ได้แน่นะ มีอะไรโทรหากูนะ ไอ้คยูฮยอนก็ได้บ้านอยู่ใกล้ๆ
            “มึงไม่ต้องเป็นห่วง กูอยู่ได้
            ดงเฮตัดสินใจสาวเท้าเข้าไปรวบเพื่อนตัวเล็กเข้ามากอด ฮยอกแจตกใจอยู่น้อยๆ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมยังโอบหลังกว้างของเพื่อนไว้ด้วยลำแขนเล็กๆ ของตัวเอง
                กูขออะไรมึงอย่างได้ไหม
            “ขอมาสิ
            “ลืมเรื่องเมื่อคืนนี้ที่กูพูดกับมึง ไม่ต้องมาสนใจความรู้สึกกู มึงจะทำอะไรก็เอาให้เต็มที่ อย่าสนใจกู ได้ไหมฮยอกแจ?” ดงเฮพูดประโยคที่ค่อนข้างรุนแรงออกมา ทำเอาคนฟังขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ ลืมให้หมด .. แล้วกูก็ จะลืมให้ได้เหมือนกัน
            “พูดง่ายหนิไอ่สัส .. มึงจะลืมว่ามึงรักกูก็เรื่องของมึง แต่ไม่รู้กูจะทำได้ไหม
            “เวลาเท่านั้นเว้ย เรื่องแบบนี้ต้องอาศัยเวลาร่างสูงพูดเบาๆ ก่อนจะรั้งร่างของเพื่อนออกมาจากอ้อมแขน ยิ้มบางๆ เพื่อให้กำลังใจ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
                กูจะ ... ลืมฮยอกแจพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะหันหน้ามาทางคนที่นอนหมดสติอยู่บนเตียงนอน หย่อนก้นลงนั่งที่ขอบเตียง มือบางค่อยๆ เลื่อนเข้าไปสัมผัสใบหน้าคมคายด้วยความโหยหา และต้องการ แล้วจะเริ่มต้นใหม่กับมึง
                ร่างเล็กลุกขึ้นยืน เดินเข้าไปหยิบของที่ต้องการในห้องน้ำ ก่อนจะออกมาพร้อมกะละมังเล็กๆ สำหรับใส่น้ำ และผ้าขนหนูผืนเล็กอีกหนึ่งผืน .. นั่งลงที่ขอบเตียงเช่นเดิมแล้ววางมันไว้ที่เก้าอี้ข้างๆ
                มือเล็กถอดเสื้อยืดของเพื่อนออกด้วยความลำบาก ไอ้เหี้ยนี่แม่งตัวใหญ่ชิบหาย .. บรรจงใช้ผ้าสะอาดเช็ดไปตามแผงอกของร่างสูงที่กระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะหายใจ
                ทำยังไง ห่านี่ถึงจะมาสนใจเขาบ้าง ทำไมมันไม่เคยคิดจริงจังกับความรักสักที ทำไมชอบแกล้งให้เขาคิดไปเองอยู่เรื่อย .. ไอ่สัส กูเกลียดมึงจริงๆ เลยคิบอม
                เห้ย!” ฮยอกแจสบถออกมาทันทีเมื่อโดนคนบนเตียงรวบตัวลงไปนอนกอด ร่างเล็กพยายามดันอกแกร่งให้ออกห่างตัว หากแต่แม้คิบอมจะยังไม่ได้สติ แรงแม่งก็ยังเยอะกว่าอยู่ดี
                และสิ่งที่ตามมาคือสัมผัสร้อนๆ จากร่างกายใหญ่โตของเพื่อนรัก ฮยอกแจเงยหน้ามองหน้าของคนหลับอยู่และก็พบว่าลมหายใจที่เป่ารดหน้าเขามันร้อนเกินกว่าคนธรรมดา
                หนาว .. กู หนาว ... เสียงครางเบาๆ ออกมาจากริมฝีปากได้รูปทำเอาร่างเล็กไม่กล้าขยับ แม้จะอยากขัดขืน แต่ความต้องการลึกๆ ในใจมันสั่งว่าให้อยู่อย่างนี้ไปก่อน แป๊บเดียวก็ยังดี
                ฮยอกแจค่อยๆ โอบแผ่นหลังเปลือยเปล่าเข้าหาตัว ซุกหัวกลมๆ ลงกับแผ่นอกกว้าง ยังกลัวอยู่ว่าหัวใจที่เต้นแรงๆ ในอกข้างซ้ายของเขามันจะทำให้คิบอมตื่นหรือเปล่า
                กอดกูแน่นๆ นะคิบอม กูรักมึง
                ปิดตาลงด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะปล่อยให้หัวใจได้โลดแล่นไปในโลกแห่งความฝันอันสวยงาม ที่หาไม่ได้ในโลกแห่งความเป็นจริง .. โลกที่มีเพียงมึง กับกู
               

                RRRRR
            “เหี้ยยยยย เงียบดิ๊!” เสียงก่นด่าดังขึ้นกลบเสียงโทรศัพท์ ร่างสูงพลิกตัวไปอีกด้านทันทีโดยไม่ลืมที่จะเอาหมอนข้างพลิกหันไปด้วย ... หมอนข้าง พ่อมึงงง
                ร่างเล็กค่อยๆ ปรือตาตื่นขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่าถูกเคลื่อนย้าย แต่ก็ปิดตาลงด้วยควาง่วงอีกครั้ง เสียงโทรศัพท์ยังดังระงมไม่เหน็ดเหนื่อย สร้างความรำคาญใจให้ฮยอกแจเช่นกัน อดไม่ได้ที่จะ
                เงียบดิ่สาดดดก่อนจะซุกหน้าเข้าหาหมอนข้างใบใหญ่ที่กอดไว้ตั้งแต่เมื่อคืน
                คิบอมค่อยๆ ลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเล็กๆ ดังขึ้นใกล้ๆ .. คือมันเป็นเสียงปกติที่จะได้ยินเวลามันด่าโทรศัพท์หรือไม่ก็นาฬิกาปลุก แต่ครั้งนี้เหมือนมันดังอยู่ใกล้ๆ .. ใกล้มาก
                และที่สำคัญ .. ตัวเหี้ยอะไรมันซุกอกเขาอยู่?
                เห้ยย!” คิบอมสะดุ้งทันทีที่ก้มลงมองหมอนข้างที่วันนี้ดูจะเล็กลงเป็นพิเศษ ใครถอดเสื้อเขาไปยังไงตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วไอ้เหี้ยนี่มาหลับอยู่นี่ได้ไง? เดี๋ยวนะขอทบทวน .. เมื่อคืนเขาไปนั่งแดกเหล้ากับคยูฮยอน แล้วก็มึนตึ้บๆ จำอะไรไม่ได้เลย .. เห้ย นี่ไม่ใช่ว่า .. ไอ้เหี้ยย!”
                อะไรของมึง เงียบซิกูจะนอน
            “ไปนอนกับพ่อมึงนู่น! ไอ้ห่า ลุกดิ๊ๆๆคิบอมพูดพลางดึงตัวร่างบางขึ้นนั่งดีๆ พลิกซ้ายหันขวาหาว่ามีตำหนิอะไรตรงไหนที่เป็นฝีมือเขาหรือเปล่า ห่า เวลาเมาๆ กูทำอะไรรุนแรงซะด้วย
                ทำเหี้ยอะไรเนี่ยยยย
            “เห้ยๆๆ  มึงฟังกูก่อนนะ เวลากูเมากูไม่รู้สึกตัวจริงๆ นะเว้ย กูทำอะไรลงไปกูไม่รู้จริงๆ นะเว้ย .. แล้วแบบ คือกูไม่รู้เรื่องนะเว้ยยย!!!!”
                มึงก็ไม่ได้ทำอะไรนี่ คิดว่ากูจะปล่อยให้มึงปล้ำหรือไง?”
                ...
                เย้ดเข้! มึงมีความคิดแบบนี้ในหัวตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย!!” ฮยอกแจถอยกรูออกจากคนตัวโตกว่าทันที ทำเอาอีกคนถึงกับหน้าเสีย ทำท่าปฏิเสธทันที
                เห้ยๆ เปล่าเลยนะเว้ย กูแค่ถามเฉยๆ  เผื่อไว้ ..ท่าทีของคิบอมตอนนี้ ฮยอกแจอยากจะขำออกมาเลยจริงๆ  มือไม้ที่ไม่รูจะเอาไปไว้ตรงไหนก็ดัดนิ้วบ้างล่ะ บิดไปบิดมาบ้างล่ะ
                ไอ้เหี้ย .. น่ารัก

No comments:

Post a Comment